ตอนที่ 245 : หัวใจดวงน้อยนี้จะทนไม่ไหวแล้ว!!

เป็นมหาเศรษฐีระดับพระเจ้าด้วยระบบลงชื่อ

ตอนที่ 245 : หัวใจดวงน้อยนี้จะทนไม่ไหวแล้ว!!

 

ไม่กี่วันต่อมา

 

เจียงเฉินที่กําลังส่งอาหารอยู่ก็เตรียมตัวที่จะไปเจอซูเสี่ยวเสี่ยว

 

“ตอนนี้เธออยู่ที่ไหนหรอ?”

 

“ฉันกําลังอยู่กับเพื่อนสนิทของฉันน่ะ”

 

“โอเค เดี๋ยวฉันส่งอาหารให้เสร็จก่อนเดียวฉันไปหาทันที่

 

“แค่นี้นะสามี มั่วะ”

 

ในตอนนี้ซูเสี่ยวเสี่ยวนั้นกําลังมาพบกับเหล่าเพื่อนสาวของเธอฃ

 

เพื่อนสาวของเธอกลุ่มนี้มีทั้งหมดสี่คนทั้งสี่นั้นเพิ่งจะกลับมาจากต่างประเทศ พวกเธอก็เลยชวนกันออกมาดื่มชายามบ่ายกัน

 

หลิวอี้หนานเพื่อนสาวคนนี้เพิ่งกลับมาประเทศจีน พวกเธอนั้นไม่ได้เจอกันมานานกว่า 2 ปี แต่นิสัยของเธอกลับไม่เรียบง่ายดั่งแต่ก่อน เธอนั้นเรียนรู้ที่จะทําตัวเสแสร้งมาจากต่างประเทศ

 

แต่การโอ้อวดเสแสร้งนั้นเป็นวิชาแขนงหนึ่ง ดังนั้นหากจะลงมือก็ต้องลงมืออย่างประณีตและยังต้องทําให้ตัวเองดูสูงส่ง มีรสนิยมสูง ซึ่งมันช่างยากจริงๆ

 

แต่โชคดีที่หลิวอี้หนานคนนี้ฉลาด ด้วยสายตาของเธอ ไม่นานเธอก็สามารถคิดแผนขึ้นมาได้

 

แต่ทันใดนั้น

 

เธอก็สังเกตุเห็นแหวนเพรชบนนิ้วของซูเสี่ยวเสี่ยว

 

ตกตะลึง!

 

เพราะนี่เป็นแหวนเพรชนี้สลักตราของเฮย์รี่วินสตัน!

 

แถมตัวเพรชก็ยังใหญ่มากอย่างน้อยๆก็น่าจะ 7 กะรัต

 

เพราะถึงยังไงหลิวอี้หนานที่กลับมาประเทศจีนแล้ว เธอนั้นก็ยังคงต้องรู้จักแบรนด์เครื่องประดับชั้นนําระดับสากลอย่างเฮย์รี่วินสตันเป็นอย่างดี

 

เธอนั้นถึงกับต้องตกตะลึง!

 

สภาพครอบครัวของซูเสี่ยวเสี่ยวดีขนาดนั้นเลยหรอ?

 

แต่ถึงยังไงหลิวอี้หนานก็ไม่เชื่อว่าซูเสี่ยวเสี่ยวจะสามารถซื้อเครื่องประดับของเฮย์รี่วินสตันได้!

 

เพราะแบรนด์นี้มันมีรดับไฮเอนด์เกินไป!

 

และเพรชนั่นอย่างน้อยก็ 7 กะรัต

 

ราคาของมันสูงเกินไป

 

และสําหรับแหวนเพรชระดับนี้ราคาของมันเริ่มต้นอย่างน้อยที่หนึ่งล้านหรืออาจมากถึงสิบล้านเลยก็ได้!

 

แม้แต่สามีของเธอที่เป็นคนมีอํานาจและประสบความสําเร็จในชีวิตก็ยังต้องลังเลที่จะซื้อแหวนเพรชจากแบรนด์หรูชั้นยอดให้กับเธอ

 

และในระหว่างที่พวกเธอพูดคุยกันซูเสี่ยวเสี่ยวก็เล่าเรื่องที่พ่อของเธอนั้นถูกไล่ออกจากบริษัทกฎหมายโดยไม่ได้ตั้งใจ

 

แต่ซูเสี่ยวเสี่ยวก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องที่เจียงเฉินจัดการให้พ่อของเธอนั้นได้เข้าไปทํางานที่บริษัทกฎหมายเทียนกวน และยังได้ทําแหน่งทนายความระดับทองแถมยังได้เงินเดือนสูงกว่าที่เก่าถึงสองเท่า!

 

หลิวอี้หนานที่ไม่รู้ก็หัวเราะเยาะอยู่ในใจ

 

ถ้าเธอนั้นรู้ว่าพ่อของซูเสี่ยวเสี่ยวนั้นเป็นทนายความใน บริษัทกฎหมายที่มีชื่อเสียง เขาก็อาจจะพอมีเงินที่จะสามารถซื้อของฟุ่มเฟือยแบบนี้ให้กับลูกสาวตัวเองได้

 

แต่ถ้าไม่ได้เป็นทนายแล้วล่ะ มันจะเป็นไปได้ได้ยังไง?

 

เธอนั้นแอบวางแผนถามออกไปอย่างแนบเนียน “เสี่ยวเสี่ยว แหวนเพรชแบรนด์เฮย์รี่วินสตันของเธอคือ?”

 

เพื่อนสาวอีกคนที่ได้ยินก็ร้องออกมา

 

ก่อนจะดึงมือของซูเสี่ยวเสี่ยวไปดู

 

“เฮย์รี่วินสตัน?”

 

“แบรนด์ชั้นนําระดับโลก? แหวนเพรช?”

 

ซูเสี่ยวเสี่ยวรู้สึกเขินเธอดึงมือของตัวเองกลับมา

 

บนมือขวาของเธอนั้น เธอสวมแหวนเพรชเฮย์รี่วินสตัน หนัก 7.2 กะรัตเอาไว้อยู่ มันเป็นแหวนที่เจียงเฉินมอบให้เธอ

 

ปรากฏว่าหลังจากที่เจียงเฉินซื้อสร้อยคอเพรชให้กับเอเวล เขานั้นก็รู้สึกไม่สบายใจและรู้สึกกับแฟนคนอื่นๆของเขา ดังนั้นเขาก็เลยตัดสินใจซื้อเครื่องประดับของเฮย์รี่วินสตันให้กับแฟนคนอื่นๆของเขาด้วย

 

เพื่อการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมทุกคนต้องได้ซื้อเหมือนกัน!

 

ดังนั้นเขาจึงซื้อเครื่องประดับจากเฮย์รี่วินสตันส่งให้แฟนสาวของเขาทุกคน!

 

เพราะยังไงซะสาวสวยเหล่านี้ก็เป็นแฟนของเขา

 

ในเมื่อเขาเป็นแฟนหนุ่มของพวกเธอดังนั้นเขาก็ต้องปฏิบัติต่อพวกเธออย่างเท่าเทียมกัน!

 

ดังนั้นทุกคนจึงได้เครื่องประดับที่มีราคาประมาณ 10 ล้านขึ้นไปทุกคน!

 

ยังไงซะสําหรับเจียงเฉินเงินมันก็แค่ตัวเลข!

 

และแหวนเฮย์รี่วินสตันที่ซูเสี่ยวเสี่ยวกําลังสวมอยู่นั้นเธอนั้นก็เพิ่งได้รับมาจากเจียงเฉินเมื่อวานนี้

 

ซูเสี่ยวเสี่ยวเขินอายเล็กน้อยเพราะเธอนั้นยังไม่เคยบอกเรื่องของเจียงเฉินกับเพื่อนของเธอ

 

“อ่าว”

 

ก่อนที่ซูเสี่ยวเสี่ยวจะได้พูดอะไรหลิวอี้หนานก็จับมือของเธอมา และถอดแหวนเฮย์รี่วินสตันออกจากนิ้วของเธอ

 

ก่อนจะเอาไปดูเป็นเวลานาน

 

หลังจากนั้นเธอก็เอาไปค้นหาในอินเทอร์เน็ตทันทีเพื่อหาราคาของมัน

12 ล้าน!

 

หัวใจของหลิวอี้หนานเต้นแรง ราคานี้มันทําให้เธอสิ้นหวัง

 

เธอถามซูเสี่ยวเสี่ยวอย่างระมัดระวัง “แฟนของเธอให้เธอมาหรอ?”

 

ซูเสี่ยวเสี่ยวพยักหน้าอย่างเขินอาย

 

“เขาทําอาชีพอะไรอยู่หรอ?”

 

หลิวอี้หนานถามอีกครั้ง

 

“ส่งอาหารน่ะ”

 

ซูเสี่ยวเสี่ยวพูดตามความจริง

 

หลิวอี้หน้ายิ้มด้วยความโล่งใจ

 

ที่ทําให้ยายแก่คนนี้กังวลตั้งนาน

 

ที่แท้ก็แค่คนส่งอาหาร!

 

ดังนั้นหลิวอี้หนานจึงแกล้งตะโกนออกมาด้วยความตกใจ “เอ๊ะ! แหวนนี้ดีมากเลย มันปลอมได้เหมือนของจริงมาก”

 

ซูเสี่ยวเสี่ยว “???”

 

เพื่อน “???”

 

“ฉันรู้มาว่าวงนี้มันแพงมาก!” หลิวอี้หนานยื่นโทรศัพท์ให้ ทุกคนดู “ดูสิ ราคาของมันตั้งเท่าไหร่!”

 

ซูเสี่ยวเสี่ยวที่ไม่เคยรู้ราคาพอเธอได้เห็ราคาของมันเธอก็ต้องสูดอากาศเย็นเข้าปอดของเธอทันที

 

เพื่อนสาวที่อยู่ข้างๆก็ยิ่งตกตะลึง

 

“พระเจ้า! 1.2 ล้าน!”

 

“ใครเป็นครูคณิตของเธอเนี่ย?! หรือว่าเธอติด 0 คณิตมา? นี่มัน 12 ล้าน!”

 

“โอ้พระเจ้า”

 

ตอนนี้ “เพื่อนๆ ทุกคนล้วนแล้วแต่คิดว่าแหวนวงนี้เป็นของปลอม!

 

เพราะพวกเธอนั้นไม่คิดว่าซูเสี่ยวเสี่ยวจะใส่แหวนวงละ 10 ล้านได้

 

หลิวอี้หนานบรรลุเป้าหมายของเธอ

 

ฉันขอยืนยันทุกคนในที่นี้ไม่มีใครดีกว่าฉัน!

 

และสุดท้ายเธอก็ใช้โอกาศนี้ในการโอ้อวด!

 

ห้ามพลาดเด็ดขาด!

 

เตรียมตัวให้พร้อมแล้วเริ่มกันเลย!

 

เธอโชว์นิ้วของตัวเองออกมา โชว์แหวนเพรช 3 กะรัตที่กําลังส่องแสงบนนิ้วของเธอ

 

“ถ้าฉันรู้ ฉันคงไม่ปล่อยให้สามีของฉันซื้อแหวนคาร์เทียร์ให้ฉันหรอก!”

 

หลิวอี้หนานถอนหายใจ “นี่มันเป็นการสุญเสียครั้งใหญ่เลยนะ สามีงี่เง่าของฉัน เพื่อที่จะให้ของขวัญกับฉันเขาถึงกับไปร้านเรือธงของคาร์เทียร์ในนิวยอร์กเพื่อสั่งทําแหวนเพรชแบบสั่งทําพิเศษให้กับฉัน!”

 

“ราคาเกือบๆ 1 ล้านหยวน!”

 

ใบหน้าของหลิวอี้หนานเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ เธอยกมือขึ้นและโชว์แหวนเพรชคาร์เทียร์ที่กําลังส่องประกายให้ทุกคนดู

 

ว้าว!”

 

เพื่อนอีกสองคนตกตะลึง

 

“ร้านเรือธงของคาร์เทียร์ แถมยังเป็นการสั่งทําพิเศษด้วย!”

 

“สวยมาก! เจ๋งมาก! รวยมาก!”

 

หลิวอี้หนานพูดออกมาด้วยความหงุดหงิด “ถ้าฉันรู้ว่าเธอใส่ของปลอมมาฉันก็จะหาของปลอมมาใส่ด้วย! ตามร้านแผงลอยมันราคาอันละไม่กี่สิบหยวนเอง ทั้งประหยัดเงินทั้งไม่ต้องห่วงมัน! พวกเธอไม่รู้หรอกว่าการใส่แหวนเพรชของคาร์เทียร์ แล้วมันทําให้ฉันลําบากแค่ไหน! ฉันไม่สามารถขึ้นรถไฟใต้ดินหรือรถประจําทางได้ และยิ่งสถานที่แออัดนะฉันไม่กล้าเข้าไปเลย! ถ้าเกิดเจอพวกโจรขึ้นมาฉันจะต้องลําบากแน่ๆ!”

 

เธอพูดเสแสร้งออกมาไม่รู้จบ “เธอรู้ไหมว่าการใส่แหวนเพรชราคาเป็นล้านมันเจ็บปวดตรงไหน ตรงที่มันทํางานไม่ได้ยังไงล่ะ! ถ้าเธอกําลังทํางานบ้านอยู่แล้วแหวนมันหลุดหายไปบนพื้นหรือลงท่อระบายน้ําก็คงหามันกลับมาได้ยากถ้าล้าง จานแล้วใช้นน้ํายาล้างจานมันก็จะกัดกร่อนแหวน ดังนั้นฉันจึง ถูกสามีห้ามทํางานบ้านเด็ดขาด งานบ้านทั้งหมดก็เลยถูกส่งไป ให้คนรับใช้แทน”

 

เพื่อนสาวที่เหลือพากันอิจฉา

 

“อย่างที่เธอพูดมันก็จริง การสวมแหวนเพรชมูลค่าเป็นล้าน มันไม่สดวกจริงๆ”

 

“ฉันล่ะเจ็บปวดแทนจริงๆ”

 

“ไม่ขนาดนั้นหรอก” ใบหน้าของหลิวหลิวอี้หนานเบ่ งยานไปด้วยรอยยิ้ม “โอ้ พวกเธไม่รู้หรอก สามีของฉันจบการศึกษามาจากทหาวิทยาลัยไอวีลีกในประเทศสหรัฐอเมริ กา! ตอนนี้เขากําลังบริหารกิจการของครอบครัวและอีกไม่นานเขาก็จะได้รับช่วงต่อแล้ว! แต่น่าเสียดายที่มันไม่ใช่บริษัทใหญ่อะไร แต่ดูเหมือนว่าพ่อปู่ของฉันเขาจะนํามันเข้าไปจดทะเบียนหลักทรัพย์เพื่อขายหุ้นซึ่งเมื่อถึงตอนนั้นมันก็คงแตะร้อย ล้านได้ไม่ยาก จริงไหมล่ะ?”

 

เหล่าเพื่อนสาวพากันอิจฉาอีกครั้ง

 

ซูเสี่ยวเสี่ยวดื่มชาอย่างเงียบๆและยิ้มออกมา “ยินดีด้วยนะหลิวอี้หนาน เธอใช้ชีวิตอย่างมีความสุขที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เธอคงจะมีความสุขมากแน่ๆเลย”

 

แต่หลิวอี้หนานกลับไม่พอใจกับปฏิกริยาของซูเสี่ยวเสี่ยว

 

เพราะการแสดงความยินดีของซูเสี่ยวเสี่ยวใช้น้ําเสียงไม่ดี

พอ!

 

มันเหมือนกับคนๆหนึ่งที่เป็นราชินีผู้ยิ่งใหญ่แต่คนข้างๆกลับแค่ยิ้มและแสดงความยินดีกับชีวิตของเธอแค่นั้น แล้วเธอจะทําทั้งหมดไปเพื่ออะไร?!

 

ดูเหมือนจะยังโอ้อวดไม่พอ!

 

งั้นก็ทําต่อไป!

 

“ยังไงก็ตาม ซูเสี่ยวเสี่ยว แฟนของเธอทํางานอะไรนะ อ่อ… ส่งอาหาร! และเขามีธุริกจอะไรไหม?”

 

หลิวอี้หนานพูดออกมาด้วยความหยิ่งยโส

 

“อ้อ ฉันได้ยินมาว่าเขามีกิจการเล็กๆอยู่นะ”

 

ซูเสี่ยวเสี่ยวเงยหน้าและพยายามนึก

 

เจียงเฉินเคยบอกเธอตอนที่เขาพาเธอไปทานอาหารที่ [ซินหลงจี เพื่อทานอาหารเย็น

 

“โอ้ไม่เลว!”

 

หลิวอี้หนานแกล้งชมเชยออกมา “เสี่ยวเสี่ยว ฉันต้องยอมรับเลยนะแม้ว่าแฟนของเธอจะเป็นแค่คนส่งอาหาร แต่เขากลับพยายามมากเลย เขาคงจะรู้ว่างานส่งอาหารไม่ได้ดีอะไรก็เลยหันมาเปิดร้านเล็กๆไปด้วยมันเป็นร้านอะไรล่ะ? ร้านขนมหรือข้าวไก่ตุ้นล่ะ ฮิฮิฮิง”

 

ขณะที่เธอพูดเธอก็หัวเราะออกมา

 

เพื่อสาวที่เหลือก็พากันหัวเราะออกมาเช่นกัน

 

ยังร้านแบบนี้มันก็ยังมีระดับต่ําอยู่ดี!

 

“ถ้าอย่างนั้น เธอก็คงได้เลื่อนเป็นเถ้าแก่เนี้ยแล้วไม่ใช่หรอ?”

ซูเสี่ยวเสี่ยวยิ้มอย่างเขินอาย

 

เธอไม่ค่อยเก่งเรื่องการแสงความแข็งแกร่งเพราะสิ่งที่เธอสนก็คือ ตราบใดที่เจียงเฉินรักเธอนั่นก็เพียงพอแล้ว

 

หลิวอี้หนานพูดต่อ “ใช่แล้ว! สามีของฉันเขาบอกว่าเขาจะจัดงานเลี้ยงอาหารค่ํากับเพื่อนเลยฝากฉันจองร้านอาหารระดับไฮเอนด์ให้เขา!”

 

ดูเหมือนเธอเพิ่งจะนึกเรื่องนี้ได้เธอรีบหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาทันที “ดูสิ ฉันมัวแต่คุยกับพวกเธอจนลืมไปเลย! อา นี่ก็ตั้ง 4 โมงแล้วเวลาทานอาหารเย็นก็คือ 6 โมงเหลืออีกไม่กี่ชั่วโมงเอง ถ้าของร้านไม่ดีไม่ได้แย่แน่ๆ ”

 

อันที่จริงเธอก็แค่จงใจแกล้งโอ้อวดออกมาเพื่อแสดงพลังของตัวเองและทําเป็นว่าเธอนั้นยุ่งมากก็เท่านั้น

 

เพื่อนบางคนแนะนําออกมา

 

“ใช่แล้ว ตอนนี้ก็สายมากแล้วถ้าสั่งตอนนี้ก็คงไม่ทันแน่”

 

ไม่รู้สิ

 

เพื่อนสาวคนหนึ่งชี้ไปที่ซูเสี่ยวเสี่ยว “ทําไมเธอไม่สั่งอาหาร จากร้านของซูเสี่ยวเสี่ยวไปล่ะ เธอน่าจะจัดให้ได้นิ”

 

ซูเสี่ยวเสี่ยวพยักหน้าเงียบๆเพื่อแสดงให้เห็นว่าเธอช่วยได้

 

“ว่ายังไงนะ?!”

 

หลิวอี้หนานดูเหมือนจะไม่พอใจ “เอของสามีฉันไม่มีคนไห นที่ไม่ใช่เจ้าคนนายคน! ทรัพย์สินของพวกเขาอย่างน้อยๆก็ หลายสิบล้าน! ฉันจะไปซื้ออาหารจากร้านของซูเสี่ยวเสี่ยวให้ พวกเขาได้ยังไง จะให้พวกเขากินไปต้มงั้นหรอ? ตลกไปหน่อย ไหม?”

 

เธอถลึงตาใส่เพื่อนสาวที่เสนอออกมา

 

“แล้วแต่เธอก็แล้วกัน”

 

หลิวอี้หลานหายใจเข้าลึกๆก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ําเสียงที่ ราวกับกําลังจะร้องไห้ “สามีของฉันเพิ่งจะส่งวีแชทมา เขาบอกว่าเขาต้องการให้ฉันสั่งอาหารจากร้านซินหลงจีที่เป็นร้านอาหารระดับมิชลินสามดาว! แต่ฉันจะเข้าไปสั่งอาหารได้ยังไงกัน?”

 

ซูเสี่ยวเสี่ยวที่ได้ยินแบบนั้นก็ไม่ได้พูดอะไร

 

ในเมื่อหลิวอี้หลานชอบแสดงก็ปล่อยให้เธอแสดงไปก็แล้วกัน

 

ฉันไม่อยากคุยด้วยแล้ว!

 

“ยังมีอีกนะ ” หลิวอี้หลานพูดออกมา “สามีของฉันได้ทําการจองบาร์ให้เพื่อนของเขาที่โรงแรม [ผางกู่] เอาไว้เพื่อไปกินดื่มกับเพื่อนของเขา”

 

เหล่าเพื่อนสาวอุทานกันออกมา

 

“โรงแรมผางคู่! โรงแรมระดับเจ็ดดาวนั่นน่ะหรอ?!”

 

“บาร์ที่โรงแรมนี้แพงมากเลยนะ ถ้ามีเงินไม่ถึงหมื่นก็เข้าไปไม่ได้!”

“ความคิดของคนแบบนี้เอาความคิดของคนธรรมดามาตัดสินไม่ได้จริงๆ”

 

ซูเสี่ยวเสี่ยวไม่ได้พูดอะไร

 

เธอเพียงนั่งเงียบๆและดูการโอ้อวด

 

ในเวลานี้เจียงเฉินเพิ่งจะส่งอาหารเสร็จเขาไปเปลี่ยนเสื้อผ้า และไปหาซูเสี่ยวเสี่ยวเพื่อทานอาหารเย็นกัน

 

ผ่านไปครึ่งทางเจียงเฉินก็เห็นร้านเครื่องประดับคาร์เทียร์อยู่ข้างๆเขา

 

ตรงนี้เป็นโรงแรมระดับ 5 ดาวและร้านคาร์เทียร์ก็มาตั้งอยู่ข้างๆและโชว์เครื่องประดับที่ตระการตามากมาย

 

เจียงเฉินเลยตั้งใจว่าจะหาซื้อของขวัญไปให้ซูเสี่ยวเสี่ยวด้วยเลย

 

เพราะเขานั้นคิดว่าเครื่องประดับของคาร์เทียร์นั้นดูดีไม่น้อยเลย

 

แต่ว่าพวกมันเป็นของธรรมดาดังนั้นราคาจึงค่อนข้างที่จะถูกเกินไปหน่อยสําหรับเจียงเฉิน–

 

เจียงเฉินเดินดูก่อนจะสั่งพนักงาน “นี่ นี่ แล้วก็นี่ ห่อให้ผมเลย”

 

เซลส์สาวสวยของคาร์เทียร์ “ว้าว! เขาหล่อมากเลย! ราคาแต่ละชิ้นมากกว่าหนึ่งล้านทั้งนั้น”

 

แม้ว่าเสียงจะเบามากแต่คนทั้งล็อบบี้ก็ได้ยินพวกเขาจึงถูกดึงดูดความสนใจทันที

 

ซึ่งรวมถึงโต๊ะของซูเสี่ยวเสี่ยวด้วย!

 

“อะไรกัน?!”

 

หลิวอี้หนานตกตะลึง!

 

ผู้ชายรูปหล่อคนนี้ เขาซื้อเครื่อประดับคาร์เทียร์ชิ้นละล้านได้โดยหน้าไม่เปลี่ยนเลยงั้นหรอ?

 

เจียงเฉินยิ้มและรูดบัตรก่อนตะรับเครื่องประดับและเดินออกมา

 

ตรงไปที่โต๊ะที่ซูเสี่ยวเสี่ยวนั่งอยู่

 

เมื่อหลิวอี้หนานและเพื่อนสาวอีกสองคนเห็นแบบนั้นหัวใจของพวกเธอก็เต้นเร็วขึ้น!

 

หัวใจของฉันถูกขโมยแล้ว-

 

หล่อมาก!

 

หล่อมาก!

 

หัวใจดวงน้อยนี้จะทนไม่ไหวแล้ว ถ้าเกิดมันวายขึ้นมาจะทํายังไง?

 

ฉันควรทํายังไง?

 

หลิวอี้หนานตัดสินใจและเริ่มคุยโม้กับเพื่อนของเธอ “เขาจะต้องเป็นเพื่อนของสามีฉันแน่ๆ เขาเห็นฉันอยู่ตรงนี้ก็เลยจะมาทักทายละมั้ง ”

 

หลิวอี้หนานยิ้มอย่างมั่นใจก่อนจะลุกขึ้นยืนและทักทายเจียงเฉิน

 

“สวัสดีค่ะ คุณคงเป็นเพื่อนของแฟนฉัน อาหยาง…”

 

เจียงเฉิน “???”

 

ผู้หญิงคนนี้ใครกัน?

 

อาหยางใครกัน?

 

ฉันรู้จักด้วยหรอ?

 

“นายมาแล้ว!” ซูเสี่ยวเสี่ยวเดินไปหาเจียงเฉินด้วยความประหลาดใจ

 

“เอาไปสิ ฉันซื้อมาให้” เจียงเฉินยิ้มอย่างมีเลศนัยก่อนจะส่งถุงเครื่องประดับสองสามถุงให้เธอ

 

“ทําไมนายซื้อเครื่องประดับให้ฉันอีกแล้วล่ะ?”

 

ซูเสี่ยวเสี่ยวหน้าแดงเธอก้มหน้าพูดออกมา “ก่อนหน้านี้นายเพิ่งจะซื้อเครื่องประดับจากแฮร์รี่วินสตันมูลค่าหลักสิบล้านมาให้ฉันไม่ใช่หรอ?”

 

เจียงเฉินยิ้ม “แหวนเพรชของแฮร์รี่วินสตันเป็นของขวัญอ ย่างเป็นทางการน่ะ ส่วนของขวัญราคาหนึ่งล้านหยวนก็แค่ของขวัญเล็กๆน้อยๆสําหรับวันนี้”

 

หลิวอี้หนาน “ ”

 

เพื่อนอีกสองคน “…”

 

แฮร์รี่วินสตันมูลค่ากว่าสิบล้านก็แค่ของขวัญอย่างเป็นทางการ?

 

ส่วนคาร์เทียร์ชิ้นละล้านก็แค่ของขวัญเล็กๆน้อย? ไม่น่าตลกไปหน่อยหรอ?

 

พี่สาวน้องสาวนายเถอะ!

 

หลิวอี้หนานตกตะลึง!

 

[แฮร์รี่วินสตัน) ที่ซูเสี่ยวเสี่ยวใส่อยู่จริงๆแล้ว–

 

เป็นของแท้?!

 

นั่นก็หมายความว่ามันมีมูลค่าหลายสิบล้านจริงๆไม่ใช่แค่ของข้างทางอันละไม่กี่สิบกี่ร้อยหยวน!

 

เธอยกมือขึ้นมาและมองดูแหวนคาร์เทียร์มูลค่าหนึ่งล้านบนมือของเธอ เธอนั้นรู้สึกราวกับว่า

 

การโอ้อวดของเธอทําให้เธอโดนตบหน้า!

 

หากเป็นคนอื่นเธอจะยิ้มออกมาและเยาะเย้ยและโอ้อวดใส่แน่นอน

 

แต่

 

เจียงเฉินที่เพิ่งจะรู้บัตรซื้อเครื่องประดับไปเป็นล้านแบบง่ายๆ ราวกับว่าเขาแวะมาหาแฟนแล้วไปแวะซื้อดอกไม้

 

ซึ่งมันจะต้องเป็นของจริงอย่างแน่นอน

 

เพราะว่าการที่เขาสามารถซื้อเครื่ประดับมูลค่าหนึ่งล้านได้ แล้วเห็นมันเป็นเพียงของขวัญเล็กๆน้อยๆ ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะซื้อแหวนมูลค่ากว่าสิบล้านให้แฟนสาวของตัวเอง

 

ยิ่งไปกว่านั้นนาฬิกาที่อยู่บนข้อมือของเจียงเฉินก็ยังเป็นนาฬิกาวาเชอรอง กงสตองแตงราคาเรือนละหลายสิบล้าน!

 

“อื้ม! ขอบคุณนะสามี”

 

ซูเสี่ยวเสี่ยวเขินอายและยิ้มอย่างมีความสุข

 

เจียงเฉินลูบหัวของซูเสี่ยวเสี่ยวก่อนจะเดินตรงไปที่โต๊ะ

 

เพื่อนของซูเสี่ยวเสี่ยวพากันหยุดหายใจ

 

หล่อมาก!

 

ฉันจะทํายังไงดีเจอคนหล่อแล้วหายใจไม่ออกเลย?

 

เจียงเฉินยิ้มก่อนจะพูดกับหลิวอี้หนานว่า “ขอโทษทีนะครับ เมื่อกี้ผมได้ยินว่าสามีของคุณต้องการไปทานอาหารที่ร้านซินหลงจี้ใช่ไหมครับ จะไปกี่คนหรอครับ?”

 

หลิวอี้หนานพูดออกมา “ประมาณ 10 คนค่ะ…”

 

อันที่จริงสามีของเธอนั้นขอให้เธอจองแค่ร้านอาหารที่มีระดับสูงนิดหน่อยเท่านั้น

 

ส่วนเรื่องร้านซินหลงจีเป็นเธอที่โม้ออกมาเอง

 

เจียงเฉินยิ้มออกมาก่อนจะหยิบศัพท์มือถือออกมาแล้วกดโทรออก

 

“จ้าวหยวน มีผู้หญิงคนหนึ่งชื่อหลิวอี้หนานต้องการจองโต๊ะ คืนนี้จัดจองโต๊ะสําหรับ 10 คนด้วย นายจัดการได้ใช่ไหม?”

 

“ได้ครับเถ้าแก่ ไม่มีปัญหาครับ”

 

ผู้จัดการร้านจ้าวหยวนพยักหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า

 

หลิวอี้หนานตกตะลึง!!

 

หนุ่มหล่อคนนี้เพียงแค่ยกหูโทรศัพท์ขึ้นมาก็จองร้านซินหลงจีได้แล้วหรอ?

 

เรื่องจริงหรือว่าโกหกกัน?!

 

เขาเป็นใครกัน?!

 

ทําไมเขาถึงจองร้านซินหลงจีที่ควรจะต้องจองล่วงหน้าหลายเดือนได้ง่ายๆแบบนี้?!

 

เจียงเฉินวางสายก่อนจะหันกลับมาพูดกับหลิวอี้หนาน “ร้านอาหารของผมยินดีต้อนรับครับ”

 

“อะไรนะ?! ร้านซินหลงที่เป็นของคุณ?!”

 

หลิวอี้หนานตกตะลึง!

 

“ใช่ครับ!” เจียงเฉินยิ้ม “ร้านซินหลงขี่ก็เป็นธุรกิจเล็กๆของผมครับ”

 

หลิวอี้หนานที่ได้ยินก็แทบจะอดไม่ไหวที่จะหาซอกบนพื้นแล้วมุดดินหนีไป

 

ก่อนหน้านี้เธอเพิ่งจะเยาะเย้ยแฟนของซูเสี่ยวเสี่ยวว่าเปิดร้านขยะ!

 

แต่ผ่านไปไม่นานเธอกลับโดนตบหน้าของตัวเอง!

 

“เสี่ยวเสี่ยว ทําไมเธอไม่บอกความจริงกับฉันตั้งแต่แรกล่ะ?” หลิวอี้หนานเริ่มพยายามทําให้ซูเสี่ยวเสี่ยวพอใจ

 

ซูเสี่ยวเสี่ยวพูดอย่างเขินอาย “จริงๆแล้ว เมื่อเทียบกับธุรกิจอื่นของสามีฉันร้านซินหลงจีก็แค่ร้านเล็กๆของเขาเอง ฉันไม่ได้พูดผิดสักหน่อย”

 

อะไรนะ?!

 

มีธุรกิจอื่นๆอีก?!

 

แถมยังเปรียบร้านซินหลงจีว่าเป็นแค่ธุรกิจเล็กๆ?!

 

หลิวอี้หนานตกตะลึง

 

เจียงเฉินพูดออกมา “อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้คุณบอกว่า สามีของคุณต้องการจองบาร์ระดับผู้บริหารที่ชั้นบนสุดของโรงแรมผางคู่ด้วยใช่ไหมครับ?”

 

เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้งและโทรหาประธานโจวหยวน

 

“โจวหยวน มีผู้หญิงคนหนึ่งชื่อว่าหลิวอี้หนานเดี๋ยวเธอจะติดต่อไป เธอต้องการจองบาร์ระดับผู้บริหารนายจัดการให้เธอหน่อยได้ไหม?”

 

เจียงเฉินวางสายก่อนจะดึงซูเสี่ยวเสี่ยวเข้ามาก่อนจะยิ้ม และพูดออกมา “เรียบร้อยแล้วครับ ผมติดต่อโรงแรมผางคู่ให้แล้วตอนนี้บาร์ระดับผู้บริหารเป็นของคุณแล้ว”

 

พูดจบเจียงเฉินก็พาซูเสี่ยวเสี่ยวจากไป

 

หลิวอี้หนานตกตะลึง–

 

โทรศัพท์สายเดียวก็สั่งการโรงแรมระดับ 7 ดาวได้!?

 

เป็นไปได้ไหมว่า เจียงเฉินคนนี้เป็น-

 

เจ้าของ [โรงแรมผางา?

 

เป็นไปได้ยังไงกัน?

 

เขายังหนุ่มมากไม่ใช่หรอ?

 

หลิวอี้หนานโทรหาโรงแรมผางคู่ด้วยมือที่สั่นเทา “สวัสดีร ค่ะ ฉันชื่อว่า หลิวอี้หนาน ฉันต้องการที่จะจองบาร์ของโรงแรม…”

 

ยังไม่ทันพูดจบก็มีเสียงดังตอบกลับมา “คุณหลิวอี้หนาน เมื่อกี้ประธานโจวของเราได้แจ้งพวกเราไว้แล้วครับว่าคุณจะจองบาร์ระดับผู้บริหาร ตอนนี้เราได้ดําเนินการให้แล้วครับ ฮัลโหลครับ ฮัลโหล คุณยังอยู่ไหมครับ?”

 

หลิวอี้หนานไม่ได้ยินอะไรเป็นเวลานาน

 

ประธานออกมาจัดการด้วยตัวเอง…

 

หรือจะให้พูดอีกนับก็คือเมื่อี้เจียงเฉินโทรหาประธานของโรงแรมผางกูโดยตรง!

 

และเธอก็ได้รู้ออีกอย่างนั่นก็คือหนุ่มหล่อคนเมื่อกี้

 

เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่

 

“นี่นี่….”

 

หลิวอี้หนานรู้สึกอยากจะเป็นบ้า

 

เพื่อนที่เหลือมองหน้ากัน

 

พวกเธอเองก็ตกใจกับข่าวนี้

 

หลิวอี้หนานรู้สึกแล้วว่าเธอกําลังเจอปัญหาใหญ่

 

ถ้าสามีของเธอรู้เรื่องที่เธอนั้นเสแสร้งโอ้อวดต่อหน้าเพื่อนๆ แล้วทําให้แฟนของเพื่อนสนิทคนนี้ขุ่นเคืองน่ากลัวว่า

 

ฉันจะต้องโดนเขาทิ้งแน่!

 

“ไม่ ฉันต้องรีบไปขอโทษเสี่ยวเสี่ยว

 

เธอรีบวิ่งออกไปอย่างบ้าคลั่ง

 

เมื่อวิ่งออกไปเธอก็เห็นภาภเจียงเฉินที่กําลังเปิดประตูรถให้ซูเสี่ยวเสี่ยวเข้าไปนั่งในรถ Lamborghini Poison!

 

หลิวอี้หนานตกตะลึง!

 

ซุปเปอร์คาร์คันละหลายสิบล้าน!

 

เขาเป็นคนใหญ่คนโตจริงๆด้วย!

 

เธอรีบวิ่งเข้าไปอย่างสิ้นหวังเธอคว้ามือของซูเสี่ยวเสี่ยวเอาไว้ก่อนจะคุกเข่าอย่างแรง!

 

ซูเสี่ยวเสี่ยว “???”

 

หลิวอี้หนานร้องไห้ออกมา “เสี่ยวเสี่ยว มันเป็นความผิดของฉันเอง! มันเป็นความผิดของฉันทั้งหมด! เป็นฉันที่หยิ่งเอง! เป็นฉันที่เสแสร้งใส่เธอและยังดูถูกเธอ เธอยกโทษให้ฉันได้ไหม?”

 

ซูเสี่ยวเสี่ยวจะมีหรอที่เธอจะคิดเล็กคิดน้อยเธอยิ้มและพูดอ อกมา “ไม่เป็นไรหรอก พวกเราเป็นเพื่อนกันนะ เธออย่าคิดเล็กคิดน้อยสิ ลุกขึ้นได้แล้ว”

 

“ขอบคุณนะ ขอบคุณมากๆเลย” หลิวอี้หนานถอนหายใจ ด้วยความโล่งอก

เจียงเฉินมองดูนาฬิกาของเขา “ไปกันเถอะ…”

 

“ฉันทําให้พวกเธอต้องเสียเวลาแล้ว! ขอโทษนะ ฮ่าฮ่าฮ่า ค่อยๆเดินทางล่ะ!” ตอนนี้หลิวอี้หนานเข้าใจมารยาทแล้ว การแสดงออกเธอเต็มไปด้วยความสุภาพก่อนจะอวยพรให้เจียงเฉินและซูเสี่ยวเสี่ยว

 

เจียงเฉินขับรถออกไปพร้อมกับรอยยิ้มที่มุมปากของเขา “นี่คือเพื่อนสนิทของเธอหรอ?”

 

ซูเสี่ยวเสี่ยวพูดออกมา “ก่อนที่เธอจะไปต่างประเทศ ตอน นั้นพวกเรายังมีช่วงเวลาที่ดีกันอยู่เลย แต่ฉันคิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะเปลี่ยนไปหลังกลับมาที่จีน… ชั่งมันเถอะ เราไปช้อปปิ้งกันดีกว่า ”

 

ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยประกายตื่นเต้น!

 

กลัยมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง!

 

เจียงเฉินหัวเราะออกมา

 

“ไปกัน!”