เทพสงครามพิทักษ์โลก บทที่ 342
“ตระกูลเหอของคุณครอบครอง 90% ของวงการพนันทำอะไรไม่ดีเบื้องหลังเยอะแยะมากมาย ต้องถูกหยางเฟิงจับจ้องแน่นอน คงจะหนีชะตากรรมอย่างแก๊งเขียวกับแก๊งฟ้าดินหรอก……”
เย่หนานเทียนไม่ได้พูดต่อไป
เพราะเขารู้ว่า เฮหอเซิ่งหงรู้แน่นอนว่าตัวเองหมายความว่าอะไร
หยางเฟิงนี้ เป็นคนเฮงซวยคนหนึ่ง!
ไปที่ไหนก็ต้องมีคนซวยแน่นอน!
เป็นเทพแห่งความซวยจริงๆ!
“เย่หนานเทียน คุณหมายความว่ายังไง?” เหอเซิ่งหงเปลี่ยนสีหน้ากะทันหัน
“หึหึ!”
เย่หนานเทียนหัวเราะคิกคัก “ไม่มีอะไร! ในเมื่อเจ้าพนันช่วยไม่ได้ งั้นฉันขอตัวละกัน!”
ต่อมา
เย่หนานเทียนและคนอื่นๆไปจากตระกูลเหอ
หลังเดินออกจากตระกูลเหอ เย่โหรวถามด้วยความสงสัย “พ่อ พ่อมาเพื่อขอให้เจ้าพนันช่วยเหลือไม่ใช่เหรอ?แล้วเราจะจากไปแบบนี้เหรอ?”
มาตระกูลเหอครั้งนี้ ไม่ได้อะไรเลย
แต่เย่หนานเทียนกลับจากไปแบบนี้ มันผิดปกติมาก!
เย่หนานเทียนยิ้มเบาๆ “ไม่ต้องห่วงหรอก เหอเซิ่งหงนี่ จะต้องเลือกในสิ่งที่ถูกต้อง!”
เขามั่นใจมาก
แค่เหอเซิ่งหงไปสืบหยางเฟิงเล็กน้อย
เขาก็จะเข้าใจ
หยางเฟิง เป็นหายนะแบบไหน!
เหอเซิ่งหงเป็นเจ้าพนันในเมืองกาสิโนถ้าหยางเฟิงกวาดล้างพื้นที่สีเทาของเมืองกาสิโนคนแรกที่จะถูกทำลาย ก็คือเขา!
ต่อมา
เย่หนานเทียนเหลือบมองเฉินป้าเซียนที่เงียบแล้วพูดเบาๆ “เฉินป้าเซียน ก่อนหน้านี้ฉันกับคุณมีความขัดแย้งกันไม่น้อย ตอนนี้เผชิญกับวิกฤตชีวิต หวังว่าเราสามารถร่วมมืออย่างจริงใจ เพื่อจัดการกับหยางเฟิงด้วยกันนะ!”
เมื่อได้ยิน สีหน้าของเฉินป้าเซียนก็เปลี่ยไปนิดหน่อย พูดเบาๆ “อันนี้คุณสบายใจได้ ฉันรู้ว่าควรทำยังไง”
พูดคุยถึงตรงนี้ เย่หนานเทียนก็ไม่พูดอะไรอีก
ถ้าครั้งนี้สามารถฆ่าหยางเฟิงได้ ทุกอย่างก็จะคุยง่าย
ถ้าภารกิจไม่สำเร็จ พวกเขากลับไปที่จงโจวก็หนีไม่รอด!
เชื่อว่าเฉินป้าเซียนเป็นคนฉลาดคนหนึ่ง รู้ว่าควรทำยังไง!
……
หลังจากที่เย่หนานเทียนและคนอื่นๆจากไป
เหอเจียหาวพูดอย่างไม่พอใจ “เย่หนานเทียนนี้ช่างกล้าจริงๆ คิดว่าตัวเองเป็นผู้นำตระกูลเย่ในจงโจว เลยกล้าอวดดีต่อหน้าพ่อเขา รนหาที่ตายจริงๆ!”
ถึงแม้ตระกูลเย่จะเป็นตระกูลอันดับสามในจงโจว
แต่ตระกูลเหอ เป็นตัวพ่อในพื้นที่สีเทาของเมืองกาสิโน
เป็นงูท้องถิ่นตัวจริง!
ตระกูลเย่แค่นี้ยังกล้ามาอวดดีที่เมืองกาสิโน?
ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วจริงๆ!
เหอเจียหาวพูดจบ พบว่าไม่มีการตอบสนองใดๆ
เขาเงยหน้าขึ้น เห็นว่าพ่อตัวเองสีหน้ามืดมน เงียบไม่พูดอะไร
เหอเจียหาวประหลาดใจพูดว่า “พ่อ พ่อเป็นอะไรไป?”
เหอเซิ่งหงเงยหน้าขึ้นแล้วพูด “เจียหาว แกไปสืบหยางเฟิงนั้นหน่อย เอาข้อมูลทั้งหมดของเขามาให้ฉัน!”
“ครับ!” เหอเจียหาวก้าวถอยหลังอย่างไม่พอใจ
สีหน้าของเหอเซิ่งหง ดูไม่ดีสักที
ตามที่เย่หนานเทียนคิดไว้เลย
ถึงแม้เขาจะไล่เย่หนานเทียนไปแล้ว แต่ก็ได้ใส่ใจกับคำพูดของเย่หนานเทียนแล้ว
กับหยางเฟิงคนนี้
เหอเซิ่งหงมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีอยู่ในใจตลอด
เหมือนกับเป็นความรู้สึกที่ภัยพิบัตกำลังจะมา
เหอเซิ่งหงสามารถยืนหยัดในเมืองกาสิโนมานานหลายทศวรรษก็ด้วยความระมัดระวัง
ในตอนนั้น
เขาเป็นแค่เด็กผู้ชายอายุ 20 ปี ที่มาเมืองกาสิโนเพียงลำพังด้วยเงินสิบหยวน
หลังจากผ่านมรสุมชีวิต ถึงมีกิจการที่ใหญ่โตในปัจจุบัน
เขาไม่อนุญาตให้มีอุบัติเหตุแม้แต่นิดโดยเด็ดขาด
เร็วมาก
เหอเจียหาวกลับมาแล้ว
เขาในเวลานี้ สีหน้าดูแปลกประหลาดมาก!
มีตกใจ มีกลัว มีกังวล มีไม่เข้าใจ……
ทุกอารมณ์มารวมอยู่ด้วยกันหมด!
เห็นสถานการณ์นี้
น้อยมากที่จะเห็นเหอซิ่งหงหลุด แย่งข้อมูลมาด้วยตัวเขาเอง
หลังจากดูข้อมูลเสร็จแล้ว
สีหน้าของเหอเซิ่งหง มืดมนราวกับน้ำ!