เมื่อเห็นผู้คนที่มาเยี่ยมในห้องคนไข้ ถังซีก็รู้ทันทีว่าเธอนั้นช่างโง่เหลือเกิน ที่พยายามปกปิดสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอจากพ่อแม่ ภายใต้สายตาโกรธแค้นของเซียวจิ่งกับเซียวส่า ถังซีรีบยกมือขอโทษ “ฉันผิดไปแล้ว ฉันผิดไปแล้ว แต่ฉันไม่รู้นี่ว่าร่างกายฉันจะอ่อนแอขนาดนี้!” 

 

 

หยางจิ้งเสียนมองหน้าถังซีอย่างไม่รู้จะพูดอย่างไร ท้ายที่สุดเธอก็ดุลูกสาวไม่ลง ได้แต่กล่าวเสียงอ่อนว่า “แม่จะโทรไปหาคุณครูหัวหน้าระดับชั้นของลูก และขอลาหยุดเรียนหนึ่งสัปดาห์…” 

 

 

ถังซีกะพริบตาปริบๆ ดูเหมือนว่านี่จะเป็นทางเลือกเดียว เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะไปเรียนหนังสือหลังจากได้รับการผ่าตัดอย่างนี้ 

 

 

เซียวส่ายืนอยู่ที่หัวเตียง มองถังซีโดยมีรอยยิ้มยั่วเย้าบนริมฝีปาก “เอ้อ น้องรัก พี่เกรงว่าเธอจะแพ้พนันพี่เสียแล้วล่ะ ถ้าเธอขืนขาดเรียนบ่อยๆ แบบนี้ จริงไหม เธอคงต้องซื้อรถสปอร์ตลิมิเต็ดอิดีชันให้พี่แล้วละมั๊ง” 

 

 

ถังซีพูดไม่ออก พี่ชายเธอนี่ช่างงกเสียจริง! 

 

 

ถังซียิ้มให้เซียวส่าและพูดผ่านไรฟัน “ไม่ต้องห่วงหรอก ฉันจะทำให้พี่ซื้อรถสปอร์ตลิมิเต็ดอิดีชันให้ฉันให้ได้!” 

 

 

เมื่อพูดจบเธอก็มองลงไปที่ร่างกายของตัวเองแล้วถอนหายใจ สุภาษิตบอกไว้ว่า ความปลาบปลื้มยินดีอย่างที่สุดต้องแลกมาด้วยความเสียใจ นี่เธอยังไม่ได้ปลาบปลื้มยินดีอย่างที่สุดเลย แต่กลับต้องแลกมาด้วยความโกรธอย่างที่สุด! ไม่ยุติธรรมเลย! 

 

 

… 

 

 

ที่ห้องทำงานนักออกแบบพิเศษในแผนกออกแบบของเฉียวอินเตอร์แนชันนัลกรุป 

 

 

ฉินซินหยิ่งยังคงโทรศัพท์หาเซียวจิ้นหนิงต่อไป แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ เธอกดโทรอีกครั้งก่อนจะโยนโทรศัพท์ทิ้งด้วยใบหน้าบูดบึ้ง เกิดอะไรขึ้นกับเซียวจิ้นหนิง ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงติดต่อไม่ได้เสมอในช่วงเวลาวิกฤติ บ้าที่สุด! 

 

 

… 

 

 

ทางด้านถังซี เธอนอนอยู่บนเตียง อ่านรายงานข่าวปัจจุบันบนโทรศัพท์มือถือ เธอไม่เจอข่าวตระกูลเซียวเลย น่าจะเป็นเพราะการจัดการด้านประชาสัมพันธ์ที่ดีของเซียวเจี่ยน ไม่อย่างนั้นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในตระกูลเซียวเมื่อวานนี้ จะต้องเป็นข่าวพาดหัวที่ผู้คนให้ความสนใจของหนังสือพิมพ์รายใหญ่อย่างแน่นอน 

 

 

ตระกูลเซียวไม่เพียงแต่เป็นครอบครัวที่ทรงอิทธิพลในเมือง A เท่านั้น แต่ยังเป็นเจ้าของเซิ่งต้าเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ที่มีดารานักแสดงมากมาย ไม่ว่าจะเป็นช่องธุรกิจหรือช่องบันเทิงต่างก็ชอบเขียนข่าวเกี่ยวกับตระกูลเซียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพิ่งมีรายงานข่าวเมื่อไม่นานมานี้ว่า เซียวจิ้นหนิงไม่ใช่ลูกสาวของตระกูลเซียว และยังทำความเลวร้ายไว้กับตระกูลเซียวอีกด้วย เป็นสาเหตุให้สื่อทุกสื่อให้ความสนใจตระกูลเซียวอย่างใกล้ชิด เรื่องอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นในตระกูลเซียว จะต้องถูกนำไปพาดหัวข่าวในสื่อหลัก 

 

 

ถังซีอ่านข่าวปัจจุบันสักพักก็เข้าสู่บัญชีโซเชียลของเธอ ทันทีที่เธอใส่รหัสเข้าสู่เว็บไมโครบล็อกก็มีคนส่งข้อความถึงเธอทางวีแชท ถังซีจึงออกจากไมโครบล็อกและเปิดอ่านข้อความ การตัดต่อโฆษณาทีวีที่ถ่ายทำเมื่อวานนี้เสร็จไปครึ่งหนึ่งแล้ว เฮ่อหว่านหนิงส่งมาให้เธอดูว่าส่วนที่เสร็จแล้วเป็นอย่างไร 

 

 

ถังซีส่งอีโมจิรูปโอเคไปให้เฮ่อหว่านหนิง และเฮ่อหว่านหนิงตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว ‘คุณแม่ของคุณเป็นอย่างไรบ้าง คุณจัดการกับปัญหาเรียบร้อยหรือยัง’ 

 

 

ถังซีเม้มริมฝีปาก ขณะถือโทรศัพท์อยู่ในมือและแตะบนหน้าจอ ‘ไม่เป็นอะไรมาก ฉันแก้ปัญหาเกือบเรียบร้อยแล้ว ฉันจะเชิญคุณมาดื่มฉลองกันใน ‘ค่ำคืนแสนโรแมนติก’ หลังจากทุกอย่างเรียบร้อย” 

 

 

ถังซีเปิดวิดีโอที่เฮ่อหว่านหนิงส่งมา และหลงเสน่ห์ตัวเองในทันที ในวิดีโอเธอดูสวยมากแม้จะสวมหน้ากากครึ่งหน้าสีเงิน ภายใต้หน้ากากนั้นเธอดูลึกลับอย่างยิ่ง ผมเธอดัดเป็นลอนแต่งทรงสวย เธอดูราวกับนางฟ้าที่ลงมาจากสรวงสวรรค์จริงๆ ในชุดนางฟ้าแห่งบุปผชาตินั้นเธอดูสวยงามอย่างน่าอัศจรรย์ และดูไม่เหมือนมนุษย์ เธอรวบชายกระโปรง เผยให้เห็นเท้าเล็กๆ ขาวผ่องราวหิมะ ก้าวเดินไปยังบ่อน้ำพุร้อนทีละก้าว… จากนั้นวิดีโอก็ตัดไป 

 

 

ถังซีตะลึงกับภาพในวิดีโอ เธอเคยคิดว่าตอนถ่ายโฆษณาทีวีเธอคงไม่สามารถแสดงได้เหมือนนักแสดงมืออาชีพ แต่วิดีโอสั้นๆ ที่จบลงในเวลาเพียงไม่กี่วินาทีนี้ เปลี่ยนมุมมองที่เธอมีต่อตัวเองโดยสิ้นเชิง 

 

 

 

 

 

เวลาผ่านไปครู่หนึ่งกว่าถังซีจะจะพิมพ์ตอบเฮ่อหว่านหนิง ‘ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ คุณสร้างนางฟ้าแห่งบุปผชาติได้อย่างสมบูรณ์แบบ’ 

 

 

ก่อนหน้านี้ถังซีไม่ค่อยชื่นชมใครนัก เธอจะไม่ยกย่องใครง่ายๆ โดยเฉพาะในเรื่องการทำงาน แต่เธอประทับใจอย่างยิ่งกับประสาทสัมผัสอันแรงกล้าของเฮ่อหว่านหนิง แม้เธอจะรู้อยู่ว่าตนเองสวย แต่เธอจะไม่มีทางรู้เลยว่าเธอมีศักยภาพในทางนี้ หากปราศจากการออกแบบอย่างชาญฉลาดของเฮ่อหว่านหนิง 

 

 

ทางด้านเฮ่อหว่านหนิง เขายังไม่ตอบกลับสักพักหนึ่ง แต่เมื่อถึงเวลาที่เขาตอบกลับมาถังซีก็ได้รับโทรศัพท์จากเบอร์คนแปลกหน้า ถังซีเลิกคิ้วแล้วรับสาย “ฮัลโหล เซียวโหรวพูดค่ะ” 

 

 

เมื่อผู้กำกับหลานได้ยินเสียงถังซีก็ตอบกลับทันที “คุณหนูเซียว สวัสดีครับ ผมหลานเจิ้นเทียน ที่เราเจอกันที่สถานีตำรวจเมื่อวานนี้” 

 

 

ถังซีเลิกคิ้ว “สวัสดีค่ะ ผู้กำกับหลาน มีอะไรให้ฉันช่วยหรือเปล่าคะ คดีมีอะไรคืบหน้าบ้างไหม” 

 

 

ผู้กำกับหลานตอบว่า “เราได้ยื่นขอหมายจับเพื่อจับกุมหลินเจียวแล้วครับ นอกจากนี้ผมมีเรื่องอยากบอกคุณบางอย่าง คือโทรศัพท์มือถือของเซียวจิ้นหนิงยังคงมีคนโทรเข้ามาวันนี้ เราตรวจดูแล้วพบว่าเบอร์ที่โทรมาเป็นของคนชื่อฉินซินหยิ่ง คุณคิดว่าเราควรจัดการกับโทรศัพท์นี้อย่างไรดีครับ” 

 

 

ถังซีตกตะลึง ซินหยิ่งหรือ เธอติดต่อกับเซียวจิ้นหนิงได้อย่างไร 

 

 

ถังซีเม้มริมฝีปาก ไม่พูดอะไร ผู้กำกับหลานกล่าวต่อไปว่า “ผมเกรงว่าผู้หญิงที่ชื่อฉินซินหยิ่งนี้ อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีเจตนาทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บที่เซียวจิ้นหนิงก่อขึ้น ผมจึงอยากถามคุณว่าจะจัดการกับโทรศัพท์มือถือของเซียวจิ้นหนิงอย่างไร” 

 

 

มีส่วนเกี่ยวข้อง… หัวใจถังซีวูบอย่างแรง เธอกำโทรศัพท์แน่น ซินหยิ่งมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างนั้นหรือ จะเป็นไปได้อย่างไร… ถึงแม้ฉินซินหยิ่งจะชอบเฉียวเหลียง แต่เธอก็แค่พยายามแยกถังซีจากเฉียวเหลียง… และคอยยุยงสร้างความขัดแย้งระหว่างพวกเขา… 

 

 

แต่ตอนนี้เธอคือเซียวโหรว ไม่ใช่ถังซี… เพราะฉะนั้นก็หมายความว่าซินหยิ่งต้องการจัดการกับคนแปลกหน้า เพื่อแย่งเฉียวเหลียงใช่ไหม 

 

 

เป็นไปได้… 

 

 

“ผู้กำกับหลานคะ ดูเหมือนฉันจะเคยได้ยินชื่อฉินซินหยิ่ง ขอโทรศัพท์มือถือของเซียวจิ้นหนิงให้ฉันได้ไหมคะ” ตามกฎระเบียบแล้วพวกเขาไม่สามารถมอบโทรศัพท์มือถือให้เธอได้ 

 

 

ผู้กำกับหลานตอบรับโดยไม่ลังเล “ได้สิครับ ผมจะให้คนนำไปให้คุณ” 

 

 

ถังซีขอบคุณเขาก่อนวางสาย แล้วโยนโทรศัพท์ลงข้างตัว 

 

 

หากจะพูดกันตามตรง ตอนที่เห็นฉินซินหยิ่งที่บริษัทเฉียวเหลียง ถังซีรู้ทันทีว่าความเข้าใจผิดทั้งหมดระหว่างเธอกับเฉียวเหลียงอาจเกิดจากฉินซินหยิ่ง เธอจึงโมโหมาก หาเรื่องทะเลาะกับฉินซินหยิ่งใหญ่โต และถึงกับแสดงความรักกับเฉียวเหลียงอย่างเปิดเผยต่อหน้าฉินซินหยิ่ง… 

 

 

อย่างไรก็ตามเธอไม่คาดคิดว่าฉินซินหยิ่งจะโกรธมาก ถึงขนาดหาทางร่วมมือกับเซียวจิ้นหนิงตามทำร้ายเธอเพื่อแก้แค้น 

 

 

เมื่อเฉียวเหลียงมาหาเธอที่ห้องคนไข้ครั้งต่อมา ถังซีกำลังนั่งอยู่บนเตียง จ้องมองไปข้างหน้าด้วยสายตาว่างเปล่า เขาขมวดคิ้วมองหน้าเธอ ถามว่า “มีอะไรหรือ” 

 

 

ถังซียิ้มให้เฉียวเหลียง และตอบด้วยคำถามที่เธอคิดอยู่ในใจ “อาเหลียง คุณคิดว่าซินหยิ่งเป็นคนยังไง”