อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่381 โลกปั่นป่วน
“องค์ชายแคว้นฉู่ก็โชคร้ายเสียจริง เป็นถึงองค์ชาย ควรจะมีตำแหน่งที่สูงศักดิ์และมีชีวิตที่สุขสบาย แต่กลับกลายเป็นนายบำเรอ กลายเป็นนายบำเรอก็ช่างเถอะ ยังตายในตอนหนุ่มอีก ถ้าเขายังมีชีวิตอยู่ ตำแหน่งรัชทายาทแห่งแคว้นฉู่ต้องเป็นของเขาแน่นอน”

“นั่นน่ะสิ ฮ่องเต้ฉู่ทรงรักและหวงแหนฮองเฮาฉู่มาก ทั้งชีวิตนี้นอกจากฮองเฮาฉู่แล้ว ก็ไม่เคยมีผู้หญิงอื่นอีกเลย เขาจะไม่สละบัลลังก์ให้องค์ชายที่ฮองเฮาฉู่คลอดได้ยังไงล่ะ เฮ้อ……”

“ดูแล้วช่วงเวลาที่พวกเราล่าสัตว์ในป่าลึก ที่นี่จะเกิดเรื่องขึ้นเยอะเลยนะ”

“นี่ยังไม่เท่าไหร่ ยังมีเรื่องที่ใหญ่กว่านี้อีก”

“หื้ม เรื่องอะไรเหรอ?”

“ฮ่องเต้แคว้นเย่ของเราร่วมมือกับแคว้นฮั่ว วางกับดักลอบสังหารเทพสงคราม ยึดอำนาจทางทหารของเทพสงครามมา แต่กลับถูกเทพสงครามปราบปรามได้เสียก่อน”

นัยน์ตาของกู้ชูหน่วนประกายแสงวิบวับขึ้นมา แต่ไม่นานก็หายไป

“ฮ่องเต้ของเราบ้าไปแล้วหรือไง? กลับร่วมมือกับแคว้นอื่นเพื่อต่อกรกับเทพสงคราม? ถ้าหากแคว้นเย่ไม่มีเทพสงครามล่ะก็ คงถูกแคว้นอื่นแบ่งดินแดนไปแล้ว หลักการแค่นี้ ฮ่องเต้ของเราก็ไม่รู้เลยหรือไง?”

“ชวู่ๆๆ เบาหน่อย เจ้ารนหาที่ตายหรือไง บังอาจนินทาฮ่องเต้เดี๋ยวก็โดนบั่นคอหรอก”

“ใช่สิๆ ข้าตื่นเต้นจนเกือบลืมไปเลย”

ภายในกระท่อมร้านน้ำชา พวกชาวบ้านกวาดตามองรอบๆอย่างตื่นเต้น พอแน่ใจแล้วว่าไม่มีคนแอบฟัง ก็ถึงพูดเสียงเบาอย่างลับๆล่อๆ

“ฝ่าบาทวางแผนลอบสังหาร ไม่เพียงแต่ทำให้เทพสงครามโกรธ ไม่รู้ว่าไปทำให้แคว้นฮั่วโกรธยังไง ตอนนี้แคว้นฮั่ว แคว้นชางร่วมมือกัน อยากเข้ามาโจมตีแคว้นเย่ของพวกเรา”

“ฮะ……เจ้าคงไม่ได้จะบอกข้าว่า ด้านนอกกำลังสู้รบกันอยู่หรอกนะ”

“ใช่แล้ว กำลังสู้กันอย่างดุเดือดเลยล่ะ”

“ไม่ต้องกลัวหรอก แคว้นเย่ของเรายังมีเทพสงคราม ขอแค่มีเทพสงครามอยู่ ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะแพ้หรอก”

“ที่น่ากลุ้มใจคือ ฮ่องเต้ทำให้เทพสงครามโกรธ เทพสงครามจึงไม่สนใจอะไรอีก แคว้นเย่ของเราก็สู้แคว้นฮั่วกับแคว้นชางไม่ได้ พ่ายแพ้ย่อยยับ จิ๊ๆๆ ข้ามีชีวิตมาจนถึงตอนนี้ ยังไม่เคยเห็นแคว้นเย่พ่ายแพ้อย่างน่าอนาถขนาดนี้เลย”

“ฮะ……ไม่ใช่แล้วมั้ง แคว้นเย่เป็นแคว้นที่ใหญ่มาก ถึงแคว้นฮั่วกับแคว้นชางจะแกร่งมากแค่ไหน ก็ไม่มีทางชนะพวกเราได้หรอก”

“ข้าไม่ได้โกหกเจ้านะ คนอื่นเขาตีมาถึงเมืองอู๋ซวงแล้ว”

“ขนาดนี้เลยเหรอ แต่……ถึงเทพสงครามจะไม่มาช่วย ก็ยังมีแม่ทัพใหญ่เซียวไม่ใช่เหรอ? หรือว่าแม่ทัพใหญ่เซียวก็พ่ายแพ้ไปด้วย?”

“ถึงแม่ทัพใหญ่เซียวจะมีอำนาจในกองทหารเพียงใด ก็ต้องมีคนให้เขาได้ใช้สิ ไม่รู้ว่าใครไปฟ้องฮ่องเต้ บอกว่าลูกชายคนโตของแม่ทัพใหญ่เซียวแต่งงานกับจวิ้นจู่แคว้นฮั่ว ที่แคว้นเย่พ่ายแพ้อย่างย่อยยับเช่นนี้ เป็นเพราะแม่ทัพใหญ่เซียวแอบไปบอกข่าวกับแคว้นฮั่ว ตอนนี้แม่ทัพใหญ่เซียวเลยถูกขังอยู่ในคุกหลวงแล้วล่ะ”

“เป็นไปได้ยังไงกัน แม่ทัพใหญ่เซียวซื่อสัตย์และภักดีมาก ไม่มีทางทำเรื่องแบบนี้ต่อแคว้นเย่หรอก จะต้องมีคนใส่ร้ายเขาแน่เลย”

“ข้าก็รู้ว่าแม่ทัพใหญ่เซียวต้องโดนคนใส่ร้ายแน่ แต่ฮ่องเต้ของพวกเราไม่เชื่อนี่นา”

ทันใดนั้นกู้ชูหน่วนก็ลุกขึ้น กอดอกเดินไปหาพวกเขา แล้วถามอย่างเย็นชาว่า “งั้นเซียวเซียวอวี่เซวียน ลูกชายคนเล็กของแม่ทัพใหญ่ล่ะ?”

“ทุกคนในครอบครัวของแม่ทัพใหญ่เซียวถูกขังในคุกหลวงหมดแล้ว คุณชายเซียวก็น่าจะถูกขังไว้ด้วยนะ เรื่องนี้พวกเราไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ แม่นางรู้จักกับแม่ทัพใหญ่เซียวเหรอ?”

กู้ชูหน่วนไม่ตอบแต่กลับเตือนว่า “ถึงแม้ที่นี่จะเป็นที่รกร้างทุรกันดาร แต่ก็ยากที่จะรับประกันว่าจะมีคนเดินผ่านแล้วได้ยิน หรือคนที่คิดร้ายตั้งใจเอาเรื่องนี้ไปแจ้งความ ตอนที่นินทาเรื่องฮ่องเต้ ก็คิดถึงกบาลของพวกเจ้าด้วยก็ดี”

คำพูดเดียว ทำเอาทุกคนเหงื่อแตกพลั่กกันหมด

คุณพระ เมื่อกี้พวกเขาพูดอะไรไปบ้างเนี่ย? คงไม่มีคนเอาไปแจ้งความหรอกนะ?

“อีกอย่าง ฮ่องเต้และฮองเฮาแคว้นฉู่มีแค้นต้องชำระ หากพวกเจ้ากล้าพูดเรื่องไม่ดีเกี่ยวกับลูกชายของพวกเขา ระวังฮ่องเต้ฉู่ตามมาฆ่าพวกเจ้าล่ะ”

“แม่นาง พวกเราไม่กล้าแล้ว เมื่อกี้พวกเราพูดไร้สาระ แม่นางอย่าเอาไปแจ้งความเลยนะ”

“งั้นก็ระวังปากพวกเจ้าไว้ให้ดี”