ตอนที่ 229

The Strongest Hokage

แม้ว่า อุจิฮะ ริน จะน่าผิดหวัง แต่บางคนก็รู้จักเขา แต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้ ไนโตะ เกิดความเคารพในตัวเขาเลย

หลังจากที่ ไนโตะ นึกถึงเรื่องนี้อยู่สักพัก เขาก็เข้าใจในที่สุด จากนั้นเขาก็หันไปมองศพของ ริน อย่างรวดเร็ว

ดวงตาคู่นี้…ไม่ใช่ของ ริน

ไม่แปลกใจเลยที่เขาไม่สามารถหยุดการโจมตีของ ไนโตะ ได้ทัน ผลข้างเคียงของการใช้ตาของคนอื่นอาจสูงกว่าปกติ แต่เรื่องนี้ต้องไม่ใช่เรื่องบังเอิญ มีใครบางคนมอบมันให้เขาอย่างแน่นอน มันเป็นดวงตาที่พิเศษ แม้แต่คนของ ตระกูลอุจิฮะ เอง ก็ยังได้รับผลข้างเคียงในการใช้มัน

“นี่คือดวงตาของ อุจิฮะ ที่สามารถถอดรหัส ศิลาของตระกูลอุจิฮะ ได้ แต่พวกเขาก็ไม่น่าเอามันมาแพ้แบบนี้ พวกเขาคงไม่โง่ขนาดนั้น…”

ไนโตะ ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็เริ่มเข้าใจ

ตระกูลอุจิฮะ ก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่ยุคแรกเริ่ม ไม่รู้ว่าพวกเขาอยู่มาได้นานขนาดนี้ได้อย่างไร แต่ก็มีเพียงแค่คนอย่าง อุจิฮะ มาดาระ กับ อิซึนะ เท่านั้นที่สามารถปลุก เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา ให้ตื่นขึ้นมาได้

แม้ว่าหลังจาก มาดาระ ก็ไม่มีใครสามารถปลุก เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผานิรันดร์ ขึ้นมาได้อีก แต่สมาชิกตระกูลที่เคยปลุก เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา ขึ้นมาได้ เมื่อเขาตาย เนตรนั้นก็จะไม่ได้ตายไปกับเขา

สมาชิกตระกูลอุจิฮะ ที่ไม่สูญเสียดวงตาก่อนตาย ตระกูลของพวกเขาจะนำมันออกมาและเก็บมันเอาไว้เพื่อที่พวกเขาจะได้ปลูกถ่ายมันให้กับสมาชิกอาวุโสของตระกูลในภายหลัง แต่เนื่องจากมันไม่ใช่ดวงตาเดิมของพวกเขา จึงไม่ค่อยมีใครกล้าที่จะได้รับผลข้างเคียงจากการใช้มัน!

อย่างไรก็ตาม การใช้ดวงตาเหล่านี้ในช่วงเวลาสั้น ๆ นั้นจะมอบความสามารถมหาศาลให้กับผู้ใช้ พวกเขาสามารถสร้างนินจาระดับ คาเงะ ได้โดยการใช้เพียงแค่ดวงตาพวกนั้น บางทีนี่อาจเป็นสิ่งที่ทำให้พวกเขากล้าหักหลัง โคโนฮะ ตามเรื่องราวในการ์ตูน

“น่าสนใจ ตระกูลอุจิฮะ เต็มใจที่จะเสียสละดวงตาคู่นี้เพื่อฆ่าฉัน…”

ไนโตะ ก้มลงไปควักดวงตาของ ริน ออกมา จากนั้นเขาก็ยืนขึ้นและผนึกพวกมันไว้ในม้วนกระดาษที่เขาถืออยู่

ไนโตะ ไม่คิดที่จะปลูกถ่ายในให้กับตัวเขาเอง เพราะแม้แต่คนของ ตระกูลอุจิฮะ เองก็ยังได้รับผลข้างเคียงที่อันตรายจากการใช้มัน และความสามารถของ เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา ก็ไม่มีความสำคัญมากพอที่จะต้องเสี่ยง

การควบคุมแสงและการสร้างภาพลวงตา…ไนโตะ ไม่สนใจเรื่องเหล่านี้!

อาจเป็นเพราะ ริน ไม่มีความสามารถมากพอที่จะใช้ดวงตาคู่นี้ ถ้าพวกเขาให้ดวงตาคู่นี้กับคนอื่น เขาก็อาจจะสามารถใช้มันได้ดีกว่า

อาจเป็นเพราะพวกเขาคิดว่าด้วยดวงตาคู่นั้น นินจาของพวกเขาจะมีพลังเทียบเท่า คาเงะ ซึ่งทำให้สามารถต่อสู้กับ ซารุโทบิ ได้ ดังนั้นพวกเขาจึงคิดว่าพวกเขามีโอกาสที่จะฆ่า ไนโตะ ได้

“ฉันพยายามไม่สนใจพวกคุณ แต่พวกคุณก็เรียกร้องหาความตายเอง”

ไนโต เคลื่อนที่ชั่วพริบตา และมาอยู่บนยอดเขา จากนั้นเขาก็จ้องมองจากระยะไกลเข้าไปในหมู่บ้าน เพื่อหาเขตพื้นที่ของ ตระกูลอุจิฮะ

หลังจากที่ ไนโตะ บิดขี้เกียจ เขาก็ส่ายหัวเล็กน้อยและในที่สุดเขาก็ตัดสินใจที่จะเปิดประตูด่านพลังบานที่ 5 ก่อนที่จะไปคุยกับ ตระกูลอุจิฮะ

ที่จริงแล้วเขายังไม่จำเป็นต้องเปิดประตูด่านพลังบานที่ 5 ในตอนนี้ เพราะมันอยู่ห่างออกไปเพียงเพียงขั้นเดียว แต่เขาก็ตัดสินใจที่จะไปตอนนี้

……..

ในเขตของตระกูลอุจิฮะ

ในช่วงเวลานี้ บรรยากาศในตระกูลดูสงบมาก แต่มันเป็นเพียงความสงบก่อนที่พายุจะเข้าเท่านั้น

เนื่องจากลูกชายของ คาเงยาม่า , อุจิฮะ ฟูกาคุ ได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็น โจนิน และมันเป็นเรื่องของเวลาเท่านั้นก่อนที่เขาจะกลายเป็นผู้นำตระกูล

ในห้องทำงานของ คาเงยาม่า

ฟูกาคุ ยืนอยู่หน้า คาเงยาม่า ด้วยสีหน้ารุนแรงขณะที่ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น

“ฉันทำทุกสิ่งที่จำเป็นต้องทำ”

คาเงยาม่า มองไปที่ลูกชายของเขาและถอนหายใจ จากนั้นก็พูดต่อว่า “ในอนาคต ลูกจะกลายเป็นผู้นำตระกูลของเรา และชะตากรรมของตระกูลจะตกอยู่ในมือของลูก”

อันที่จริงตอนนี้ คาเงยาม่า อายุ 50 ปีแล้ว แม้ว่าความแข็งแกร่งของร่างกายจะเริ่มลดลงเมื่ออายุมากขึ้น แต่ก็ไม่มากสำหรับเขา

อย่างไรก็ตาม เขาก็รู้ว่า ซารุโทบิ และ จิไรยะ กำลังเตรียมตัว มินาโตะ สำหรับการเข้ารับตำแหน่ง โฮคาเงะ รุ่นต่อไป

คาเงยาม่า มีอายุเท่ากับ ซารุโทบิ แต่ลูกชายของเขา ฟูกาคุ มีอายุมากกว่า มินาโตะ อยู่หลายปี

แต่ถึงอย่างนั้น ลูกชายคนที่ 2 ของ ฟูกาคุ , ซาสึเกะ ก็มีอายุเท่ากับ นารูโตะ

“ท่านพ่อ…ท่านไม่จำเป็นต้อง…”

แม้ว่า ฟูกาคุ จะเต็มไปด้วยความมั่นใจ แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสียใจกับส่งที่พ่อของเขาทำ

คาเงยาม่า โบกมือและขัดจังหวะ ฟูกาคุ

“การลาออกจากตำแหน่ง ผู้บังคับการของกองกำลังตำรวจโคโนฮะ ของพ่อ จะเท่ากับคำแถลงต่อหมู่บ้านว่า ลูกคือผู้นำตระกูลคนต่อไป”

“ฟูกาคุ ทุกอย่างที่หมู่บ้านอยากเห็นก็คือความตายของ ไนโตะ พ่อจะเตรียมทุกอย่างให้ลูกได้ขึ้นเป็นผู้นำตระกูล แต่ลูกต้องพร้อมสำหรับทุกอย่างก่อน”

การได้ยินคำพูดเหล่านี้ ทำให้ ฟูกาคุ ขมวดคิ้ว

เมื่อเปรียบเทียบกับ คาเงยาม่า แล้ว ฟูกาคุ อายุน้อยกว่ามาก แต่ ฟูกาคุ ก็เป็นคนที่ฉลาด เขาจึงพูดออกไปว่า “ท่านพ่อแน่ใจหรือว่า ท่านจะฆ่า ไนโตะ ได้?”

“ฮาฮาฮา พ่อไม่ได้พูดแบบนั้น แต่ความสามารถของดวงตาเหล่านี้ยอดเยี่ยมมาก…” เมื่อพูดถึงตรงนี้ คาเงยาม่า ก็หยุดพูดและลดเสียงให้เบาลง แล้วพูดต่อว่า “…นี่เป็นโอกาสของเรา”

“ความสามารถของดวงตาเหล่านั้น มีความเชี่ยวชาญในการลอบสังหาร มันถูกปลุกขึ้นโดยวีรบุรุษของตระกูลเรา และตั้งแต่นั้นมามันก็ถูกเก็บรักษาไว้ในตระกูลมานานหลาย 10 ปี รอโอกาส…ที่จะใช้ในสถานการณ์เช่นนี้”

ฟูกาคุ จะเป็นผู้นำตระกูลคนต่อไปของ ตระกูลอุจิฮะ และโดยทั่วไปแล้ว เขาจะได้รับสิทธิ์ให้เข้าถึงข้อมูลและรู้ความลับต่าง ๆ ของตระกูล

เมื่อฟังคำพูดพ่อของเขาแล้ว เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าแค่ดวงตาเหล่านั้นยังไม่เพียงพอ แต่ความมั่นใจของพ่อทำให้เขาเชื่อ

ก๊อก ๆ !

ในวินาทีต่อมา นินจาคนหนึ่งก็เคาะประตูและขอให้เข้าไป

คาเงยาม่า ชำเลืองไปที่ประตูจากนั้นเขาก็พูดว่า “เข้ามา”

“ท่านคาเงาม่า มีเรื่องร้ายเกิดขึ้นครับ เราพบศพของ ริน ที่เนินเขา และ เนตรวงแหวน ของเขาก็ถูกชิงไปด้วยครับ!”

“อะไรนะ?!”

 


ติดตามข่าวสารจากเพจ Facebook : Chan’s Translation นิยายแปลไทย@TranslatedByMild