ตอนที่ 1508

Monster Paradise

สติทช์ส่งเสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดขณะที่อีกสองหัวมันระเบิด

 

ด้านนอกแดนลับ กลุ่มเทพสวรรค์ประหลาดใจ พวกเขาอยากรู้ว่าหลินฮวงทำอะไรกับสติทช์ แต่พวกเขาไม่สามารถเห็นอะไรผ่านกรงมีดบินพลังจิตได้ พวกเขาทำได้แค่ใช้จินตนาการของตัวเอง

 

“เสียงกรีดร้องบาดใจนี้ฟังดูเหมือนมันกำลังบาดเจ็บ”

“เขาทำอะไร สติทช์ถึงได้กรีดร้องอย่างน่าสังเวชขนาดนี้?”

“เขาเอาอะไรยัดเข้าทวารหนักของสติทช์หรือเปล่า?”

“สติทช์มีทวารหนักด้วยหรือ?!”

 

ด้วยการทำลายอีกสองหัว สติทช์จึงเสียความสามารถไปมาก

 

ปีกมันเริ่มหดทีละปีก และร่างมันก็ทรุดลงกับพื้น มีแค่ปีกไม่กี่ปีกที่ยังรักษาความสามารถป้องกันไว้ แต่พวกมันไม่สามารถกระพือหรือบินได้อีก

 

เห็นได้ชัดว่าหัวที่ควบคุมความสามารถการบินของสติทช์โดนทำลายไปแล้ว

 

นอกจากนี้ หลินฮวงยังสังเกตเห็นว่าพลังเทวะมันกลายเป็นไม่เสถียร

 

ทุกครั้งที่การโจมตีของเขาโดนสติทช์ พลังเทวะที่มันใส่เพื่อป้องกันตัวมันนั้นต่างออกไป

 

บางครั้ง พลังเทวะมันจะถูกทำลายโดยมีดบินพลังจิตเสียง่ายๆ ขณะที่บางคน มันจะป้องกันไว้ได้

 

ด้วยการสูญเสียความสามารถบิน ความสามารถหลบของสติทช์จึงลดลงถึงขีดสุด แม้การโจมตีมีดบินพลังจิตของหลินฮวงจะไม่มีอัตราความสำเร็จเต็มร้อย มันก็เกิน 95% ดังนั้น สติทช์จึงไม่สามารถหลบการโจมตีส่วนใหญ่ได้

 

อีกด้านหนึ่ง การสูญเสียการควบคุมพลังเทวะของสติทช์ยังทำให้ระบบป้องกันมันเริ่มไม่มั่นคง

 

การโจมตีด้วยมีดบินของหลินฮวงสร้างความเสียหายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

การเพิ่มขึ้นของปัจจัยต่างๆทำให้โอกาสชนะของหลินฮวงเพิ่มขึ้น

 

ภายในเวลาไม่ถึงสองนาที มีดบินของหลินฮวงก็ทำลายการป้องกันของสติทช์อีกครั้ง และแทงผ่านหัวอีกหัว

 

ด้วยการทำลายหัวนี้ ห่วงโซ่ลำดับเทพและพลังกฏเทพในตัวสติทช์จึงเริ่มยุ่งเหยิง

 

เมื่อรู้ว่ามันกำลังจนตรอก มันก็เริ่มไม่สนใจที่จะป้องกันมีดบินพลังจิต พยายามฝืนฝ่าพื้นที่วงกลมที่สร้างโดยมีดบินพลังจิตและโจมตีหลินฮวงในระยะประชิดแทน

 

แต่ทว่า หลินฮวงมองแผนการมันออก และก็ไม่มีทางที่เขาจะเต็มใจปล่อยให้มันทำแบบนั้น

 

ไม่ว่ามันจะเคลื่อนตัวไปทางไหน หลินฮวงก็จะเร่งมีดบินพลังจิตทางนั้นด้วยพลังของห่วงโซ่ลำดับเทพสองสาย ผลักมันกลับไป

 

ทุกครั้งที่มันพยายามฝืนผ่าน มันจะต้องโดนผลักกลับมา เมื่อสัมผัสว่ามันเหลือพลังเทวะไม่มาก สติทช์ก็กู่ร้องด้วยความสิ้นหวัง

 

ร่างของหลินฮวงลอยอยู่ในอากาศนอกรัศมีกรงมีดบินพลังจิตและยังคงรอให้การต่อสู้จบอย่างไม่แยแส

 

เขาไม่รู้สึกเห็นใจมันเลย เหนือสิ่งอื่นใด มันคือวิญญาณร้ายจากหุบเหว

 

อย่างไรก็ตาม เขายังยอมรับในความสามารถของมัน

 

ด้านนอกแดนลับ เทพสวรรค์ได้ยินเสียงร้องโหยหวนของสติทช์อีกครั้ง แต่ตอนนี้พวกเขากลับรู้สึกกชินแล้ว

 

ไม่รวมสิบนาาทีแรก มันเพิ่งผ่านมาประมาณ 20 นาทีตั้งแต่เริ่มสู้จริง หลังสติทช์ติดในกรงมีดบินพลังจิต พวกเขาก็ไม่รู้แล้วว่ามันส่งเสียงร้องโหยหวนมากี่รอบ

 

เสียงร้องทุกครั้งฟังดูน่าสังเวชอย่างที่สุด

 

“แม้ข้าจะไม่รู้ว่าซิวมู่ทำอะไร ข้าก็รู้สึกว่าสติทช์กำลังจะแพ้”

 

“ข้ารู้สึกเหมือนกัน เสียงร้องของมันน่าหดหู่มาก”

“เสียงนี้ทำให้ข้านึกถึงวัยเด็กของข้า และฝูงหมูในโรงฆ่าสัตว์ที่ยังดิ้นรนแม้จะถูกมัดและจับแขวน..”

“เจ้าทำให้ข้านึกได้ว่าข้าไม่ได้กินเนื้อหมูมากว่าแปดพันปีแล้ว เมื่อข้าเสร็จงานนี้ ข้าจะไปกินหมูให้หมดคอกเลย!”

 

ในกรงมีดบินพลังจิต สติทช์กลายเป็นเป้าหมายเคลื่อนที่ได้

 

แม้มันจะฝืนบังคับให้ตัวมันขยับหลบ แต่การกระทำนี้ก็เปล่าประโยชน์

 

ลำแสงสีแดงเลือดกระพริบในความว่างเปล่า ทิ้งแผลไว้บนตัวสติทช์ไม่หยุด

 

ภายใต้การโจมตีของมีดบินพลังจิต พลังเทวะของสติทช์ถดถอยอย่างรวดเร็ว

 

หลินฮวงไม่คลายความระมัดระวัง เขาไม่มีเจตนายอมให้อีกฝ่ายมีเวลาพักหายใจ

 

มีดบินพลังจิตเทลงใส่สติทช์เหมือนพายุลูกเห็บ

 

ในเวลาไม่ถึงห้านาที ไม่มีร่างกายส่วนใดของสติทช์ที่ไร้บาดแผล

 

อีกสองหัวมันโดนทำลายทีละหัว และสุดท้ายก็เหลือแค่หัวเดียว

 

หัวสุดท้ายนี้คือหัวที่ควบคุมระบบป้องกัน

 

สติทช์เสียการควบคุมร่างกายทั้งหมด และไม่สามารถขยับตัวได้เลยด้วยซ้ำ มันกลายเป็นเป้านิ่ง

 

ถึงกระนั้น สติทช์ก็ยังใช้ปีกป้องกันมัน ที่เต็มไปด้วยรูเพื่อป้องกันหัวสุดท้าย

 

แต่การกระทำนั้นก็เปล่าประโยชน์ ในเวลาไม่ถึงนาที มีดบินพลังจิตของหลินฮวงก็ฉีกผ่านแนวป้องกันสุดท้ายของมันได้และเจาะผ่านหัวสุดท้ายมัน

 

ตอนนี้เอง ในที่สุดการแจ้งเตือนก็ปรากฏตรงหน้าหลินฮวง

 

แทบจะทันที เขารู้สึกได้ถึงห่วงโซ่ลำดับเทพหลายสายที่บรรจุไปด้วยพลังกฏเทพจำนวนมาก

 

การล่ารอบนี้ได้เพิ่มจำนวนกฏในตัวหลินฮวงขึ้นกว่าแสนประเภท

 

แม้กระทั่งหลินฮวงเองก็ยังประหลาดใจ

 

สิ่งที่เขาไม่รู้คือขณะที่สติทช์เอาอวัยวะของคนอื่นมาเป็นส่วนหนึ่งของมัน สติทช์ยังกลืนเขตแดนเทพของคนอื่นด้วย

 

แต่ตอนนี้ ผลการทำงานหนักทั้งหมดของสติทช์ได้กลายมาเป็นของหลินฮวงแล้ว

 

พลังกฏเทพกว่าสองแสนเจ็ดหมื่นประเภายในตัวของเขาเพิ่มขึ้นเป็นเกือบสี่แสนในคราเดียว

 

“ด้วยประสิทธิภาพเช่นนี้ ข้าต้องล่ามอนสเตอร์อีกแค่สามหรือสี่ตัวก่อนระดับพลังข้าจะเพิ่มขึ้นอีกครั้ง”หลินฮวงพึมพำ

 

แน่นอน เขารู้ดีว่าสาเหตุหลักที่ทำให้พลังกฏเทพเขาเพิ่มขึ้นมากขนาดนี้เพราะความพิเศษของสติทช์ เทพสวรรค์ขั้นสามคนอื่นคงไม่มอบผลประโยชน์ให้เขามากขนาดนี้

 

เขาขยับนิ้วเล็กน้อย และมีดบินพลังจิตที่ก่อตัวเป็นกรงก็กลับเข้าแขนเสื้อ

 

ด้วยกรงที่หายไป เทพสวรรค์ที่เฝ้าดูการต่อสู้จากด้านนอกแดนลับถึงเห็นร่างของสติทช์ได้ ซึ่งตอนนี้เต็มไปด้วยรูพรุนเหมือนตะแกรง

 

การได้เห็นสภาพศพของสติทช์นั้นทำให้ทุกคนรู้ว่าสติทช์นั้นตายไปแล้ว

 

แม้ทุกคนจะเดาผลลัพธ์นี้ได้สักพักแล้ว พวกเขาก็ยังอดตกใจไม่ได้ตอนเห็นศพของสติทช์

 

‘เขาทำมันได้จริงๆ…’แม้กระทั่งใต้สวรรค์ก็ยังตกใจ

 

สำหรับใครบางคนในระดับเทพแท้จริงที่จะฆ่าเทพสวรรค์ขั้นสามได้นั้น มันไม่ใช่ว่าไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ของแดนเทพ แต่บุคคลเหล่านั้นต่างก็กลายเป็นจ้าวเทวะกันโดยไม่มีข้อยกเว้น

 

สำหรับแดนนักโทษลับนี้ หลินฮวงเป็นผู้เข้าร่วมคนแรกที่ประสบความสำเร็จในการล่าเทพสวรรค์ขั้นสาม

 

ผู้นำของนครหลวงเทพและวิหารเทพนักรบ รวมถึงองค์กรอื่นที่ส่งอัจฉริยะตัวเองมาเข้าร่วมกลับมีสีหน้าไม่สู้ดี

 

เดิมที พวกเขามั่นใจมากในตัวอัจฉริยะของพวกเขา เชื่อมั่นอย่างแน่วแน่ว่าพวกเขาจะสามารถแสดงผลงานแสนโดดเด่นได้ระหว่างการทดสอบนี้และอวดมันต่อองค์กรอื่น

 

ยอดฝีมือเทพแท้จริงชั้นนำภายใต้พวกเขาต่างมีความสามารถล่าเทพสวรรค์ขั้นหนึ่ง บางคนยังสู้กับเทพสวรรค์ขั้นสองได้

 

แต่ทว่า หลังเห็นหลินฮวงล่าสติทช์ได้สำเร็จ พวกเขาก็รู้ว่าบุคคลที่พวกเขานำมาด้วยครั้งนี้ได้กลายเป็นกองขยะไป

 

มันเปล่าประโยชน์!นี่เป็นการเอาชนะอย่างสมบูรณ์!

 

ไม่มีใครสามารถล่าเทพสวรรค์ขั้นสามได้แบบที่หลินฮวงทำ

 

การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของหลินฮวงได้บดบังความสามารถของคนอื่นไปโดยสิ้นเชิง