แดนนิรมิตเทพ บทที่ 563
ชายแดนมณฑลซีไห่ เมฆหมอกล้อมรอบภูเขาโยวหลาน ตำแหน่งที่สำนักใหญ่ของสำนักโยวหลานอาศัยอยู่

กงซุนจื่อยิงคุกเข่าอยู่ในสำนัก กราบคำนับไม่หยุด น้ำเสียงชั่วร้าย “อาจารย์คะ เฉินไต้ซือฆ่าพ่อขอฉัน ทำลายพลังบำเพ็ญของฉัน ขอให้ท่านช่วยแก้แค้นให้ศิษย์ด้วยค่ะ!”

บนเก้าอี้หินในสำนัก มีผู้อาวุโสที่สวมใส่เสื้อสีดำนั่งอยู่ นั่นก็คือเจ้าสำนักโยวหลาน ฉินกวนไห่

หยวนชิงซานที่กลับมาจากทะเลทราย ยืนอยู่ด้านล่างของฉินกวนไห่ รีบโค้งตัวพูดว่า “เจ้าสำนักครับ เฉินไต้ซือคนนั้นพลังความสามารถมิอาจคาดเดาได้ ผมต้านทานเขาไม่ได้เลยแม้แต่กระบวนท่าเดียว มิอาจไปมีปัญหาด้วยนะครับ!”

สายตาของฉินกวนไห่กวาดมองสลับไปมาที่หยวนชิงซานและกงซุนจื่อยิง ลูกศิษย์ภายในห้องโถงมีสีหน้าแตกต่างกันออกไป ไม่รู้ว่าเจ้าสำนักของพวกเขาจะฟังใคร

กงซุนจื่อยิงเงยหน้า ใบหน้าสวยงามเต็มไปด้วยน้ำตา “อาจารย์คะ วางใจได้ ก่อนที่ฉันจะมาก็ได้ข่าวมาแล้วว่าเฉินไต้ซือคนนั้นตาอยู่ที่ทะเลทรายแห่งความตายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือแล้วค่ะ ขอร้องให้ท่านอาจารย์ช่วยฉันจัดการครอบครัวของเฉินไต้ซือ เพื่อแก้แค้นให้กับตระกูลกงซุนด้วยค่ะ!”

“ตระกูลกงซุนของฉันยินดีที่จะนำเอาทรัพย์สินครึ่งหนึ่งของตระกูลมอบให้กับท่านอาจารย์เพื่อเป็นการตอบแทนค่ะ!”

“เฉินไต้ซือตายไปแล้ว?” หยวนชิงซานตกใจ จากนั้นก็พูดเสียงแข็ง ด้วยสีหน้าเด็ดขาดว่า “ไม่ เป็นไปไม่ได้! ข่าวนี้ต้องเป็นข่าวเท็จแน่นอน”

“เจ้าสำนักครับ ท่านอย่าได้ติดกับเด็ดขาดนะครับ!” หยวนชิงซานหันไปมองฉินกวนไห่ด้วยสีหน้าร้อนรน

ฉินกวนไห่ยกมือห้าม พูดด้วยสีหน้ามืดขรึมว่า “ชิงซาน จื่อยิงเป็นศิษย์ที่ฉันให้ความสำคัญที่สุด เฉินไต้ซือคนนั้นกลับทำลายพลังบำเพ็ญของเธอ ช่างไม่ให้เกียรติฉันแม้แต่น้อย หากว่าฉันไม่ทำอะไรเลย แล้วต่อไปฉันจะมีหน้าอะไรยืนอยู่ในโลกฝึกบู๊อีก!”

“จื่อยิง เธอกลับไปเตรียมตัวก่อน ข้าจะลงไปด้วยตัวเอง เพื่อร้องหาความยุติธรรมจากเฉินไต้ซือให้!”

กงซุนจื่อยิงดีใจ โค้งคำนับพูดว่า “ขอบพระคุณท่านอาจารย์ค่ะ!”

หยวนชิงซานยังอยากพูดกล่อม แต่เมื่อมองเห็นความโลภในแววตาของฉินกวนไห่แล้ว ก็กำจัดความคิดที่จะพูดกล่อมทิ้ง แล้วแอบถอนหายใจ

“ศิษย์พี่เกิดความโลภต่อทรัพย์สินของตระกูลกงซุนแล้ว กลัวว่าการกระทำนี้จะทำให้สำนักโยวหลานเกิดอันตรายแล้วละ!”

ยานจิง ตระกูลมหาอำนาจตระกูลหยาง

ภายในคฤหาสน์ หยางหมิงหยู่กำลังส่องกระจกทายาให้กับรอยแผลเป็นบนใบหน้าของตัวเอง

หยางหมิ่นฟาลูกน้องที่เก่งที่สุดมาเคาะประตู แล้วเดินเข้ามา

“คุณชายครับ ทางฮ่านหยางมีข่าวมาว่าเฉินโม่…ตายอยู่ในทะเลทรายแห่งความตายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือแล้วครับ!”

มือของหยางหมิงหยู่กระตุก ยาถูกทาโดนที่คิ้ว

หยิบเอากระดาษเช็ดหน้าจากกล่องด้านข้าง แล้วค่อยๆเช็ดยาบนคิ้วออก แล้วสีหน้าขอหยางหมิงหยู่ก็กลับคืนสู่ปกติ

“ข่าวมีความเป็นจริงมั้ย?”

หยางหมิ่นฟาพูดว่า “ไม่แน่ใจครับ แต่มีความเป็นไปได้มากที่เป็นความจริง!”

“อย่างนั้นก็หมายความว่ายังมีความไม่แน่นอนละสิ? โอกาสที่จะเป็นเท็จยังมากเกินไป” หยางหมิงหยู่ทายาที่รอยแผลต่อไป

หยางหมิ่นฟายืนนิ่งเงียบอยู่ด้านข้างอย่างเคารพ

“ทางด้านตระกูลหนานกงมีข่าวอะไรหรือเปล่า? ตาแก่อย่างหนานกงหยู่นั่นยังไม่ออกจากการปลีกวิเวกอีกงั้นหรอ?” หยางหมิงหยู่เอ่ยถาม

หยางหมิ่นฟาพนมมือ “ยังไม่ได้ข่าวเกี่ยวกับเรื่องที่หนานกงหยู่ออกจากการปลีกวิเวกเลยครับ ขนาดนักดาบกู่ฉางเฟิงของเขาตายอยู่ที่ตระกูลหนานกง ก็ยังไม่เห็นหนานกงหยู่ปรากฏตัวเลยครับ”

“หนานกงหยู่ตายไปนานแล้วหรือเปล่า? การที่บอกว่าปลีกวิเวกเป็นเพียงข่าวลือที่ตระกูลหนานกงจงใจปล่อยออกมา เพื่อยังทำให้คนอื่นหวาดกลัวตระกูลหนานกง!”

“ไม่นะครับ ยังไงซะหนานกงหยู่ก็เป็นปรมาจารย์อันดับหนึ่งของเมื่อสามสิบปีก่อน คงจะไม่ตายง่ายๆ” น้ำเสียงของหยางหมิ่นฟามั่นใจอย่างมาก

“แล้วต่อไปเราควรทำอะไรกันดีครับ? ไปลองดูว่าเฉินโม่มันตายจริงหรือเปล่า?” หยางหมิ่นฟาพูด

“ไม่จำเป็น พวกเราแค่รอดูสถานการณ์เงียบๆก็พอ มันจะมีคนไปช่วยเราจัดการเอง” หยางหมิงหยู่หันไปมองหยางหมิ่นฟาด้วยสีหน้าทุกอย่างอยู่ในกำมือ

“กระผมเข้าใจแล้วครับ!”