บทที่ 236 อยากจะดูว่าเขารักหลินจือมากแค่ไหน

อยากง้อเหรอ คุณสามี(เก่า)

ซูซีรู้สึกเกลียดหลินจือมากจริงๆ ถ้าหากไม่ใช่เพราะหลินจือที่แทรกเข้ามาระหว่างเธอกับเทาเท่ ความสัมพันธ์ของเธอกับเทาเท่ก็ไม่แข็งต่อกันอย่างตอนนี้

ตอนนี้สถานะของหลินจือถูกเปิดเผยออกมาแล้ว จู่ๆตัวเองก็ถูกแย่งความมีหน้ามีตาที่อยู่ในใจของบรรดาผู้หญิงแห่งเมืองเจสเวิร์ด จะที่ไหนๆก็ถูกหลินจือกดเอาไว้ ในใจของซูซีสามารถสบายใจได้นั้นสิถึงจะแปลก

และโทรศัพท์ของเนียร์ก็โทรเข้ามาในเวลานี้ ซูซีรับสายด้วยใบหน้าที่ไม่ยินยอมดีนัก : “แม่ มีอะไรคะ?”

เนียร์กลัวว่าเธอจะโมโหใส่อารมณ์แล้ววางสายไป จึงรีบเอ่ยพูดถึงแผนการของไกอากับซูซี หลังจากที่ซูซีได้ยินแล้วก็ขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย และเอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัย : “พ่อกับแม่คิดว่า เขาสามารถจะทำตามที่พวกเราจัดการเหรอคะ?”

น้ำเสียงของเนียร์มั่นใจมาก : “แน่นอนสิ เขาจะยังไม่สนใจชื่อเสียงของตระกูลฟอเรนาและอนาคตของฟอเรนากรุ๊ปเลยอย่างนั้นหรือ?”

เนียร์ไม่เคยเห็นหลินจืออยู่ในสายตาอยู่แล้ว แล้วก็ไม่เคยคิดว่าเทาเท่จะจริงจังกับหลินจือนั่นด้วย หลายปีของเธอกับไกอา บวกกับประสบการณ์ของชีวิตกับอายุช่วงนี้ เธอคิดว่าเธอเข้าใจผู้ชายเป็นอย่างดี

เธอเอ่ยพูดกับซูซีด้วยความมั่นใจ : “ตั้งแต่โบราณมา ผู้ชายส่วนมากจะรักในอำนาจมากกว่าผู้หญิง หลินจือนั่นนับว่าเป็นอะไรกัน? ผลประโยชน์อยู่ตรงหน้า แกดูสิว่าเทาเท่จะยังเห็นความสำคัญของหล่อนอยู่หรือเปล่า!”

“ตลอดทางของเทาเท่ผ่านมาอย่างราบรื่นมากเกินไป ไม่ได้ผ่านอุปสรรคหนักๆอะไรมาเลย เพราะฉะนั้นในสายตาจึงมีแต่เรื่องความรัก ถึงตอนนั้นต้องเผชิญกับการต้องเลือก เขาก็จะรู้ว่าความรักไม่ได้มีค่ามากขนาดนั้นแล้ว”

คำพูดนี้ของเนียร์ทำให้อารมณ์ของซูซีนั้นสบายใจขึ้นมาในทันที ใช่แล้ว ปากเทาเท่ก็พูดว่ารักหลินจือ เธอก็อยากจะดูเหมือนกันว่าเขาจะรักมากขนาดไหน!

ถ้าหากเทาเท่รู้ว่าในสายตาของซูซีแม่ลูกคู่นี้ตัวเองเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับเรื่องของความรักแต่ไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องกิจการเลยนั้น คาดว่าคงจะโมโหมาก

หลายปีขนาดนี้ นับตั้งแต่ที่เขาเริ่มมีความคิดว่าต่อไปตัวเองจะต้องกลายมาเป็นทายาทฟอเรนากรุ๊ปนั้น เขาก็กำลังพยายามเพื่อสถานะนี้อยู่ทุกวัน ก่อนที่จะรับรู้ว่าหลินจือสำคัญสำหรับตัวเองนั้น ในสายตาของเขาก็มีแต่เรื่องกิจการมาโดยตลอด

ช่วงสามปีที่แต่งงานกับหลินจือนั้น เขาก็โถมตัวเขาหาแต่เรื่องงาน หลังจากที่หย่ากับหลินจือไปแล้วหนึ่งปีนั้น เขาก็โถมตัวเข้าหาแต่เรื่องงานเช่นกัน

และพวกเธอสองแม่ลูกนั้นรู้เสียที่ไหนว่า เขาพาฟอเรนากรุ๊ปเดินมาถึงทุกวันนี้ผ่านอะไรมาขนาดไหน

ทุกคนล้วนแต่คิดว่าเขาเพียงพยายามแค่เล็กน้อยบนพื้นฐานของฟอเรนากรุ๊ปเมื่อก่อนเพียงเท่านั้น แต่ไม่ได้มารู้ว่าไกอาพ่อของเขานั้นเป็นเพียงแค่ลูกผู้ดีที่ชอบกินชอบเที่ยว

ฟอเรนากรุ๊ปที่เขารับช่วงต่อนั้นภายนอกดูสดใสงดงาม แต่ความจริงแล้วภายในนั้นเป็นโพรงมาก ถ้าหากไม่ใช่เขาที่พยายามอย่างสุดชีวิต ไม่แน่ว่าในตอนนี้ฟอเรนากรุ๊ปก็อาจจะต้องปิดตัวลงไปแล้ว

หลังจากที่สิ้นสุดสายของเนียร์เสร็จแล้วนั้น ใบหน้าที่ดูไม่มีความสมปรารถนาก่อนหน้านี้ของซูซีก็หายไปแล้ว เชิญชวนผู้หญิงสองสามคนนั้นดื่มอย่างอารมณ์ดี

ตอนนี้ เธอเพียงแค่รอดูเรื่องสนุกๆก็พอ

เพียงแค่รอดูเทาเท่ยอมปล่อยหลินจือไปเพราะผลประโยชน์ คาดว่าหลินจือคงจะคับอกคับใจตายแน่ๆ

จนถึงตอนนี้ซูซีไม่ได้คิดว่าหลินจือยอมวางเทาเท่ลงได้แล้วจริงๆ ซูซีดูแล้วท่าทางที่ดูสบายๆและการที่ดูไม่แคร์เทาเท่แล้วนั้นล้วนแต่แสร้งแสดงออกมาทั้งสิ้น นี่ก็คือการหลอกให้ตายใจก่อนแล้วถึงค่อยจัดการนั่นเอง

ไม่แน่ว่าตอนนี้ในใจของหลินจือกำลังได้ใจอยู่ก็ได้ ได้ใจที่เธอสามารถหลอกให้เทาเท่ลุ่มหลงได้สำเร็จ ถึงตอนนั้นเทาเท่ทิ้งเธอแล้ว หลินจือก็คงจะร้องไห้ไม่ทันเลยทีเดียว

การดื่มนี้ดำเนินไปจนถึงกลางดึกถึงได้สิ้นสุดลง ตอนที่ออกมานั้นซูซีก็เมาแล้ว

ลีวายประคองเธอที่เซไปเซมาออกมาทางด้านนอก ความจริงแล้วลีวายรู้สึกเบื่อหน่ายกับการที่ซูซีพาเธอออกมามาก เนื่องจากว่าซูซีพาเธอออกมาก็เพื่อเรียกใช้เธอ เห็นได้ชัดว่าเธอเป็นเหมือนสาวใช้ของซูซีเลยอย่างไรอย่างนั้น

ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามเธอเองก็เป็นผู้เขียนบท แล้วก็เคยเป็นนักเขียนออนไลน์ที่เคยมีชื่อเสียงด้วยเช่นกัน ก็ยังคงมีความเย่อหยิ่งอยู่บ้าง

คนขับรถมารับพวกเธอ หลังจากที่เข้าไปนั่งในรถแล้วลีวายก็เอ่ยพูดขึ้นกับซูซี : “ประธานซูซี พรุ่งนี้ “The Legend of Concubine Rong “เปิดกล้องแล้ว พวกเราจะต้องทำอะไรหรือเปล่า?”

เรื่องการแบล็กเมล์หรือทำลายคนอื่นอยู่เบื้องหลังแบบนี้ เป็นรูปแบบที่ลีวายมักใช้จนชินแล้ว

เมื่อก่อนเพียงแค่เธอเห็นใครที่ขัดหูขัดตา ไม่ว่าจะเป็นดาราหรือว่าผู้เขียนบท หรือคนใหม่ที่เพิ่งขายลิขสิทธิ์ไปเหล่านั้น เธอก็ล้วนจะซื้อตัวหน้าม้าทางโซเชียลให้อยู่เบื้องหลังแบล็กเมล์คนพวกนั้น

ซูซีพิงนั่งพิงอยู่ที่เบาะรถพลางเอ่ยขึ้นอย่างมึนเมา : “เอาสิ เธอไปจัดการเลย”

แต่หลังจากนั้นซูซีก็นึกขึ้นมาได้แล้วเอ่ยขึ้นมาอีก : “แต่ คนพวกนั้น ดูเหมือนจะไม่มีใครให้แบล็กเมล์ได้เลยนะ?”

ลีวายคิดอย่างละเอียดแล้ว ก็รู้สึกเหนื่อยใจมากเช่นกัน

“The Legend of Concubine Rong ” ผู้สร้างหลักๆเหล่านี้ ดูเหมือนจะมีข้อมูลด้านลบไม่มากนักจริงๆ

พูดถึงหลินจือก่อน ก่อนหน้านี้พวกเธอแบล็กเมล์หลินจือเอาไว้อย่างหลากหลาย แต่ก็ถูกพลิกกลับมาได้

แฉว่าหลินจือไม่เลี้ยงดูคนแก่ แฮว่าความสัมพันธ์ของหลืนจือกับจอร์แดนไม่ถูกต้องเหมาะสม แฉว่าอดีตสามีของหลินจือนั้นเป็นคนแก่ตัวอ้วนหัวล้าน แต่ทุกๆครั้งก็จะถูกพลิกกลับมาได้หมด

ตอนนี้หลินจือกำลังเป็นที่สนใจได้รับความนิยม พวกเธอไม่กล้าลงมือกับเธอแล้วเช่นกัน

ส่วนเจเทาวน์ เขามีชื่อเสียงในด้านศิลปะมาหลายปีขนาดนี้แล้ว นอกจากข่าวกับแฟนสาวลึกลับเมื่อช่วงก่อนแล้ว เขาก็เป็นตัวฉนวนของข่าวซุบซิบมาโดยตลอด

แล้วก็ไม่รู้ด้วยเช่นกันว่าจะแบล็กเมล์อะไรเจทาวน์ อีกทั้งลีวายก็ทนไม่ได้ที่จะแบล็กเมล์เจเทาวน์ด้วยเช่นกัน

นักแสดงนำหลักนิปปอนและนานิ ทั้งสองคนคนหนึ่งก็เป็นคนที่เข้าถึงยาก อีกคนหนึ่งก็อยู่ในวงการนี้มาไม่สามารถจะหาเรื่องได้ง่ายๆ ถึงแม้ว่านิปปอนจะพูดได้ว่าเป็นนักแสดงนำภาพยนตร์ แต่ในหนึ่งปีการถ่ายทำของเขาก็น้อยมากเสียจนน่าสงสาร นอกจากการถ่ายละครแล้วก็ฝังรากลึกอยู่กับการสอนหนังสือในโรงเรียน แม้แต่ข้อมูลด้านลบก็ไม่มีเลยแม้แต่เรื่องเดียว

ตอนนี้นานิดังมากก็ถูกหลายคนอิจฉาด้วยเช่นกัน แต่ก็ไม่รู้ว่าจะแบล็กเมล์อะไรเธอดี

ทางด้านความสัมพันธ์หญิงชายที่ยุ่งเหยิง ก็ไม่มีให้แบล็กเมล์ได้เลยจริงๆ ก่อนหน้านี้ไม่ใช่ว่าถูกเคยเปิดเผยความคลุมเครือกับโจมอนมาแล้วหรอกหรือ จากนั้นก็ถูกทั้งสองฝ่ายออกมาทำให้ความจริงกระจ่างไปแล้ว

อีกทั้งหลายปีขนาดนี้ เพียงแค่มีคนสงสัยความสัมพันธ์หญิงชายของนานิ เธอก็จะออกมาทำให้ความจริงกระจ่างในทันที และนานเข้าก็ไม่มีใครสนใจตรงจุดนี้ของเธอแล้ว

จะหาเรื่องแฉเธอว่ามีดีแค่หน้าตาแต่ไม่มีทักษะการแสดง แต่เธอก็เป็นพวกที่มีทักษะการแสดงดีอีก

จะหาเรื่องแฉว่าเธอนิสัยไม่ดี แฟนคลับเป็นกลุ่มของเธอก็ชื่นชมว่าเธอนิสัยดีจริงใจอยู่แบบนั้น

ส่วนนักแสดงรองที่เพิ่งคัดเลือกออกมาอย่างดาหลานั้น นอกจากว่าเธอเคยเป็นนักแสดงที่ไม่ได้มีชื่อเสียงมาก่อนแล้ว ก็ไม่มีอะไรให้แบล็กเมล์ได้แล้วเช่นกัน

คิดอยู่นาน สุดท้ายแล้วลีวายก็เอ่ยขึ้นมา : “ถ้าไม่อย่างนั้น….ก็แบล็กเมล์นานิที่ร้องเพลงเพี้ยน?”

ในมือของเธอนั้นมีคลิปวิดีโอที่นานิร้องเพลงเพี้ยนอยู่ คนแบบเธอนี้เพียงแค่มีข้อมูลด้านลบนั้นเธอก็จะเก็บเอาไว้ ใครจะรู้ว่าวันไหนจะได้ใช้ขึ้นมา

ซูซีลืมตาขึ้นมาเอ่ยถามเธอด้วยความประหลาดใจ : “นางร้องเพลงเพี้ยนเหรอ?”

“ใช่ เป็นคลิปเก่าตอนที่นางอยู่ม.ปลายไปร่วมงานเลี้ยงน่ะ ก่อนหน้านี้ฉันเองก็มาเจอโดยไม่ได้ตั้งใจก็เลยบันทึกเอาไว้” ลีวายกล่าว “คงจะสามารถแบล็กเมล์นางได้นะ”

ลีวายพูดเสร็จแล้วนั้นก็หาคลิปนั้นจากโทรศัพท์มือถือให้ซูซีดู หลังจากที่ซูซีเห็นแล้วนั้นก็อยากจะหัวเราะออกมา : “ได้ๆๆ ก็ส่งคลิปนี้ออกมาแล้วกัน เห็นแล้วไม่ถูกขำตายเลยเหรอ”

ในคลิปนั้นนานิร้องเพลงbetter meของซีเค เพลงนี้เป็นเพลงที่เพราะมาก แต่ไม่รู้ว่านานิตื่นเต้นหรือว่าอย่างไร ตรงโทนเสียงสูงนั้นจู่ๆก็ขึ้นไม่ถึง เสียงขาดช่วงไปไม่ว่าแล้ว ยังเพียนไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงอีกด้วย

เพื่อนนักเรียนที่อยู่ทางด้านล่างเวทีก็พากันหัวเราะ ซูซีดูคลิปนี้แล้วรู้สึกว่าตัวเองอับอายแทนนานิเสียจนนิ้วเท้าแทบจะแกะพื้นเป็นรูอยู่แล้ว เธอไม่รู้เลยว่าทำไมนานิถึงได้หน้าหนาขนาดนี้ ยังยืนร้องอยู่บนเวทีต่อไปได้อีก

แน่นอนว่า ท่อนหลังนั้นร้องได้อย่างไม่ได้ดูแย่ขนาดนั้นแล้ว แต่พวกเธอสามารถตัดเอาไว้ ก็ปล่อยไปแค่เพียงท่อนที่เพี้ยนท่อนนั้นไป ฉวยโอกาสแบล็กเมล์นานิเสียเลย