“พ่อค่ะ ครูฟางหยวนกลับมาหรือยังค่ะ?”
เย่เซิ่งเทียนเพิ่งกลับถึงในบ้าน ซือซือก็กระโจนเข้าไปในอ้อมแขนของเย่เซิ่งเทียนอย่างร้อนอกร้อนใจ ใบหน้าอ่อนเยาว์ เต็มไปด้วยความจริงจัง
“ครูฟางหยวนจะกลับมาเร็วนี้ๆนี้แล้ว”
เย่เซิ่งเทียนอยู่ในอารมณ์ที่ซับซ้อน อุ้มซือซือนั่งอยู่บนโซฟา
หวางซีขมวดคิ้ว: “เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่า? เจ้าเทพออกคำบัญชาฆ่าสามข้อเมื่อคืนนี้ ทุกคนก็รู้สึกตกอยู่ในอันตราย เมื่อกี้นี้ฉันได้ยินมาว่า เจ้าเทพลงมือกับตระกูลโจว โจวฮงหรูฆ่าตัวตายแล้ว”
เย่เซิ่งเทียนพูดอย่างเยือกเย็นว่า: “นั่นเป็นเพราะว่าพวกเขาสมควรได้รับกรรม”
หวางซีก็ไม่ได้โต้เถียง ก่อนหน้านี้บริษัทหัวหยวนถูกท่านรองของตระกูลโจวร่วมมือกับสมาคมการค้าเจียงหนาน บีบคั้นจนหมดหนทาง ทุกคนก็จะลงมือกับครอบครัวตัวเอง เธอก็โกรธเช่นกัน
ครอบครัวของตัวเองสงบเสงี่ยมใช้ชีวิตของตัวเองอยู่ดีๆ ไม่ได้หาเรื่องใครไม่ได้สร้างปัญหาให้กับใคร โจวอู่พวกเขาตั้งแง่กับทั้งครอบครัวของตัวเองอย่างไร้เหตุผล เกือบจะบีบคั้นทำให้บริษัทหัวหยวนที่เพิ่งก้าวหน้าขึ้นมาได้อย่างไม่ง่ายต้องล้มละลาย
หวางซีจะไม่มีความขุ่นเคืองในใจได้ยังไง
“เซิ่งเทียน ไปยกปลาต้มผักดองเสฉวนออกมา”
และพูดว่า: “คนนะ เลวเกินไปไม่ได้ สุภาษิตพูดไว้ดี คนดีแม้จะถูกคนรังแกแต่ฟ้าย่อมไม่รังแก คนเลวคนกลัวแต่สวรรค์ไม่กลัว ต้องได้รับกรรมในไม่ช้า ก็ดูว่าวันไหน ตระกูลโจวก็ไม่ใช่คนดีอะไร ตระกูลพวกเขาใหญ่ขนาดนี้ ดันจะรังแกประชาชนอย่างพวกเรา เจ้าเทพยังอยู่เมืองเฉียนถัง จะทนดูได้เหรอ?
ในสายตาของแม่ยาย ตราบใดที่เล่นงานกับครอบครัวของตัวเอง ก็ไม่ใช่คนดี
ทั้งครอบครัวจะมีอย่างวันนี้ได้ไม่ง่ายเลย เธอก็เป็นเหมือนแม่ไก่ที่ปกป้องลูกๆ ไม่ยอมให้ใครทำลายได้เด็ดขาด!
“ตระกูลโจวยังต้องการกลั่นแกล้งบริษัทของเราเมื่อสองวันก่อน ต้องเป็นคนไม่ดีแน่ๆ ถูกเจ้าเทพทำลายก็สมควรนะ”
เย่เซิ่งเทียนยกปลาต้นผักกาดดองเสฉวนออก และพูดว่า: “ซีเอ๋อร์ เธอฉวยโอกาสนี้ พัฒนาบริษัทหัวหยวนดีๆ ความวุ่นวายนี้จะไม่มีทางจบในระยะเวลาอันสั้นเช่นนี้ได้ ในเมื่อลงมือแล้ว ก็จะไม่ใช่แค่ทำลายคนมีอำนาจแต่ละเลยคนอ่อนแอ ทั้งเขตเจียงหนานก็จะต้องตรวจสอบให้ชัดเจน เข้าครองตำแหน่งเป็นหมาหวงก้างโดยไม่ยอมทำงานแม้แต่น้อยกับรับสินบาทคาดสินบนปฏิบัติผิดกฎหมายและทำข้อตกลงกันโดยอำนาจเงิน ก็ต้องจัดการอย่างหนักครั้งหนึ่ง”
เย่เซิ่งเทียนคีบเนื้อปลาให้กับหวางซี และพูดว่า: “เธอก็อย่าเหนื่อยเกินไป ถึงเวลาพักผ่อนก็ต้องพักผ่อน”
ซือซือตักข้าวเข้าปาก มองดูเนื้อปลาในถ้วยของแม่ มุ่ยปากพูดว่า: “พ่อค่ะ หนูก็จะเอา”
เย่เซิ่งเทียนพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “ได้สิ พูดอะไรที่น่าฟังหน่อย แล้วพ่อจะคีบให้ลูก”
ดวงตาที่เหมือนอัญมณีขนาดใหญ่ของซือซือส่องประกาย มองดูหวางซี จากนั้นเรียนแบบเสียงของหวางซี พูดอย่างออดอ้อนว่า: “ที่รัก เค้าก็จะเอานะ”
หลี่หลาน: “!!!!”
หวางซี: “!!!!”
เย่เซิ่งเทียน: “……”
เย่เซิ่งเทียนวิตกกังวลมาก เหงื่อแตก!
จิตใจพะว้าพะวังไม่เป็นสุข เสียวสันหลัง กระสับกระส่าย หวาดผวา……
เขารู้สึกว่า ตัวเองควบคุมสถานการณ์ไม่ได้แล้ว ตัวเองจะถูกสายตาสังหารของหวางซีฉีกออกเป็นชิ้นๆนับไม่ถ้วน!!
ในท้ายที่สุด หวางซีไม่สามารถข่มพลังทั้งหมดในร่างกายที่ปะทุออกมาได้ ตีสั่งสอนซือซือ
ซือซือร้องไห้ไปด้วย ตักข้าวใส่ปากไปด้วย น้อยอกน้อยใจมาก สิ่งนี้ทำให้เย่เซิ่งเทียนรู้สึกผิดต่อลูกสาวมาก
แอบถอนหายใจออกมาในใจ ลูกเอ๊ย ลูกแค่โดนตีสั่งสอน ฉันพ่อของลูก หลายวันนี้ไม่มีความสุขอย่างแน่นอน
ไม่นาน อาหารมื้อนี้ ก็จบลงด้วยเสียงร้องไห้ของซือซือ
หลี่หลานอุ้มซือซือไปงีบหลับ ก่อนที่จะไปก็มองไปทางสองสามีภรรยาอย่างมีความหมายลึกซึ้ง และพูดเงียบๆว่า: “พวกเธออยู่บ้านระมัดระวังกันหน่อย อย่าคิดว่าเด็กไม่รู้เรื่อง”
“!!!!”
เย่เซิ่งเทียนอธิบายอย่างรวดเร็วว่า: “แม่ครับ มันไม่ใช่อย่างที่แม่คิดจริงๆ”
“พวกเธออายุน้อย แม่เข้าใจ แต่ซือซือไม่เด็กแล้วนะ อะไรที่ควรระวังก็ต้องระวังหน่อย”
เสียงของหลี่หลานลอยออกมาจากในห้องนอน
“เย่เซิ่งเทียน!”
หวางซีหน้าแดง แค่อยากหาที่มุดดินหนี ทำได้เพียงระบายความโกรธใส่เย่เซิ่งเทียน: “คืนนี้ นายนอนโซฟา!!”
เย่เซิ่งเทียน: “……”
เฮ้อ ลูกสาวของคนอื่นอ่อนโยนน่ารัก ลูกสาวของฉันไม่เพียงแต่เป็นกระโดกกระเดกไม่เรียบร้อย และยังกินที่ลับไขที่แจ้ง