160 เข้าสู่ระบบ คัมภีร์มารเก้าวิถี

เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล

Sign in Buddha’s palm 160 เข้าสู่ระบบ! คัมภีร์มารเก้าวิถี!

 

เมืองฉางอัน

 

พระราชวังอันสูงตระหง่านใต้ผืนดิน

 

ซูฉินนั่งขัดสมาธิอยู่ด้านข้างบ่อน้ําปิศาจ

 

“น่าเสียดาย

 

“แม้จะเป็นจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของข้าเองที่สามารถแบ่งแยกออกเป็นร่างจําแลงถึงจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ได้มากแต่จะอย่างไรก็ก่อให้เกิดผลกระทบกลับมาบ้างถึงแม้จะเล กน้อยก็ตาม”

 

ชูฉันคิดอยู่เงียบๆ ภายในใจ

 

มีความแตกต่างระหว่างการแบ่งแยกเป็นร่างจําแลงจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กับการแยกจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์แบบธรรมดาอยู่อย่างจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ที่ซูฉินทิ้งเอาไว้ที่ตระกูล ซูเป็นเพียงจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ธรรมดาเมื่อเวลาผ่านไปมันก็จะเสื่อมสภาพลงและเมื่อซูฉินตกตายไปทุกสิ่งก็จะค่อยๆสลายหายไปจนหมดสิ้นในที่สุด

 

แต่การแบ่งแยกร่างจําแลงถึงจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์นั้นต่างกัน

 

พูดอย่างจริงจัง ร่างจําแลงถึงจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์นั้นเป็น ตัวตนอิสระซูฉินกับร่างจําแลงจะมีสตินึกคิดเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเสมือนเป็นบุคคลเดียวกัน ทว่าหากซูฉินบังเอิญเสียชีวิตไปด้วยเหตุอะไรบางอย่างร่างจําแลงถึงจิตสัมผัสศักดิ์ สิทธิ์จะยังคงอยู่

 

พูดง่ายๆ คือการแบ่งแยกร่างจําแลงถึงจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์นั้นเทียบเท่ากับชีวิตที่สองของซูฉิน

 

ความจริงแล้วแม้ว่าตัวเขาจะไม่ได้ค้นพบโลกถ้ําปิศาจใต้ พิภพแห่งนี้ซูฉินก็เตรียมจะสร้างร่างจําแลงถึงจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของตนอยู่แล้วในช่วงเร็วๆ นี้

 

“เมื่อร่างจําแลงเข้าสู่โลกถ้ําปิศาจใต้พิภพ ต่อให้เจอศัตรูที่ทรงพลังเจอปีศาจที่แข็งแกร่งไร้เทียมทานก็ไม่ได้อันตรายสําหรับตัวข้านักอย่างมากหากร่างจําแลงตายไปก็ใช้เวลาไม่นานนักในการกู้คืนให้กลับมาเหมือนใหม่”

 

รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของซูฉิน

 

นี่คือเหตุผลที่ซูฉินเลือกโลกถ้ําปิศาจใต้พิภพแทนที่จะเป็นต่างดินแดน

 

ถ้าซูฉินปล่อยให้ร่างจําแลงของตนไปดินแดนโพ้นทะเลหากถูกศัตรูตามล่ามีความเป็นไปได้มากว่าตัวเขาจะชักนําฝ่ายตรงข้ามให้มายังทวีปนี้

 

แต่สําหรับถ้ําปิศาจใต้พิภพ

 

ถึงแม้ว่าจะเป็นปีศาจในขอบเขตเซียนเทพปฐพีก็เป็นไปไม่ได้ที่จะข้ามผ่านบ่อน้ําปีศาจมาทําอันตรายต่อร่างจริงของซูฉินได้

 

ดังนั้นสถานการณ์ภาพรวมของซูฉินจึงปลอดภัยยิ่ง

 

“ไม่รู้ว่าโลกถ้ําปิศาจใต้พิภพจะทําให้ข้าประหลาดใจได้บ้างไหมนะ?” ใบหน้าของซูฉินแสดงออกถึงความคาดหวัง

 

“ใช่แล้ว”

 

“บ่อน้ําปิศาจนี้มีมานานกว่าหมื่นปีแล้ว และแม้แต่เมืองฉางอันก็ไม่สามารถเทียบกับมันได้ อย่างนี้ก็เป็นไปได้ที่จะลงชื่อเข้าใช้

 

ซูฉินกวาดตามองไปหยุดอยู่ที่บ่อน้ําที่อยู่ถัดออกไป 

 

เหตุผลที่เมืองฉางอันเป็นเมืองหลวงโบราณของสิบราชวงศ์ก็เพื่อให้สะดวกแก่การสกัดพลังโชคชะตาแห่งมังกรมาใช้ ผนึกบ่อน้ําปิศาจ

 

ดังนั้นบ่อน้ําปิศาจก็ปรากฏขึ้นมาก่อนเมืองฉางอันเสียอีก

 

เมื่อคิดได้ดังนี้ ซูฉินก็เดินไปที่บ่อน้ําแล้วพูดอยู่ภายในใจเงียบๆ ว่า “ระบบ ลงชื่อเข้าใช้”

 

[ขอแสดงความยินดี โฮสต์ลงชื่อเข้าใช้สําเร็จได้รับ “คัมภีร์มารเก่าวิถี

 

“คัมภีร์มารเก่าวิถี?”

 

ใบหน้าของซูฉินไม่ได้ดูแปลกใจเลยสักนิด

 

บ่อน้ําปีศาจนี้เชื่อมต่อกับโลกถ้ําปิศาจใต้พิภพเมื่อลงชื่อเข้าใช้ที่นี่แปดในสิบส่วนอย่างไรก็ต้องได้สิ่งที่เกี่ยวข้องกับโลกถ้ําปีศาจ

 

ช่วงเวลาต่อมา

 

ซูฉินก็รับรู้ถึงข้อมูลเบื้องลึกเกี่ยวกับ “คัมภีร์มารเก่าวิถี

 

คลื่นตัวอักษรเกี่ยวกับพลังมารวาบผ่านเข้ามาในจิตที่ละตัวสองตัว

 

“นี่?”

 

ม่านตาของซูฉินหดแคบลง

 

ตอนแรกซูฉันคิดว่า คัมภีร์มารเก่าวิถี” ควรจะเป็นวิถีมารล้วนๆ แต่ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าได้ดูถูกวิชานี้เกินไป

 

แม้ว่าแก่นของ “คัมภีร์มารเก่าวิถี” จะยังเป็นวิถีทางแห่งมาร แต่ก็ไม่ได้เกินจริงแต่ประการใดหากจะบอกว่าวิชานี้ โอบรับแนวคิดอื่นๆเข้ามาด้วย

 

ใช้วิถีมารเป็นพื้นฐาน วิเคราะห์โลกหล้าได้นับหมื่นวิถี

 

นี่แหละคือ “คัมภีร์มารเก่าวิถี

 

“คัมภีร์มารเก่าวิถี” หาใช่เคล็ดวิชาศักดิ์สิทธิ์ใดไม่ ไม่มีท่วงท่าให้ฝึกฝนโดยจําเพาะเจาะจง แต่กลับนําเสนอสิ่งที่วิถีมารไม่สามารถอธิบายได้

 

“มีวิถีทางหลายพันสาย และเส้นทางแต่ละเส้นก็นําไปสู่เป้าหมายเดียวกัน”

 

หลังจากที่ซูฉินตระหนักรู้ถึง “คัมภีร์มารเก่าวิถี” เขาก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้น ถอนหายใจออกเบาๆ

 

ไม่ว่าจะเป็นเทพหรือมารร้าย เป็นเซียนหรือปีศาจ เมื่อฝึกฝนถึงขีดสุด มีเพียงแค่ลักษณะพลังที่แสดงออกมาเท่านั้นที่ แตกต่างแต่สาระสําคัญยังคงเหมือนกัน

 

ซูฉินไม่ได้คาดหวังว่าระดับของ “คัมภีร์มารเก่าวิถี” จะสูงมากเช่นนี้ มันให้ความรู้สึกเหมือนแยกตัวออกจากทุกสิ่ง

 

“ในบรรดาเคล็ดวิชาศักดิ์สิทธิ์ของข้าจํานวนนับไม่ถ้วนเห็นที่จะมีเพียงฝ่ามือยไลเท่านั้นที่เหนือกว่าสิ่งนี้”

 

ซูฉินแลดูประหลาดใจ

 

ต้องทราบว่าฝ่ามือยูไลนั้นกล่าวกันว่าได้รับการถ่ายทอดมาจากองค์ยูไลตามตํานานมีความเกี่ยวข้องกับองค์ยูไลแต่อะไรคือการที่คัมภีร์มารเก่าวิถีนั้นเกือบจะเทียบ เคียงได้กับความสูงส่งของฝ่ามือยไลเช่นนี้

 

“ไม่เลว”

 

“ครั้งนี้ได้กําไรจริงๆ เสียแล้ว”

 

ซูฉินพยักหน้าเล็กน้อย พึงพอใจอย่างยิ่ง

 

เป็นระยะเวลานานแล้วที่เข้าใช้เวลาว่างไปกับการทําความเข้าใจฝ่ามือยไล ตัวเขาก็รู้สึกเบื่อหน่ายอยู่เล็กน้อย แต่ตอนนี้ก็มีคัมภีร์มารเก่าวิถีที่มาช่วย “เปลี่ยนรสชาติ” ได้บ้าง

 

ไม่ว่าจะเป็นฝ่ามือยูไลหรือคัมภีร์มารเก่าวิถี มันมีหลักการอันยิ่งใหญ่ซ่อนอยู่ภายในนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายดายเช่นวิถีมารวิถีพุทธเสียเมื่อไร

 

ยืนหยัดในวิถีพุทธ มองให้เห็นในวิถีมาร เข้าใจวิถีทางอื่นๆภายในโลกหล้า

 

ซูฉินสัมผัสได้ว่าแต่ละสิ่งสามารถเข้าใจหนทางความเป็นไปแห่งโลกได้ เพียงแต่มองในมุมที่แตกต่างกัน

 

“ตอนนี้ยังไม่ต้องรีบร้อน”

 

“ข้าได้แบ่งแยกจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ไปเกือบครึ่งหนึ่งแล้ว ตอนนี้ต้องพักฟื้นเสียก่อน”

 

ซูฉินเพียงแค่คิด ทันใดนั้นก็มีเม็ดยาจํานวนมหาศาลปรากฏขึ้นมาตรงหน้าของเขาที่ละอันสองอัน

 

สําหรับตํานานยุทธคนอื่นๆ การฟื้นฟูจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์สามารถพึ่งการฟื้นฟูด้วยตนเองอย่างช้าๆ

 

ส่วนโอสถสิ่งของภายนอกนั้น

 

โอสถที่ใช้ฟื้นฟูจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์มีค่าเพียงใดแม้จะเป็นตํานานยุทธก็ตาม แต่ก็ต้องเก็บเอาไว้ใช้งานอย่างหวงแหน รอจนกว่าจะถึงคราววิกฤตจึงจะนําออกมาใช้งาน 

 

“ในช่วงนี้ ข้าจะพักอยู่ที่นี่ไปก่อน”

 

ชูฉันมองดูเม็ดยาที่อยู่เบื้องหน้าตน แล้วคิดอยู่ภายในใจ

 

พระราชวังอันใหญ่โตหลังนี้ตั้งอยู่ใต้ผืนดินกว่า สามกิโลเมตรเว้นแต่ชุฉินจะใช้พลังจนพื้นทะลุ ไม่ว่าจะเคลี่อนไหวมากเพียงใดก็จะไม่ส่งผลกระทบใดต่อโลกภายนอกช่างเป็นสถานที่พักฟื้นอันสมบูรณ์แบบ

 

ในเวลาเดียวกัน

 

ที่โลกถ้ําปิศาจใต้พิภพ

 

ซูฉินมองขึ้นไปบนท้องฟ้าสีเทา

 

“นี่คือโลกของถ้ําปิศาจ?”

 

จิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของซูฉินค่อยๆ แผ่เป็นรัศมีออกไปครอบคลุมระยะทางกว่าสิบลี

 

“ปราณปีศาจหนาแน่นอะไรเช่นนี้

 

ซูฉินพึมพําอยู่กับตนเอง

 

ในโลกถ้ําปิศาจใต้พิภพ ปราณปีศาจนั้นก็เทียบเท่ากับพลังฟ้าดินในโลกเบื้องบน

 

“ไม่น่าแปลกใจที่ในโลกของถ้ําปีศาจ แม้แต่ปีศาจในขอบเขตสามระดับกลางก็ยังอยู่ระดับชนชั้นล่าง…” ซูฉินสายศีรษะ “สิ่งมีชีวิตที่อยู่ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ แม้แต่หมูก็ยังกลายเป็นผู้ฝึกยุทธได้เมื่อผ่านเวลายาวนานสักระยะหนึ่ง….”

 

สภาพแวดล้อมที่อุดมไปด้วยพลังฉีฟ้าดินนั้นสําคัญมากถึงแม้จะมีเหล่ายอดอัจฉริยะที่สามารถทะลวงขั้นได้ในสภาพ แวดล้อมที่ย่ําแย่แต่บุคคลเหล่านั้นก็มีอยู่จํานวนน้อยเสียเหลือเกิน

 

หรือแทบจะไม่มีเลย

 

สิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่จําเป็นต้องพึ่งสภาพแวดล้อมอันอุดมไปด้วยพลังฉีฟ้าดินเพื่อที่จะเติบโตขึ้นได้อย่างแข็งแกร่ง

 

บางที่สภาพแวดล้อมของพลังฟ้าดินอาจจะไม่สามารถกําหนดขอบเขตสูงสุดที่จะไปถึงได้ แต่สามารถกําหนดขีดจํากัดขั้นต่ําให้กับสิ่งมีชีวิตบนโลกได้

 

“ในเมื่อโลกปีศาจมีสิ่งแวดล้อมที่จําเป็นสําหรับบ่มเพาะที่อุดมสมบูรณ์เช่นนี้ ทําไมถึงยังหมายตาโลกของเราอีก?” ซูฉันขมวดคิ้วราวกับกําลังคิดอะไรบางอย่าง

 

เดิมที่เขาคิดว่าสภาพแวดล้อมของถ้ําปีศาจคงจะแย่มากถึงทําให้เผ่าปีศาจจํานวนมากหนีออกจากที่นี่

 

แต่ยามนี้ดูเหมือนข้อสันนิษฐานดังกล่าวจะไม่เป็นความจ

 

ตัวอย่างเช่น ผู้คนที่อาศัยอยู่ภายในเมืองหลวงเช่นฉางอันก็คงไม่คิดที่จะเดินทางไปยังดินแดนที่ห่างไกลหากที่นั่นไม่ได้มีสิ่งดึงดูดใจพวกเขา

 

“ดูเหมือนโลกที่ข้าอาศัยอยู่จะมีความลับมากมายที่ข้ายังไม่รู้…”

 

ซูฉินแตะปลายคาง แววตาดูครุ่นคิด