ตอนที่ 436 : พริกขี้หนูตัวแสบ!

Black Tech Internet Cafe System

ตอนที่ 436 : พริกขี้หนูตัวแสบ!

 

สํานักสวรรค์ในเวลานี้สามารถรับรองผู้ชมได้จํานวนมากแต่ไม่รับประกันความปลอดภัย แต่โชคดีที่มีโทเค็นที่สามารถปลดปล่อยพลังจิตวิญญาณที่มีพลังอันยิ่งใหญ่คอยปกป้องผู้ฝึกฝนของสํานักและเรือจิตวิญญาณที่ลาดตระเวนอยู่

 

แม้ว่าพื้นที่ทดสอบจะเป็นเพียงแค่พื้นที่ส่วนหนึ่งของพื้นที่ในภูเขาเท่านั้น แต่จัดว่าพื้นที่ตรงนี้นั้นกว้างใหญ่มาก และเรื่องก็ไม่สามารถติดตามทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในพื้นที่การสอบได้อย่างไรก็ตามโทเค็นจิตวิญญาณมีหน้าที่ส่งสัญญาณเมื่อเกิดภัยอันตรายและส่งต่อไปยังผู้อาวุโวในสํานัก

 

แน่นอนว่าโทเค็นไม่ได้รับประกันความปลอดภัย ผู้เข้าร่วมอาจจะเสียชีวิตได้ในขณะทําการสอบหรืออาจจะมีอะไรรบกวนระหว่างที่โทเค็นกําลังทํางาน ทุกอย่างเกิดขึ้นได้ตลอด

 

ขณะเดียวกัน ณ ภูเขาเมฆหมอกนอกสํานักสวรรค์ เจียงเสี่ยวหยูกําลังทําการถ่ายถอดสดบรรยากาศโดยรอบๆ และโพสต์ข้อความพร้อมรูปบนคิวคิว อ้อเธอพกมันฝรั่งไว้ที่ตัวหนึ่งถุง

 

“ พี่หลันเหลียว ท่านเอาอีกมั้ย?” เจียงเสี่ยวหยูแกะมันฝรั่งออก เธอส่งถุงไปให้หลี่หลันเหลียวลองชิม “ตอนนี้หัวหน้าทําให้ข้าหยุดกินมันไม่ได้”

 

หลี่หลั่นเหลียวชิมและกล่าวด้วยความเพลิดเพลินว่า “มันอร่อยมาก! ทําไมที่ร้านเราไม่มีแบบนี้”

 

“ข้าเปิดได้มาจากกล่องของขวัญในงานเลี้ยงปีใหม่” เจียงเสี่ยวหยูบ่นว่าเะอแอบโชคร้ายหากเทียบกับคนอื่น เช่นคนอื่นได้ของเล่นหรือรูน หลี่หลั่นเหลียวมองด้วยความพอใจ เธอไม่เคยเปิดของขวัญเลย “แต่นี่เป็นของใหม่ของที่ร้านยังไม่เคยวางขาย!” เสี่ยวหยูเอ่ย

 

ขณะเดียวกันมีเสียงแผ่วดูผิดปกติดังมาจากสถานที่ที่ซ่อนอยู่ใกล้พวกเขา

 

“ดู!” ผู้ฝึกฝนชุดดําดึงใบไม้ที่อยู่ตรงไหนเขามาบดบัง ข้างหน้าเขามีเด็กผู้หญิงตัวเล็ฎกและข้างๆ เธอคือหญิงสาวในชุดสีน้ําเงินที่กําลังง่วนอยู่กับการกินมันฝรั่งโดยไม่สนใจสิ่งรอบข้าง

 

“มีกันแค่นี้หรอ?” ชายหนุ่มชุดดําอีกคนพูดราวกับพบสิ่งแปลกใหม่ “พวกเธอมองไม่เห็นเรา”

 

เขากวักมือเรียกสหายของเขา “มานี่ มาตรงนี้”

 

“ผู้หญิงคนนั้น ดูเหมือนจะเป็นองค์หญิงตัวน้อยของตระกูลเจียงใช่มั้ย?” ชายหนุ่ม ชุดเหลืองยืนตัวแข็งเขาว่าเขาจําไม่ผิด “พวกเราจะทําให้ตระกูลเจียงโกรธมากแน่หากทําร้าย เธอ”

 

“เจ้ากลัว? เราจะชิงสมบัติจากเธอก็เท่านั้น ส่วนเรื่องโจมตีถ้าเจ้ากลัวก็เก็บกระเป๋า กลับบ้านไปซะ”

 

“ข้าลองดูรอบๆ แล้ว ไม่มีอะไรดีเลยบริเวณนี้ แต่ข้าแน่ใจว่าองค์หญิงน้อยคนนี้ต้องเจอขอดีไปหมดแล้วแร่”

 

“ท่านพูดถูก!” ในกลุ่มคนประมาณสิบคนพูดโดยพร้อมเพรียง “จัดการกันเลยดีกว่า!”

 

ปรมาจารย์จากกองกําลังหลักหลายคนก็ได้เข้าร่วมการสอบในปีนี้เช่นกัน แม้ว่าพวกเขาจะมีอายุที่มากขึ้นแล้ว ที่นี่ไม่ได้จํากัดอายุหรือโอกาส

 

เป็นเรื่องยากสําหรับผู้ฝึกฝนที่มีความแข็งแกร่งปานกลางที่จะสามารถเอาตัวรอดในที่ที่เต็มไปด้วยพลังจิตวิญญาณและข้อจํากัดในการมองหาสมบัติทางธรรมชาติที่จําเป็นต้องใช้พลังบางอย่างเพื่อเบิกทาง

 

สําหรับผู้เข้าร่วมการสอบที่มีแนวคิดและมีเล่ห์เหลี่ยมพวกเขามั้งจะเกาะติดกับอาจารย์หรือเข้าร่วมกลุ่มกับคนอื่นๆ เมื่อตกอยู่ในอันตรายพวกเขาจะสามารถจัดการกับมันได้อย่าวสบายๆและสร้างความเสียหายให้กับตัวเองน้อยลง

 

กลุ่มผู้ฝึกฝนนับสิบคนเห็นได้ชัดว่าพวกเขาเลือกที่จะใช้กําลังร่วมกันให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เวลาเดียวกันคนสิบคนในตอนนี้กําลังจะโจมตีสองคน ใช่! เพราะโอกาสชนะนั้นมีมากกว่า

 

“พี่หวาง! พวกท่านตั้งเกราะจิตวิญญาณและตาข่ายดักพลังของพวกเรา” ผู้ฝึกฝนชุด ดํากล่าวด้วยเสียงต่ํา“เดี๋ยวข้าจะให้เสียงสัญญาณเพื่อทําลายจิตวิญญาณที่กําลังปกป้องเธอ”

 

“เข้าใจแล้วศิษย์พี่โม! ท่านใช้เอาเข็มพิษมาด้วยหรอ” ชายชุดเหลืองเลียริมฝีปาก “ข้าละสงสัยเสียจริงว่าพวกเธอกําลังกินอะไร ดูท่าทางเพลิดเพลินข้าละอยากลอง!”

 

“ถูกต้อง! เดี๋ยวเราก็จะได้ลิ้มรสมันแล้ว!” ผู้ฝึกฝนชุดดํายิ้มเยาะ เขาปิดบังตัวจนและก้าวไปข้างหน้าด้วยความเชื่องช้า

 

เสียงนกหวีดทุ่งเจาะอากาศเข้ามา

 

“ไป!”

 

ตาข่ายสีฟ้าอ่อนขนาดใหญ่ล้อมรอบเจียงเสี่ยวหยูและหลี่หลันเหลียว!

 

ตาข่ายแสงแผ่ไปยังส่วนลึกของภูเขาที่อยู่รอบตัว ภายใต้ตะข่ายนี้แก่นจิตวิญญาณของหลี่เหลียวและเสียวหยูหยุดหมุนเวียน เพียงเสียววิเข็มเล็กสีดําพุ่งเข้าหาพวกเธอพร้อมเสียงผิวปาก

 

ดูเหมือนกว่าเจียงเสี่ยวหยูกําลังมีนงงเกินกว่าจะตอบโต้

 

“ไป!” ผู้ฝึกฝนชุดดําดูพึงพอใจ “พวกเราใกล้แล้ว”

 

ตามคําสั่งของเขาผู้ฝึกฝนเกือบสิบคนที่อยู่ในชุดคลุมสีเหลืองสลับดําได้คลายคาถาบังตาและปรากฏตัวออกมา

 

ขณะเดียวกันเจียงเสี่ยวหยูเห็นพวกเขาเข้าแล้ว ในมือของพวกเขาถือโลหะจิตวิญญาณแปลกๆมีทั้งสีดําและสีขาว

 

ผู้ฝึกฝนชุดดํารู้สึกว่าเธอไม่ได้เปิดใช้พลังจิตวิญญาณใดๆ

 

“เธออ่อนแอกว่าที่ข้าคาดคิดไว้ด้วยซ้ํา!” ผู้ฝึกฝนชุดดําเอ่ย

 

สิ่งของในมือพวกเขาลุกโชน

 

แกรัก! แกรัก! ผู้ฝึกฝนนับสิบคนสะดุ้งโหยง สิ่งที่อยู่ในมือล่วงหล่นโดยไม่ได้ตั้งตัว

 

“เราได้ระงับพลังของเจ้าแล้ว แต่มันคืออะไร?”

 

เจียงเสี่ยวหยูเปลี่ยนสีหน้าและพึมพําว่า “ปืนพวกนี้ไม่ได้เรื่อง เทียบกับแก่นจิตวิญญาณของข้าแล้ว อ่อนแอเสียจริง!”

 

“อั้ก!” ผู้ฝึกฝฝนชุดดํากระอักเลือดออกมาไม่แน่ใจว่าเกิดจากความโกรธหรือถูกยิงโดยลูกหลง

 

หลี่หลันเหลียวยืนนิ่งเงียบเธอพูดไม่ออก

 

ณ เมืองจิวหัวที่ห่างออกไป หลี่เฮาลันกําลังอธิบายเรื่องราวของเขาแก่ผู้ชมกระสุนสองสามนัดที่สลักด้วยพลังจิตวิญญาณสีฟ้าอ่อน “หลังจากทดลองหลายครั้งเราได้ผลิตกระสุดประเภทที่แปด“กระสุนเจาะวิญญาณ” ”

 

มือของเขามีกระสุนลูกหนึ่งเขากล่าวต่อว่า “พวกมันมีรูปร่างเหมือนกระสุนทั่วไป รูปแบบของมันกําเนิดจากเรื่องเดวิลเมคราบข้อแตกต่างคือเราใส่พลังจิตวิญญาณระดับสูงลงไปเพื่อทําลายและปกป้องคาถาเช่นกัน”

 

“ท่านได้ทําการทดสอบหรือยัง?”

 

“พวกเราทอดสอบแล้วที่สนามยิงปืนแต่ยังไม่เคยนําออกไปใช้ข้างนอก” หลี่เฮาลันกล่าว “เจ้าของร้านพาเสี่ยวเย้มาที่นี่ครั้งล่าสุดเธอเองก็มาขอซื้อกระสุนนี้ไปข้าเองก็สงสัยเหมือนกันว่ามันมีป ระสิทธิภาพแค่ไหน”

 

“อั้ก!” ผู้ฝึกฝนชุดดํากระอักเลือดอีกครั้งแล้วสลบไป ใช่ เขากินลูกปืนเข้าไป

 

ผู้ฝึกฝนที่ได้สติก้มหน้าทันควัน

 

เสี่ยวหยูส่งภาพหน้าจอไปยังกลุ่มพูดคุยทันที “ข้าเจ๋งใช่มั้ยละ? ข้าล้มผู้คนได้ แถมหนึ่งในนั้นเป็นลมไปแล้ว”

 

“สุดยอด!”

 

“ทรงพลังมาก!”

 

“เสี่ยวหยูชนะ!”

 

จากนั้นเธอก็ทําการปล้นพวกเขาด้วยความอารมณ์ดี เธอหยิบเอาทุกอย่างที่พวกเขามี “ฮี! คิดจะปล้นเรอะ ข้าโดนปล้นทุกวันในตํานานเมียร์ 2”

 

“อ๊ะ! สมุนไพรทางจิตวิญญาณ” เจียงเสี่ยวหยูหยิบสมุนไพรอันล้ําค่าและสิ่งของขึ้นมา พวกเขากําลังรู้สึกอยากร้องไห้ (จะมาปล้นเขาแต่กลับดันโดนปล้นซะเอง) พวกเขาสงสัยว่าสิ่งประดิษฐ์ทางจิตวิญญาณนี้มันคืออะไรทําไมถึงสัมผัสไม่ได้ถึงพลังของมันแม้ว่าจะมีพลังมาก

 

พวกเขาจะรอดเสื้อมือไปได้อย่างไร?

 

พวกเขาปล่อยโทเค็นช่วยเหลือทันที!