ตอนที่ 1502

Monster Paradise

ตามเส้นทางจากความทรงจำที่เขาได้รับ หลินฮวงพบเป้าหมายต่อไปเขา เนตรปีศาจ

 

เขามีความเข้าใจถึงเนตรปีศาจจากข้อมูลที่มอบโดยใต้สวรรค์

 

แม้มันจะเป็นเทพสวรรค์ขั้นหนึ่ง เนตรปีศาจกำเนิดประเภทวิญญาณร้ายกลายพันธุ์ชั้นสี่ ยิ่งไปกว่านั้น มันยังใช้ลำดับเทพได้ถึงสองสาย

 

พลังที่ยิ่งใหญ่ของเนตรปีศาจคือห่วงโซ่ลำดับเทพทั้งสองสายที่มันใช้ได้ หนึ่งเป็นประเภท ขณะที่อีกอันเป็ฯประเภทเสริมพลัง ทั้งสองเสริมกันและกัน ไม่เพียงแต่สามาถเข้ากันได้อย่างสมบูรณ์ แต่ยังกลบข้อบกพร่องของกันและกัน เมื่อพลังลำดับทั้งสองประสานกัน พลังของมันจะเกินยิ่งกว่าห่วงโซ่ลำดับเทพของเทพสวรรค์ขั้นสอง

 

นี่คือเหตุผลว่าทำไมเนตรปีศาจถึงควบคุมเทพสวรรค์ขั้นสองส่วนใหญ่ได้ตอนมันเข้าแดนลับนี้ใหม่ๆ

 

แต่ทว่า ต่อให้หลินฮวงจะพบถึงพลังของเนตรปีศาจ เขาก็ยังเลือกไม่ผ่านมัน เขามุ่งตามเส้นทางเดิม และแม้กระทั่งรวมเนตรปีศาจไว้บนรายชื่อการล่า

 

ในความเป็นจริง การกระทำนี้ของเขาทำให้เทพสวรรค์หลายคนนอกแดนลับตื่นตระหนก

 

บางคนเชื่อว่าหลินฮวงเลือกเนตรปีศาจเป็นเป้ามายเพราะอยากพิสูจน์ว่าเขาทรงพลังกว่าเทพแท้จริงคนใด

 

แต่ทว่า ใต้สวรรค์ไม่คิดว่าเป็นแบบนั้น เขาไม่รู้ว่าหลินฮวงจะลึกล้ำขนาดนี้ แต่เขามีความคิดคร่าวๆถึงนิสัยของคนอื่น เขารู้ว่าหลินฮวงไม่ใช่คนที่จะทำอะไรเกินความสามารถตัวเอง ถ้าเขาตัดสินใจทำอะไร มันต้องหมายความว่าเขาอยากทำ ซึ่งไม่ใช่เพื่ออวดคนอื่น

 

นี่ทำให้ใต้สวรรค์สับสนมากกว่าคนอื่น ยิ่งคิด เขาก็ยิ่งไม่เข้าใจว่าทำไมหลินฮวงถึงเลือกเป้าหมายล่าเช่นนั้น?!

 

สิ่งที่ทำให้เขาสับสนคือความจริงที่หลินฮวงกล้าท้าทายเนตรปีศาจ?!

 

ในวิดิโอ หลินฮวงกำลังบินเข้าอาณาเขตของเนตรปีศาจอย่างรวดเร็ว

 

ในฐานะสิ่งมีชีวิตที่มีพลังจิตวิญญาณของเทพสวรรค์ขั้นสอง เนตรปีศาจตรวจพบการรุกรานของหลินฮวงอย่างรวดเร็ว

 

ถ้านี่เป็นโลกภายนอก มันคงโจมตีหลินฮวงไปนานแล้ว

 

แต่ทว่า มีกฏในแดนลับนี้ เทพสวรรค์ไม่ได้รับอนุญาตให้โ๗มตีผู้เข้าร่วมก่อนเว้นแต่จะยืนยันได้ว่าพวกมันคือเป้าหมายล่าของผู้เข้าร่วม

 

เนตรปีศาจยังเต็มไปด้วยความกลัวจากการสะกดข่มของนครหลวงเทพและไม่กล้าข้ามเส้น ถ้าอีกฝ่ายแค่ผ่านมา และมันโจมตีก่อน นั่นจะทำให้นครหลวงเทพส่งคนมาจัดการมัน

 

แต่ทว่า เจตนาของหลินฮวงชัดเจน หลังเขาสัมผัสได้ถึงตำแหน่งของเนตรปีศาจ เขาก็พุ่งตรงไปหามัน

 

เนตรปีศาจอดตื่นเต้นไม่ได้

 

มันสามารถกำหนดได้ว่าอีกฝ่ายคือเป้าหมายมัน

 

ต้องรู้ว่ามันผ่านมาหลายปีแล้วที่มันไม่ได้สู้กับใคร แต่ทว่า มันก็ยังจำรสชาติของผู้เข้าร่วมที่มันเคยกินได้ชัด

 

เมื่อคิดถึงรสชาติของเหล่าโปรตอส มันก็ตื่นเต้นจนไม่สามารถควบคุมหนวดรอบตัวได้

 

ไม่นาน เงาร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นด้านหน้ามัน เมื่อสายตามันจับจ้องผู้มาใหม่ มันก็ตกใจที่เห็นว่านี่คือผู้เข้าร่วมก่อนหน้านี้

 

ด้วยความที่มันไม่สามารถโจมตีก่อนได้ มันจึงจำต้องระงับความตื่นเต้นไว้ เพ่งมองอีกฝ่าย

 

พลังของกลิ่นอายอีกฝ่ายก็แค่เทพแท้จริงขั้น 9 ทั่วไป ไม่มีอะไรพิเศษ ตามกลิ่นอายเขาอย่างเดียว เขาถือว่าอ่อนแอสุดในบรรดานักล่าทั้งหมดที่เคยท้าทายมัน

 

เนตรปีศาจเดาว่าอีกฝ่ายน่าจะเป็นพวกอวดดีอย่างมาก หรือต้องมีไพ่ตายซ่อนอยู่ แต่ทว่า มันคิดว่าน่าจะเป็นอย่างแรก

 

ในเวลาเดียวกับที่เนตรปีศาจกำลังสังเกตหลินฮวง หลินฮวงก็สังเกตมันเช่นกัน

 

เนตรปีศาจเป็นลูกตาขนาดยักษ์ที่มีรูม่านตาสีแดง มันมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณสามเมตร ลอยอยู่ในอากาศ ที่แนบติดกับส่วนหลังของลูกตาคือก้อนเนื้อสีแดงขนาดใหญ่ที่มีหนวดนับร้อยยื่นออกมา…

มันดูน่าขยะแขยง

 

ยิ่งไปกว่านั้น หลินฮวงสามารถสัมผัสได้ชัดว่าเนตรปีศาจที่อยู่ตรงหน้ามีกลิ่นอายที่แข็งแกร่งกว่าเทพสวรรค์ที่เขาล่า ในความเป็นจริง กลิ่นอายมันเกือบจะแกร่งพอๆกับขั้นสอง

 

‘ดูเหมือนข่าวลือจะเป็นจริง แต่ตามกลิ่นอายมัน ความสามารถมันไม่น่าจะอ่อนแอกว่าเทพสวรรค์ขั้นสอง..’หลินฮวงทำการประเมิน

 

เมื่อสัมผัสได้ถึงพลังงานของหลินฮวงที่จับเข้ากับมัน เนตรปีศาจก็ยินดีและเปิดฉากโจมตีโดยไม่ลังเล

รูม่านตามันเปล่งแสงสีแดงออกมา เหมือนกับพระจันทร์สีเลือดบนท้องฟ้า แสงสีแดงส่องสว่างเงียบๆ สาดส่องออกไปหลายสิบกิโลเมตร

หลินฮวงเองก็โดนห่อหุ้มไว้ภายในแสง…

การถูกพลังงานของอีกฝ่ายจับไว้หมายความว่าอีกฝ่ายกำหนดเป้ามาที่มัน ดังนั้นเนตรปีศาจจึงมีสิทธิ์ลงมือ

 

การลงมือก่อนภายใต้สถานการณ์เหล่านี้ได้รับอนุญาตตามกฏของแดนลับ

 

กฏห้ามลงมือก่อนจะมีผลก็ต่อเมื่อไม่สามารถยืนยันเจตนาของผู้เข้าร่วมได้ เนื่องจากอีกฝ่ายอาจแค่ผ่านมา แต่ทว่า เมื่อเป้าหมายล่าของผู้เข้าร่วมชัดเจน นักโทษที่ตกเป็นเป้าหมายจะได้รับอนุญาตให้ลงมือก่อนได้

 

การกำหนดกฏนี้เป็นหลักก็เพื่อป้องกันไม่ให้พวกซุ่มซ่ามเผลอไปเข้าอาณาเขตของนักโทษเทพสวรรค์

 

ผู้ที่อยู่นอกแดนลับเป็นพยานถึงฉากที่เนตรปีศาจเปิดฉากโจมตี ขณะที่หลินฮวงแค่ยืนนิ่งโดยไม่ทำอะไรเลย

 

เทพสวรรค์จำนวนมากที่เฝ้าดูการต่อสู้รู้สึกหัวใจเต้นกระหน่ำ

 

แม้หลายคนจะเลือกข้างเนตรปีศาจ ส่วนใหญ่ก็ยังหวังเห็นหลินฮวงสร้างปาฏิหาริย์อีกครั้ง

 

ต่อให้เขาจะไม่ใช่คนของพวกเขา มันก็ยังเป็นเรื่องดีสำหรับแดนเทพที่มีอัจฉริยะฟ้าประทานเช่นนี้

 

ส่วนใหญ่ไม่อยากเห็นหลินฮวงตายที่นี่

 

อย่างไรก็ตาม ผู้นำเทพสวรรค์ทุกคนรู้ว่าถ้าเขาไม่สามารถป้องกันการโจมตีแรกของเนตรปีศาจได้ ก็คงไม่มีโอกาสให้เขาพลิกกระดานอีก

 

การจะสลัดตัวเองให้หลุดพ้นจากภาพลวงตาของเนตรปีศาจนั้นคือหลินฮวงต้องมีพลังจิตแกร่งกล้ากว่ามัน

 

“ซิวมู่ไม่ขยับตัวเลย เห็นได้ชัดว่าเขายอมจำนนต่อภาพลวงตาไปแล้ว การต่อสู้นี้ไม่น่าดูอีก”ผู้นำเทพสวรรค์ของวิหารเทพนักรบพึมพำ

 

“ผู้อาวุโสใต้สวรรค์ เราควรแทรกแซงเลยหรือไม่?!”ผู้นำของนครหลวงเทพถาม

 

ใต้สวรรค์ขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาไม่คิดว่าหลินฮวงจะไม่สามารถต้านทานการหยั่งเชิงนี้ได้

 

ขณะที่เขากำลังพิจารณาว่าควรรอดูหรือไม่ ในภาพ หลินฮวงก็พลันเงยหน้าขึ้น จ้องมองเนตรปีศาจ

 

“นี่คือเทคนิคที่ทรงพลังสุดของเจ้าแล้ว?มันดูเหมือนข้าจะประเมินเจ้าไว้สูงเกินไป”

 

ทันทีที่เขาพูดแบบนั้น ลำแสงสีแดงนับหมื่นสายก็พุ่งออกจากแขนเสื้อเขา กลืนกินเนตรปีศาจ

 

ในเวลาไม่ถึงเสี้ยวอึดใจ ศพของเนตรปีศาจที่มีลักษณะคล้ายเนื้อบดก็ร่วงหล่นจากกลางอากาศ

 

ห่วงโซ่ลำดับเทพสองสาย รวมถึงพลังกฏเทพจำนวนมากเริ่มไหลเข้าตัวหลินฮวงอย่างบ้าคลั่ง และเขตแดนเทพภายในตัวเขาก็เริ่มขยายอีกครั้ง

 

จำนวนพลังกฏเทพพุ่งทะยานจากกว่าแปดหมื่นประเภทเป็นเก้าหมื่นประเภทแทบจะทันที

 

ตอนนี้ หลินฮวงสัมผัสได้ว่ากฏเทพกว่าเก้าหมื่นเริ่มตอบสนองเป็นคลื่นพลังงานพิเศษซึ่งไหลไปยังดวงวิญญาณเขา

 

ไฟเทวะของเขาแผดเผาอีกครั้ง พลังเทวะของเขาเริ่มเปลี่ยนแปลง แม้กระทั่งร่างกายและวิญญาณของเขาก็ดูเหมือนจะอาบไปด้วยพลังงานพิเศษ ก้าวไปสู่ระดับใหม่

 

เมื่อการเปลี่ยนแปลงเสร็จสมบูรณ์ หลินฮวงก็รู้สึกได้ชัดว่าเขาแข็งแกร่งขึ้นอีกครั้ง

 

“ในที่สุดข้าก็เป็นขั้นสองแล้ว!’

 

ตอนนี้ ในที่สุดหลินฮวงก็พบหนทางที่จะเลื่อนขั้นพลังของเขา