บทที่ 1281 กวาดออกไป

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1281 กวาดออกไป

แปลโดย iPAT

แม่น้ำหวนคืน

ยิ่งพวกเขาว่ายไปข้างหน้า ผิวน้ำก็ยิ่งสงบ

อย่างไรก็ตามสำหรับนักว่ายน้ำในแม่น้ำหวนคืน พวกเขากลับรู้สึกว่ากระแสน้ำเชี่ยวกรากมากขึ้นเรื่อยๆ มันท้าทายความคิดที่จะว่ายไปข้างหน้าของพวกเขา

การโจมตีทางร่างกายไม่ใช่สิ่งใด แต่การโจมตีทางจิตใจน่ากลัวมาก

ในตำนาน กระทั่งมนุษย์คนแรกยังล้มเหลวในแม่น้ำหวนคืน แต่ผู้อมตะเหล่านี้กำลังทำสิ่งเดียวกันกับมนุษย์คนแรก

‘บัดซบ! ข้าไปต่อไม่ไหวแล้ว!’ อวี๋อี้เย่ซือถึงขีดจำกัด เขาไม่สามารถว่ายต่อไปและถูกกระแสน้ำพัดพาไปในที่สุด

ผู้อมตะภาคกลางอีกสองคนถูกพัดตามออกไปในเวลาใกล้เคียงกัน

ซือเจิ้งอี้ทุ่มเทความพยายามทั้งหมดแต่ยังล้มเหลวและถูกกวาดออกไป

ปู้เจิ้งซือไม่เต็มใจที่จะยอมแพ้แต่เขาทำได้เพียงลอยไปตามกระแสน้ำเท่านั้น

ใบหน้าของไป่เฉินเทียนและคนอื่นๆกลายเป็นน่าเกลียดเมื่อผู้อมตะภาคกลางค่อยๆถูกแม่น้ำหวนคืนพัดพาไป

ไม่นานหลังจากนั้นผู้อมตะภาคกลางในแม่น้ำหวนคืนก็เหลือเพียงเว่ยหลิงหยางเท่านั้น

ผู้อมตะระดับแปดย่อมมีพลังจิตตานุภาพที่ไม่ธรรมดา

เว่ยหลิงหยางแสดงให้เห็นถึงรากฐานที่ลึกซึ้งของผู้อมตะระดับแปดออกมาในครั้งนี้

สำหรับผู้อมตะที่ถูกกวาดออกไป พวกเขากลับไปรวมกลุ่มกับไป่เฉินเทียนโดยไม่ถูกปีศาจอมตะเซี่ยหูหรือพังพอนหางสุนัขขัดขวาง

“เหตุใดผู้อมตะของเราถึงถูกกวาดออกมาทั้งหมดแต่พวกเขายังอยู่ในแม่น้ำ?” ผู้อมตะภาคกลางบางคนรู้สึกไม่พอใจกลุ่มของอิงอู๋เซี่ยและฟางหยวน

“เพียงผู้อมตะระดับหกแต่พลังใจกลับน่าตกใจนัก แต่กระทั่งพวกเรายังพ่ายแพ้ พวกเขาจะล้มเหลวในไม่ช้า” ผู้อมตะภาคกลางที่พึ่งถูกกวาดออกมาจากแม่น้ำกล่าว

แต่พวกเขายังไม่เห็นฟางหยวนหรือกลุ่มของอิงอู๋เซี่ยล้มเหลวก่อนที่บางสิ่งจะเกิดขึ้น

หม่าหงหยุนสำลักน้ำและเกือบถูกพัดพาไป

“ระวัง!” ไป่เฉินเทียนอุทาน

อิงอู๋เซี่ยมีความสุขมากแต่ในไม่ช้าหม่าหงหยุนกลับสามารถว่ายน้ำอีกครั้ง

“หญิงผู้นั้น ความมุ่งมั่นของนางก็น่าตกตะลึงเช่นกัน” เหมาหลี่ชิวสามารถมองเห็นรายละเอียด

ในช่วงเวลาสำคัญจ้าวเหลียนหยุนช่วยหม่าหงหยุนให้กลับมาได้อีกครั้ง

ความจริงก็คือเมื่อแม่น้ำหวนคืนกลับสู่สภาวะปกติ กระแสน้ำไม่ได้ท้าทายความแข็งแกร่งทางร่างกายมากนักโดยเฉพาะต้นน้ำที่เริ่มตื่นขึ้นเรื่อยๆ แต่แรงกดดันจากจิตใจของมันกลับรุนแรงมาก

‘หงหยุน เราจะไม่แยกจากกันอีก’

‘เจ้ารู้หรือไม่เพื่อที่จะได้พบกับเจ้าอีกครั้ง ข้าต้องผ่านสิ่งใดมาบ้าง ข้าต้องผ่านความยากลำบากมามากมายเพียงใด?’

จ้าวเหลียนหยุนไม่สามารถส่งเสียงออกมาและทำได้แค่คิด

อย่างไรก็ตามร่างกายแก่ชราของนางกำลังปลดปล่อยพลังที่แม้แต่ตัวนางเองยังไม่อยากจะเชื่อว่านางจะมีออกมา

จ้าวเหลียนหยุนลืมเรื่องความแข็งแกร่งและอายุของนางไปแล้ว นางเพียงต้องการอยู่กับหม่าหงหยุนเท่านั้น

แม้พวกเขาจะต้องว่ายน้ำเพื่อรักษาชีวิตรอดและไม่สามารถแม้แต่จะมองหน้ากัน

แม้นางจะไม่สามารถพูดและมีอันตรายอยู่ด้านหลัง

‘ไม่ว่าสถานการณ์จะเลวร้ายเพียงใด ข้าก็ต้องอดทน ข้าจะใช้ทุกนาทีและวินาทีต่อสู้เคียงข้างกับเขา ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร ข้าก็มีความสุขกับสิ่งนี้!’

หม่าหงหยุนและจ้าวเหลียนหยุนยังเดินหน้าต่อไป แม้พวกเขาจะช้าลง แต่สถานการณ์ยังมีเสถียรภาพ

ไป่เฉินเทียนและผู้อมตะภาคกลางตลอดไปถึงผู้อมตะดำและผู้อมตะคลื่นสมุทร หัวใขของพวกเขาสั่นสะท้านขึ้นด้วยความตกใจ

ปีศาจอมตะเซี่ยหูก่นเสียงเย็น เขาไม่ได้ปกปิดความผิดหวังของตน

ทุกการเคลื่อนไหวในแม่น้ำหวนคืนส่งผลกระทบต่ออารมณ์ความรู้สึกของพวกเขา

‘กระทั่งร่างผีดิบอมตะยังรู้สึกเหนื่อย?’ อิงอู๋เซี่ยรู้สึกขมขื่น

ราชันภูเขาม่วงอยู่บนศีรษะของอิงอู๋เซี่ย บางครั้งเขาร้องไห้และบางครั้งเขาหัวเราะ

‘ข้าเป็นร่างแยกของเทพปีศาจจิตวิญญาณ’

‘ตั้งแต่กำเนิดข้ารู้ว่าข้ามีหน้าที่ของตนเอง’

‘ตอนนี้ท่านสีม่วงบ้าไปแล้ว ข้าทิ้งเขาไม่ได้ มิฉะนั้นเขาอาจสำลักน้ำตาย ข้าคือความหวังเดียวของนิกายเงา’

‘แม้ข้าจะต้องตายเพราะความเหน็ดเหนื่อยอยู่ที่นี่ ข้าก็ไม่สามารถยอมแพ้ เพียงจับจ้าวเหลียนหยุนและหม่าหงหยุน ข้าก็จะสามารถถ่วงเวลาจนกว่าท่านสีม่วงจะฟื้นคืนสติ!’

อิงอู๋เซี่ยกระตุ้นตนเอง

ไป่หนิงปิงกัดฟันแน่น

“ฮ่าฮ่าฮ่า” นางหัวเราะเบาๆด้วยใบหน้าบิดเบี้ยว อย่างไรก็ตามดวงตาของนางยังเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

‘น่าตื่นเต้น!’

‘นี่มันน่าตื่นเต้นมาก!’

‘ในแม่น้ำหวนคืน ข้าได้พบกับความตื่นเต้นรูปแบบใหม่ที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน นี่คือเส้นทางที่มนุษย์คนแรกเคยเดิน!’

‘น่าสนใจ นี่มันน่าสนใจเกินไปแล้ว!’

‘ต่อให้ล้มเหลว แต่การเดินทางครั้งนี้ก็ถือว่าคุ้มค่า มันคุ้มที่จะตาย!’

ไห่ลั่วหลันเต็มไปด้วยความโกรธ

‘ข้าจะหยุดอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?’

‘ท่านแม่ ข้ายังไม่ได้ล้างแค้นให้ท่าน!’

‘ข้ายังไม่ได้ฆ่าชายผู้นั้นด้วยมือของข้าเอง!’

‘อ๊าก…’

‘ข้าต้องอดทน…’

อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาผ่านไป บางคนก็ไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไป

‘ความตื่นเต้นของข้าจะจบลงที่นี่งั้นหรือ?’

‘ข้า…ยังไม่ได้…แก้แค้น…’

ไป่หนิงปิงและไห่ลั่วหลันหมดแรงและถูกแม่น้ำพัดพาไป

แต่ปีศาจอมตะเซี่ยหูยังช่วยดูแลความปลอดภัยให้กับพวกเขา

ดังนั้นตอนนี้จึงเหลือเพียงหกคนที่ยังอยู่ในแม่น้ำ

หม่าหงหยุนและจ้าวเหลียนหยุนยังอยู่ด้านหน้าสุด

อิงอู๋เซี่ยและราชันภูเขาม่วงเป็นอันดับสอง

ฟางหยวนอยู่ในอันดับสาม

เว่ยหลิงหยางอยู่ที่สี่

“ยังมีหวัง!” ตอนนี้ความหวังของปีศาจอมตะเซี่ยหูอยู่ที่อิงอู๋เซี่ย

ตราบเท่าที่อิงอู๋เซี่ยจับหม่าหงหยุนและจ้าวเหลียนหยุนได้สำเร็จ ฝ่ายปีศาจอมตะเซี่ยหูจะมีความได้เปรียบ พวกเขาจะสามารถคุกคามกลุ่มของไป่เฉินเทียนรวมถึงพังพอนหางสุนัข

หากหม่าหงหยุนและจ้าวเหลียนหยุนถูกกวาดออกมา ทุกคนจะมีโอกาส การต่อสู้ครั้งใหญ่จะปะทุขึ้นและยังไม่ชัดเจนว่าฝ่ายใดจะได้รับชัยชนะ ทั้งหมดจะขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งและโชคของพวกเขา

‘ท่านเว่ยหลิงหยาง ตอนนี้ขึ้นอยู่กับท่านแล้ว’ ไป่เฉินเทียนคิดและกำหมัดแน่น

พังพอนหางสุนัขหัวเราะ

ดวงตาของมันมองไปที่แม่น้ำและครุ่นคิด

“อา…เกียรติยศของวังสวรรค์…” ครู่ต่อมาเว่ยหลิงหยางก็ถึงขีดจำกัด แม้จะไม่เต็มใจแต่เขาก็ถูกกระแสน้ำกวาดออกไป

ผู้อมตะภาคกลางตกตะลึงไปอย่างสมบูรณ์

บางคนกรีดร้องออกมาด้วยความไม่อยากจะเชื่อ “เป็นไปได้อย่างไร? ท่านเว่ยหลิงหยางเป็นผู้อมตะระดับแปด ท่านจะแพ้คนเหล่านี้ได้อย่างไร?”

“การเดินทางในแม่น้ำหวนคืนไม่เกี่ยวกับระดับการบ่มเพาะ มันขึ้นอยู่กับความมุ่งมั่นเท่านั้น” บางคนอธิบาย

ผู้อมตะภาคกลางเงียบ นี่หมายความว่าความมุ่งมั่นของผู้อมตะระดับแปดที่ยิ่งใหญ่ของภาคกลางยังด้อยกว่าคนเหล่านั้นงั้นหรือ?

ไป่เฉินเทียนกล่าวอย่างช้าๆ “อย่าลืมว่าหม่าหงหยุนกับจ้าวเหลียนหยุนพักบนเนินดินมาก่อนหน้านี้ ตามข้อมูล พวกเขาได้กินผลไม้ไปด้วย ตั้งแต่แรกพวกเขาอยู่ด้านหน้าสุดขณะที่ผู้อมตะคนอื่นๆอยู่ด้านหลังและผ่านการต่อสู้หลายครั้ง ความแข็งแกร่งและความมุ่งมั่นของทุกคนถูกใช้ไปมากแล้ว”

ผู้อมตะภาคกลางเข้าใจในที่สุด

“เป็นเรื่องจริง”

“หากทุกคนมีจุดเริ่มต้นเหมือนกัน ท่านเว่ยหลิงหยางจะได้รับชัยชนะอย่างแน่นอน!”

คำกล่าวของไป่เฉินเทียนกอบกู้ขวัญกำลังใจของกลุ่มผู้อมตะภาคกลางกลับมาได้อีกครั้ง

แต่ไป่เฉินเทียนยังนิ่งเฉย เขารู้สึกหนักใจมาก

‘ตอนนี้เราควรทำอย่างไร?’ ไป่เฉินเทียนลังเล

กลุ่มผู้อมตะภาคกลางมีความเสียเปรียบ

ทางเลือกที่ฉลาดที่สุดคือการล่าถอยและรักษาความแข็งแกรงของพวกเขาเอาไว้ พวกเขาสามารถไปยังสวรรค์สีดำเพื่อรวมกลุ่มกับนักรบหมื่นมังกรและดูว่าพวกเขาจะสามารถใช้คฤหาสน์วิญญาณอมตะสองหลังพลิกสถานการณ์ได้หรือไม่

ทางเลือกอีกสายคืออยู่ที่นี่ต่อสู้กับปีศาจอมตะเซี่ยหูและพังพอนหางสุนัขเพื่อชิงตัวหม่าหงหยุนกับจ้าวเหลียนหยุน

‘เราควรปรึกษาท่านเว่ยหลิงหยางก่อน’ นี่เป็นเรื่องใหญ่เกินไป ไป่เฉินเทียนไม่สามารถตัดสินใจเพราะเขาไม่ใช่ผู้นำกลุ่ม

แต่ในขณะที่พวกเขากำลังรอ การเปลี่ยนแปลงบางอย่างก็เกิดขึ้นในแม่น้ำหวนคืนอีกครั้ง

“ข้า…ต้องไม่แพ้!” อิงอู๋เซี่ยเงยหน้าตะโกน แต่แม่น้ำหวนคืนยังกลืนกินเขาและกวาดเขาออกไป

‘ในที่สุดมันก็จบแล้ว อิงอู๋เซี่ยตายซะ!’ ฟางหยวนกรีดร้องอยู่ในใจ เขารอช่วงเวลานี้มาตลอด

เขาเผชิญหน้ากับอิงอู๋เซี่ยและต่อสู้กันอยู่ในแม่น้ำ นี่ทำให้ความก้าวหน้าของพวกเขาหยุดลง

ร่างทารกอมตะกับร่างผีดิบอมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่ง ปฎิเสธไม่ได้ว่าอิงอู๋เซี่ยเป็นฝ่ายเสียเปรียบ เขาถูกทุบตีจนกระดูกหัก

แต่ร่างผีดิบอมตะเป็นร่างกายที่ตายไปแล้วตั้งแต่แรก จุดอ่อนเดียของมันคือสมอง

ฟางหยวนเคยอยู่ในร่างผีดิบอมตะมาระยะหนึ่ง เขาเข้าใจเรื่องนี้เป็นอย่างดี แต่อิงอู๋เซี่ยก็ปกป้องศีรษะของเขาเอาไว้และไม่สนใจร่างกายส่วนที่เหลือ

นี่เป็นการตัดสินใจที่ฉลาด

เมื่อเวลาผ่านไปพวกเขาจะถูกกวาดออกจากแม่น้ำขณะที่ปีศาจอมตะเซี่ยหูรวมถึงไป่หนิงปิงและไห่ลั่วหลันรออยู่แล้ว

ท่ามกลางผู้คนทั้งหมดที่อยู่ที่นี่ ฟางหยวนเป็นคนเดียวที่ไม่มีพรรคพวก

เขาต้องแข่งขันกับเวลา

ฟางหยวนต้องสังหารอิงอู๋เซี่ยและราชันภูเขาม่วงก่อนที่พวกเขาจะถูกกวาดออกจากแม่น้ำหวนคืน

แต่อิงอู๋เซี่ยยังพยายามถ่วงเวลาเพื่อรักษาชีวิตรอด

นั่นทำให้ฟางหยวนไม่สามารถทำสิ่งใด