บทที่ 363 พบสมบัติสุดวิเศษ

มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake

“ถูกแล้ว มังกรไร้ร่างในบรรดาสายเลือดมังกร คือตระกูลที่มีความโลภมากที่สุด ตราบใดที่รู้ว่าสมบัติอยู่ที่ไหน ก็อดไม่ได้ที่จะขโมย เนื่องจากความสามารถตามธรรมชาติของพวกมันในการควบคุมพื้นที่ พวกมันจึงไม่ค่อยถูกจับได้” จักรพรรดิยุทธ์เสวียนดำกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“ถ้าเช่นนั้น แท่นวิภาไร้เขตที่จริงแล้วมันคืออะไรกันแน่?” หลัวซิวถามด้วยความสงสัย

“สมบัติวิเศษพรสวรรค์!” จักรพรรดิยุทธ์เสวียนดำอุทานออกมา “สมบัติวิเศษที่เกิดจากสวรรค์และโลก ดีกว่าวิชากลั่นสมบัติกลั่นสมบัติวิเศษออกมามาก พวกเราสำนักไท่เสวียนสามารถเปิดสถานที่เลี้ยงอสูรอย่างแดนนานาอสูรได้ ก็ด้วยการพึ่งพาสิ่งนี้สมบัติวิเศษพรสวรรค์”

“ในโลกใบนี้ อาวุธ ของขลัง ยา หรือค่ายกลที่แข็งแกร่งที่สุดต่างก็ไม่ใช่สิ่งที่คนกลั่นขึ้นมา แต่กำเนิดมาจากสวรรค์และโลก บ้างเกิดจากพลังแห่งเจ้าสมบัติ บ้างเกิดจากพลังแห่งกฎ บ้างเกิดขึ้นมาจากต้นกำเนิดของกฎดั้งเดิม… นี่คือที่มาของสมบัติวิเศษพรสวรรค์”

คำพูดของจักรพรรดิยุทธ์เสวียนดำนี้ ได้เปิดหูเปิดตาให้กับหลัวซิวอย่างแท้จริง มันทำให้เขานึกถึงลูกแก้วความเป็นตายของตัวเอง เป็นสมบัติที่เกิดจากต้นกำเนิดของกฎดั้งเดิม!

ใจกลางตัวหยั่งรู้ของหลงหมิงนั้น วิชาสยบวิญญาณยังไม่ได้ถูกลบออกไป ดังนั้นหลัวซิวสามารถรับรู้ได้ผ่านวิชาสยบวิญญาณ ถึงสถานที่ที่แน่นอนของหลงหมิง

ท่ามกลางการรับรู้ของเขา หลงหมิงไม่ได้อยู่ที่เมืองโม่โหลว และพวกเขาอยู่ห่างจากกันอย่างน้อยหลายพันลี้

“ไอ้สารเลว ออกไปไกลขนาดนี้คิดจะทำอะไรกันแน่?” หลัวซิวหน้านิ่วคิ้วขมวด

“ที่จริงแล้ว ถ้าลองคิดดูในอีกมุมหนึ่ง บางทีเจ้าน่าจะดีใจเสียมากกว่า” จักรพรรดิยุทธ์เสวียนดำอยู่ดีดีก็ยิ้มขึ้นมา。

“หมายความว่าเช่นไร?”

“ด้วยความโลภของมังกรไร้ร่าง หากไม่มีสมบัติใด มันจะไปไกลขนาดนั้นโดยไม่มีเหตุผลหรือ?”

ได้ยินอย่างนี้ หลัวซิวก็สายตาลุกวาว ด้วยความเข้าใจของเขา หลงหมิงเป็นคนที่ไม่มีผลประโยชน์ไม่มีทางกระเตื้องเป็นแน่

“ภายในแก๊งมีแผนที่ของสมาคมเป่ยเซี๋ยหรือไม่?” หลัวซิวถามไปยังหญิงร่างสูงโปร่ง

“ไม่มีแผนที่รายละเอียด มีเพียงแผนที่คร่าว ๆ แต่มีแผนที่โดยละเอียดของเมืองโม่โหลว” หญิงร่างสูงโปร่งตอบ

“ขอแผนที่โดยละเอียดของเมืองโม่โหลวให้ข้าสักแผ่น และแผนที่คร่าว ๆ ของสมาคมเป่ยเซี๋ยด้วย” หลัวซิวพูด

ผ่านไปไม่นาน หญิงร่างสูงโปร่งก็นำม้วนหยกสองม้วนมาให้ สำหรับจักรพรรดิยุทธ์หัวหน้าแก๊งของเมืองโม่โหลว หลัวซิวแต่ตั้งแต่ต้นจนจบ พวกเขาไม่เคยเจอหน้ากันสักครั้ง

ท้ายที่สุดแล้ว ไม่มีมิตรภาพระหว่างคนทั้งสอง หากไม่มีผลประโยชน์ส่วนตัวเข้ามาเกี่ยวข้อง ก็จะไม่มีการข้องเกี่ยวกันระหว่างคนทั้งสอง ซึ่งนั่นก็เป็นเรื่องที่พบได้ทั่วไป

เมืองโม่โหลวครอบคลุมพื้นที่เกือบแสนลี้ หลัวซิวใช้จุดศูนย์กลางของเมืองโม่โหลว เพื่อรับรู้เมืองที่คร่าว ๆ ที่หลงหมิงอยู่ในตอนนี้ ตั้งอยู่ใกล้ทะเลสาบน้ำลึกซึ่งห่างออกไปหลายพันลี้ เมื่อได้รับม้วนหยกแผนที่ หลัวซิวก็ออกจากกลางเมือง กระโดดขึ้นฟ้า มุ่งหน้าตรงไปที่ทะเลสาบน้ำลึก

ส่วนเหยียนเยว่เอ๋อร์ที่ยังอยู่ในอาการสลบไสล ก็ถูกเขาตั้งรกรากชั่วคราวอยู่ที่องค์กรนักล่ายุทธ์แห่งเมืองโม่โหลว ถึงอย่างไรนางก็เสียเลือดมากเกินไป ยังไม่รู้ว่าเมื่อไรจะสามารถฟื้นขึ้นมาได้

……

บริเวณโดยรอบของทะเลสาบน้ำลึกนั้นกว้างมาก ยืนอยู่บนฝั่ง ไม่มีที่สิ้นสุดเหมือนมหาสมุทรเล็ก ๆ

ในทะเลสาบ มีหลายเกาะและมีอสูรจำนวนมากอาศัยอยู่ในน้ำ เป็นสถานที่ที่น่ากลัวในเมืองโม่โหลว

หลัวซิวใช้เวลาประมาณหนึ่งวัน ก็ได้มาถึงบริเวณใกล้เคียงของทะเลสาบน้ำลึก การรับรู้ของวิชาสยบวิญญาณก็ยิ่งชัดเจนขึ้น

อีกสองชั่วโมงผ่านไป หลัวซิวพบเกาะในทะเลสาบและขมวดคิ้วเล็กน้อย

บนเกาะเขียวขจีแต่กลับเงียบงันอย่างประหลาด

หลัวซิวไม่ได้ก้าวเข้ามาในเกาะนี้ในทันที แต่ค่อย ๆ สำรวจด้วยตัวสำนึก ในขณะเดียวกันก็ส่งต่อสถานการณ์ที่ตรวจพบไปยังวิญญาณของจักรพรรดิยุทธ์เสวียนดำผ่านตัวสำนึก

“ไอ้หนุ่ม เกาะแห่งนี้ไม่ใช่ง่าย ๆ เลย ด้านในทีค่ายกลพรสวรรค์อยู่!” จักรพรรดิยุทธ์เสวียนดำกล่าวโดยฉับพลัน

“ค่ายกลพรสวรรค์?” ใบหน้าของหลัวซิวเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน

ตามที่จักรพรรดิยุทธ์เสวียนดำพูดมานั้น ที่เรียกว่าค่ายกลพรสวรรค์ เป็นค่ายกลซึ่งเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ในสมัยอดีตกาลอันไกลโพ้น มรดกของค่ายกล นอกจากนี้ยังเป็นการตรัสรู้ที่เหล่าปราชญ์ได้ผ่านค่ายกลพรสวรรค์ ซึ่งสร้างวิถีของค่ายกล

“ไอ้หนุ่ม เจ้าไม่ต้องตื่นตระหนกไป ค่ายกลพรสวรรค์มีทั้งระดับสูงและต่ำ ระดับของค่ายกลพรสวรรค์นี้ไม่ได้สูงมาก เทียบเท่ากับค่ายกลระดับห้า” จักรพรรดิยุทธ์เสวียนดำได้เพิ่มอีกประโยค

“แต่เจ้าก็อย่าได้วางใจง่าย ๆ ค่ายกลระดับห้าที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาตินั้น พลังจะแข็งแกร่งกว่าค่ายกลระดับห้าทั่วไปมากทีเดียว อีกทั้งค่ายกลพรสวรรค์ยังไม่สามารถทำลายได้ ทำได้เพียงใช้พลังของตนเองเพื่อฝืนทำให้แตกออกเท่านั้น”

ทำลายค่ายกลกับทำให้ค่ายกลแตกออก ดูเหมือนแตกต่างกันเพียงแค่คำพูด แต่ความจริงแล้วแตกต่างกันอย่างสุดขั้ว

ได้ยินว่าเป็นเพียงแค่ค่ายกลพรสวรรค์ระดับห้า หลัวซิวก็โล่งใจเล็กน้อย เพราะว่าค่ายกลที่ธรรมชาติสรรสร้างขึ้นนั้น จำเป็นต้องมีเงื่อนไขพิเศษมากมาย และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่เขาได้พบเจอ

และมีบันทึกที่คล้ายกันในหนังสือโบราณ โดยปกติสถานที่ที่มีค่ายกลธรรมชาติปรากฏขึ้นมานั้น มักจะมาพร้อมขุมทรัพย์ การปรากฏของค่ายกลธรรมชาติ ก็เพียงเพื่อปกป้องสมบัติสักชิ้น

ร่างกายซวนเซ หลัวซิวราวกับกลายเป็นมังกรเขียว และตกลงไปบนเกาะในชั่วพริบตา

เกาะทั้งเกาะถูกห่อหุ้มไปด้วยค่ายกลธรรมชาติ วินาทีที่หลัวซิวเข้าไปในเกาะ ก็สามารถรับรู้ได้ถึงพลังของค่ายกลธรรมชาติ ที่ห่อหุ้มตัวเขาไว้

ภายใต้อานุภาพแห่งอำนาจนี้ เขารู้สึกว่าพลังชีวิตของเขากำลังจะเคลื่อนตัว ดูเหมือนว่ากำลังจะบินออกจากร่างกายและถูกลิดรอนไป

“ค่ายกลดูดกลืนพลังชีวิตสรรพสิ่ง?” หลัวซิวหรี่ตาลงเล็กน้อย ในตอนนี้เขาสามารถสัมผัสได้ถึงลมหายใจแห่งความตาย

“พรึบ!”

ลูกแก้วความเป็นตายภายในตัวหยั่งรู้ส่องแสงเปล่งประกาย ความรู้สึกที่ห่อหุ้มเขา ราวกับว่าพลังของเขาถูกดึงออกไปโดยการสกัด หายไปอย่างไร้ร่องรอยในทันที
เขาคือผู้สืบทอดกฎวัฏจักรชีวิตดั้งเดิม ด้วยเจตจำนงของกฎดั้งเดิม แน่นอนว่าจะไม่ได้รับผลกระทบหรือแรงกดดันจากพลังแห่งความเป็นตาย

นอกจากนี้ค่ายกลธรรมชาติที่ดูดกลืนพลังชีวิตสรรพสิ่ง จัดอยู่ในพลังแห่งความตาย อย่างไรก็ไม่สามารถส่งผลใดๆกับหลัวซิวที่มีร่างกายเป็นหนึ่งเดียวกับลูกแก้วความเป็นตาย

ด้วยกระแสสัมผัสของวิชาสยบวิญญาณ หลัวซิวสามารถมั่นใจได้ว่า หลงหมิงอยู่บนเกาะแห่งนี้

หลัวซิวกลั้นหายใจ ซ่อนรูปร่างของตนเองด้วยความระมัดระวัง จากนั้นจึงตามกระแสสัมผัสของวิชาสยบวิญญาณเดินทางเข้าสู่ส่วนลึกของเกาะอย่างรวดเร็ว

“ปัง!”

“ให้ตาย!”

ไม่นานหลังจากที่หลัวซิวก้าวเท้าบนเกาะ ก็ได้ยินเสียงการต่อสู้และเสียงด่าทอดังออกมาจากส่วนลึกของเกาะ

เพียงชั่วครู่ต่อมา หลัวซิวพบหุบเขาแห่งหนึ่ง นัยน์ตาคู่นั้นจ้องมองเข้าไปในหุบเขาในหุบเขามีนักยุทธ์สามคนกำลังต่อสู้กันอยู่ มีศพสองศพนอนอยู่บนพื้น

“เจ้าก็มาด้วยหรือ?”

สถานที่ที่ห่างจากการต่อสู้ของนักยุทธ์ทั้งสามหลายร้อยเมตร ร่างของหลงหมิงค่อย ๆ ปรากฏขึ้นและยิ้มไปทางหลัวซิว

ในตัวหยั่งรู้ของเขามีวิชาสยบวิญญาณที่หลัวซิวฝังไว้ สามารถรับรู้ถึงกันได้ ดังนั้นเมื่อตอนที่หลัวซิวเข้ามาในเกาะแห่งนี้ เขาก็รับรู้ได้ถึงลมปราณของหลัวซิวผ่านกระแสสัมผัส

“นี่มันอะไรกัน?” หลัวซิวเอ่ยถาม

“เหย ๆ แน่นอนว่าต้องมีสมบัติชั้นเยี่ยม” หลงหมิงรี่ตาลง อดไม่ได้ที่จะถูมือไปด้วยระหว่างที่พูด

“เจ้าก็คงจะพบแล้ว ที่เกาะแห่งนี้มีค่ายกลธรรมชาติอยู่ ตามปกติสถานที่ที่มีค่ายกลธรรมชาติ ต่างก็มีสมบัติอยู่”

“รู้หรือไม่ว่าเป็นสมบัติใด?” หลัวซิวถามอีกครั้ง

“ยังไม่ชัด แต่น่าจะอยู่ในหุบเขา เดิมทีข้าวางแผนที่จะรอจนกว่าพวกเขาจะฆ่ากันเอง แล้วข้าค่อยลงมือ” หลงหมิงมุ่ยปากตอบ