997 ไม่อาจหยุดยั้ง
“งั้นมาลองทดสอบดูกัน” เมี่ยวซีเหอหยิบหม้อใบเล็กที่ทําขึ้นมาจากไม้ออกมา และยื่นไปตรงหน้าเขา ทันทีที่เปิดฝาหม้อออกก็จะสามารถเห็นแมลงพิษอยู่ ภายในหม้อ พวกมันเกลือกกลิ้งและฉีกทิ้งกันไปมา เสียงที่ดังออกมาทําให้คน ฟังรู้สึกขนลุกขนชัน
“ไม่ต้องกลัว”
“ผมไม่กลัว” ชายหนุ่มใส่มือลงไปในหม้อโดยไม่ลังเล
แล้วภาพน่าอัศจรรย์ก็เกิดขึ้น แมลงพิษที่อยู่ภายในหม้อมีท่าทีราวกับหวาด กลัวมือของชายหนุ่ม ไม่มีแมลงตัวไหนที่กล้าเข้าใกล้ พวกมันพยายามหลีกหนี มือของเขาอย่างสุดความสามารถ จุดที่นิ้วมือของเขาแตะลงไปกลายเป็นพื้นที่ว่างในทันที
“อย่างที่คิดไว้” เมี่ยวซีเหอมองเขาด้วยสีหน้าพึงพอใจ
“เอามีดมาให้ฉัน” ชายวัยกลางคนที่อยู่ไม่ไกลรีบส่งมีดให้เขา เมี่ยวซีเหอรับ มาแล้วเช็ดซ้ําๆอยู่หลายครั้ง
“ฉันต้องการเลือดของเธอ เสี่ยวเหอ” เขาพูด “มันไม่เจ็บมากหรอก”
“ครับ ผู้นํา” ชายหนุ่มไม่แสดงสีหน้าหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย
เมี่ยวซีเหอกรีดข้อมือของชายหนุ่มและปล่อยให้เลือดไหลออกมาได้ครึ่งถ้วย
“พอแล้ว” เขารีบเอาขี้ผึ้งทาลงไปบนปากแผล แล้วเลือดก็หยุดไหลพร้อมกับ ปากแผลที่ปิดลง
“บอกฉันมาตามตรง เสี่ยวเหอ เธอรู้สึกไม่สบายตรงไหนในร่างกายบ้างรึ
เปล่า?”
“ไม่เลยครับ ผมสบายดี” ชายหนุ่มพูด
“หรือเธอจะไม่ชอบอยู่ที่นี่?” เมี่ยวซีเหอถาม
“ผมชินแล้วครับ” ชายหนุ่มตอบ
“ทนอีกหน่อยนะ อีกไม่นานเธอก็จะได้ออกไปจากที่นี่แล้ว” เมี่ยวซีเหอจับแขน ของชายหนุ่มเพื่อปลอบเขา
“ครับ ผู้นํา” ชายหนุ่มพูด
“ดี ดี” เมี่ยวซีเหอพยักหน้า เขาดูพอใจมาก
เขาอยู่ต่อเพื่อพูดคุยกับชายหนุ่มอีกเล็กน้อย
“เสี่ยวเหอ ออกไปเดินข้างนอกกันเถอะ”
เขาเดินนําชายหนุ่มเดินผ่านหน้าชายวัยกลางคนเพื่อเข้าไปในส่วนลึกของถ้ํามันเป็นเส้นทางอันตรายเพราะอยู่บนหน้าผา เส้นทางได้นําไปสู่ทางขึ้นเขา มัน เป็นเส้นทางที่ยากลําบากสําหรับคนทั่วไป แม้จะมีเชือกเป็นตัวช่วยก็ตามที ไม่ใช่ แค่ทางเดินบนหน้าผาคับแคบเท่านั้นที่อันตราย แต่ยังมีอันตรายจากแมลงพิษ อย่างตะขาบที่เลื่อยไปมาตามหน้าผาอยู่ด้วย มันดุร้าย เพียงเห็นตัวก็รู้ว่าพวกมันมีพิษร้าย
“มา ขึ้นหลังฉันสิ”
“ผมไปเองได้ครับ”
“ขึ้นมาเถอะ”
เมี่ยวซีเหอแบกชายหนุ่มเอาไว้บนหลัง เขากระโดดไปตามหน้าผาได้ คล่องแคล่วราวกับลิงลม แล้วพวกเขาก็ขึ้นมาถึงช่องว่างบนเขาและเดินออกไปด้านนอก
พระอาทิตย์ด้านนอกเจิดจ้าจนแสบตา
ชายหนุ่มที่ดูเหมือนอยู่ในวัยยี่สิบต้นๆ เขาดูเต็มเปี่ยมไปด้วยพละกําลังเมื่อ
แสงอาทิตย์ส่องตัวเขา สายตาของเขาจับจ้องไปที่พระอาทิตย์เป็นประกายสดใส มันเป็นภาพที่น่าทึ่งมาก
“เสี่ยวเหอ ทีนี้ลองท่องบทความในตําราแพทย์ดู” เมี่ยวซีเหอพูด “พยายามจํา ให้ได้มากที่สุด”
“ครับ ผู้นํา”
เมี่ยวซีเหอเริ่มท่องด้วยน้ําเสียงที่ไม่ดังมาก เขาท่องช้าๆอย่างชัดถ้อยชัดคําเขาท่องซ้ําๆสามรอบติดต่อกัน
“เธอจ๋าทั้งหมดได้ไหม?” เขาถาม
“ครับ” ชายหนุ่มพูด
“จริงเหรอ?” เมี่ยวซีเหอถาม “ถ้าอย่างนั้นลองท่องให้ฉันฟังที
เสี่ยวเหอเริ่มท่องทันที เขาท่องได้อย่างราบรื่นไม่มีติดขัดหรือพลาดคําไหนไป
“ดี ดีมาก เมื่อไหร่ที่เธอไม่มีอะไรทําก็ให้ท่องบทความนี้และทําความเข้าใจ
เนื้อหาของมันดู มันมีประโยชน์กับเธอมาก”
“ครับ ผู้นํา” ชายหนุ่มพูด
ชายชราและชายหนุ่มนั่งอยู่ตรงช่องว่างของหุบเขาและมองออกไปไกล หลังจากที่นั่งอยู่นาน ชายหนุ่มก็ลุกขึ้น
“เรากลับกันเถอะครับ ผู้นํา ถ้าเราออกมาข้างนอกนานเกินไปพวกเขาจะเป็นห่วงเอาได๋”
“อืม ได้” เมี่ยวซีเหอมองไปทางชายหนุ่มด้วยแววตาที่ซับซ้อน
ชายหนุ่มทั้งเชื่อฟังและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เขาอยากให้ชายหนุ่มเป็นลูกของเขาจริงๆ
ทั้งสองเดินลงจากหน้าผาและกลับเข้าไปในถ้ํา
“แล้วพรุ่งนี้ฉันจะมาใหม่ เสี่ยวเหอ”
“เดินทางปลอดภัยครับ” ชายหนุ่มรู้สึกเศร้าเมื่อเมี่ยวซีเหอออกไปจากถ้ํา
พวกเขาดําลงไปในน้ํา เมื่อยืนยันได้ว่าไม่มีใครอยู่แถวนี้ พวกเขาก็ค่อยเดิน ออกไปจากถ้ําและเดินเข้าไปในป่า
“เสี่ยวเหอเป็นเด็กดี” เมี่ยวซีเหอพูด
“ใช่ครับ เขาเชื่อฟังและให้ความร่วมมือดีมาก พวกเราทั้งประหลาดใจและ
สบายใจ” ชายวัยกลางคนที่เดินไปกับเมี่ยวซีเหอพูด “หลายปีมานี้ ไม่เสียแรงที่ ผู้นําดูแลเขาเป็นอย่างดี”
เมี่ยวซีเหอหยุดเดินและพูดกับชายที่อยู่ข้างกายว่า “เฟิงซิง ถ้าครั้งนี้เกิดเรื่อง อะไรขึ้นกับฉัน พวกนายต้องดูแลหุบเขาแทนฉันให้ดีนะ”
“ทําไมอยู่ๆผู้นําถึงได้พูดแบบนั้นออกมาล่ะครับ?” ชายวัยกลางคนถามด้วย ความกังวล “หุบเขาอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีผู้นํา!”
“ฉันไม่เคยมองนายเป็นคนนอกเลยสักครั้ง เฟิงซิง” เมี่ยวซีเหอพูด “ความจริง นายเป็นเหมือนลูกชายคนหนึ่งของฉัน เรื่องที่เกิดขึ้นข้างนอกในครั้งนี้มันใหญ่ เกินไป และมีบางคนที่ไม่พอใจพวกเรามากๆ ฉันกลัวว่า อีกไม่นานความสงบสุข ในหมู่บ้านอาจจะถูกทําลายลงไปก็ได้”
มีคนนอกเข้ามาในหุบเขามากขึ้นเรื่อยๆ เป็นธรรมดาที่ชาวบ้านจะต่อต้านสิ่งที่คนนอกนําเข้ามา แต่เวลาจะค่อยๆเปลี่ยนความคิดของพวกเขาไป ในตอนนี้ มี เพียงธรรมเนียมประเพณีของหุบเขาเท่านั้นที่ยึดเหนี่ยวพวกเขาเอาไว้ แล้วในอีก ไม่ช้า ในหมู่พวกเขาก็จะค่อยๆยอมรับสิ่งที่คนภายนอกนําเข้ามา สิ่งที่เกิดขึ้น ภายนอกนั้นเต็มไปด้วยสีสัน, ความสนุก, และน่าตื่นเต้นจนยากที่จะปฏิเสธ เมื่อ พวกเขายอมรับมันเข้ามาเมื่อไหร่ มันก็จะมีครั้งต่อๆไป มันเป็นเหมือนกับเขื่อนที่ พังทลายลง เมื่อรอยแตกถูกพบมันก็ยากที่จะแก้ไข และขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้นว่า เมื่อไหร่ที่มันจะพังลงมา เมื่อถึงตอนนั้น ทุกอย่างก็จะเปลี่ยนไป เมื่อผู้คนเปลี่ยนมันก็จะกลายเป็นเรื่องยากในการควบคุมหุบเขา
“ดูเหมือนสิ่งที่คนเหล่านั้นทํานายเอาไว้เมื่อหลายปีก่อนจะเกิดขึ้นในช่วงเวลา ที่ฉันเป็นผู้นํา” เมี่ยวซีเหอยื่นมือขวาของเขาออกไป
เขาพยายามอย่างหนักเพื่อต่อต้านคลื่นลมและรักษาหุบเขาให้คงอยู่เหมือน เดิม แต่คลื่นลมในครั้งนี้รุนแรงเกินไปและไม่มีทางที่จะหยุดยั้งมันได้ สิ่งที่เขาพยายามปกป้องและรักษากําลังค่อยๆเปลี่ยนแปลงไป
เมื่อพวกเขากลับมาถึงหุบเขา ทั้งสองก็เห็นคนนอกกลุ่มหนึ่ง เป็นชายสี่และ หญิงสอง พวกเขามีกระเป๋าเป้สะพายอยู่ด้านหลัง พวกเขามองดูสรวงสวรรค์ที่ หลบซ่อนตัวจากโลกภายนอกด้วยความยินดีและความอยากรู้อยากเห็น
“เห็นนั่นไหม? พวกเขามาอีกแล้ว” เมี่ยวซีเหอชี้ไปทางคนกลุ่มนั้น
“พาพวกเขามาหาฉันที” เมี่ยวซีเหอพูด
“ครับ ผู้นํา” ชายวัยกลางคนพูด
คนทั้งหกกําลังนั่งอยู่ภายในบ้านไม้หลังหนึ่ง ซึ่งเป็นบ้านของเมี่ยวซีเหอเอง พวกเขามองไปรอบๆอย่างสนอกสนใจ ภายในบ้านไม้เก่าๆมีพื้นถูกยกสูงเพื่อให้เป็นที่นั่ง ชายวัยกลางคนคอยจับตามองพวกเขาไม่ให้คลาดสายตา มีข่าวลือ เกี่ยวกับผู้นําของสรวงสวรรค์แห่งนี้ถูกโพสลงในอินเตอร์เนต พวกเขายกให้เขา เป็นคนที่ใช้กฎเกณฑ์บังคับให้ชาวบ้านต้องตัดขาดกับโลกภายนอก และยังพูด กันว่า เขาเป็นเจ้าแห่งหุบเขาแห่งนี้และไม่ใช่คนดี
“สวัสดี ยินดีต้อนรับสู่หุบเขา” เมี่ยวซีเหอยิ้มพูด
“ไม่เห็นเหมือนในข่าวลือเลยสักนิด” คนนอกทั้งหกต่างมองหน้ากัน ในความเป็นจริง พวกเขารู้สึกกลัวเมื่อต้องเข้ามาอยู่ภายในบ้านหลังนี้
“ขอบคุณสําหรับการต้อนรับครับ/ค่ะ ผู้นํา
“พวกคุณรู้จักผมด้วยเหรอ?”
“ในอินเตอร์เนตมีข่าวลือเกี่ยวกับคุณเยอะมาก”
“จริงเหรอ? แล้วข่าวลือมีอะไรบ้างล่ะ?” เมี่ยวซีเหอยิ้มถาม
ชายที่เป็นผู้นํากลุ่มยิ้มและพูดว่า “ไม่มีเรื่องดีเลยสักเรื่องครับ”
“บอกตามตรง ผมไม่ต้อนรับคนนอกอย่างพวกคุณเลย”
“พอจะบอกพวกเราได้ไหมครับว่าทําไม? ที่นี่เป็นที่ที่ดีมาก ยิ่งมีคนเข้ามามากเท่าไหร่ พวกเขาก็จะนําพารายได้จํานวนมากเข้ามาด้วย ยิ่งไปกว่านั้น ถนนทาง เข้าออกที่นี่ก็แย่มาก ผมคิดว่า มันคงไม่สะดวกสําหรับพวกคุณด้วยเหมือนกันจริงไหมครับ?”
“เราไม่ได้ต้องการเงินมากมายอะไร” เมี่ยวซีเหอพูด “พวกเราใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ อย่างพอเพียง ถนนทางเข้าออกก็ไม่ใช่ปัญหาสําหรับพวกเรา เพราะเราไม่ค่อย ได้ออกไปด้านนอกอยู่แล้ว พวกคุณอาจจะคิดว่า การใช้ชีวิตแบบนี้เป็นการปิดกั้น ตัวเองจากโลกภายนอกและล้าหลังเกินไป แต่เราพอใจที่จะอยู่แบบนี้ พวกคุณ ลองไปถามคนอื่นดูก็ได้ถ้าไม่เชื่อที่ผมพูด ถึงผมจะไม่สามารถรับรองได้ว่าทุกคน จะตอบแบบเดียวกัน แต่อย่างน้อยก็มี 95%ของคนทั้งหมดที่เห็นด้วยกับผม”
“พวกคุณอยากใช้ชีวิตแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆจริงเหรอ?”
“แล้วทําไมพวกคุณถึงมาที่นี่ล่ะ? ทําไมพวกคุณถึงคิดว่าที่นี่เป็นสถานที่ที่ดี?นั่นไม่ใช่เพราะมันเป็นสรวงสวรรค์ที่ปิดกั้นตัวเองจากโลกภายนอกหรอกเหรอ?”
“ใช่ ที่นี่ไม่มีโรงงาน ไม่มีรถ ไม่มีควันหรือฝุ่น และไม่มีเสียงดังรบกวน ที่นี่มีแต่ ธรรมชาติที่แท้จริง มันเป็นสถานที่ที่น่าประทับใจมาก”
“พวกคุณคุ้นชินกับชีวิตในเมืองใหญ่ พวกคุณก็เลยรู้สึกประทับใจกับหุบเขา ของพวกเรา” เมี่ยวซีเหอพูด “พวกคุณชื่นชอบและชื่นชมที่นี่มาก แต่พวกคุณ ลองคิดดูดีดี ถ้าพวกเราเปิดสถานที่แห่งนี้และสร้างถนนทางเข้ามาที่นี่ พวกเรา ยังจะสามารถมีวิถีชีวิตแบบเดิมได้อยู่รึเปล่า? ผมเดาได้เลยว่า ในเวลาไม่กี่ปีต่อ จากนี้ ทุกอย่างจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง จะมีทั้งโรงงาน รถ ผับบาร์ ร้านอาหาร และอีกหลายๆอย่าง มันจะไม่ใช่สถานที่ที่งดงามเต็มไปด้วยธรรมชาติอีกต่อไปและมันจะกลายเป็นเหมือนกันเมืองเก่าลี่เจียง”
“แล้วคุณเคยออกไปข้างนอกมาก่อนไหมครับ?”
“เคยสิ ผมเคยไปมาแล้วหลายที่” เมี่ยวซีเหอพูด<