SPH:บทที่ 66 ถังไดนาสตี้
เฉียนจินมองไปยังเย่หยูที่มั่นอกมั่นใจแล้วก็อดยิ้มอย่างขมขื่นออกมาไม่ได้ “แหมเจ้านาย นี่เป็นการเริ่มต้นที่ดีเสียจริง แต่เราควรทำยังไงต่อดี
เย่หยูตบไหล่เฉียนจินเบาๆ “ไปที่ถังไดนาสตี้กับผม ในเมื่อมีแต่พวกเขาที่ทำงานนี้ได้ ไปหาพวกเขากัน”
เฉียนจินอ้าปากค้าง อยากจะพูดอะไรออกมา แต่เมื่อเห็นเย่หยูเดินนำไปแล้ว เขาจึงได้แต่ส่ายหน้าแล้วเดินตามไป
สำนักงานสาขาหมิงโจวที่ถังไดนาสตี้เปิดบริการนั้นไม่ไกลจากสถานประมูลสุดยอด เย่หยูเดินไปแค่สิบนาทีก็มาถึงทางเข้าของถังไดนาสตี้ เมื่อเทียบกับสถานประมูลทรุดโทรมแล้ว รูปลักษณ์ของถังไดนาสตี้ดีกว่ามากนัก แต่จะไม่มีของตกแต่งอร่ามตา แต่ถังไดนาสตี้ก็สว่างสดใสให้ความอบอุ่นเหมือนบ้าน
พอเข้ามาในถังไดนาสตี้ ก็เจอพนักงานต้อนรับหญิงสวมชุดกี่เพ้ายืนเรียงแถวสองด้านโค้งคำนับและทักทาย สาวๆทุกคนงดงามราวดอกไม้และมีรอยยิ้มประดับบนใบหน้า
“สวัสดีค่ะ มีอะไรที่ให้ช่วยไหมคะ”
เมื่อเห็นเย่หยูและเฉียนจินเดินเข้ามาแค่สองคน พนักงานต้อนรับสาวที่แต่งกายประณีตก็เดินเข้ามาถาม
“ผมอยากเช่าทีมจัดงานฉลองเปิดตัวสักสามวัน พร้อมกับทีมตกแต่งสถานประมูลด้วยครับ เย่หยูกล่าวเสียงนุ่ม เขาค่อนข้างพอใจกับการต้อนรับของถังไดนาสตี้
พนักงานต้อนรับพยักหน้าและพูดพร้อมรอยยิ้มว่า “แน่นอนค่ะ กรุณาตามฉันมาค่ะ ฉันอยากกรอกข้อมูลของคุณ” ขณะที่เย่หยูกำลังจะออกไป ก็มีเสียงตะโกนดับลั่นจนเขาต้องหยุด “เดี๋ยวก่อน”
ชายวัยกลางคนเดินออกมาจากทางโค้งบันได แล้วยิ้มอย่างเย็นชาให้เย่หยูและเฉียนจิน “เราถังไดนาสตี้จะไม่ยอมรับสัญญาเช่าของคุณ”
สีหน้าของพนักงานต้อนรับซึ่งเพิ่งตอบรับเย่หยูไปเปลี่ยนไป เมื่อเธอกล่าวด้วยน้ำเสียงขอโทษขอโพยว่า “ขอโทษด้วยค่ะ แต่ฉันเกรงว่าถังไดนาสตี้จะรับคำขอของคุณไม่ได้แล้วค่ะ”
เย่หยูทำหน้าบึ้งเมื่อมองไปที่ผู้มาใหม่ และกล่างอย่างเย็นชาว่า “คุณเป็นใคร ทำไมถึงตัดสินใจแทนถังไดนาสตี้”
สีหน้าของคนผู้นั้นดูหยิ่งผยอง และกล่าวอย่างภูมิใจว่า “ผมเป็นใครน่ะหรือ ผมคือผู้จัดการสาขาหมิงโจวของถังไดนาสตี้ไงล่ะ กู่หวูช่วง”
เป็นเขางั้นรึ แววตาของเย่หยูทอประกายเย็นชา เป็นเพราะกู่หวูช่วงละเมิดข้อตกลงกับเฉียนจินทำให้สถานประมูลไม่พร้อมเปิดใช้งาน
“กู่หวูช่วง เจ้าคนทรยศ”
เมื่อเฉียนจินเห็นกู่หวูช่วง เขาก็ตะโกนอย่างโกรธแค้นพร้อมดวงตาทอแววเกลียดชัง สีหน้าของกู่หวูช่วงดำคล้ำ เขาถูกชี้หน้าด่า “เฉียนจิน คุณสมควรโดนแล้ว เห็นแก่เราเป็นเพื่อนกันมาหลายปี ผมจึงยกเลิกสัญญาแบบฉันท์มิตร ถ้าคุณกล้าก่อปัญหาที่นี่อีก ก็อย่าโทษที่ผมต้องเสียมารยาท”
ใบหน้าของเฉียนจินแดงก่ำเพราะความโกรธ เขาหอบหายใจกล่าวว่า “คุณละเมิดสัญญาก่อน คุณยังกล้ามาให้เหตุผลโต้แย้งอีกหรือ”
กู่หวูช่วงมองเฉียนจินอย่างดูหมิ่นขณะเย้ยหยันว่า “ไม่ ผมแค่ทำแบบนี้เพื่อไม่ให้ถังไดนาสตี้เสียผลกำไร”
“ผมบอกคุณแล้วว่า หลังการประมูลจบ ผมจะให้เงินแน่”
“ฮ่า หลังจบงั้นเหรอ ผมเกรงว่าคุณจะไม่มีเงินโทรหาผมหลังจบงานน่ะสิ” ตอนกู่หวูช่วงกล่าวคำนี้ แววตาดูหมิ่นของเขายิ่งชัดเจนกว่าเดิม
“สถานประมูลสุดยอดของคุณจบแล้ว คุณยังอยากจัดการประมูลอีกเหรอ ฝันเฝื่องจริงนะ”
เฉียนจินโกรธจนตัวสั่น เขาชี้หน้ากู่หวูช่วงแล้วพูดอย่างโกรธเกรี้ยวว่า “มีแต่คนตาต่ำที่ดูถูกคน”
กู่หวูช่วงแค่นเสียงอย่างรังเกียจ เขาจัดแจงเสื้อผ้าให้เรียบร้อยด้วยสองมือและกล่าวอย่างเย็นชาว่า “มีคนมา โยนพวกเขาออกไป”
หลังได้ยินคำนี้ หน่วยรักษาความปลอดภัยก็เข้ามาล้อมเย่หยูกับเฉียนจิน เพราะต้องการไล่ทั้งคู่ออกไป
“ช้าก่อน”
เสียงตะโกนของเย่หยูทำให้ทุกคนหยุด
กู่หวูช่วงหมุนตัวกำลังจะจากไปอยู่แล้ว แต่พอได้ยินเสียงนั้น เขาก็หันกลับมาแล้วมองเย่หยูด้วยสายตาอีกแบบ “นายเป็นใคร ที่นี่นายมีสิทธิพูดด้วยเหรอ”
เย่หยูมองไปที่ผู้จัดการที่หยิ่งผยองของถังไดนาสตี้แล้วขำเบาๆ “ประธานสถานประมูลคนปัจจุบันเย่หยู”
“อ้อ ถ้างั้นนายก็คือเจ้าโง่คนนั้นนั่นเอง” กู่หวูช่วงตะคอก “ประธานเย่ ถ้าไม่มีเรื่องอื่นล่ะก็เชิญกลับไปได้”
เย่หยูแสยะยิ้ม มองไปยังกู่หวูช่วงแล้วพูดว่า “ผมรู้มาว่าคุณมีความสัมพันธ์ที่ดีกับประธานสถานประมูลสุดยอด จ้าวฮ่าวใช่ไหม”
สีหน้ากู่หวูช่วงเปลี่ยนแปรไป เขาหยุดยิ้มแล้วพูดเสียงเย็นว่า “หมายความว่ายังไง”
“เหตุผลที่ถังไดนาสตี้ใม่ยอมร่วมมือกับสถานประมูลก็เพราะจ้าวฮ่าวถูกไหม“ เย่หยูกล่าวเสียงเรียบๆ
สีหน้าของกู่หวูช่วงชะงักค้างไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็แสยะยิ้มแล้วกล่าวอย่างหมิ่นหยามว่า “แล้วอย่างไร จะแบบไหน คนที่สถานประมูลสุดยอดจะไม่มีทางพลิกสถานการณ์แน่”
แววตาของเย่หยูทอประกายเย็นชาวูบหนึ่ง แล้วตะโกนเสียงเย็นว่า “คุณทำตัวแบบนี้แล้วจะคุมกฎของถังไดนาสตี้ได้อย่างไร”
“กฎของถังไดนาสตี้งั้นหรือ” กู่หวูช่วงระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังลั่น “ในเมืองหมิงโจวนี่ ฉันคือกฎของถังไดนาสตี้”
กู่หวูช่วงชี้หน้าเย่หยูแล้วตวาดใส่ “ฉันพูดไปแล้วว่าจะไม่ยอมรับการจ้างคนไปทำงานที่สถานประมูล นี่คือกฎของถังไดนาสตี้”
“ใครก็ได้ มาไล่พวกเขาไปซะ”
กู่หวูช่วงโบกมือไล่ พลางหมุนตัวออกไปโดยไม่กล่าวคำอีก เมื่อเห็นยามรักษาการณ์ที่รายล้อมอยู่จ้องมาที่พวกเขาตาเป็นมัน เฉียนจินก้าวเข้าหาเย่หยูและกระซิบบอกว่า “เจ้านาย ทำไมเราไม่ออกไปก่อนแล้วคิดหาทางอื่น”
เย่หยูโบกมือ เป็นการบอกว่าเขาไม่ต้องห่วงเรื่องนั้น โดยไม่สนใจพวกยามที่ยืนล้อมอยู่ เย่หยูล้วงมือถือโบราณออกมา ตัวช่วยภายนอก!
ที่ด้านนอกมือถือมีแต่หน้าจอสีขาวดำและปุ่มสีเขียว เย่หยูไม่มีทางเลือกนอกจากกดปุ่มเขียวลงไป บนหน้าจอขาวดำมีชื่อผู้ติดต่อขึ้นมา: ถังซือ
“บี๊ป…บี๊ป…”
“สวัสดี นี่ถังซือพูด” เสียงคนแก่ดังขึ้น แต่ฟังแล้วไม่เป็นมิตรนัก
“ผมเองครัย เย่หยู”
“อ้อ! น้องชายเย่ ในที่สุดก็โทรหาตาแก่นี่จนได้นะ เธอช่วยชีวิตฉันไว้เมื่อครั้งก่อน ฉันยังไม่ได้ขอบใจเรื่องนั้นเลย” ถังซือยิ้มออกในทันที เพราะยินดีที่ได้รับสายจากเย่หยู
“ผู้เฒ่าถัง ตอนนี้ผมอยู่ที่ถังไดนาสตี้ และมีบางเรื่องที่อยากรบกวนคุณครับ”
ถังซืออึ้งไป แต่แล้วก็เริ่มหัวเราะออกมา “ฮ่าฮ่าฮ่า…ช่างบังเอิญเสียจริง เพราะฉันเกือบมาถึงหน้าประตูถังไดนาสตี้แล้ว”
ที่ด้านในห้องโถงให้บริการของถังไดนาสตี้ กลุ่มยามรักษาการณ์เริ่มไล่เย่หยูและเฉียนจินออกไป
เย่หยูแค่นเสียงอย่างเย็นชา ดาบฉีอันคมกริบพุ่งขึ้นจากร่างเมื่อมันเริ่มโจมตีใส่พวกยาม กลุ่มของพวกเขาดูเหมือนสัมผัสถึงบางสิ่งที่น่ากลัวเพราะทุกคนยืนหน้าซีดนิ่งอยู่กับที่ และไม่กล้าขยับ
เมื่อกู่หวูช่วงเห็นเหตุการณ์นั้น ใบหน้าเขาดำคล่ำและตะโกนดังลั่นว่า
“พวกนายมัวทำอะไรอยู่ ทำไมเจ้าตัวหาเรื่องทั้งสองยังไม่ถูกไล่ออกไปอีก ถ้ายังไม่ลงมือ พวกนายทุกคนก็ออกไปจากถังไดนาสตี้พร้อมกันได้เลย”
ภายใต้ความกดดันของกู่หวูช่วง เหล่ายามสบตากันและรวบรวมความกล้า จากนั้นก็เดินเข้าหาเย่หยูและเฉียนจิน
เย่หยูมองดูกู่หวูช่วง ซึ่งยืนบนขั้นบันไดและเอ่ยอย่างเหยียดหยัน “ผมแนะนำให้คุณทำตามสัญญาจะดีกว่า ไม่เช่นนั้น คุณนั่นแหละคือคนที่ต้องเดินออกจากถังไดนาสตี้วันนี้”
กู่หวูช่วงทำท่าเหมือนได้ยินเรื่องตลกครั้งใหญ่และหัวเราะออกมาดังลั่น “เย่หยู ท่านเจ้านายเย่ ถ้าฉันเซ็นสัญญากับนายวันนี้ อย่าว่าแต่เดินออกจากถังไดนาสตี้ ฉันจะยอมคลานออกไปเองเลย”
พอได้ยินประโยคนี้ เย่หยูก็ยิ้มหยันออกมา “ผมหวังว่าคุณจะรักษาสัญญานะ”
“แน่นอน…”
พอดีกับที่กู่หวูช่วงกำลังจะพูด หางตาของเขาก็เหลือบไปดูประตูของบริษัทถังไดนาสตี้เข้าพอดี ทันทีที่ประตูของถังไดนาสตี้เปิดออก กู่หวูช่วงก็มีปฏิกิริยา เขารีบวิ่งลงบันไดและพุ่งไปที่ประตูนั้น
“สวัสดีครับ ท่านประธาน ท่านประธาน ทำไมถึงไม่แจ้งผมล่วงหน้าเพื่อผมจะได้ให้การต้อนรับท่านอย่างเหมาะสมล่ะครับ”
กู่หวูช่วงโค้งคำนับชายสูงวัยซึ่งเพิ่งเข้ามาในห้อง เขาก้มตัวลงต่ำมากจนศีรษะเกือบแตะพื้นขณะกล่าวด้วยวาจาแสดงความเคารพอย่างสูง
ถังซือเข้ามาโดยไม่มองกู่หวูช่วงที่แสดงความเคารพที่ด้านข้างด้วยซ้ำ แต่เขากลับเดินไปหาเย่หยูด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
“ฮ่าฮ่าฮ่า น้องชายเย่ เราพบกันอีกครั้งแล้วนะ ตาแก่คนนี้ดีใจมากจริงๆ”