ตอนที่ 243 : หนุ่มหล่อช่วยอะไรหน่อยได้ไหม?

เป็นมหาเศรษฐีระดับพระเจ้าด้วยระบบลงชื่อ

เป็นมหาเศรษฐีระดับพระเจ้าด้วยระบบลงชื่อ

 

ตอนที่ 243 : หนุ่มหล่อช่วยอะไรหน่อยได้ไหม?

 

ตอนเย็น

 

เหล่าเจ้านายทั้งหลายก็มาถึงซินหลงล่วงหน้าถึงหนึ่งชั่วโมง

 

จางเทียนเหิงและเว่ยหลงเซียงมาถึงก่อนพร้อมกับเลขาสาวของพวกเขาและด้วยทั้งคู่นั้นเป็นเพื่อนกันดังนั้นพวกเขาจึงเริ่มคุยกันอย่างรวดเร็ว

 

“ช่วงนี้กิจการไปได้ด้วยดีไหม?”

 

“ไม่มีปัญหาอะไรแต่ขาดลูกค้ารายใหญ่ไปสองรายกําไรก็เลยลดลงมาเล็กน้อย”

 

“เรื่องนี้ง่ายมาก รอให้น้องเจียงแนะนําลูกค้ารายใหญ่ให้นายสักสองสามรายก็พอแล้ว!”

 

จากนั้นเว่ยหยงเซียงก็พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนิทรรศการเครื่องประดับ

 

และหลังจากนั้นจางเทียนเหิงก็พูดถึงเรื่องการท่องเที่ยวที่ซานย่า

 

ทุกสิ่งที่พวกเขาพูดนั้นก็ต้องมีเจียงเฉินมาเกี่ยวด้วยเสมอ

 

ในเวลานี้เองจางเปยผู้ถือหุ้นอันดับที่สองของ ByteDance ก็เดินเข้ามาพร้อมกับเลขาสาวของเขา

 

เมื่อเห็นจางเทียนเหิงกับเว่ยหยงเซียงที่อยู่ข้างในแม้พวกเขาจะไม่รู้จักกันแต่ก็อดไม่ได้ที่จะต้องตกตะลึง

 

จางเทียนเหิงกับเว่ยหยงเซียงเองก็ตกตะลึง

 

มองหน้ากัน

 

จางเปยกล่าวขอโทษออกมา “ขอโทษทีครับ ผมน่าจะเข้าผิดห้อง”

ออกไปข้างนอกก่อนจะดูหมายเลขห้อง [VIP No.1]

 

จางเปยสงสัย “ก็ถูกไม่ใช่หรอ มันก็ต้องเป็นห้องนี้สิ เป็นไปได้ไหมว่าพวกเขาเป็นเพื่อยของคุณเจียง?”

 

จางเปยเดินเข้าไปในห้องพร้อมกับเลขาสาวอีกครั้งและถามด้วยรอยยิ้ม“ทั้งสองเป็นเพื่อนของคุณเจียงใช่ไหมครับ? ผมก็ถูกคุณเจียงเฉินมาเหมือนกัน ผมชื่อว่าจางเปยครับ”

 

“เจียงเฉินเชิญมางั้นสอนะ ฮ่าฮ่าฮ่า พวกเดียวกันนี่เอง”

 

จางเทียนเหิงและเว่ยหยงเซียงลุกขึ้นอย่างรวดเร็วก่อนจะดึงจางเปยเข้ามาอย่างกระตือรือร้น

 

จากนั้นพวกเขาก็เริ่มแนะนําตัวเองกัน

 

“สวัสดีฉันชื่อว่าจางเทียนเหิง นี่นามบัตรของฉัน”

 

“สวัสดีฉันคือ เว่ยหยงเซียง นั่นามบัตรของฉัน!”

 

“สวัสดีครับ ผมจางเปย นร่นามบัตรผมครับ!”

 

หลังจากแลกนามบัตรแล้วจางเปยก็ต้องตกตะลึง

 

ประธานหมิงเต่อกรุ๊ป?

 

ประธานบริษัทกฎหมายเทียนกวน?

 

แมว่าเขาจะไม่เคยรู้จักทั้งสองมาก่อนแต่ชื่อบริษัทของพวกเขาเขานั้นย่อมต้องเคยได้ยินเขาพูดออกมาอย่างกระตือรือร้นทันที

 

“คุณจางผมอยากพบคุณมานานแล้ว! คุณเว่ยผมก็อยากพบคุณมานานแล้วเช่นกัน!”

 

หลังจากที่จางเทียนเหิงและเว่ยหยงเซียงได้รับนามบัตรของจางเปยมาพวกเขาก็ตกตะลึงยิ่งกว่าจางเปยเสียอีก!

 

ByteDance นี่มันบริษัทระดับแสนล้าน!

 

มากกว่าบริษัทของพวกเขาอีก!

 

พวกเขาร้อนใจขึ้นมาทันที

 

“คุณจาง คุณเป็นตํานานในวงการอินเทอร์เน็ตเลยนะ!”

 

หลังจากแนะนําตัวกันไปแล้วพวกเขาก็เริ่มทําความรู้จักกัน

 

หลังจากนั้นซูหมิงอี้ประธานของบิลิปิลิก็เดินเข้ามาพร้อมกับเลขาสาวของเขาหลังจากนั้นโจวหมิงจากโลกของการเงินก็ตามมาถึง

 

หลังจากที่ทุกคนแนะนําตัวเองกันแล้วพวกเขาก็สนิทกันอย่างรวดเร็วและบรรยากาศก็เต็มไปด้วยความกลมกลืน

 

ในเวลานี้เองโจวหมิงอี้ก็พูดออกมา “ยังไงก็ตาม ตอนนี้น้องเจียงยังมาไม่ถึงทําไมเราไม่โทรไป หาเขาหน่อยล่ะ?”

 

เว่ยหยงเซียงพยักหน้า “เอาเลย เอาเลย”

 

กดโทรออก

 

เชื่อมต่อ

 

เว่ยหยงเซียง “นี่ น้องเจียง พวกเรามากันแล้วนะ แล้วนาย…”

 

เจียงเฉินมองดูเวลาก่อนจะพูดด้วยความแปลกใจ “พวกคุณมาเร็วกันไปไหมผมยังส่งอาหารอ

 

ยู่เลย…”

 

ทุกคน “…..

 

ทั้งห้องเต็มไปด้วยความเงียบ!

ส่งอาหาร?

 

เว่ยหยงเซียงหลั่งเหงื่อออกมา “น้องเจียง นายไปส่งอาหารงั้นหรอ? นายไม่ได้ขับตีตี้แล้วหรอ?”

 

เจียงเฉิน “ช่วงนี้ผมว่าจะพักตี้ตี้ไปก่อนแล้วเปลี่ยนมาทําส่งอาหารแทน…”

 

อีกนะ

 

คนทั้งห้องล้มลงกับพื้น

 

ใช่แล้ว ตามเวลานัดจริงๆแล้วมันควรเป็น 1 ทุ่มแต่พวกเขาทั้งหมดกลับมาเร็วกว่าเวลาอย่างน้อย 40 นาที! ดังนั้นมันจึงไม่น่าแปลกเลยว่าทําไมพวกเขาถึงมาเร็ว!

 

จางเทียนเหิงมองไปรอบๆห้อง เหล่าเลขาสาวเองก็ยังอยู่ในห้องด้วยเขาโบกมือทันที “พวกเธอออกไปหาอะไรกินด้วยตัวเองก่อนเลยเดี๋ยวพวกฉันจะโทรไปหาตอนกินอาหารกันเสร็จแล้ว”

 

เลขาสาวเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นสาวงามที่กําลังสวมชุดโอแอลจากที่ทํางานพวกเธอพากันเดินออกไปอย่างรวดเร็ว

 

เหล่าเลขาสาวหลังออกมาจากห้องส่วนตัวพวกเธอก็พากันหาโต๊ะในร้านแล้วพากันนั่ง

 

พอพวกเธอนั่งลงพวกเธอก็เริ่มคุยกันทันที

 

เลขาสาวของซูหมิงอี้ถามด้วยความสงสัย “คุณเจียงเขาเป็นใครกัน ดูเหมือนเจ้านายของพวกเราจะให้ความสําคัญกับเขามากเลยนะ”

 

เลขาสาวของจางเทียนเหิงยิ้มและพูดออกมา “ฉันค่อนข้างจะรู้จักบอสเจียงอยู่เขาเป็นผู้ถือหุ้นอันดับสองของบริษัทกฎหมายของฉัน เขาเคยไปที่บริษัทกฎหมายอยู่ประมาณสองถึงสามค รั้ง แต่ฉันบอกได้เลยนะว่าเขาหล่อมาก!!”

 

จากนั้นเธอก็เล่าถึงประสบการณ์ครั้งล่าสุดที่เธอได้ไปซานย่า ซึ่ง

มันก็ทําให้เหล่าสาวๆคนอื่นพากันตาสว่าง!

 

“จะ เจ้าของโรงแรมแอตแลนติส?!”

 

ในเวลานี้เองเลขาสาวของโจวหมิงก็พูดออกมา “ฉันเคยเอาองุ่นทับทิมแห่งโรมันเอาไปให้เขาด้วย…”

 

ในเวลานี้เอง

 

เลขาสาวของโจวหมิงเธอมีสายตาที่เฉียบแหลมเธอนั้นสามารถมองเห็นชายหนุ่มรูปงามสวมเสื้อแจ็กเก็ตสีเหลืองพร้อมกับกล่องเก็บอาหารกําลังเดินเข้ามาที่หน้าร้านอาหาร

 

“ดูสิ คุณเจียงอยู่ตรงนั้น!”

 

เลขาสาวของซูหมิงอี้และจางเปยหันไปดู

 

เมื่อได้เห็นครั้งแรก : พระเจ้า! คุณเจียงไปส่งอาหารมาจริงๆ ถึงจะเตรียมใจมาแล้วแต่มันก็ยังร่าตกตะลึงมากจริงๆ!

 

แต่เมื่อมองไปสักพัก : ว้าว–หล่อมาก! เขาเดินได้สุขุมมากเลย สีหน้าของเขาสงบนิ่งราวกับน้ําบนทะเลสาบ ดวงตาที่เป็นประกาย! แถมยังมีความมั่งค้ําระดับมหาศาล!

 

พระเจ้า!

 

จู่ๆเลขาสาวทั้งสองก็รู้สึกใจเต้น!

 

ในเวลานี้เองจ้าวหยวยผู้จัดการร้านอาหารก็ได้เข้ามาทักทายเขาด้วยความเร่งรีบและพูดออก มาด้วยความเคารพว่า “เจ้านายมาแล้ว!”

 

เจียงเฉินพยักหน้า “พวกเขามากันครบรึยัง?”

 

จ้าวหยวน “มาครบทั้งห้าคนแล้วครับ”

 

เจียงเฉิน “โอเค..นายส่งคนไปดูจักนยานของฉันที่หน้าประตูด้วยล่ะอย่าให้ใครมาขโมยมันไป ไม่งั้นฉันต้องไปซื้อมันใหม่อีก

 

จ้าวหยวนพยักหน้า “ไม่ต้องห่วงครับเจ้านาย”

 

เจียงเฉินรีบเดินไปที่ห้อง VIP หมายเลข 1 ทันทีเพราะอีกฝ่ายนั้นมากันหมดแล้วดังนั้นเขาจึงไม่มีเวลาไปเปลี่ยนชุดอีกแล้ว

 

ในเวลานี้เองจางเทียนเหิง เว่ยหยงเซียง โจวหมิงและชูหมิงอี้ก็เพิ่งได้รู้จากจางเปยว่าเจียงเฉินนั้นเข้าซื้อหุ้นของ ByteDance ถึง 64% และได้กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่

 

แต่ละคนต่างก็ตกตะลึง!

 

หุ้น 64% ของ Byte Dance นั้นเท่ากับเท่าไหร่

อย่างน้อยก็ 2 แสนล้านหรือมากกว่านั้น! (ที่จริงประมาณ 3 แสนล้าน)

 

พวกเขาไม่กล้าเรียกเจียงเฉินว่าน้องเจียงอีกแล้ว ในอนาคตพวกเขาตัดสินใจแล้วว่าจะเรียกเจียงเฉินว่า : คุณเจียง!

 

ก๊อก ก๊อก–

 

เจียงเฉินเคาะประตูก่อนจะเข้ามาด้วยรอยยิ้ม “ขอโทษทีนะครับทุกคนผมสายไปมากแล้ว—

 

“ได้ที่ไหนกัน! พวกเราต่างหากที่มาเร็วเกินไป!”

 

จางเทียนเหิง เว่ยหยงเซียง โจวหมิง ซูหมิงอี้และจางเปยลุกขึ้นมาทักทายเขาทันที

 

ผู้คนมองหน้ากันอย่างมีความสุข

 

เนื่องจากมูลค่าของทรัพย์สินที่เจียงเฉินมีอยู่นั้นทะลุ 4 แสนล้านแล้วดังนั้นพวกเขาจึงพากันเรียกเจียงเฉินว่า คุณเจียง!

 

เจียงเฉินเองก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรกับเรื่องนี้มาก มันก็แค่อิทธิพลของสถานะที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น

 

หลังจากดื่มเหล้ากันไปสักพัก บรรยากาศก็เริ่มอบอุ่นขึ้น

 

จุดประสงค์หนึ่งของเจียงเฉินก็คือเขาต้องการขอบคุณทุกคนที่ช่ายเขาจัดการกับเรื่องต่างๆที่มาจากมรดกและอีกอย่างก็คือเขานั้นต้องการให้ทุกคนนั้นได้เจอกันเพื่อเป็นช่องทางในการจัดการ ธุรกิจในอนาคต

 

ถ้าหากบริษัทกฎหมายเทียนกวนนั้นได้รับการช่วยเหลือจากบริษัทบิลิบิลิและ Bytedance ผลประกอบการของบริษัทก็ควรที่จะเพิ่มขึ้นหลายสิบล้าน!

 

โจวหมิงยังคงพยายามพูดกับจางเปยให้เขาพิจารณาเกี่ยวกับเรื่องการลงทุนกับบริษัทของเขา

 

ส่วนบิลบิลิก็ได้หารือความร่วมมือกับ Byte Dance ไปเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายนั้นได้ประโยชน์ร่วมกัน

 

ผ่านไป 2 ชั่วโมงงานเลี้ยงก็จบลง

 

เจียงเฉินขี่จักรยานหนีไปทันที

วันถัดมา

 

เจียงเฉินตื่นขึ้นมาบนเตียงขนาด 50,000 ตารางเซนติเมตรของเขาและวันของเขาก็เริ่มนอีกครั้ง

 

เขามองตัวเองผ่านกระจกและเริ่มทําตามสิ่งที่ปรายณ์โบราณเคยกล่าวไว้ :ต้องสํารวจร่างกายตัวเองวันละสามครั้ง!

 

“ฉันหล่อไหม?”

 

“ฉันหล่อไหม?”

 

“ฉันหล่อไหม?”

 

และผลที่ได้ก็คือ : “สวรรค์ไม่ได้ให้กําเนิดฉัน เจียงเฉินผู้หล่อเหลาตราบเท่าฟ้าดินสลาย!”

 

ฮีม–

 

หล่อแล้วก็ต้องหยิ่งสักหน่อย!

 

เมื่อแข่งกับเขาด้วยความหล่อเจียงเฉินนั้นไม่เคยแพ้ใคร!

การทํางานส่งอาหารเริ่มขึ้น ทุกครั้งที่เขาส่งเสร็จเขาก็จะทําการพักผ่อนหนึ่งชั่วโมง

 

10 โมงเช้า

 

รายการที่สองเจียงเฉินมาที่ชุมชนจินซัวเถียนตี้ พร้อมกับ “ชานมไข่มุกเผือก” เขาต้องขึ้นไปส่งบนอาคารชั้น 7 แต่ประตูชั้นล่างกลับไม่เปิดมันทําให้เขาไม่สามารถขึ้นไปได้

 

เขาจึงต้องโทรแจ้งลูกค้า

 

เจียงเฉิน “คนสวยครับ อาหารของคุณมาถึงแล้ว แต่ว่าประตูชั้นล่างมั่นปิดนะครับ”

 

คนสวย “เดี๋ยวฉันลงไปค่ะ”

 

เจียงเฉิน “ได้ครับ”

 

ในเวลานี้เอง

 

ภายในห้อง พ่อแม่ของครอบครัวหนึ่งกําลังกดดันลูกสาวของตัวเอง

 

พ่อ “ไปจิงซวน! วันนี้ลูกมีนัดบอดไม่ว่าลูกจะพูดอะไรลูกก็ต้องไป!”

 

แม่ “ใช่ เด็กคนนี้เป็นเด็กดีจะตายไปแม่ใช้เวลานานมากกว่าจะเจอคนดีๆแบบนี้ แม่จะไม่ปล่อยให้คนอื่นได้เขาไปเด็ดขาด!”

 

พ่อ “พ่อตรวจสอบเขามาแล้ว ผู้ชานคนนี้จบมาจากมหาวิทยาลัยชิงหัว! เขาเป็นทั้งพลเมืองของจีนแล้วก็ยังมีกรีนการ์ดของอเมริกา ตอนนี้เขาเรียนจบและกลับมาที่จีนแล้วและสภาพครอบครัวของเขาก็ดีด้วย! มีห้องสวีทอยู่ในเมืองหลวงสองห้อง!พวกลูกนะเหมาะสมกันจะตายไป…”

 

แม่ “ใช่แล้ว หนุ่มคนนั้นหน้าตาดีมากนะ ลูกจะพลาดไม่ได้อีกแล้วนะ ตอนนี้ลูกก็อายุ 25แล้วถ้าไม่แต่งงานตอนนี้มันจะสายเกินไปแล้วนะ

 

เบื้องหน้าพ่อและแม่มีสาวงามสวยประมาณ 93 คะแนนเธอคือ ไปจึงเสวียนเธอมีใบหน้ารูป ไข่ ข้างปากสีเชอร์รี่มีลักยิ้มเล็กๆคู่หนึ่ง ขาเรียวสีขาวนั้นกําลังไขว่ห้างอยู่บนโซฟาท่าทางเธอดูเหมือนปลาเค็มที่อยากตาย

 

ทันใดนั้นก็มีสายโทรเข้ามา

 

เป็นชานมที่เธอสั่งมา

 

“รอสักครู่ค่ะ เดี๋ยวฉันลงไป”

 

จากนั้นเธอก็วิ่งออกไปจากห้องอย่างมีความสุขทิ้งพ่อแม่ที่กําลังโกรธเอาไว้ข้างหลังชั้นล่าง

 

เจียงเฉินมองดูสาวสวย 93 คะแนนวิ่งลงมา

 

“ชานมของฉัน!”

 

“นี่ครับ!”

 

ไปจึงเสวียนมองไปที่เจียงเฉิน : ว้าว เขาหล่อมากเลย ถึงจะสวมหน้ากากอยู่แต่มันก็ไม่สา มารถซ่อนความหล่อของเขาได้!

 

จู่ๆก็มีแสงสว่างขึ้นมาในใจของเธอ

 

ไปจึงเสวียนพูดออกมาอย่างเขินอาย “หนุ่มหล่อ ฉันขออะไรหน่อยได้ไหม?”

 

????

เจียงเฉินรู้สึกดีใจมาก เพราะบางทีนี่อาจจะเป็นกิจกรรมพิเศษ!

เจียงเฉิบตบหน้าอกของตัวเอง “คุณพูดมาได้เลยครับ ตราบใดที่ผมสามารถช่วยได้ผมจะช่วยอย่างแน่นอน!”

 

ไปจึงเสวียน “มันเป็นแบบนี้ค่ะ พ่อแม่ของฉันจะจับฉันส่งไปนัดบอดฉันรู้สึกว่ามันน่าคาญมากดังนั้นคุณช่วยแกล้งเป็นแฟนฉันหน่อยได้ไหมคะ?”

 

แกล้งเป็นแฟน?

 

เรื่องง่ายๆ!

 

เจียงเฉิน “ตอนนี้หรอครับ?”

 

ไปจึงเสวียนพยักหน้า “ตอนนี้เลยค่ะ..ฉันไม่ปล่อยให้คุณทําโดยไม่ได้อะไรแน่ค่ะเอาเป็นว่าฉันให้คุณ 200 หยวน โอเคไหมคะ?”

 

เจียงเฉิน “ไม่จําเป็นต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าใช่ไหมครับ?”

 

ไปจึงเสวียน “ไม่ต้องค่ะ”

 

“ไปกันค่ะ!”

ไปจิงเสวียนถึงเจียงเฉินไปขึ้นลิฟต์และเดินไปที่ห้อง 90% ทันที

เปิดประตู

 

ไปจิงเสวียน “พ่อ แม่ หนูมีแฟนแล้วนะ…”

 

แม่ที่กําลังทําอาหารอยู่ในครัวก็ดุสวนออกมา “เมื่อกี้ลูกยังไม่มีแฟนแต่ตอนนี้กลับมีแฟนแล้วไม่ใช่ว่าลูกไปถึงใครก็ไม่รู้มาเป็นแฟนใช่ไหม?!”

 

เมื่อเธอเดินออกมาเธอก็พบกับเจียงเฉิน

 

ว้าว หนุ่มหล่อ!

 

เธอคิดในใจ : ชายหนุ่มคนนี้เหมาะกับลูกสาวของฉันมาก อีกอย่างเขาทําแม้กระทั่งงานส่งอาหารแสดงว่าเขาจะต้องเป็นคนที่มั่นคงและไม่ทําตัวเลอะเทอะถ้าจับคู่กันได้ก็คงดี!”

 

ทันใดนั้นเธอก็ดูเป็นมิตรขึ้นมาทันที “หนุ่มน้อย มาๆ มาๆ มานั่งก่อนลองกินผลไม้หน่อยสิ!”

 

ในไม่ช้าพ่อและม่ก็นั่งลงตรงข้ามเจียงเฉินกับไปจิงเสวียน

การพิจารณาขึ้น!

 

แม่ “ถอดหน้ากากออกหน่อยได้ไหม?”

 

เจียงเฉินถอดหน้ากากออก

 

หลังจากนั้น

 

ทั้งสามก็มองไปที่หน้าของเจียงเฉินด้วยความตกตะลึง!

 

หล่อมาก!

 

หล่อจนต้านไม่ไหว!

 

พ่อยิ้มและพูดออกมา “หนุ่มน้อย– นายคิดยังไงกับลูกสาวของฉันหรอ?”

 

เจียงเฉินตอบแบบเรียบง่านและตรงไปตรงมา “ดีนะครับ เธอเป็นคนที่สดใสและใจกว้างไม่เสแสร้งและยังเข้ากับคนได้ง่ายด้วยครับ”

 

พ่อถามต่อ “แล้วนายมีพี่น้องที่บ้านไหม? ที่บ้านยังมีผู้อาวุโสอยู่รึเปล่า?”

เจียงเฉิน “ผมเป็นเด็กกําพร้าครับ เติบโตขึ้นมาในสถานเลี้ยงเด็กกําพร้าคนเดียวครับ”

 

เมื่อแม่ได้ยินแบบนั้นเธอยิ่งพอใจขึ้นไปอีกสําหรับเธอนั้น เพราะว่าหลังจากที่ลูกสาวของเธอ แต่งงานลูกสาวของเธอจะไม่มีวันถูกแม่สามีรังแกอย่างแน่นอน

 

คราวนี้แม่ถามออกมา “หนุ่มน้อยแล้วเธอมีรถไหม…แน่นอนว่าป้าไม่ได้สนใจหรอกว่าเธอจะมรถรึเปล่า แต่ป้าแค่อยากจะรู้”

 

เจียงเฉินพยักหน้า “มีครับ”

 

ไปจึงเสวียน “???”

 

ตกตะลึง!

 

นายเป็นคนส่งอาหารไม่ใช่หรอ? แล้วนายมีรถได้ยังไง?

 

แม่พูดออกไป “ ฉันไม่ได้หมายถึงจักรยานนะ”

 

เจียงเฉินพยักหน้า “มันไม่ใช่จักรยานครับ…”

 

พ่อยิ้มอย่างพอใจก่อนจะถามต่อ “แล้วห้องล่ะมีไหม อยู่ที่วงแหวนไหน…แน่นอนว่าฉันไม่ได้ สนใจหรอกว่าเธอจะมีเงินรึเปล่า แต่ฉันอยากได้คําตอบที่ชัดเจนเพราะเธอจะมีบ้านไหมมันไม่สํา คัญเพราะทางนี้ก็มีอยู่แล้ว 5 ห้องถ้าพวกเธออยากแต่งงานกันจริงๆทางนี้ก็ยกอีกสี่ห้องให้ได้ แต่ ถ้ารู้สึกว่าไม่อยากได้ก็ไม่บังคับนะ!”

 

“อีกอย่างหลังแต่งงานไปแล้วเรื่องลูกทางนี้ก็ช่วยดูแลให้ได้นะ”

 

เจียงเฉินตกตะลึง!

 

นี่เขาได้เจอกับพ่อตาแม่ยายที่ดีที่สุดในตํานานแล้วหรอ?!

 

เจียงเฉิน “ผมมีอยู่แล้วครับอยู่บนวงแหวนที่สอง”

 

ไปจึงเสวียนมองไปที่เจียงเฉินด้วยความตกตะลึง เธอเริ่มมั่นใจแล้วว่าเจียงเฉินเป็นคนส่งอาหา รจริงๆหรือแค่ปลอมตัวมา

 

พ่อปรบมือและหัวเราะออกมา “เรียบร้อยแล้วแล้วเมื่อไหร่พวกลูกจะแต่งานล่ะ?”

 

พรูด–

 

เจียงเฉินพ่นชาออกมาก่อนจะส่ายหัวอย่างรวดเร็ว “ยังไม่ใช่เร็วๆนี้หรอกครับ”

 

ไปจิงเสวียนหน้าแดงก่อนจะพูดออกมาด้วยความตื่นตระหนก “เรายังไม่ถึงขั้นนั้นค่ะ…”

 

เมื่อมองดูใบหน้าที่หล่อเหลาของเจียงเฉินหัวใจของเธอก็เต้นแรงขึ้น

 

รู้สึกราวกับว่านี่แหละคือคนที่ใช่!

 

ท้ายที่สุดเจียงเฉินนั้นก็ต้องโดนพ่อแม่ผู้กระตือรือร้นของไปจิงเสวียนรั้งเอาไว้ให้ทานอาหารกลางวันด้วยกัน

 

หลังจากที่แม่ของเธอได้คุยกับเจียงเฉินแล้วเธอนั้นก็แทบจะอดใจไม่ไหวที่จะหยิบทะเบียนบ้านและพาทั้งลูกของเธอและเจียงเฉินไปสํานักงานกิจการพลเรือนเพื่อทําหนังสือสมรสกัน!

 

แม้แต่ตอนทานอาหาร แม่ของเธอก็ยังคีบผักให้กับเจียงเฉินจนมันกองจนเหมือนกับภูเขาขนาดย่อมๆ มันทําให้ไปจิงเสวียนนั้นรู้สึกว่าเจียงเฉินอาจจะเป็นลูกชายแท้ๆของพ่อกับแม่เธอ!

 

หลังจากรับประทานอาหารเสร็จเจียงเฉินก็ไม่รออะไรอีกต่อไปเขาหาจังหวะเพื่อออกไปทันที

 

พ่อก็รีบพูดออกมา “จิงเสวียน ไปส่งเสี่ยวเจียงเร็ว!”

 

ไปจึงเสวียน “…”

 

ลงไปชั้นล่าง

 

เจียงเฉินขึ้นขี่จักรยานและกําลังจะจากไป

 

“เดี๋ยว” ไปจิงเสวียนก็เข้ามาหยุดเจียงเฉินไว้อย่างรวดเร็ว “แล้วหลังจากนี้เราจะทํายังไงกันต่อไปดี?”

 

“ทําอะไรต่อหรอ?” เจียงเฉินสับสน

 

“เรา” ไปจึงเสวียนพูดออกมาพร้อมกับใบหน้าของเธอที่แดงก่ํา

 

“มีอะไรอีกไหม ฉันจะต้องรีบไปส่งของอีกนะ” เจียงเฉินพูดออกมา

 

“ไม่อย่างนั้น ทําไมเราไม่ลองมาคบกันจริงๆดูล่ะ…” ไปจิงเสวียนก้มหัวลงและพูดออกมาอย่างเขินอาย

 

เจียงเฉินหลั่งเหงื่อออกมาก่อนจะพูดอย่างรวดเร็ว “ฉันขอโทษจริงๆนะสําหรับเรื่องนี้แต่ฉันมีแฟนแล้ว…”

 

พูดจบเจียงเฉินก็รีบจากไปอย่างรวดเร็ว

 

เห้อ –

 

เขากลัวจริงๆที่ตัวเองหล่อเกินไป–

 

คนหล่อเกินไปนี่มันน่าหนักใจจริงๆ!

 

ไปจึงเสวียนมองหลังของเจียงเฉินที่กําลังจากไปเธอกัดฟันพูดออกมา “ฉันไม่ยอมแพ้หรอก!”

 

เธอต้องยอมรับจริงๆว่าเจียงเฉินนั้นยอดเยี่ยมที่สุดทั้งคําพูดและหน้าตาของเขาล้วนแล้วแต่ไม่ธรรมดาดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องง่ายที่ผู้หญิงจะหลงไหล

 

เจียงเฉินขี่จักรยานออกจากชุมชน

 

ในเวลานี้เอง

เติ้ง! เปิดกิจกรรมพิเศษ! ลงชื่อเข้าใช้สําเร็จ!]

 

[รางวัล : หุ้น 100% ของ [ห้างสรรพสินค้าเฉาหยางจอยซิตี้]

 

[ระบบลงชื่อเข้าใช้สัมผัสประสบการณ์ชีวิต 3.0-3.5 (ค่าประสบการณ์

–]

 

เจียงเฉินหยุดจักรยานของเขา!

 

กิจกรรมพิเศษ!

 

เซอร์ไพรส์มาก!

 

ห้งสรรพสินค้าเฉาหยางจอยซิตี้

 

นี่มันห้างสรรพสินค้ายอดนิยมของวัยรุ่นในเมืองหลวงไม่ใช่หรอ?

 

ห้างนี้มีมูลค่าขนาดไหนกัน?!

 

อย่างน้อยก็หลักหมื่นล้าน! แต่จํานวนที่แท้จริงแม้แต่เจียงเฉินก็ไม่อาจประเมินได้!

 

เมื่อได้รับรางวัลมาแล้วเจียงเฉินก็ราวกับได้รับแรงจูงใจที่มากขึ้น!

 

เขาตัดสินใจลดเวลาพักจากหนึ่งชั่วโมงเป็นครึ่งชั่วโมงทันที!

“ตึง!คุณได้รับคําสั่งใหม่หมายเหตุคําสั่ง : ฉันต้องการคนส่งที่พูดสําเนียงกว่างซีมาส่งถ้าวาดกระต่ายน้อยได้ด้วยจะดีมาก ขอบคุณ…”

 

กว่างซี? กระต่ายน้อย?

 

ฉันไม่ไป!

 

“ปฏิเสธ!”

 

หลังจากนั้นเจียงเฉินก็ปฏิเสธคําสั่งหลายครั้งติดต่อกัน!

 

เจียงเฉินยังไม่พบกับคําสั่งที่ดูน่าพึงพอใจเขาก็เลยไปพักผ่อนนั่งดื่มกาแฟแทน

 

ในเวลานี้เอง

 

สํานักงานใหญ่ ฝ่ายปฏิบัติการ

 

พนักงานคนหนึ่งพบข้อมูลบางอย่างที่ผิดปกติเขาจึงรายงานไปที่หัวหน้าของเขาทันที “หัวหน้าครับมีพนักงานส่งคนใหม่ของเรากดยกเลิกคําสั่ง 102 รายการในเวลาแค่ 2 วัน….เรื่องแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนผมควรจะทํายังไงดีครับ?เราจะลบบัญชีของเขาไปเลยดีไหมครับ?”

 

เมื่อหัวหน้าได้ยินแบบนั้นเขาก็พูดออกมาทันที “แบบนี้แล้วจะทําอะไรได้อีก ยกเลิกบัญชีของ เขาไปเลย!”

 

พนักงาน “ได้ครับ”

 

ดําเนินการทันที!

 

บัญชีของพนักงานจัดส่งชื่อ [เจียงเฉิน] ถูกยกเลิกแล้ว!