เปปเปอร์หลุบตาลง ทำให้ไม่สามารถมองเห็นอารมณ์ความรู้สึกจากนัยน์ตาที่แท้จริงได้ “ไม่ใช่ ผมก็แค่อยากรู้ว่าผู้จัดการของร้านอาหารร้านนี้ อยากจะพูดอะไรเท่านั้นเอง”
เขาแสดงท่าทางเรียบเฉย มองไม่ออกว่ากำลังโกหก
มายมิ้นท์พยักหน้า เชื่อคำพูดเขาแล้ว “อย่างนี้เองเหรอ”
ดูท่าแล้วเธอจะคิดมากไปเอง
ก็น่าจะใช่ เขาเกลียดเธอขนาดนั้น จะไปจงใจให้ผู้จัดการเข้าใจพวกเขาผิดว่าเป็นสามีภรรยากันได้อย่างไร
“แต่ว่าประธานเปปเปอร์คะ ทำไมคุณถึงรับปากที่จะเข้าร่วมกิจกรรมนี้ล่ะคะ” มายมิ้นท์เงยหน้ามองเปปเปอร์
ริมฝีปากบางของเปปเปอร์ขยับ “เพื่อไมโลก็เท่านั้นเอง เขาเป็นหลานชายของทามทอย ผมเป็นเพื่อนทามทอย ช่วยเขาดูแลไมโลก็สมควรแล้ว”
เขาไม่อยากให้เธอรู้ ความจริงแล้วเขาอยากจะร่วมกิจกรรมกับเธอเท่านั้น
คิดอะไรนั้น เขาก็ไม่เข้าใจ
“ก็ได้ค่ะ” มายมิ้นท์ยักไหล่ แสดงความหมายว่ารู้แล้ว
เธอไม่ได้สงสัยในคำพูดของเปปเปอร์
เปปเปอร์กับทามทอยเป็นเพื่อนกันจริง ดูแลหลานชายเพื่อน ก็เป็นเรื่องที่สมควรทำจริงๆ
ไม่ได้พูดอะไรอีก ผู้ใหญ่สองคนเด็กหนึ่งคนก็มารายงานตัวที่ด้านล้างเวที
เพราะรูปลักษณ์ที่สูงส่ง เด็กหนึ่งผู้ใหญ่สองจึงดึงดูดสายตาของทั้งร้าน
หลังจากสมัครเสร็จแล้ว มายมิ้นท์กับเปปเปอร์ต่างคนต่างจูงมือไมโลคนละหนึ่งข้าง ยืนอยู่ด้วยกันกับครอบครัวอื่นอีกสี่ครอบครัว รอกิจกรรมเริ่ม
ผู้หญิงวัยสามสิบกว่าที่อยู่ข้างๆโน้มตัวมา จ้องมองพวกของมายมิ้นท์สามคน
มายมิ้นท์ถูกมองจนไม่เป็นตัวของตัวเอง เป็นฝ่ายถามก่อนว่า “คุณพี่ มีเรื่องอะไรเหรอคะ”
คุณพี่พูดอย่างอิจฉาว่า “คุณน้อง คุณกับสามีช่างเหมาะสมคู่ควรกันจริงๆ หน้าตาสวยหล่อ ฉันยังไม่เคยเจอคู่สามีภรรยาคู่ไหนสวยหล่อเหมือนพวกคุณมาก่อนเลย ดาราในทีวียังสู้ไม่ได้ มิน่าเล่าลูกถึงน่ารักขนาดนี้”
เธอมองเปปเปอร์กับไมโล แล้วมองไปยังสามีที่อยู่ข้างๆกับลูกอีก ถอนหายใจอย่างอดไม่ได้
คนเรานี่ เทียบกันไม่ได้จริงๆ
มายมิ้นท์เขินอายเล็กน้อยกับคำชมว่าเหมาะสมคู่ควรกันของคุณพี่ประโยคนั้น
ถ้าเธอเหมาะสมคู่ควรกับเปปเปอร์ ตอนนี้จะหย่ากันเหรอ
“คุณพี่ชมเกินไปแล้วค่ะ พวกเราก็แค่คนธรรมดา ไม่ได้ดีอย่างที่คุณพี่พูด” มายมิ้นท์พูดพลางคลี่ยิ้มมุมปาก
เพราะรับปากว่าจะปลอมตัวเป็นพ่อแม่ของไมโลมาร่วมกิจกรรมครอบครัวนี้
มายมิ้นท์ก็อธิบายไม่ได้ว่าตนเองกับเปปเปอร์ไม่ได้เป็นสามีภรรยากัน ไมโลก็ไม่ใช่ลูกของพวกเรา ได้แต่ฝืนใจยอมรับมือ
“อย่างพวกคุณนี่เรียกว่าธรรมดาเหรอ คุณน้องไม่ได้ล้อพี่เล่นนะคะ ก็เหมือนกับที่เขาพูดกันในโซเชียลว่าอะไรนะ……แวร์ซายก็คือแวร์ซาอย่างนั้นสินะคะ” เธอเหลือบตามองมายมิ้นท์
มุมปากมายมิ้นท์กระตุก ไม่ได้พูดอะไร
จู่ๆเปปเปอร์ก็หันหน้าไปมองเธอ “เมื่อกี้คุณพูดอะไรกับผม”
แววตามายมิ้นท์เปล่งกระกาย “ไม่มีอะไรค่ะ คุยกันว่าจะเป็นเกมอะไรนะคะ”
เธอจะบอกเขาไม่ได้ ว่าคุณพี่คนนั้นบอกว่าพวกเขาเหมาะสมกัน
หย่ากันแล้ว ไม่จำเป็นแล้ว
เปปเปอร์เห็นมายมิ้นท์ไม่ได้พูดอะไร ก็เม้มริมฝีปากบาง ก้นบึ้งของหัวใจมีความผิดหวังอยู่เล็กน้อย
ความจริงแล้วเมื่อครู่นั้นเขาได้ยินทั้งหมดเลย แม้เธอกับคุณพี่คนนั้นจะพูดกันเบามากๆ แต่เขาก็ยังได้ยินเนื้อความที่พวกเธอคุยกัน
ที่เขาแกล้งทำเป็นไม่รู้ ก็เพื่ออยากฟังเธอพูดซ้ำอีกรอบ แต่เธอกลับไม่ยอม
เปปเปอร์หลุบตาลง ไม่ได้พูดอะไร
ไม่นาน กิจกรรมครอบครัวก็จะเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว
กิจกรรมนี้แบ่งเป็นการเล่นสามรอบ
รอบที่หนึ่งส่งไพ่ผ่านจูบ รอบที่สองวิดพื้น และรอบที่สามสองคนสามขา
หลังจากจบรอบแรก ทั้งสามครอบครัวที่มีคะแนนดีที่สุดจะถูกเลือกเข้าสู่รอบที่สอง จากนั้นในทำนองเดียวกัน หลังจากรอบที่สอง ทั้งสองครอบครัวที่มีคะแนนดีที่สุดจะเข้าสู่รอบที่สามเพื่อแข่งขันเพื่อชิงชนะเลิศ
ผู้ชนะจะได้รับกันดั้มของเล่นโปรดของ ไมโล รวมถึงคูปองอาหารฟรีสำหรับผู้ปกครองและเด็ก ๆ ในร้านอาหาร รองชนะเลิศอันดับสองสามและสองครอบครัวที่แพ้ตกรอบไปก่อนหน้า ก็มีรางวัลที่สอดคล้องกัน แต่ไม่ใช่มากมายเหมือนของผู้ชนะ
มายมิ้นท์มองชื่อเกมแรกบนกระดานเกมตรงหน้า คิ้วก็ขมวดเข้าหากันแน่น
“เป็นอะไรเหรอ” เปปเปอร์ยืนอยู่ข้างๆเธอ ถามด้วยน้ำเสียงกังวล
เพราะมายมิ้นท์มองอย่างจริงจังมากเกินไป ก็ยังฟังไม่ออก ชี้ไปที่ชื่อเกมถามว่า “เกมที่สองและสามฉันรู้จัก เกมส่งไพ่ผ่านจูบตกลงว่ามันหมายความว่าอะไรกันแน่”
อีกอย่างการจูบนี้ ก็ทำให้เธอต่อต้านเล็กน้อย
เธอกลัวว่าคือการให้พ่อกับแม่จูบกัน ถ้าเป็นอย่างนั้น เธอกับเปปเปอร์ก็ไม่ต้อง……
ไม่ได้คิดต่อไปอีก มายมิ้นท์รีบส่ายหน้า สลัดความคิดในหัวสมองออกไป
เปปเปอร์เอานิ้วโป้งไปไว้ใต้คาง คิดใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่ง คิดไม่ออกว่าตกลงมันคือเกมอะไรกันแน่ นวดหว่างคิ้วเบาๆ “ถามผู้จัดการสิ”
“ก็คงทำได้แค่นี้” มายมิ้นท์พยักหน้า
ถ้าเป็นแบบนั้นอย่างที่เธอคิด เธอก็อาจจะให้ผู้จัดการแก้ไขก็กฎกติกานิดหน่อย
ดังนั้นมายมิ้นท์จึงเรียกผู้จัดการมา
หลังจากผู้จัดการได้ฟัง ก็ยิ้มพลางตอบว่า “เกมนี้ง่ายมากครับ ก็คือผมจะเอาไพ่เสียบไว้ที่ริมฝีปากของเด็ก แล้วแม่ก็ใช้ริมฝีปากของเธอเช่นกัน คาบไพ่อีกด้านหนึ่ง แล้วรับไพ่ออกจากปากของลูก แล้วส่งต่อให้พ่อ ต่อมาพ่อก็ส่งให้แม่ แม่ส่งกลับคืนให้ลูก ไปกลับหนึ่งรอบโดยที่ไม่ตกพื้น จะถือว่าผ่าน ”
เปปเปอร์ได้ยินประโยคนี้ คิ้วก็ค่อยๆขมวดเล็กน้อย
มายมิ้นท์พยักหน้า แสดงความหมายว่าเข้าใจแล้ว “ที่แท้ก็แบบนี้นี่เอง”
ได้ยินว่าไม่ใช่การจูบ เธอก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนแล้ว
แต่ต่อมาคิดใคร่ครวญดู นี่ก็ถือเป็นการจูบทางอ้อม เธอก็รับไม่ได้เล็กน้อย
“ผู้จัดการ เปลี่ยนเกมได้มั้ยคะ” มายมิ้นท์มองพลางเอ่ยถามผู้จัดการ
ดวงตาเปปเปอร์หรี่ลง มองไปยังดวงตาของมายมิ้นท์ เกิดความหงุดหงิดและไม่พอใจที่ตัวเขาเองก็ไม่รู้
เธอขอเปลี่ยนเกม
เพราะไม่อยากมีการสัมผัสกับเขาเหรอ
“ไม่ได้ครับคุณผู้หญิง” ผู้จัดการยิ้มอย่างรู้สึกผิด “เกมนี้เป็นเกมที่กำหนดมาตั้งแต่แรกแล้วครับ อีกอย่างอุปกรณ์ก็เตรียมไว้แล้ว ตอนนี้ก็เปิดเผยแล้ว จู่ๆเปลี่ยนเกมจะทำให้ทุกคนสงสัยในความน่าเชื่อถือของร้านอาหารเรานะครับ ดังนั้นขอให้คุณช่วยเข้าใจด้วยนะครับ”
พูดจบ เขาก็เดินไปเลย
เขาเกรงว่าถ้าเขาอยู่ต่อ ผู้หญิงคนนี้ก็คงขอร้องเขาอีก
เห็นร่างของผู้จัดการที่เดินไปไกลแล้ว มายมิ้นท์ก็นวดขมับ รู้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะเปลี่ยนเกม
นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย!
“ถ้าคุณไม่อยากเล่น พวกเราถอนตัวก็ได้นะ” จู่ๆ เสียงของเปปเปอร์ก็ดังขึ้นข้างๆหู
มายมิ้นท์กะพริบตาปริบๆ มีความหวังขึ้นมาเล็กน้อย
เปปเปอร์มองเห็นแล้ว ในใจก็ยิ่งโมโห สีหน้าท่าทางก็เคร่งเครียดขึ้น
เขาบอกว่าถอนตัวได้ เธอกลับคิดจะถอนตัวจริงๆ
ไม่อยากจะอยู่กับเขามากขนาดนี้เลยเหรอ
เวลานี้ไมโลก็มองออกว่ามายมิ้นท์กำลังลังเล ดึงมือเธอเอาไว้ เงยหน้ามองเธอ “คุณแม่ ไมโลอยากได้กันดั้มอันนั้น นั่นเป็นรุ่นที่ทำขึ้นมาจำนวนจำกัด ข้างนอกไม่สูงขนาดนี้นะครับ”
มายมิ้นท์มองของรางวัลที่อยู่ตรงข้าม กันดั้มที่สูงห้าสิบเซนติเมตรตัวนั้น ถอนหายใจ
จากนั้นก็ย่อตัวลง ยิ้มกับไมโล “ได้ พวกเราสู้เพื่อให้ได้มันมา”
“ขอบคุณครับแม่” ไมโลหอมบนหน้าเธอหนึ่งฟอด
ดวงตามายมิ้นท์ค่อยๆเบิกโต เหมือนถูกจูบที่สะกดไว้ คลำที่ใบหน้าช้าๆไม่ลุกยืนขึ้นมา
เปปเปอร์มองเห็นภาพนี้ สีหน้าบึ้งตึง จะมองไมโลยังไง ก็ไม่ถูกชะตา
ไอ้เด็กคนนี้ ทำไมไร้มารยาทแบบนี้ อยู่ๆก็ไปหอมแก้มคนอื่น
เขายังไม่ทำเลย……
เปปเปอร์เม้มปากเป็นเส้นตรง ยื่นมือไปขยี้ใบหน้าของไมโล ยั่วให้ ไมโลถลึงตาใส่เขา
เปปเปอร์มองแก้มของไมโลที่ถูกขยี้จนเป็นรอยแดง จึงเอามือออกอย่างพอใจ
ไมโลฉวยโอกาสนี้ รีบไปฟ้อง “คุณแม่ คุณพ่อแกล้งผมครับ”
ดวงตามายมิ้นท์เป็นประกาย ตั้งสติกลับมาได้
ถ้าบอกว่า ช่วงเวลาที่ ไมโล จูบเธอเมื่อครู่นี้ ให้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไปกับเธอ
อย่างนั้นตอนนี้ไมโลเรียกเธอว่าแม่ ก็ยิ่งจับใจเธอ
ถ้า เด็กในท้องเธอคลอดออกมาแล้ว ต่อไปจะหอมแก้มเธอเหมือนกับไมโลหรือเปล่า เรียกแม่ด้วยเสียงหวานมั้ย
นึกถึงภาพอย่างนั้น ก็เหมือนจะไม่เลวเลยนะ