ตอนที่ 383 กวาดหิมะ

ตอนที่ 383 กวาดหิมะ

“ใช่ ๆๆ หลังจากนี้ผมจะให้คุณทำกับข้าวทุกวันเลย!” จ้าวเหวินเทาหัวเราะหึหึ

กินเกี๊ยวไม่จำเป็นต้องมีกับข้าว แค่ยกถ้วยขึ้นมาคนละถ้วยก็กินได้แล้ว

แม้ในถ้วยของเสี่ยวไป๋หยางจะไม่ได้ใส่เกลือ แต่เขาก็กินจนแก้มตุ่ย

“ซุปนี้อร่อยจริง ๆ!” จ้าวเหวินเทาดื่มซุปไปหนึ่งคำ ก็ถึงกับเดาะลิ้น กินด้วยความเพลิดเพลิน

เย่ฉูฉู่เห็นสามีชอบขนาดนี้ก็รู้สึกประสบความสำเร็จ

 

ระหว่างที่ทั้งสองคนกำลังกินเกี๊ยว พี่สามจ้าวและพี่รองจ้าวก็มาหาที่บ้าน

 

“เจ้าหก ทำไมเพิ่งกินข้าวเนี่ย?” พี่รองจ้าวเข้ามาในบ้านก็เห็นว่าครอบครัวจ้าวเหวินเทากำลังนั่งกินข้าวอยู่ จึงเอ่ยถาม

“นี่ข้าวมื้อเช้าหรือมื้อสาย?” พี่สามจ้าวถาม

จ้าวเหวินเทาตอบ “ข้าวมื้อเช้านี่แหละ! หิมะตกหนักออกรถก็ไม่ได้ เลยนอนตื่นสายสักหน่อย”

  

“ดีจริง สิบโมงกว่าแล้ว นอนตื่นสายซะนานเชียว” พี่สามจ้าวกล่าว “เกี๊ยวเหรอ ชีวิตดีจริง ๆ!”

 

“พี่รองพี่สาม พวกพี่กินข้าวกันหรือยังคะ ถ้ายังไม่กินเดี๋ยวฉันไปห่อเกี๊ยวให้สักหน่อย” เย่ฉูฉู่ถาม

  

พี่สามจ้าวมองซุปนั้นก็รู้สึกหอมเตะจมูกแล้ว แต่เขาไม่ใช่เด็กสักหน่อย จะขอให้เย่ฉูฉู่ไปห่อเกี๊ยวเพิ่มโดยไม่รู้สึกละอายใจได้อย่างไรกัน จึงกล่าวไปว่า “พวกเรากินมาแล้ว พวกเธอกินเถอะ เจ้าหก พวกเรามาถามนายว่าจะจัดการกับหิมะบนถนนที่จะไปฟาร์มกระต่ายยังไง? หิมะตกหนักขนาดนี้ ยังไงก็ต้องกวาดพื้นนะ!”

 

จ้าวเหวินเทาซดน้ำซุปคำสุดท้ายจนหมด หันไปป้อนลูกพลางกล่าว “ถนนในหมู่บ้านกวาดแล้วเหรอ?”

 

“ในหมู่บ้านน่ะไม่ยากหรอก ทุกคนกวาดหิมะที่อยู่หน้าประตูแล้ว โดยพื้นฐานก็มีถนนให้สัญจรแล้ว” พี่รองจ้าวตอบ “แต่นอกหมู่บ้านนี่ไม่ได้เลย ถนนเส้นนี้สัญจรผ่านไม่ได้เลย”

จ้าวเหวินเทากล่าว “งั้นพวกเราก็ไปหาคนมากวาดสิ ผมดูจากสภาพอากาศแล้วน่าจะตกอีก ถ้าหิมะตกหนัก คงกวาดยาก”

  

“ตอนที่พวกเรามาที่นี่ก็หาคนไว้แล้ว หลัก ๆ คืออยากกวาดหิมะเปิดทางที่เราต้องใช้เดินทางไปฟาร์มกระต่าย นายเป็นเจ้าของจะไม่สนใจเรื่องนี้ไม่ได้นะ” พี่สามจ้าวตอบ

 

จ้าวเหวินเทาเข้าใจความหมายของพี่สามจ้าว อีกฝ่ายอยากให้เขาแสดงตัวในฐานะที่เขาเป็นเจ้าของ

 

“ก็ได้ ผมเองก็กินข้าวเสร็จแล้ว พวกเราไปด้วยกันเลย รอกวาดเปิดทางไปฟาร์มกระต่ายเสร็จ ผมจะเตรียมอาหารให้ทุกคนเอง” จ้าวเหวินเทาพูดอย่างใจกว้าง

“เจ้าหก ไม่ต้องดีเกินไปนะ เอาที่มีประโยชน์ก็พอแล้ว” พี่สามจ้าวกล่าว

 

“ผมรู้แล้ว ไปเถอะ” จ้าวเหวินเทาวางเสี่ยวไป๋หยางที่กินข้าวอิ่มแล้วลงบนเตียง “ลูกชาย พ่อไปกวาดหิมะนะ อยู่รอพ่อกลับมานะลูก”

เสี่ยวไป๋หยางไม่ยอม จับพ่อพร้อมกับส่งเสียงร้องไม่ยอมให้ไป

“เด็กคนนี้นี่จริง ๆ เลย ก่อนหน้านี้ก็ยังไม่เห็นว่าจะติดคุณขนาดนี้!” เย่ฉูฉู่รับตัวเสี่ยวไป๋หยางมาอุ้ม

 

จ้าวเหวินเทากล่าว “เจ้าเด็กนี่คงอยากให้ผมพาเขาออกไปเล่นนั่นแหละ!”

 

“เอาเถอะ ไป เราไปใส่เสื้อออกไปเล่นหิมะกันนะ!” เย่ฉูฉู่อุ้มเสี่ยวไป๋หยางเข้าไปในห้องตะวันตก “หาชุดให้เสี่ยวไป๋หยาง ใส่ชุดหนา ๆ จะได้ออกไปเล่นกับพ่อนะ!”

  

เสี่ยวไป๋หยางฟังอย่างตั้งใจ ปากก็ส่งเสียงร้อง “ปาปาปาปา ไปเล่น!”

“ถูกต้อง ไปเล่น!” เย่ฉูฉู่พูดตามใจเสี่ยวไป๋หยาง

จ้าวเหวินเทารีบใส่เสื้อผ้า หยิบพลั่วและไม้กวาดเดินออกไปแล้ว

พี่สามจ้าวกล่าว “เจ้าหก คิดไม่ถึงเลยนะว่านายจะเข้ากับเด็กได้!”

  

“เจ้าหกชอบเด็กมาตั้งแต่เล็ก ๆ แล้ว ก่อนหน้านี้เขาก็คุ้นเคยกับพวกเถี่ยต้านแบบนี้แหละ ตอนนี้มีลูกเป็นของตัวเอง ก็ยิ่งคุ้นเคยเข้าไปใหญ่” พี่รองจ้าวกล่าว

 

จ้าวเหวินเทากล่าวเคล้ารอยยิ้ม “อย่าว่าแต่ผมเลย พวกพี่ก็เป็นแบบนี้เหมือนกันไม่ใช่เหรอ?”

“พวกเราไม่ได้เป็นแบบนี้เหมือนนายสักหน่อย” พี่สามจ้าวยิ้ม

เมื่อทั้งสามคนเดินออกมา เมิ่งต้า ชุยเอ้อและเจ้ารองฉวี่ก็ถือพลั่วตามมากวาดหิมะพอดี

  

ครั้นเห็นจ้าวเหวินเทาและคนอื่น ๆ พวกเขาก็กล่าวทักทาย

 

จ้าวเหวินเทากล่าว “พี่สามกลับไปเรียกคนในหมู่บ้านมาอีกสักสามสี่คนสิ พวกเราต้องรีบเปิดถนนก่อนท้องฟ้ามืด ผมจะไปขับรถ ส่วนทุกคนก็กวาดตามด้านหลัง”

 

“ถูกต้อง ขับรถเร็วกว่า!” พี่สามจ้าวเดินไปแล้ว ส่วนพี่รองจ้าวและพวกเมิ่งต้าก็เริ่มกวาดหิมะ

  

จ้าวเหวินเทาเดินไปหาแผ่นไม้ทรงยาวมาหนึ่งแผ่น ผูกไว้ที่ด้านหน้ารถของตัวเอง และขับรถเพื่อดันหิมะออกไป

แน่นอนว่าไม่สามารถดันไปด้านหน้าตลอดได้ เพราะยิ่งดันก็จะยิ่งมากขึ้น เขาจึงดันแบบเฉียง ๆ ไปด้านข้าง เพื่อดันหิมะออกไปสองฝั่ง วิธีนี้ช่วยทุ่นแรงให้พี่รองจ้าวและคนอื่น ๆ ได้มาก จุดที่ถูกรถกดทับ แค่ใช้พลั่วขุดก็เรียบร้อยแล้ว

 

จ้าวเหวินเทาใช้รถแบบนี้จนเปิดทางจากทางเข้าหมู่บ้านไปจนถึงฟาร์มกระต่ายได้ เนื่องจากคนทางฝั่งฟาร์มกระต่ายก็กวาดหิมะเพื่อเปิดทางมาทางฝั่งหมู่บ้าน ตอนที่กวาดเสร็จท้องฟ้าจึงยังไม่มืด

 

คุณแม่จ้าวรับสายโทรศัพท์ตั้งแต่แรกแล้ว จึงเตรียมอาหารไว้ที่ฟาร์มกระต่าย ซึ่งเป็นของที่มีประโยชน์ทั้งหมด มีหมูสามชั้นตุ๋นผักดอง เนื้อหมูตุ๋นมันฝรั่งและผักกาดขาว ข้าวสวยที่หุงจากข้าวฟ่าง เพิ่มด้วยเหล้าที่ผ่านการอุ่นแล้ว ทุกคนจึงกินกันอย่างสำเริงสำราญ

 

พี่สะใภ้สี่จ้าวมีความสุขมากที่สุด หล่อนเพิ่งจะย้ายเข้ามาหิมะก็ตกหนักขนาดนี้แล้ว หากหล่อนยังไม่ได้ย้ายมาที่นี่จะทำอย่างไร หิมะหนักขนาดนี้แม่สามีก็คงไปอยู่เป็นเพื่อนไม่ได้ หลังจากนี้ยังมีช่วงที่หิมะตกหนักกว่านี้อีก จะเรียกให้พี่สะใภ้ไปอยู่เป็นเพื่อนตลอดก็คงไม่ได้?

 

ตอนนี้ดีมากเลย มีคนเยอะแยะขนาดนี้ หล่อนก็ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น แม้แต่สัตว์เลี้ยงก็ไม่ต้องจัดการ เพราะคนในฟาร์มกระต่ายเข้ามาช่วยดูแลให้แล้ว ตอนนี้นอกจากให้นมอู่หยา ก็ทำเต้าหู้เพื่อหาเงินนี่แหละ ส่วนอาหารก็ได้กินของสดใหม่ ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่มันช่างสุขสบายจริง ๆ!

หล่อนวางแผนไว้ว่ารอให้พี่สี่จ้าวโทรศัพท์กลับมาหา เธอจะคุยกับสามีให้ดี ๆ เพื่อบอกกับเขาว่างานนี้น้องสามีออกแรงช่วยเหลืออย่างมากเลย!

จ้าวเหวินเทาดื่มเหล้าไปหนึ่งจอกเพื่อทำให้ร่างกายอบอุ่น ถึงอย่างไรคืนนี้เขาก็ต้องขับรถกลับบ้านอีก

 

“เหวินเทา หลังจากนี้ถ้าหิมะยังตกลงมา ก็ต้องกวาดหิมะกันแบบนี้เหรอ?” คุณพ่อจ้าวถาม

 

“คงทำได้แค่กวาดหิมะแบบนี้แหละครับ ไม่งั้นจะทำยังไงได้ล่ะ โรงเต้าหู้ของพี่สามก็เปิดอยู่ที่นี่ ถ้าไม่กวาดหิมะจะมาทำงานยังไง อีกอย่าง ฟาร์มกระต่ายทางฝั่งนี้ก็ต้องส่งกระต่ายออกนอกหมู่บ้านด้วย ที่นี่เป็นถนนบนเขา แตกต่างจากถนนสายหลัก” จ้าวเหวินเทาก็จนปัญญา

  

ฤดูหนาวหิมะตกหนักและยังไม่ละลาย เดิมทีถนนบนเขาก็มีอุปสรรคและลำบากอยู่แล้ว ยิ่งถ้ามีหิมะเสริมเข้ามา คงทำให้คนล้มจนบาดเจ็บได้ จึงทำได้เพียงต้องกวาดหิมะ

ลุงจ้าวกล่าว “หิมะทางฟาร์มกระต่ายฝั่งนี้นายไม่ต้องเป็นกังวล คนเยอะขนาดนี้ว่าง ๆ จะให้ไปทำอะไรล่ะ ถึงเวลานั้นก็คอยกวาดหิมะไปด้านล่างเขาเรื่อย ๆ ก็ได้แล้ว ถนนหลวงสายนั้นนายก็ไม่ต้องไปสนใจ นายแค่จัดการหิมะบนถนนเส้นนั้นของพวกนายให้สะอาดก็พอแล้ว”

  

จ้าวเหวินเทายิ้ม “ลุง ลุงพูดแบบนี้ผมก็หายห่วงแล้ว!”

ลุงจ้าวด่าทั้งรอยยิ้ม “เจ้าเด็กคนนี้ นี่นายรอให้ฉันพูดแบบนี้อยู่สินะ?”

“ใช่แล้ว ลุง พ่อของผมหน้าบางจะตาย คงรู้สึกไม่ดีที่จะเรียกให้คนมาช่วย ผมคงต้องพึ่งพาลุงแล้วนะ!”

  

“ไอ้เด็กนี่ พูดให้มันน้อย ๆ หน่อย! พ่อของนายหน้าบาง ส่วนนายน่ะหน้าหนา!”

 

จ้าวเหวินเทาหัวเราะร่า “งั้นคนหน้าหนาอย่างผมฝากให้ลุงจัดการเรื่องนี้ด้วยนะ!” ระหว่างที่พูดก็รินเหล้าให้ลุงจ้าวหนึ่งแก้ว

 

ลุงจ้าวชี้หน้าเขา พร้อมกับยกเหล้าขึ้นมาดื่มจนหมดแก้ว

จ้าวเหวินเทากลับมาดึกมาก แต่เย่ฉูฉู่ก็ยังไม่นอน เธอนอนอยู่ใต้ผ้าห่มกำลังวาดอะไรบางอย่าง ส่วนเสี่ยวไป๋หยางที่นอนอยู่ข้าง ๆ และเจ้าลิงน้อยหลับปุ๋ยไปแล้ว

  

“ภรรยา กี่โมงแล้วทำไมยังไม่นอนอีก” จ้าวเหวินเทายกน้ำร้อนมาแช่เท้าพลางกล่าว

 

“หิมะตกหนักขนาดนี้แต่ยังมีไฟฟ้าใช้ ฉันก็เลยใช้โอกาสนี้วาดรูปสักหน่อย ระหว่างนี้ก็รอคุณไปด้วยเลย” เย่ฉูฉู่ตอบ

“คิดถึงผมสินะ!” จ้าวเหวินเทายื่นหน้าเข้ามาพร้อมกับหัวเราะหึหึ

“หลงตัวเองให้มันน้อย ๆ หน่อยค่ะ!” เย่ฉูฉู่วางปากกาลง “วันนี้ตอนเช้าฉันนอนไปเยอะแล้ว ตอนค่ำก็เลยไม่ง่วงน่ะ”

“ผมเองก็นอนเยอะเหมือนกัน ไม่ง่วงเลยสักนิด” จ้าวเหวินเทาหัวเราะคิกคักพลางกล่าว “ดังนั้น ผมคิดถึงคุณแล้วนะภรรยาจ๋า!”

เย่ฉูฉู่ผลักเขาออกไปอย่างไม่สมอารมณ์ ทว่าบนใบหน้ากลับแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย รีบพูดว่า “รีบไปล้างตัว จะได้เข้านอน!”

………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

งานกวาดหิมะนี่หนักหน่วงอยู่เหมือนกันนะคะ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคนในเขตอบอุ่นหลายคนถึงไม่ชอบหน้าหนาว

ไหหม่า(海馬)