ตอนที่ 502 ความตกใจของดาราทมิฬ

The Legendary Mechanic

ตอนที่ 502 ความตกใจของดาราทมิฬ

 

แม้นอเรียสจะไม่อยากยั่วยุทั้งสองฝ่าย แต่พวกเขาก็ไม่จําเป็นต้องทําตามข้อเรียกร้องของทั้งสองฝ่าย ต่อให้การกระทําพวกเขาอาจทําให้ขัดแย้งกับโกโดร่า มันก็ไม่ได้ร้ายแรงเกินไปและอยู่ในขอบเขตที่รับได้

 

กลุ่มการเงินยังตั้งใจหาค่าชดเชยจากโกโดร่า ด้วยบุคคลสําคัญของดาราทมิฬที่ตายไป โกโดร่าคงเต็มใจประนีประนอมแน่นอน นอกจากนี้ มันเป็นไปไม่ได้ที่ดาราทมิฬจะจ่ายค่าชดเชย แต่โกโดร่าคืออารยธรรมถูกกฏหมาย พวกเขาเป็นคนดีและรักษากฏ

 

แม้นากาคินจะยังอยากเกลี้ยกล่อมผู้พิทักษ์ หานเซี่ยวจึงหยุดเขาและไม่พูดอะไรอีก

 

หานเซี่ยวสามารถบอกได้ว่ากลุ่มการเงินไม่มีทางลดม่านพลังลง แม้การปลอมตัวก่อนหน้าจะสูญเปล่า หานเซี่ยวก็คุ้นเคยกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาแล้ว อย่างน้อย ทุกอย่างก็ใกล้เคียงกับแผนเขา

 

เนื่องจากเราไม่อาจสู้ ภารกิจนี้ก็เกือบจบแล้ว และเราก็ไม่ต้องถูกไล่ล่าอีก หานเซี่ยวคิดกับตัวเอง

 

เมื่อมองขึ้นฟ้า เมฆดําสามารถเห็นได้เหนือหัว และก็มีร่างของเอ็มเบอร์อยู่บนนั้น ในที่สุดเขาก็กลับมา

 

เมื่อมองสนามรบเละเทะผ่านม่านพลัง เอ็มเบอร์ก็ตกใจมาก ด้วยสายตาที่กวาดไปทั่วสนามรบ ดวงตาเขาพลันหยุดที่ศพของอาน และความตกใจบนหน้าเขาก็กลายเป็นความกลัว!

 

บางทีมันอาจไม่ได้ไร้ประโยชน์ซะทีเดียวที่จะล่อเอ็มเบอร์กลับมา การช่วยให้เขาเห็นศพของอานูและจัดการกับเขาด้วยสภาพทางจิตคงไม่เลวร้ายเกินไป

 

ไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้…

 

เอ็มเบอร์ปฏิบัติตามอานและเร่งความเร็วกลับมาสนามรบ เขากําลังพุ่งไปสนามรบ รอคอยที่จะได้ร่วมต่อสู้เพื่อกลบความล้มเหลว

 

ด้วยความเร็วของอาจารย์ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะมีศัตรูคนใดสามารถไล่ตามเขาได้ และแบล็คสตาร์ก็จะไม่มีทางหนี้เหมือนก่อน เราต้องกําจัดเขาในวันนี้!

 

เมื่อคิดได้ เอ็มเบอร์ก็เต็มไปด้วยความหวังและความตื่นเต้น

 

แต่ทว่า ฉากตรงหน้าเขากลับแตกต่างจากที่เขาคิดไว้โดยสิ้นเชิง!เขาไม่คิดเลยว่าอาจารย์สุดแกร่งเขาจะพ่ายแพ้และยังถูกฆ่า!

 

ทันทีที่เขาเห็นศพของอานู เอ็มเบอร์ก็ตกตะลึง และความหนาวเย็นก็วิ่งแล่นกระดูกสันหลังเขา

 

มันเป็นไปได้ยังไงที่อานูจะถูกฆ่า!

 

เอ็มเบอร์นําอุปกรณ์สื่อสารเขาออกมาและโทรหาอานู

 

ตืดด ตืดด..

 

เวลาไม่กี่วินาทีกลับเหมือนตลอดไป และเมื่อการโทรไปถึงปลายสาย ภาพที่แสดงบนจอกลับไม่ใช่อานูแต่เป็นหานเซี่ยวที่ระเบิดเสียงหัวเราะบ้าคลั่งออกมา

 

“แกแปลกใจ?ตกใจงั้นหรอ?!”

 

เอ็มเบอร์ตกใจ“ทําไมถึงเป็นแก?!”

 

“โอ้ แกไม่ชอบหน้าหล่อๆของฉันงั้นหรอ?”หานเซี่ยวหัวเราะก่อนเปลี่ยนเป็นหน้าอานู ส่งจูบให้”แล้วหน้านี้ละเป็นยังไง?”

 

เปรี้ยง

 

หน้าจอเริ่มร้าว

 

เอ็มเบอร์เกือบทําให้อุปกรณ์สื่อสารเขาแตกด้วยความโกรธ ความหวังสุดท้ายเขาเพิ่งถูกทําลาย!

 

อานูตายแล้วจริงๆ!

 

อารมณ์มากมายอัดแน่นหัวใจเขา ทั้งไม่เชื่อ โกรธ ตื่นตระหนก เสียใจ

 

หากศัตรูสามารถฆ่าอานูได้ มันก็หมายความว่าเขาเองก็ตกอยู่ในอันตราย!

 

“ฉันคือคนเดียวที่เหลือ ฉันไม่อาจอยู่เพื่อสู้และปล่อยให้ทหารเราตายได้!”

 

เอ็มเบอร์กัดฟันและหนีไปบนเมฆดําเขา

 

สถานการณ์ต้องรายงานให้เบื้องบนรู้ เขาหลบหนีพลางรายงานสถานการณ์ให้เบื้องบนทราบ ข่าวที่เขารายงานทําให้เกิดความปั่นป่วนไปทั่วดาราทมิฬ!

 

เบื้องบนของดาราทมิฬเตรียมรับฟังเรื่องภารกิจอยู่แล้ว แต่ไม่คิดว่าจะได้ยินฝันร้ายดังกล่าวแทน

 

ไม่มีใครคิดว่าอานจะตายในภารกิจนี้ ซึ่งพวกเขามั่นใจว่าจะสําเร็จ การส่งสองภัยพิบัติออกไปพร้อมกันทําให้เบื้องบนทุกคนรู้สึกว่าภารกิจนี้ต้องสําเร็จอย่างไรก็ตาม ข่าวชิ้นนี้กลับทําให้แผนการพวกเขาปั่นป่วน

 

กองกําลังดาราทมิฬเสื่อมถอยตลอด ในช่วงจุดสูงสุด ดาราทมิฬมีแปดภัยพิบัติ และอานูก็คือหนึ่งในนั้น เขาเป็นตัวตนที่ได้รับความเคารพสูงมากในองค์กร แต่ทว่า การต่อสู้หลายปีก็ทําให้ส่วนใหญ่บาดเจ็บและถูกฆ่าก่อนหน้านั้น มันหลงเหลือแค่สองในแปดคน และอานูก็เป็นหนึ่งในนั้น นอกจากทั้งสอง ตัวตนระดับภัยพิบัติที่เหลือล้วนเป็นพวกหน้าใหม่

 

การเสียตัวตนเช่นนั้นย่อมเป็นเหมือนระเบิดที่โยนใส่ดาราทมิฬ อัตราการเลี้ยงดูตัวตนระดับภัยพิบัติไม่อาจไล่ตามทันอัตราที่พวกเขาถูกฆ่าในองค์กร ตัวตนระดับภัยพิบัติหาได้ยากยิ่ง

 

ในเวลาไม่ถึงนาที เบื้องบนก็ออกคําสั่งฉุกเฉินกับเอ็มเบอร์

 

“ล้มเลิกภารกิจและออกจากนอเรียสเดี๋ยวนี้ เราจะส่งกองยานไปรับตัวนาย หลังเสียสมาชิกสําคัญไป เราไม่อาจเสียได้อีกหนึ่ง!”

 

เดิมที เขาเคยเป็นผู้ไล่ล่า แต่บทบาทกลับเปลี่ยนไป และตอนนี้เขาคือฝ่ายหลบหนี เอ็มเบอร์ไม่พอใจกับความพ่ายแพ้ แต่เขาก็ไม่มีทางเลือก หลังปิดอุปกรณ์ เอ็มเบอร์ก็หลบหนีด้วยความเร็วสูงและไม่กล้าเสียเวลาสักวินาที กลัวว่าศัตรูอาจไล่ตามเขามา

 

ในความเป็นจริง มันเป็นไปไม่ได้สําหรับหานเซี่ยวและคนอื่นที่จะออกม่านพลัง พวกนอเรียสอยากให้เอ็มเบอร์หนีไปเร็วที่สุด และเอ็มเบอร์ก็ไม่รู้ว่าไม่มีใครไล่ล่าเขา

หนึ่งชั่วโมงต่อมา…

 

ฮึม!

 

ม่านพลังถูกดึงกลับ และเสาสีทองก็กลับลงใต้ดดิน ในที่สุดนอเรียสก็ลดม่านพลังลง

 

นี่หมายความว่าการต่อสู้จบลงแล้ว กล้องวงจรปิดพวกเขาเห็นภาพกองยานดาราทมิฬมารับตัวเอ็มเบอร์ไป และทุกคนจากกลุ่มการเงินก็ถอนหายใจโล่งอก แม้พวกเขาจะมียานรบนับพันรอบนอเรียส แต่การไม่ต่อสู้ก็ย่อมดีกว่า

 

หานเซี่ยวรู้ว่าภารกิจของนากาคนนั้นลุล่วงแล้ว เมื่อโกโดร่าส่งกําลังเสริมมาถึง ภารกิจก็จะสรุป การกําจัดอานูเป็นการต่อรองราคาชั้นเลิศ

 

แม้การต่อสู้จะจลงแล้ว ผลของการต่อสู้ก็เพิ่งเริ่มแสดง ด้วยการตายของยอดฝีมือดาราทมิฬ โกโดร่าต้องให้ความสนใจกับเหตุการณ์นี้มาก และทั่ววงแหวนดาวกระจายก็คงจับตาดูข่าวนี้ แม้จะมีคนนับไม่ถ้วนตายทุกวินาที แต่ก็มีความแตกต่างกัน ความตายของตัวตนระดัยภัยพิบัตินั้นสําคัญกว่าการตายของบุคคลทั่วไป

 

นอกจากนี้ ด้วยการใช้ความสามารถของเอเมส เอเมสย่อมอยากรู้มาก

 

แต่ทว่า ไม่มีอะไรสําคัญในตอนนี้ การจัดการกับสมาชิกกลุ่มการเงินนอเรียสคือสิ่งที่พวกเขาต้องเผชิญ หลังหานเซี่ยวและคนอื่นได้รับการปล่อยตัว พวกเขาก็ร้องขอเข้าพบเบื้องบนของกลุ่มการเงินทันที

 

กลุ่มการเงินได้เตรียมนับความเสียหายไว้แล้วและพวกเขาก็ต้องให้ค่าชดเชยที่เหมาะสมกับนอเรียส