ตอนที่ 284

Crazy Leveling System

CLS ตอนที่ 284: น้องสาว

 

เย่หว่านเอ๋อช่วยอธิบายให้อี้เทียนหยุน เจียงอี้ที่อยู่ใกล้ๆ หลังจากได้เห็นก็พยักหน้าเล็กน้อย จริงๆ ต่อให้ไม่พูด เขาก็รู้ว่าทำไมต้องมีการอธิบาย นำคนนอกเข้ามา ถ้าไม่อธิบายอะไรเลย คนในเผ่าจะต้องไม่ยอมรับอย่างแน่นอน

 

ตอนนี้อยู่ในช่วยสงคราม ถ้าไม่บอกฐานะให้ชัดแจ้ง บางทีจากที่จะยอมรับจะกลายเป็นต่อต้านไป ตอนนี้ฐานะของอี้เทียนหยุนกระจ่างชัด ทั้งยังมีศัตรูคนเดียวกันอย่างอาณาจักรใต้พิภพ ยิ่งกว่านั้นยังสังหารหลี่ห้าว นี่ก็เท่ากับเป็นสหายของพวกเขา!

 

ช่วยพวกเขาจัดการคนทรยศ ร่วมกันต่อต้านอาณาจักรใต้พิภพ ทันใดนั้นคนที่มารวมกันที่ด้านหน้าก็พลันมีท่าทางเปลี่ยนไปจากเดิม

 

“น้องชายอี้ ข้ามีเรื่องต้องไปทำ เจ้าก็อยู่ที่นี่ตามสบายเลยนะ” จากนั้นเจียงอี้ก็หันไปพูดกับเย่หว่านเอ๋อ “หว่านเอ๋อ เจ้าพาน้องชายอี้ไปเดินดูรอบๆ นะ” พูดจบเขาก็ทำการส่งสายตา ไม่รู้ว่าเป็นสัญญาณอะไร

 

เรื่องนี้อี้เทียนหยุนเข้าใจดี แน่นอนว่าต้องเป็นสัญญาณให้เย่หว่านเอ๋อจับตาดูเขาไว้ให้ดี อย่าให้เขาเดินเตร่ตามใจ ใจหลักก็คือเขาเป็นคนนอก จะปล่อยให้ไปไหนตามใจไม่ได้ เมื่อมองดูรอบๆ เขาก็เห็นแผ่นไม้ที่สร้างเป็นรั้วคอยป้องกัน ทั้งยังมีบ้านหลายหลัง กระทั่งหอคอยสูงที่ตั้งอยู่ไกลๆ คอยส่งแสงปกคลุมดินแดนแห่งนี้ไว้

 

หอคอยสูงนี้คงจะเหมือนกับแกนกลางค่ายกลอะไรสักอย่าง ที่คอยส่งพลังออกมาปกคลุมที่นี้ไว้ ทำให้ไม่มีใครพบที่นี่ ต่อให้เป็นระดับผันแปรวิญญาณ หรือวิญญาณเที่ยงแท้ก็ไม่สามารถตรวจพบที่นี่ แม้แต่ระดับที่สูงกว่าอย่างราชาวิญญาณก็ไม่สามารถตรวจสอบได้

 

และในระดับของวิญญาณนี้แยกได้เป็นสองระดับ ระดับแรกเรียกว่าวิญญาณเที่ยงแท้ ส่วนระดับหลังจะเรียกว่าราชาวิญญาณ! หลังจากเข้าสู่ระดับวิญญาณเที่ยงแท้ได้ ก็เท่ากับเป็นราชาของเหล่าวิญญาณ แต่ถ้าจะขึ้นเป็นราชาวิญญาณที่แท้จริงได้นั้น ยังจำเป็นต้องเข้าสู่ระดับราชาวิญญาณเสียก่อน

 

เพราะอย่างนั้น ระดับนี้จึงต้องแยกเป็นสองระดับ และพลังของทั้งสองระดับนี้ก็ต่างกันราวฟ้ากับเหว ซึ่งราชาวิญญาณเซวียนเทียนเป็นระดับราชาวิญญาณที่แท้จริง ดังนั้นเรื่องความแข็งแกร่งจึงไม่ต้องสงสัย

 

โลกภายนอกให้คำนิยามกับสองระดับนี้ว่าเป็นการหลอมรวมวิญญาณแห่งความว่างเปล่า เพื่อกลายเป็นราชา! หลังจากกลายเป็นราชาวิญญาณแล้ว ก็จะสามารถก้าวเข้าสู่ขั้นที่แข็งแกร่งกว่าอย่างระดับราชาเซียน

 

“หว่านเอ๋อ หอคอยนั่นมีหน้าที่อะไร?” อี้เทียนหยุนถาม

 

“หอคอยนั่นเป็นสถูปวิญญาณของพวกเรา นักบุญหญิงกับผู้อาวุโสจะอาศัยอยู่ในนั้น คอยปกป้องเผ่าภูตทั้งหมด” ดวงตาที่งดงามของเย่หว่านเอ๋อเป็นประกาย มองไปทางนั้นพร้อมกับพูดว่า “ครั้งนี้ที่ข้าไปหาหินวิญญาณหยกมาก็เพื่อที่จะเป็นพลังงานให้กับสถูปวิญญาณ ปกติแล้วก็ไม่ได้ต้องการหินวิญญาณหยกมากขนาดนี้หรอก แต่ตอนนี้สถานการณ์คับขัน จำเป็นต้องซ่อนตัว ทำให้ต้องเปิดใช้งานค่ายกลอย่างเต็มที จากปกติที่ต้องเผาผลาญพลังงานแค่นิดหน่อย กลายเป็นเผาผลาญพลังงานเพิ่มขึ้นมาก ยังไงก็ตาม ที่ข้านำกลับมาก็เป็นเพียงส่วนเล็กน้อยเท่านั้น สถูปวิญญาณยังต้องการหินวิญญาณหยกอีกมากในตอนนี้……”

 

อี้เทียนหยุนพยักหน้า นี่ไม่ผิดไปจากที่คาด จากคำพูดนี้ ค่ายกลใหญ่ทั้งหลายล้วนแต่มีค่ายกลรวมวิญญาณ เพื่อรวมรวมพลังวิญญาณมาเพื่อเปิดใช้งาน ดังนั้นจึงไม่ต้องการหินวิญญาณหยก

 

“นักบุญหญิง…..” สายตาอี้เทียนหยุนเป็นประกาย เป็นที่แน่ชัดแล้ว ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่มีอะไรต้องสงสัยอีก

 

“พี่ใหญ่อี้ ท่านดู!” ในตอนนี้เอง เย่หว่านเอ๋อก็บอกให้เขามองมาที่เธอ

 

และเมื่อเขาหันกลับมา ที่สายตาของเขาก็พบกับใบหน้าที่งดงามอย่างมาก ทั้งยังมีอักษรรูนหลายตัวอยู่บนแก้มงามจางๆ แต่ก็ไม่ได้ทำลายความงดงามที่เธอมี แต่กลับเข้ากันอย่างประหลาด

 

ใจความสำคัญคือหน้าตาของเธอต่างหากที่ทำให้เขาตกใจ เพราะใบหน้าของเธอนั้นคล้ายกับเย่ชิงเสวียนอย่างมาก! เขารู้ว่าก่อนหน้านี้ไม่ใช่ใบหน้าที่แท้จริงของเธอ นี่ต่างหากถึงจะเป็นใบหน้าที่แท้จริงของเย่หว่านเอ๋อ เผ่าภูตล้วนแต่มีหน้าตางดงาม ก่อนหน้านี้ที่เจอมาก็ล้วนแต่เป็นหนุ่มหล่อสาวสวย แต่ละคนต่างก็มีอักษรรูนบนใบหน้า ดังนั้น คิดจะปลอมเป็นเผ่าภูตจึงเป็นไปไม่ได้ เนื่องเพราะว่าแต่ละคนต่างก็มีอักษรรูนบนใบหน้า ถือเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่ง

 

ใบหน้าของเย่หว่านเอ๋อคล้ายกับเย่ชิงเสวียนมาก ทั้งยังแซ่เหมือนกันอีก พวกเธอจะต้องเป็นพี่น้องกันอย่างไม่ต้องสงสัย

 

จากใบหน้าที่แท้จริงของเธอ ดูแล้วอายุราว 16-17 ปี เทียบกับเขาแล้วอ่อนกว่าไม่เท่าไหร่ แต่ด้วยพลังระดับนี้บวกกับพรสวรรค์ ทำให้เผ่าภูตเป็นเผ่าที่ทรงพลัง และเพราะด้วยพรสวรรค์ที่น่าตื่นตะลึงนี้ ทำให้ประชากรของเผ่าภูตมีน้อย สามารถให้กำเนิดเด็กได้คนหนึ่งถือว่าดีแล้ว กำเนิดเด็กได้สองคนถือว่ายอดเยี่ยมอย่างมาก มีกระทั่งบางครอบครัวที่ไม่สามารถให้กำเนิดเด็กได้ด้วยซ้ำ

 

“ฮี่ฮี่ ตะลึงล่ะซี่ นี่คือใบหน้าที่แท้จริงของข้า!” เย่หว่านเอ๋อหรี่ตาพูดด้วยท่าทางอารมณ์ดี “ตกใจไหม?”

 

“ก็ต้องตกใจอยู่แล้ว ใบหน้าที่แท้จริงของเจ้างดงามจริงๆ” อี้เทียนหยุนตอบกลับพร้อมรอยยิ้ม

 

“พี่สาวข้างดงามกว่าข้าอีก!” ปากของเย่หว่านเอ๋อพูดชมออกมาด้วยท่าทางมีความสุขยิ่งกว่า แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ไปกันเถอะ ข้าจะนำท่านไปเดินดูรอบๆ แม้ว่าจะไม่สามารถไปดูสถูปวิญญาณได้ แต่รอบๆ นี้ไม่มีปัญหา”

 

เย่หว่างเอ๋อนำเขาเดินไปข้างหน้า แต่เพิ่งจะเข้ามา เผ่าภูตหลายคนก็พลันเข้ามาล้อมเอาไว้ พร้อมกับมองสำรวจเขาอย่างสนใจ

 

“หว่านเอ๋อ จะไม่แนะนำเขาให้พวกเรารู้จักหน่อยเหรอ? ได้ยินมาว่าเขาช่วยเจ้าไว้ แถมยังสังหารคนทรยศอย่างหลี่ห้าวด้วย!”

 

“ใช่ ใช่ ไม่คิดจะแนะนำสหายท่านนี้ให้พวกเรารู้จักหรือไง?”

 

คนที่เข้ามาล้อมล้วนแต่มีอายุราวๆ 20 ปี หรือต่ำกว่า

 

“เจ้าเรียกเขาว่าพี่ใหญ่อี้ก็พอ เขาร้ายกาจมาก เพียงแค่ 2-3 หมัดก็กำจัดหลี่ห้าวนั่นได้แล้ว ถ้าไม่มีพี่ใหญ่อี้ ข้าก็คงไม่สามารถกลับมาได้!” เย่หว่านเอ๋อเหวี่ยงหมัดออกท่าทางอย่างสนุกสนาน

 

“แค่ 2-3 หมัดก็จัดการหลี่ห้าวนั่นได้แล้ว ร้ายกาจขนาดนั่นเชียว?” พวกเขาพากันร้องออกมาอย่างตกใจ เผยสายตาที่มีร่องรอยของความสงสัยออกมา พวกเขาไม่ได้เห็นกับตาตัวเอง ดังนั้นจึงไม่เชื่อสนิทใจนัก

 

“ใช่แล้ว หว่านเอ๋อออกไปข้างนี้ บอกมาหน่อยว่าข้างนอกเป็นยังไงบ้าง?” พวกเขารีบเปลี่ยนหัวข้อ เห็นได้ชัดว่าไม่ได้สนใจหัวข้อนี้

 

“ข้างนอกน่ะนะ…..”

 

พวกเขาพากันเริ่มคุยกันวุ่นวาย อี้เทียนหยุนยืนตากแดดดูพวกเขาคุยกัน ถึงยังไงที่หว่านเอ๋อพูดก็ถือเป็นคำชมเขา

 

“เอาล่ะ พอแล้ว ข้าต้องพาพี่ใหญ่อี้ไปเดินดูรอบๆ อีก” เย่หว่านเอ๋อโบกมือพูดขึ้น “คราวหน้าหลังจากพวกเจ้าเป็นผู้ใหญ่เหมือนข้าก็สามารถออกไปได้เช่นกัน!”

 

“หว่านเอ๋อขี้โม้ ไม่ใช่ว่าก่อนหน้านี้ก็ออกไปกับผู้อาวุโส 1-2 ครั้งหรือไง แบบนั้นเป็นผู้ใหญ่ตรงไหน…..” พวกเขาพากันกลอกตามองเธอ จากนั้นก็แยกย้ายกันในพริบตา

 

เย่หว่านเอ๋อร้องฮึ่มออกมา จากนั้นก็พาอี้เทียนหยุนเดินตรงไปที่กระท่อมด้านหน้า

 

“ข้าอาศัยอยู่ด้านนั้น พี่ใหญ่อี้ ข้าจะพาท่านไปดู” เย่หว่านเอ๋อนำเขาไปยังกระท่อมของตน ข้างในนั้นกว้างมาก ดูแล้วเหมือนจะมีสองห้อง

 

อี้เทียนหยุนเหลือบตามอง แล้วก็พบว่าห้องนั้นเห็นได้ชัดว่าไม่มีใครอยู่มานานแล้ว แต่ก็ถูกทำความสะอาดอย่างดี

 

“นั่นห้องเจ้าเหรอ?” อี้เทียนหยุนถาม

 

“ไม่ นั่นห้องพี่สาวข้า….. แต่ว่าเธอไม่ได้กลับมานานแล้ว” ตอนนี้ สีหน้าของเย่หว่านเอ๋อเหมือนกับผิดหวัง

 

“ไม่เป็นไรนะ เธอจะต้องกลับมาเร็วๆ นี้แน่” อี้เทียนหยุนพูดปลอบเธอ

 

“ไม่ เธอยุ่งมาก ตั้งแต่กลับมา เธอก็ยุ่งตลอด น้อยมากที่จะกลับมา” จากนั้นเย่หว่านเอ๋อก็พูดอย่างตื่นเต้น “ใช่แล้ว แต่พี่สาวข้าเป็นนักบุญหญิง แถมยังร้ายกาจมากด้วย! ตอนนี้ที่เผ่าภูตสามารถอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุขได้ ส่วนใหญ่ล้วนแต่เป็นความดีความชอบของพี่สาวข้า!”

 

คำพูดของเธอจากที่ไม่พอใจกลายเป็นชื่นชมอย่างมาก ทั้งใบหน้ายังขึ้นสีแดงงดงาม

 

อี้เทียนหยุนในตอนนี้ตาเป็นประกาย เป็นอย่างที่คิดจริงๆ เย่หว่านเอ๋อคนนี้ก็คือน้องสาวของเย่ชิงเสวียนจริงๆ!