ตอนที่ 594 อ่อนแอ

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

ตอนที่ 594 อ่อนแอ 

 

 

กิ้งก่าตัวนั้นตะกายตัวดิ้นรนเอาชีวิตรอดขณะที่ธารน้ำศักดิ์สิทธิ์เอ่อท่วมอยู่ทั่วร่างของมัน ทว่าก็ไม่เป็นผล ทันใดนั้นงูแห่งความโกลาหลที่ซ่อนตัวอยู่ในธารน้ำศักดิ์สิทธิ์ก็เลื้อยออกมาจัดการกิ้งก่าเข้าที่คอของมัน หลี่ว์ซู่สัมผัสได้อย่างชัดเจนเลยว่าเจ้างูนั้นปล่อยพลังแห่งความมืดไปยังกิ้งก่า ทำให้กิ้งก่าถึงกับแน่นิ่งไปในทันที เวลาที่ธารน้ำศักดิ์สิทธิ์ใช้ในการปลิดชีพกิ้งก่ายิ่งลดน้อยลงเข้าไปอีก 

 

 

และในสิบวินาทีต่อมา กิ้งก่ายักษ์กินคนก็ได้จากโลกไป 

 

 

ข้างล่างนี่ยังมีอะไรแปลกๆ อีกเยอะ หลี่ว์ซู่เดินต่อไป เจ้างูแห่งความโกลาหลตื่นเต้นจนถึงขั้นไม่ยอมกลับเข้าไปในตราแผ่นดินอีกเลย ตอนนี้ธารน้ำศักดิ์สิทธิ์ก็เลยเพิ่มปริมาณมากขึ้น หลี่ว์ซู่ไม่แน่ใจว่ามวลน้ำเพิ่มขึ้นมาเท่าไหร่หลังจากที่ดูดกลืนกิ้งก่ายักษ์เข้าไป เขาต้องหาเจ้าพวกกิ้งก่านี่อีก จะได้พิสูจน์เรื่องนี้ให้รู้แน่ชัด… 

 

 

เมื่อหลี่ว์ซู่เห็นว่าเจ้างูไม่ยอมกลับเข้าไปในตราแผ่นดินแล้วก็ไม่ได้ว่าอะไร ขควบคุมให้ธารน้ำไหลไปตามทางที่เขาเดินไปด้วย คนปะทุพลังสายธาตุน้ำอย่างเขาจะได้รู้ได้ว่ามีอันตรายใดอยู่รอบข้างหรือเปล่า 

 

 

หลี่ว์ซู่เดินต่อไปข้างหน้า ส่วนเจ้างูก็ช่วยให้หลี่ว์ซู่เลือกทางเดินที่ถูกต้อง 

 

 

สิบนาทีผ่านไป หลี่ว์ซู่ก็รู้สึกได้ว่าพื้นมีการสั่นสะเทือน เหมือนกับว่ามีกองทัพกำลังมุ่งหน้ามาที่เขาอย่างนั้นแหละ! 

 

 

หลี่ว์ซู่สงบสติอารมณ์ลง เขาคาดไว้ก่อนหน้านี้ว่าคงมีกิ้งก่าเหลืออยู่ราวร้อยกว่าตัว แต่ดูเหมือนเขาจะเดาผิดไป ใครกันนะที่เลี้ยงดูพวกกิ้งก่านี่ไว้มากมาย เป้าหมายของพวกเขาคืออะไรกัน 

 

 

ถ้าเกิดกิ้งก่ากินคนพวกนี้บุกเข้าโจมตีเมืองที่ใกล้ที่สุดจากที่นี่ เมืองนั้นคงย่อยยับไม่เหลือซากก่อนที่เฉินไป่หลี่หรือเนี่ยถิงจะมาถึงเสียอีก 

 

 

กิ้งก่าพวกนี้ไม่ใช่แค่เร็วเท่านั้น แต่มันยังอึดอีกด้วย การทำลายเมืองที่ไม่มีการปกป้องใดๆ คงง่ายมากสำหรับพวกมัน 

 

 

หลี่ว์ซู่ควบคุมธารน้ำให้กระจายไปในทุกทิศทางในถ้ำนี้ เขานั่งลงที่ทางแยกและลอยตัวอยู่ในน้ำขณะรอให้ของเหลวกระจายตัวไปั 

 

 

ทันใดนั้นกิ้งก่ากินคนก็ปรากฏตัวที่ทางเดินรอบๆ พวกมันจ้องมองของเหลวสีดำอย่างระมัดระวัง หลี่ว์ซู่ยังคงลอยตัวในน้ำต่อไปไม่ขยับเขยื้อน เขาเดาไว้ว่าพวกกิ้งก่าที่ล้อมเขาไว้น่าจะมีอย่างน้อยที่สุดก็ร้อยตัวได้ 

 

 

แต่พวกกิ้งก่าไม่ได้รีบเข้ามาโจมตีเขา ราวกับว่ามันกำลังรอดูสถานการณ์อยู่ 

 

 

พวกมันไม่ค่อยฉลาดเท่าไหร่ หลี่ว์ซู่ไม่เชื่อว่าจะไม่มีคนคอยควบคุมพวกกิ้งก่าพวกนี้ เป็นไปได้ว่าเมื่อกิ้งก่าตัวแรกถูกกำจัดไปด้วยธารน้ำศักดิ์สิทธิ์ ก็มีการส่งสัญญาณไปบอกคนควบคุมในช่องทางต่างๆ เพราะฉะนั้นกิ้งก่าพวกนี้เลยรู้ว่าหลี่ว์ซู่อยู่ที่ไหน แถมมันยังรู้ความสามารถของธารน้ำศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย 

 

 

และต่อมาพวกกิ้งก่ากินคนสิบกว่าตัวก็วิ่งเข้ามาหาหลี่ว์ซู่ประหนึ่งพวกมันไม่กลัวธารน้ำศักดิ์สิทธิ์นี้เลยสักนิด พวกมันดาหน้ากันเข้ามาในธารน้ำ ราวกับจะใช้จำนวนที่มีช่วยเจือจางความเข้มข้นของพลังโจมตีของธารน้ำศักดิ์สิทธิ์นี้ 

 

 

แต่ปริมาณของธารน้ำก็เยอะอยู่เหมือนกัน เขาสามารถใช้น้ำนี่โอบล้อมกลุ่มกิ้งก่าที่วิ่งเข้ามาโจมตีนี้ได้ทั้งหมด แต่หากมีเยอะกว่านี้ เขาก็ทำอะไรไม่ได้เหมือนกัน ก็เหมือนทักษะการโจมตีหมู่ที่สามารถจู่โจมศัตรูกว่าสิบคนได้ในเวลาเดียวกันนั่นล่ะ เพียงแต่ตอนนี้เขาต้องสู้กับศัตรูกว่าร้อยตัว ทุกอย่างช่างเกี่ยวข้องกันจริง 

 

 

ตรงหน้าเขามีกิ้งกว่าอยู่หลายสิบตัว และหลี่ว์ซู่คงจะประเมินธารน้ำศักดิ์สิทธิ์ต่ำไปหน่อย! 

 

 

ขณะที่หลี่ว์ซู่ควบคุมน้ำกวาดเอากิ้งก่าเข้าไป ทันใดนั้นงูแห่งความโกลาหลก็เลื้อยเข้าไปเหมือนดาบที่พุ่งโจมตีเข้าไปที่กิ้งก่าอย่างรวดเร็ว 

 

 

งูแห่งความโกลาหลเลื้อยเข้าไปที่กิ้งก่าทีละตัวโดยไม่มีสิ่งใดต่อต้าน มันเคลื่อนไหวรวดเร็วอย่างกับดาวตกและไม่ทิ้งรอยอะไรไว้เบื้องหลังเลย 

 

 

เจ้างูกัดกิ้งก่าและปล่อยพลังงานมืดเข้าไปในตัวพวกมัน ร่างของกิ้งก่าถูกกัดกร่อนจนหยุดขยับไปในที่สุด หลี่ว์ซู่ยืนอยู่บนธารน้ำโดยไม่ขยับเขยื้อน งูแห่งความโกลาหลจัดการศัตรูชุดนี้ไปเสียราบคาบ 

 

 

หลี่ว์ซู่ที่ยืนอยู่บนธารน้ำ พยายามจับสัมผัสบรรยากาศโดยรอบว่ามีสิ่งใดเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ เขาต้องการสัมผัสหาพลังนั้นให้ได้และหาให้เจอว่าใครเป็นผู้บงการกิ้งก่ากินคนพวกนี้ 

 

 

ดูเหมือนว่าคนบงการจะใช้กิ้งก่าสิบกว่าตัวเมื่อกี้มาทดสอบความแข็งแกร่งของธารน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่เขามี แล้วทันใดนั้นเอง กิ้งก่ากว่าร้อยตัวก็กรูกันเข้ามาในธารน้ำศักดิ์สิทธิ์ในเวลาเดียวกัน 

 

 

หลี่ว์ซู่ไม่ได้ขยับเขยื้อน เขาปล่อยของเหลวไปตามทางต่างๆ มันไหลไปเอ่อท่วมตัวกิ้งก่ากินคนตรงทางเดินและหยุดการเคลื่อนไหวของพวกมัน 

 

 

พื้นที่ใต้ดินนี่ใหญ่มาก แต่ไม่ว่าจะใหญ่มากแค่ไหนก็ต้องมีขีดจำกัดของขนาดเหมือนกัน ตอนนี้หลี่ว์ซู่ย้ายมาอยู่บริเวณทางเดินแล้ว ไม่ใช่ที่ทางแยกอีกต่อไป เขาจะได้จัดการกับพวกกิ้งก่าในจำนวนน้อยลงไปในคราวเดียว 

 

 

ในสถานที่แบบนี้แล้ว การเคลื่อนไหวของหลี่ว์ซู่นั้นรวดเร็วเกินกว่าที่ใครจะคาดคิด! เมื่อธารน้ำศักดิ์สิทธิ์ได้กลืนกินกิ้งก่าสิบกว่าตัวเข้าไป หลี่ว์ซู่ก็รู้แล้วว่ากิ้งก่าแต่ละตัวนั้นให้ปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นมาเท่าไหร่ นี่เป็นอาวุธที่เหมาะกับการต่อสู้นี้จริงๆ! 

 

 

ธารน้ำศักดิ์สิทธิ์ไหลเชี่ยวไปทั่วทั้งถ้ำ ขนาดกำแพงหินที่ขรุขระยังถูกน้ำกัดกร่อนให้เป็นกำแพงเรียบๆ ได้เลย 

 

 

ถ้าเป็นสถานการณ์ปกติ โขดหินในแม่น้ำคงจะเรียบขึ้นมาได้หลังจากผ่านไปแล้วหลายพันปี หรือไม่ก็อาจจะนานกว่านั้น แต่ธารน้ำศักดิ์สิทธิ์นี้มีฤทธิ์กัดกร่อน ก็เลยทำให้หินเรียบขึ้นได้ภ่ยในไม่กี่นาที 

 

 

ในขณะที่กิ้งก่ากินคนล้มตายไปเรื่อยๆ ปริมาณน้ำก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เหมือนกัน เป็นเรื่องค่อนข้างลำบากสำหรับหลี่ว์ซู่ที่ต้องสู้กับกิ้งก่ากินคนร้อยตัวภายในครั้งเดียว แต่เขาก็ตัดสินใจแล้วว่าจะสู้สุดตัว ขนาดซือโก่วและฝูฉื่อยังพุ่งออกไปโจมตีพวกกิ้งก่าเลย 

 

 

กระบี่บินสองเล่มนั้นหมุนผ่านอากาศเหมือนเครื่องปั่น หากจะโจมตีทะลุผิวหนังหนาๆ ของกิ้งก่า คนคนหนึ่งอาจต้องใช้อาวุธมีคมมากกว่าหลายชิ้น แต่ซือโก่วและฝูฉื่อนั้นต่างออกไป! 

 

 

จิตวิญญาณกระบี่พุ่งออกมาจากซือโก่วและพุ่งเข้าไปตบหน้าพวกกิ้งก่า 

 

 

แล้วอยู่ๆ ผนังถ้ำข้างบนหลี่ว์ซู่ก็ถล่มลงมา จากนั้นกิ้งก่าตัวหนึ่งก็วิ่งเข้ามาหาหลี่ว์ซู่ กิ้งก่าตัวนี้ดูจะแข็งแกร่งกว่าตัวอื่นๆ ผู้บงการคงอยากใช้กิ้งก่าตัวนี้กำจัดหลี่ว์ซู่ตอนที่เขาไม่มีซือโก่วและฝูฉื่อป้องกัน! 

 

 

เจ้ากิ้งก่ากินคนตัวนี้อยู่ระดับ B ช่วงต้นเลยทีเดียว! 

 

 

หลี่ว์ซู่ใจเย็นมาก เขามองไปที่กิ้งก่าตัวนั้นที่วิ่งสวนธารน้ำศักดิ์สิทธิ์เข้ามาหาอย่างดุร้าย หลี่ว์ซู่รู้สึกได้ว่าผู้บงการนั้นอยู่ไม่ไกล แต่กระนั้น เด็กหนุ่มก็แสร้งทำเป็นไม่รู้ เขารอโอกาสนี้มานานแล้ว! 

 

 

หลี่ว์ซู่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ความคล่องตัวของเขานั้นไม่เป็นรองใคร 

 

 

ตอนที่กิ้งก่ากินคนนั้นทะลุเข้ามาในกำแพงหิน หลี่ว์ซู่ก็เร่งรุดไปข้างหน้าและฟันกิ้งก่าเข้าไป ความจริงแล้วเขาถือกระบี่เฉิงอิ่งไว้ในมืออยู่ตลอดเวลา! 

 

 

มีร่างเล็กๆ ถลาออกมาจากซือโก่ว มันตบหน้ากิ้งก่าที่อยู่เบื้องหน้าหลี่ว์ซู่ และกิ้งก่าก็ไม่ได้ทันระวังกับการจู่โจมนี้ มันถึงกับเซไปข้างๆ ด้วยแรงตบ! 

 

 

[ได้แต้มอารมณ์จากกิ้งก่าที่ร่วงหล่น +1 +1 +1+…] 

 

 

จิตวิญญาณกระบี่นั้นขนาดจิดริด แต่ความแข็งแกร่งของมันเทียบเท่ากับระดับ C ขั้นสูงๆ เลยทีเดียว! หลี่ว์ซู่มานั่งคิดว่ามันคงจะดีกว่านี้ถ้าเจ้าจิตวิญญาณกระบี่ไม่ได้มีวิธีการโจมตีแค่การตบเพียงอย่างเดียว… 

 

 

ดาบเฉิงอิ่งในมือหลี่ว์ซู่เสียบเข้าไปที่หัวของกิ้งก่าขณะที่มันกำลังอ่อนแอ เขาฝึกท่านี้มาหลายครั้งแล้ว ถ้านี่ฆ่าเข้ากิ้งก่าภายในครั้งเดียวไม่ได้ การฝึกที่ผ่านมาคงไร้ความหมายน่าดู 

 

 

แล้วหัวของกิ้งก่าก็ถูกผ่าครึ่ง! เหมือนกับเอามีดร้อนไปวางไว้บนน้ำแข็งอย่างไรอย่างนั้น! 

 

 

เนี่ยถิงบอกให้หลี่ว์ซู่อดทนใจเย็นขณะฝึกกระบี่ แต่เขาไม่เคยบอกเลยว่าดาบเฉิงอิ่งจะเป็นอาวุธวิเศษที่คมกริบที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา 

 

 

มันทั้งคมและล่องหน ความแข็งแกร่งของหลี่ว์ซู่ได้เพิ่มขึ้นมาแล้วจากกระบี่เฉิงอิ่งนี้!