28 การเยี่ยมชมตึกของ Gami Dojo

The Bloodline System

ตอน****ที่ 28: การเยี่ยมชมตึกของ Gami Dojo

 

เขาไม่เสียเวลาก่อนที่จะแตะพื้นผิวของสิ่งของนั้น

 

ทรึม!

 

มีการฉายภาพ 4 อย่าง

 

ครั้งแรกเป็นกระดานรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า อย่างที่สองคือเงินสดจำนวนหนึ่งเรียงเป็นแถวเรียบร้อย ใบที่สามเป็นกระเป๋าเอกสารขนาดเล็ก ในขณะที่ใบที่สี่เป็นอุปกรณ์คล้ายเตาอบ

 

กุสตาฟแตะที่รูปของอุปกรณ์ที่คล้ายเตาอบ แล้วมันก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา

มันสูง 2 เมตร

 

เขารู้สึกได้ว่าสติของเขาจางหายไป แต่เขาก็ยังคงดิ้นรนเพื่อเปิดอุปกรณ์ที่คล้ายกับเตาอบขนาดใหญ่

 

เมื่อเปิดมันออกมาพื้นที่ภายในนั้นมีอาหารหลายชนิด

 

ของว่างเนื้อฉ่ำ ฯลฯ

 

กุสตาฟรีบจับท่อนเนื้อขนาดใหญ่ที่ดูชุ่มฉ่ำ

 

เขาอ้าปากกว้างแล้วยัดเข้าไปข้างใน

 

กรุบ! กรุบ! กรุบ! กรุบ!

 

ได้ยินเสียงเคี้ยวของกุสตาฟ  เขาฉีกเนื้อเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยภายในไม่กี่วินาทีในปากของเขา

 

[กู้คืนพลังงาน +1 แล้ว]

 

กุสตาฟไม่หยุดพัก หลังจากเห็นการแจ้งเตือนนั้น มีอาหารมากมายภายในเตาอบ

 

กุสตาฟนำพวกมันออกมาทีละอันและงานเลี้ยงใหญ่ก็เริ่มขึ้น

 

[กู้คืนพลังงาน +1 แล้ว]

 

[กู้คืนพลังงาน +1 แล้ว]

 

[กู้คืนพลังงาน +1 แล้ว]

 

แก้มของกุสตาฟที่ปูดออกมาเนื่องจากปริมาณอาหารที่ยัดเข้าไป ทำให้ดูเหมือนว่ามันจะระเบิดออกมา

 

อย่างไรก็ตามเขายังคงยัดอาหารอีกอย่างหนึ่งเข้าปาก

 

กรุบ! กรับ! กรุบ!

 

ส่วนผสมของเบเกอรี่ เนื้อปลาทอด เกือบทุกอย่างสามารถเห็นได้ในปากของเขา

 

กุสตาฟเก็บอาหารจำนวนมากที่เขาไม่เคยมีโอกาสได้ลิ้มรสมาเกือบ 10 ปีไว้ในนั้น  เขาชอบกินมันมากและเขาก็เก็บอาหารเหล่านี้ไว้ เพื่อให้เข้าถึงได้ง่าย ซึ่งเขามารู้ว่าวันนึงก็จะมีประโยชน์

 

อีกไม่กี่วินาทีต่อมา กุสตาฟก็กินอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาเก็บไว้ในเตาอบขนาดใหญ่

 

ฟู้บบบบ!

 

ประตูด้านหลังเลื่อนขึ้นและสามารถมองเห็นหญิงสาวผมสีเทายาวสลวยเดินเข้ามาในห้องผ่านประตูนั้น

 

เธอสวมเสื้อโค้ทยาวสีเหลือง ท่อนบนสีน้ำเงินและกระโปรงสั้นพร้อมถุงเท้าป๊อปสีดำ  เธอมีรูปลักษณ์ที่ไม่แยแสเขียนอยู่ทั่วใบหน้า ขณะที่เดินเข้ามาอย่างสง่างามและเบา ๆ

 

กุสตาฟลุกขึ้นยืนจากพื้นเมื่อสังเกตเห็นเธอ “ครูเอมมี่?” เขาพึมพำในขณะที่กลืนอาหารเข้าปาก

 

“เฮ้ เรากำลังจะไป … ” ครูเอมมี่อยู่ในระหว่างการพูด และเมื่อเธอสังเกตเห็นบางสิ่งบางอย่าง

 

“ ทำไม คุณถึงเปลือย?” เธอตั้งคำถาม ขณะจ้องมองไปที่กุสตาฟ

 

“หา …เปล่านะครับ?” กุสตาฟถามด้วยท่าทางสับสนก่อนจะหันศีรษะไปมองข้างล่าง

 

“เอ่อ?” ดวงตาของเขาเบิกกว้างและรีบปิดน้องชายตัวเล็กของเขาที่กำลังเผยอออกมา

 

เมื่อก่อนหน้านี้ที่เขาใช้การปรับขนาดตัว เครื่องแบบของเขาถูกฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

 

เขาไม่ได้สังเกตในเวลานั้นว่าเขาเปลือยเปล่า เนื่องจากพลังงานที่ต่ำลงอย่างรวดเร็ว

 

“ ครูเอมมี่ทำไมไม่เคาะล่ะครับ”

 

ตอนนี้ใบหน้าของกุสตาฟเป็นสีแดงบีทรูท ขณะที่เขายืนอยู่หลังเตาอบขนาดใหญ่ที่วางอยู่กลางห้อง

 

“ทำไม? ฉันเป็นคนจ่ายเช่าห้องนี้” ครูเอมมี่บอก

 

กุสตาฟ; “… “

 

“ทำไมสถานที่นี้ ถึงดูไร้ระเบียบ” ครูเอมมี่ตั้งคำถามขณะที่เธอเดินต่อไป

 

เธอสังเกตเห็นอุปกรณ์คล้ายเตาอบขนาดใหญ่ในห้องและเพดานที่แตกเล็กน้อย

 

“ ครูเอมมี่ เอิ่ม….คุณออกไปได้ไหมเพื่อที่ผมจะได้ … ใส่เสื้อผ้าใหม่?” กุสตาฟถามด้วยท่าทางลำบากใจ

 

“ทำไมล่ะ เอาอะไรไปใส่ก็ได้นี่ ถ้าคุณต้องการ ฉันจะไม่หยุดคุณหรอก” ครูเอมมี่ตอบด้วยท่าทางเฉยเมย และนั่งลงบนม้านั่งที่วางอยู่ข้างกำแพง

 

กุสตาฟ; “… “

 

“ คุณคงลืมไปแล้วว่า เมื่อตอนที่คุณเข้ามาในห้องทำงานของฉัน … คุณยังเคยเห็นฉันเปลือยเลยด้วยซ้ำ” ครูเอมมี่กล่าวเสริม

 

“ ครูเอมมี่ ครูลืมไปแล้วเหรอ ว่าครูเกือบจะฆ่าฉัน” กุสตาฟชี้ไปที่ตัวเองขณะที่เขาพูด ‘และฉันไม่ได้เห็นทุกอย่าง’ เขาต้องการเสริมสิ่งนี้ แต่เขาก็ตัดสินใจที่จะเงียบ

 

“อืมจริง … ถ้าคุณมีกำลังมากพอคุณควรมาและพยายามที่จะฆ่าฉันด้วยสินะ” ครูเอมมี่กอดอก ขณะที่จ้องมองไปที่กุสตาฟ

 

กุสตาฟแทบกระอักเลือด ‘เธอช่างเป็นคนพาล’

 

ครูเอมมี่มองตรงไปที่ใบหน้าของเขา และเขาไม่ได้ดูกังวลแม้แต่น้อย

 

“ อืม … ฉันจะหลับตาสัก 2-3 วินาทีใช้เวลานั้นเพื่อปกปิดหายนะของคุณ” ครูเอมมี่กล่าวและหลับตาลง

 

‘หายนะ? เธอหมายความว่าอย่างไร หายนะ? ‘ ใบหน้าของกุสตาฟยังคงแดงระเรื่อ ขณะที่เขารีบหยิบผ้าจากอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล

 

ชั่วพริบตาเขาก็นุ่งผ้าไปแล้ว

 

ตอนนี้เขาใส่กางเกงยีนส์สีฟ้าที่ดูสะอาดตาและแจ็คเก็ตมีฮู้ดสีแดง

 

“ฟิ้ว” เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอกหลังจากปกปิดและเงยหน้าขึ้นเพื่อจ้องมองครูเอมมี่

ดวงตาของครูเอมมี่เบิกกว้าง

 

“ ครูเอมมี่ ครูลืมตามาตั้งแต่เมื่อไหร่?”  กุสตาฟสะดุ้งกลับด้วยความตกใจ เมื่อใบหน้าของเขากลายเป็นสีแดงอีกครั้ง

 

“ใครจะไปรู้ว่าฉันจะเห็นนิ้วโป้งที่ดูน่าสงสารของคุณ” ครูเอมมี่ตอบด้วยท่าทางสบาย ๆ

 

วิธีที่เธอพูดด้วยความห่างเหินเช่นนี้ ทำให้กุสตาฟอยากจะจมลงไปในพื้น

 

“ไปกันเถอะ!” ครูเอมมี่กล่าวและลุกขึ้นยืน

 

“หืม? ไปไหนครับ” กุสตาฟถามด้วยหน้าตาที่ตกตะลึง

 

“โดโจ” ครูเอมมี่ตอบโดยไม่หันกลับมา

 

“ แต่กิจกรรมของโรงเรียนยังไม่จบ” กุสตาฟตอบด้วยหน้าตาที่สับสน

 

“ลืมไปแล้วเหรอว่าวันนี้คือวันอะไร” ครูเอมมี่กล่าว.

 

กุสตาฟยืนอยู่ในสถานที่นั้นต่อ 2-3 วินาทีก่อนที่ใบหน้าของเขาจะเหมือนกับคนภึ่งนึกอะไรออก

 

“โอ้ ผมจำได้ว่าวันนี้ควรจะเป็นวันประชุมผู้ปกครองและครูสินะครับ”

 

กุสตาฟนึกถึงวันนี้ที่จะมีการประชุม ซึ่งครั้งนี้กิจกรรมของโรงเรียนจะสิ้นสุดลงก่อนหน้านี้

ที่เขากำลังอยู่ที่นี่เป็นเวลา 1 ชั่วโมงมาแล้ว เขาจึงไม่ทราบว่ากิจกรรมของโรงเรียนสิ้นสุดลงแล้วตอนไหน

 

นักเรียนหลายคนกำลังมุ่งหน้าไปที่บ้านของพวกเขากันแล้ว  การประชุมผู้ปกครองและครูไม่เคยเกี่ยวข้องกับนักเรียน ดังนั้นพวกเขาจึงมีอิสระที่จะกลับไป หากพวกเขาต้องการ แม้ว่าบางคนมักจะรอพ่อแม่ของพวกเขาก่อน

 

ครูเอมมี่จ้องมองไปที่กุสตาฟและพยายามสังเกตสีหน้าของเขา เมื่อเขากล่าวถึงการประชุมผู้ปกครองและครู

 

“เอาล่ะไปกันเถอะครับครูเอมมี่” กุสตาฟพูดพร้อมกับเดินไปข้างหน้า  กุสตาฟไม่จำเป็นต้องถามครูเอมมี่ ว่าทำไมเธอถึงไม่เข้าร่วมการประชุม ในเมื่อเธอเป็นครู เพราะเขารู้ว่าเธอไม่ชอบการชุมนุมแบบนี้  จากการที่เธอเห็นพ่อแม่ทุกคนทำตัวร่ำรวยและมีอำนาจ มันทำให้เธออยากจะถ่มน้ำลายใส่หน้า

 

‘อืมดูเหมือนเขาจะไม่กังวลเท่าที่เคยเป็นมาหรือเขากำลังซ่อนมันไว้?’  ครูเอมมี่เฝ้ามองเขา ขณะที่กุสตาฟเดินมาหาเธอด้วยท่าทางครุ่นคิด

 

กุสตาฟดูเหมือนจะไม่ใส่ใจที่พ่อแม่ของเขาจะไม่เข้าร่วมการประชุมเพื่อเป็นตัวแทนของเขา ซึ่งทำให้ครูเอมมี่แปลกใจ เพราะกุสตาฟมักจะแสดงปฏิกิริยาที่น่าเศร้าทุกครั้งที่มีการพูดถึงสิ่งที่เกี่ยวข้องกับพ่อแม่ของเขา

 

พวกเขาออกจากห้องฝึกอบรมขนาดเล็กและมาถึงทางเดินที่นำออกไปนอกห้องโถง

นอกจากนี้ยังสามารถเห็นนักเรียนเดินออกไปได้อีกด้วย

 

พวกเขาจ้องมองไปที่ครูเอมมี่และกุสตาฟที่กำลังเคลื่อนไหวด้วยกัน

 

พวกเขาบางคนยังคงดูสับสน แม้ว่ามันจะเกิดขึ้นในช่วงเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา

 

พวกเขาส่วนใหญ่ยังสงสัยว่าทำไมครูเอมมี่ถึงไม่รำคาญการที่ต้องตัวติดกับขยะของโรงเรียน

 

แม้ว่านักเรียนที่มีความสามารถจำนวนมาก พยายามสร้างความประทับใจให้กับครูเอมมี่  แต่เธอก็ไม่เคยสนใจนักเรียนคนไหนเลย เธอไม่มีนักเรียนคนโปรดหรือสิ่งใด ๆ  ที่ครูคนอื่นทำ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้พวกเขาประหลาดใจ เมื่อจู่ๆเธอก็เริ่มแสดงความสนใจในกุสตาฟ

 

ไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้เลย แม้แต่คำเดียวเนื่องจากตอนนี้ครูเอมมี่ปรากฏตัวขึ้นมา  พวกเขาไม่ต้องการรับอารมณ์อีกด้านของเธอ

 

กุสตาฟและครูเอมมี่ออกมานอกห้องโถงและปีนขึ้นไปบนรถโฮเวอร์ไบค์ของเธอ ที่จอดอยู่ด้านนอก

กุสตาฟจับเอวของครูเอมมี่จากด้านหลัง ขณะที่เธอสตาร์ทเครื่องยนต์

 

บรืน!

 

ไม่มีเสียงใดดังขึ้นแทนเสียงของ รถโฮเวอร์ไบค์ ไฟของมันสว่างขึ้นจากด้านหลังและรถคันนั้นกำลังพุ่งออกไปในขณะที่กำลังแบกพวกเขาทั้งคู่

 

ลมพัดผมของกุสตาฟไปด้านหลัง ขณะที่เขาจับครูเอมมี่ที่กำลังเร่งความเร็วรถโฮเวอร์ไบค์อยู่

 

บรื้น! บรื้น! บรื้น!

 

พวกเขาขับผ่านด้านข้างของยานพาหนะหลายคันที่กำลังแล่นอยู่บนถนน ขณะที่พวกเขาเร่งความเร็วออกไปเรื่อยๆ

 

พวกเขาควรจะสวมหมวกกันน็อก แต่ครูเอมมี่เกลียดหมวกกันน็อก  ตามที่เธอพูดมันทำให้เสียความตื่นเต้นไป

 

เมื่อกุสตาฟค้นพบอะไรหลายอย่างเกี่ยวกับเธอมากขึ้นเรื่อย ๆ  เขาก็เริ่มรู้ว่าครูเอมมี่เป็นคนแปลกประหลาด แต่เขาเป็นคนที่ไม่มีใครมาตัดสินได้ ทั้งชีวิตของเธอไม่มีใครที่คอยมาประจบประแจง

 

ในไม่กี่นาทีพวกเขาก็มาถึงหน้าอาคารขนาดใหญ่ 700 ชั้นทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเมือง

 

อาคารนี้สูงที่สุดในส่วนนี้ของเมืองโดยเฉพาะ มันดูเหมือนอาคารธุรกิจเพราะมีผู้คนจำนวนมากเข้าและออกจากอาคาร

 

ผู้ชายกล้ามโต 4 คนยืนอยู่ตรงทางเข้า

 

ครูเอมมี่จอดรถข้างทาง

 

เธอและกุสตาฟเดินไปที่ทางเข้า

 

ชายเหล่านั้นก้มหัวให้ครูเอมมี่ เมื่อเห็นเธอเดินขึ้นบันไดไปพร้อมกับกุสตาฟ

 

กุสตาฟคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมนี้เพราะเขาเคยมาที่นี่พร้อมกับครูเอมมี่ในเดือนที่ผ่านมา

 

‘Gami Dojo’ ครอบครอง 3 ชั้นบนสุดของอาคารนี้ ครูเอมมี่พาเขามาที่นี่เพื่อรับการฝึกอบรม

 

“ ยินดีต้อนรับครับคุณหนู” ชายเหล่านั้นพูดพร้อมกัน

 

ครูเอมมี่พยักหน้าเบา ๆ และยื่นโลหะทรงลูกบาศก์ให้กับชายร่างท้วมคนหนึ่ง

 

ชายคนนั้นรับมันและเดินไปหารถมอเตอร์ไซค์ของครูเอมมี่ ในขณะที่กุสตาฟและครูเอมมี่ เดินเข้าไปในอาคาร

————————————————————————————————-

*พวกเขามาทำอะไรที่ตึกนี้ การฝึกฝนจะเป็นยังไงต่อไป *

-โปรดรอติดตามในวันพรุ่งนี้ค่ะ –

————————————————————————————————-