บทที่ 492 เชือดไก่ให้ลิงดู

บัญชามังกรเดือด

บัญชามังกรเดือด บทที่ 492 เชือดไก่ให้ลิงดู
“ผมเองก็คาดไม่ถึงเลยว่าฉินเทียนผู้นี้จะรับมือได้ยากเช่นนี้”

“หยวนชิ่ง คุณมาที่นี่ด้วยตัวเองเช่นนี้ ต้องการหารือเกี่ยวกับแผนจัดการฉินเทียนกับผมใช่หรือไม่?”

ภายในห้องหนังสือ เมื่อเห็นใบหน้าเคร่งขรึมของหยางหยวนชิ่ง หม่าจั๋วชุนเอ่ยถามอย่างระมัดระวัง

หยางหยวนชิ่ง “ไม่ใช่เพราะฉินเทียน แต่ก็ยังคงเกี่ยวข้องกับฉินเทียน”

“จั๋วชุน ฉันมาที่นี่เพื่อแจ้งให้นายรู้ถึงเรื่องที่สำคัญกว่า ฉันได้ปรึกษาหารือกับเจ้าบ้านท่านอื่นมาหลายคนแล้ว พรุ่งนี้จะมีการประชุมใหญ่เพื่อตัดสินใจเรื่องสหพันธ์ธุรกิจทางใต้”

“เรื่องนี้จะรอช้าไม่ได้อีกแล้ว”

“จริงหรือ?” นัยต์ตาของหม่าจั๋วชุนเป็นประกาย

เมื่อเทียบกับผืนที่ดินฉินเทียนยึดครองไป เรื่องนี้นั้นถึงจะเป็นเรื่องที่สำคัญกว่า

การแข่งขันกับฉินเทียน อย่างไรเสียก็เป็นเพียงการแข่งขันของเบี้ยหมากรุกตัวหนึ่ง แต่ทว่าเรื่องนี้จะเป็นการตัดสินว่าใครสามารถเป็นผู้นำสถานการณ์โดยรวมได้

“นายเองก็รู้ ฉันเคารพและชื่นชมนายมากมาโดยตลอด ครั้งนี้ฉันเตรียมการให้พร้อมและลงคะแนนเสียงให้กับนาย”

“แต่ทว่า ตอนนี้มีบางสิ่งที่ยากจะทำได้” หยางหยวนชิ่งเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงใจและแฝงความนัย

หัวใจของหม่าจั๋วชุนเต้นแรงในทันใดและรีบเอ่ย “อะไรงั้นหรือ?”

หยางหยวนชิ่งเอ่ยอย่างเย้ยหยัน “เดิมทีนายเองก็มีเกียรติและศักดิ์ศรี ฉันเลือกนาย คนอื่นก็คงไม่มีใครคัดค้าน”

“แต่ทว่าตอนนี้…”

“บูชาอู่ตระกูลหม่าของพวกนายถูกฉินเทียนสังหารไปแล้วสามคน หม่าจินหลงลูกชายคนเล็กของนาย ตอนนี้ก็ยังนอนรักษาอาการบาดเจ็บอยู่ที่โรงพยาบาล”

“นายว่าหากเรื่องนี้ไม่ได้รับการแก้ไข คนอื่นจะมองนายอย่างไร?”

“พวกเขาจะไม่รู้สึกว่าตระกูลหม่าของพวกนาย และนายหม่าจั๋วชุน เป็นพวกขี้ขลาดตาขาวหรอกหรือ”

“คนอื่นมารังแกทำร้ายอยู่เหนือศีรษะ แม้กระทั่งลูกชายก็เกือบถูกฆ่า กลับไม่กล้าตอบโต้”

“ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ฉันจะลงคะแนนเสียงให้นายได้อย่างไร?”

“คนอื่นจะนินทาว่ากล่าวเอาได้”

ครั้นได้ฟังคำพูดของหยางหยวนชิ่ง เพียงชั่วพริบตานัยต์ตาของหม่าจั๋วชุนก็เปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ เรื่องนี้ถือเป็นความอัปยศของเขา เขากลัวที่จะถูกคนอื่นเอ่ยถึงมากที่สุด

เนื่องจากสถานการณ์ละเอียดอ่อนก่อนหน้านี้ การจัดการฉินเทียนนั้นเขาเองก็ยังคงรู้สึกพะว้าพะวังเป็นกังวล

แต่ตอนนี้ ในที่สุดเขาก็ได้ทำการตัดสินใจแล้ว

เขากัดฟันแน่นและเอ่ยด้วยเสียงทุ้มต่ำ “หยวนชิ่ง ที่คุณพูดมานั้นจริงหรือเปล่า?”

“เพียงแค่ผมฆ่าฉินเทียน คุณจะเลือกผมเป็นผู้นำจริงหรือ?”

“อันที่จริงผมรู้สึกว่าคุณนั้นเหมาะสมยิ่งกว่าผมเสียอีก ผมน่ะเตรียมจะลงคะแนนเสียงให้แก่คุณ”

หยางหยวนชิ่งยิ้มพลางเอ่ย “เหล่าหม่า นายอย่าได้หยั่งเชิงฉันเลย”

“จะพูดกับนายตามตรง ผู้นำน่ะฉันเองก็อยากเป็น แต่นายก็รู้ อายุฉันนั้นยังเด็กอยู่ ยากนักที่คนจะเคารพเชื่อถือ”

“ในครั้งแรก ฉันเลือกนาย กระทั่งรอให้ถึงการเลือกครั้งที่สอง นายก็สามารถเลือกฉันได้นี่”

“พวกเราเป็นครอบครัวเดียว ผลัดกันนั่งบัลลังก์ไม่ดีหรืออย่างไร?”

หม่าจั๋วชุนหัวเราะเสียงดังลั่น ก่อนหน้านี้เขายังคงเคลือบแคลงใจ ไม่เชื่อว่าหยางหยวนชิ่งนั้นจะมีจิตใจดีเช่นนั้น ตอนนี้ท้ายที่สุดเขาก็เชื่อแล้ว

ในความเป็นจริง หยางหยวนชิ่งนั้นอายุน้อยที่สุดในเจ้าบ้านทั้งห้า เกรงว่าจะเป็นการยากที่จะโน้มน้าวใจทุกคน

การที่ทุกคนจะนั่งบนบัลลังก์ นั่นคือทางเลือกที่ดีที่สุด

“หยวนชิ่งคุณวางใจได้!”

“ครั้งนี้คุณเลือกผม ในครั้งหน้าผมรับรองว่าคุณจะได้ขึ้นบนบัลลังก์!” เขาเอ่ยด้วยความตื่นเต้น

หยางหยวนชิ่งพยักหน้าและเอ่ย “เหล่าหม่า อย่าลืมล่ะ ฉินเทียนคืออุปสรรคขวากหนาม”

“ฉันรู้ว่าในช่วงนี้พวกนายสูญเสียอย่างหนักหน่วง ถ้าหากต้องการความช่วยเหลือ นายเพียงแค่บอกมา”

นัยต์ตาของหม่าจั๋วชุนเผยให้เห็นถึงเจตนาการสังหารอย่างแรงกล้า เขากัดฟันและเอ่ย “ไม่ต้องหรอก!”

“แม้ว่าตระกูลหม่าจะสูญเสียนักต่อสู้ไปหลายคน แต่ทว่า ต้องการสังหารฉินเทียนเพียงคนเดียวนั้นง่ายดายเหมือนกับการพลิกฝ่ามือ!”

“ครั้งนี้ผมจะเป็นคนนำทัพด้วยตนเอง”

เขาจ้องมองท้องฟ้ายามค่ำคืนที่อยู่ด้านนอก “ผมรับรอง คนสกุลฉินผู้นั้นไม่มีทางได้เห็นดวงอาทิตย์ในวันรุ่งขึ้นแน่!”

“ฉันจะรอคอยข่าวดีจากนาย ขอให้นายประสบความสำเร็จ ขอตัวก่อน” หยางหยวนชิ่งบรรลุเป้าหมายและจากไปทันที

หม่าจั๋วชุนเรียกรวมตัวยอดฝีมือทั้งหมดและกองกำลังที่เหลือของตระกูล จากนั้นเริ่มจัดกองกำลัง

ภายในโรงแรม ฉินเทียนกำลังพูดคุยเรื่องราวอยู่กับทุกคน เนื่องจากโปรเจ็กต์ได้เสร็จสิ้นลงแล้ว ถัดไปนั้นทุกคนก็ต้องร่วมมือกันต่อไป ฉินเทียนได้แบ่งคำแนะนำให้สองเรื่อง

ประการแรก ปิดให้บริการโรงแรมและไม่รับผู้เข้าพัก นำป้ายเดิมทิ้งไปและเปลี่ยนใหม่โดยใช้ชื่อว่า ‘โปรเจ็กต์ที่ดินหรูอี้’

ประการสอง แบ่งหน้าที่ภาระงานให้แก่เถียหลินเฟิงและคนอื่นๆ

เนื่องจากเถียหลินเฟิงคือเจ้าสมาคมของสมาคม การติดต่อกับหน่วยงานราชการนั้นเขาค่อนข้างคุ้นเคยมากกว่า ดังนั้นเขาจึงรับหน้าที่ติดต่อกับหน่วยงานรัฐบาล

อู๋เทียนสงรับผิดชอบงานก่อสร้างเป็นหลัก หลี่เฉิงหนานและหลิวชั่นรับหน้าที่งานฝ่ายธุรการด้านการขนส่ง

ฉินเทียนประสานงานอย่างเต็มที่ อันที่จริงถ้าจะพูดตามตรง สิ่งสำคัญคือการจัดการกับการยั่วยุของเหล่าตระกูลใหญ่

หลังจากการแบ่งงานเสร็จสิ้น เถียหนิงซวงเดินเข้ามารายงานด้วยใบหน้าที่จริงจัง เธอกล่าวว่าหม่าจินหยู่มาขอพบ มีเรื่องสำคัญที่จะต้องรายงาน

หม่าจินหยู่?

ทุกคนอดไม่ได้ที่จะชะงักงัน คนผู้นี้คือคุณชายใหญ่ของตระกูลหม่า มีความเกี่ยวข้องกับพวกเขาในเรื่องของการแข่งขัน ตอนนี้ดึกดื่นขนาดนี้ เขามาทำอะไรที่นี่?

หลิวชั่นครุ่นคิดชั่วขณะ จากนั้นเอ่ย “พี่เทียน หม่าจินหยู่หาใช่คนเลวไม่ ฉันคิดว่าสามารถพบเขาได้”

สำหรับคุณชายใหญ่แห่งตระกูลหม่าฉินเทียนเองก็รู้สึกประทับใจอยู่ไม่น้อย เช่นนั้นเขาจึงให้เถียหนิงซวงเชิญเขาเข้ามา

“เรื่องใหญ่ดูท่าจะไม่ดีแล้ว!”

“ฉินเทียน ฟังผม พวกคุณรีบออกไปจากที่นี่ตอนนี้!”

“ทางที่ดีที่สุดออกไปจากเมืองจิ่นหู!”

“รีบไป หากช้ากว่านี้มันจะสายเกินไป!”

หม่าจินหยู่บุกเข้ามาอย่างรวดเร็ว สีหน้าเต็มไปด้วยความกังวล

เมื่อเห็นท่าทีของเขา ทุกคนล้วนแต่รู้สึกมึนงง

หลิวชั่นรีบเอ่ยทันใด “จินหยู่ เกิดเรื่องอะไรขึ้นงั้นเหรอ คุณค่อยๆพูด”

“เจ้าเมืองเลี่ยวก็ออกมาพูดด้วยตัวเองแล้วว่าจะรักษาดูแลโปรเจ็กต์นี้ หรือว่ายังมีใครที่กล้าก่อความวุ่นวายและคิดจะทำลายโปรเจ็กต์งั้นเหรอ?”

หม่าจินหยู่เอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “พวกเขาไม่ได้ต้องการทำลายโปรเจ็กต์ แต่ต้องการสังหารฉินเทียน!”

“อธิบายอะไรไม่ทันแล้ว พวกคุณรีบหนีไป!”

“ฉินเทียน คุณยังจะนิ่งงันอยู่ทำไม?”

ฉินเทียนยิ้ม “คุณชายหม่า ขอบคุณมากที่คุณมาแจ้งให้ทราบ แต่ทว่าผมอยากรู้ว่าคนที่คิดจะฆ่าผมนั้นคือใคร?”

หม่าจินหยู่เงียบไปชั่วขณะ จากนั้นเอ่ยด้วยท่าทีรู้สึกผิดเล็กน้อย “เรื่องราวกระทั่งตอนนี้ ผมจะบอกกับพวกคุณ”

“หยางหยวนชิ่งมาหาพ่อของผม ตอนนี้ พ่อของผมได้ระดมกำลังทั้งหมดของตระกูล จะมาถึงที่นี่ในไม่ช้า”

“พวกเขาเลือกที่จะลงมือในช่วงเวลารุ่งสาง เมื่อถึงตอนนั้นคงจะปิดกั้นถนนโดยรอบนี้”

“พวกคุณคิดอยากจะหนีก็คงจะหนีไม่ได้แล้ว”

ที่แท้ก็คือคนตระกูลหม่า!

ครั้งนี้หม่าจั๋วชุนนั้นนำทัพด้วยตนเอง จะต้องเป็นกำลังทั้งหมดของตระกูล ดูเหมือนว่าไม่ง่ายที่จะรับมือ

ทุกคนมองไปทางฉินเทียนด้วยท่าทีเป็นกังวล

ฉินเทียนยิ้มและเอ่ย “กองกำลังตระกูลหม่าของพวกคุณมีจำนวนคนมากเท่าไร?”

หม่าจินหยู่พูดอย่างกระวนกระวายใจ “บูชาอู่เจ็ดคน ล้วนแต่เป็นยอดฝีมือ ผู้ใต้บัญชาของพวกเขามีทหารชั้นยอดประมาณ 500 นาย ทุกคนล้วนแต่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างชำนาญ”

“ฉินเทียน ผมรู้ว่าคุณและพรรคพวกของคุณนั้นมีฝีมือ แต่ทว่าพวกคุณจะต่อสู้ชนะคนจำนวนมากขนาดนั้นได้งั้นเหรอ?”

“ต่อให้พวกเขาจะเหนื่อย แต่ก็สามารถทำให้พวกคุณเหนื่อยจนตายได้!”

ห้าร้อยคนเชียวนะ!

เถียหลินเฟิงและคนอื่นต่างก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปอีกครั้ง

อู๋เทียนสงพูดอย่างเป็นกังวล “ฉินเทียน ไม่อย่างนั้นพวกเราโทรหาเจ้าเมืองเลี่ยวไหม ไม่ใช่ว่าเขาบอกว่าสามารถดูแลพวกเราได้หรอกเหรอ?”

ฉินเทียนส่ายศีรษะและเอ่ย “เจ้าเมืองเลี่ยวนั้นเพียงแค่รับประกันว่าโปรเจ็กต์งานจะไม่ถูกทำลาย เรื่องพวกนี้ เกรงว่าเขาจะไม่สามารถเข้ามาแทรกแซงได้”

“งั้นทำยังไงดี?”

ฉินเทียนยิ้มเย็นพลางเอ่ย “คิดจะใช้จำนวนคนมากดขี่พวกเรางั้นเหรอ? งั้นพวกเรามารับชัยชนะด้วยจำนวนที่น้อยกว่ากันเถอะ”

“หนิงซวง ประกาศต่อพี่น้องของพวกเรา เตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้!”

เจตนาฆ่าปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา ครั้งนี้ เขาไม่ถือสาที่จะใช้วิธีการนองเลือดเพื่อปราบปรามตระกูลหม่า ในขณะเดียวกัน เป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู เป็นการตักเตือนให้กับคนที่คิดวางแผนจะสร้างปัญหา

ฉินเทียนต้องการเป็นมังกรดุร้ายข้ามแม่น้ำ[1] ใครก็ไม่สามารถขัดขวางเขาได้!

มังกรดุร้ายข้ามแม่น้ำ[1] หมายถึง มังกรที่ว่องไวและดุร้ายเท่านั้นที่มีความกล้าที่จะข้ามแม่น้ำ อุปมาได้ว่าคนเก่งกล้า กล้าคิด กล้าสู้