ตอนที่ 257 : คนๆนี้เหมือนคุณเจียง!
“หืม?”
เมื่อมองประธานซูคนนี้เพียงแค่แวบแรกก็เห็น ได้ชัดว่าเขาเป็นนักธุรกิจที่มีประสบการณ์อย่างโชกโชน ไม่มีความโกรธหรือหยิ่งผยอง เขามองไปที่หยานเค่อและเจียงเฉิน ก่อนจะยิ้มออกมา
“คุณหยาน คุณจะขอโทษผมเรื่องอะไรหรอ?”
“ฉัน…”
ในเวลานี้ที่หยานเค่อทําอะไรไม่ถูก แต่ทันใดนั้นก็มีมือใหญ่มาคว้าเธอเอาไว้
เจียงเฉิน!
เจียงเฉินยิ้มและพูดออกมา “คุณซู พอดีครูหยานอยากจะขอโทษเรื่องที่เธอควรจะเป็นเจ้าภาพเอง แต่เธอกลับต้องให้เป็นคุณต้องเป็นเจ้าภาพแทน”
“โอ้”
ประธานซูพยักหน้า
หยานเค่อถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ประธานซูและคนที่มาพร้อมเขามองเจียงเฉินขึ้นๆลงๆ
เจียงเฉินในตอนนี้นั้นสวมเสื้อยืด กางเกงยีนส์ และรองเท้าผ้าใบ บรรยากาศของผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับที่สองของ LVMH กรุ๊ปที่มีมูลค่าหลายแสนล้านไปอยู่ที่ไหน?
ทั้งสามมองหน้ากัน
เกิดความสงสัย
ปรากฏว่าประธานซูที่ได้รับโทรศัพท์จากหยานเค่อ เขานั้นก็ยังไม่ค่อยเชื่อว่าครูจากโรงเรียนปฐมอย่างหยานเค่อนั้นจะมความสัมพันธ์กับคนที่มีอํานาจแบบนั้นคนที่คนใหญ่คนโตนับไม่ถ้วนในประเทศ ต่างก็ต้องการที่จะเข้าไปทําความรู้จัก แต่กลับไม่มีใครได้โอกาศนั้น!
มันเป็นเรื่องที่ไร้สาระสิ้นดี!
อย่างไรเสียคนมั้งสองนั้นก็อยู่คนละวงการกัน เหมือนกับคนที่อยู่บนดาวคนละดวง!
ดังนั้นเขาจึงโทรหาเพื่อนร่วมงานที่เป็นคนใหญ่คนโตของเขาให้มาทานอาหารเย็นด้วย แม้ว่าจะเป็นแค่การมาทานอาหารแต่ความจริงแล้วเขานั้น ต้องการให้เพื่อนช่วยประเมินเพื่อไม่ให้เขาเข้าใจผิด
“คุณเจียง?
ประธานซูก้าวออกมาพร้อมกับยื่นมือไปข้างหน้าอย่างมีมารยาท”สวัสดีครับ ผมซูซูเจียช่าง เป็นตัวแทนของบริษัท LVMH กรุ๊ปในประเทศจีนครับ ผมเป็นประธานของบริษัทหยางเฟยเทรดดิ้งครับ”เจียงเฉินยิ้มจางๆและยื่นมือขวาของเขาออกไป
ทั้งสองจับมือกัน
คนใหญ่คนโตที่อยู่ข้างๆซูเจียชางนั้นตกตะลึงเล็กน้อย
เพราะการจับมือของเจียงเฉินดูเย็นชาและหยิ่งผยองเอามากๆ!
ซูเจียชางนั้นเป็นนักธุรกิจที่ทําธุรกิจมาหลายปี ไม่ว่าจะด้วยอายุความสามารถหรือชื่อเสียงเขาล้วนมีมากมาย
เขานั้นนั้นยื่นสิ่งมือออกไปจับมือเจียงเฉิน แต่เจียงเฉินนั้นกลับยื่นมือขวามามือเดียว!
นี่มัน
คนใหญ่คนโตยื่นมือไปจับมือกับน้องชาย!
ยิ่งไปกว่านั้นนาฬิกาวาเชอรองกงสตองแตงบนข้อมือของเจียงเฉินนั้นเป็นนาฬิกาที่มีชื่อเสียง และยังมีราคาหลายสิบล้าน!
เมื่อลองคิดทบทวนดูดีๆ ในวงการนั้นก็มีข่าวลีออยู่ว่าคุณเจียงที่เป็นมหาเศรษฐีคนนี้มีอายุแค่ 20 ต้นๆเท่านั้น!
และอีกอย่างท่าทางของเจียงเฉินนั้นเต็มไปด้วยความสงบไม่เหมือนกับคนธรรมดา!
เหมือน!
เหมือนมากจริงๆ!
เขาเหมือนกับคุณเจียงมากจริงๆ!
หยานเค่อเองก็มองเจียงเฉินด้วยความตกตะลึง
เพราะต่อให้เผชิญหน้ากับคนใหญ่คนโตทั้งสามคน แต่กลิ่นอายของเจียงเฉินกลับไม่ได้ด้อยกว่าเลย แถมยังดูเหนือกว่าด้วยซ้ํา!
หยานเค่อไม่ค่อยเข้าใจกลิ่นอายแบบนี้ แต่เธอนั้นก็พบว่าเจียงเฉินนั้นสามารถเผชิญหน้ากับคนใหญ่คนโตทั้งสามโดยไม่ได้รู้สึกกดดันแม้แต่น้อย เขาพูดคุยและหัวเราะออกมาได้อย่างสบายใจ
นี่มันกลิ่นอายของคนใหญ่คนโตชัดๆ!
ซูเจียชางกับเพื่อนของเขาอีกสองคนมองหน้ากันด้วยความสงสัย
นี่คุณเจียงตัวปลอมจริงๆหรอ?
ทั้งสามขยับตัวออกไปกระซิบกัน” พี่น้อง ช่วยกันดูหน่อยว่านี่คือคุณเพียงตัวปลอมจริงๆเปล่า?”ซูเจียชางถาม
โจวรุ่ยกับหลิวข่งมองหน้ากันด้วยท่าทางแปลกๆ”ฉันว่า…เหมือนมากนะ! นาฬิการเรือนละ 20 ล้านของเขาก็ดูไม่เหมือนของปลอมด้วย”มันต้องเป็นของปลอมสิ! มันก็แค่เหมือน นายคิดว่าคนอยู่ครูปฐมคนนั้นจะรู้จักกับคุณเจียงได้หรอ? เป็นไปได้ยังไง?”มีเหตุผล… “ซูเจียชางพยักหน้า”เอางี้ ฉันจะหาโอกาศทดสอบเขาทีหลัง หลิวยังเยาะเย้ย”ไปทานอาหารเย็นกันเถอะ! ถ้าเขาเป็นตัวปลอม หลังจากเราทดสอบ เขาเราก็จะรู้ได้ทันทีและเขาจะต้องเผยหางออกมาแน่! “หลังจากที่ทั้งสามคุยกัน พวกเขานั้นก็รู้สึกเหมือนกันว่าเจียงเฉินนั้นเหมือนตัวจริงมากๆ แต่พวกเขาก็ยังเชื่อว่านี่คือเจียงเฉินตัวปลอม!
พวกเขาพากันเข้าไปทานอาหารและทดสอบ เจียงเฉินอีกครั้งที่นี่คือประธานหลิวชง เขาทําธุรกิจสินค้าหรู ส่วนนี่คือประธานโจวเป็นตัวแทนของแบรนด์นาฬิกาหรูชื่อดัง “ซูเจียชางแนะนําออกมาพร้อมกับรอยยิ้ม” คุณเจียง!“โจวรุ่ยกับหลิวชงพากันแสดงด้วยการจับมืออย่างกระตือรือร้น!
ทั้งสองเต็มไปด้วยความมั่นใจ : อยู่ในวงการมาหลายปี จะตัวจริงหรือตัวปลอม แค่ทดสอบดูก็รู้แล้ว!”
เจียงเฉินยิ้มอย่างเฉยชาก่อนจะจับมือทีละคน
“เชิญครับ”
ซูเจียชางนําเจียงเฉินกับหยานเค่อเข้าไปในห้องส่วนตัว
เขาชี้ไปที่ตําแหน่งเจ้าภาพตรงกลาง “คุณเจียง! เชิญนั่งลงครับ!”
หัวใจของหยานเค่อหวั่นไหว
พระเจ้าช่วย!
นี่มันที่นั่งเจ้าภาพ!
เธอโบกมืออย่างรวดเร็ว “นี่…มันจะดีหรอคะ?”
แต่ใครจะรู้NN
วินาทีถัดมา
เจียงเฉินก็เข้าไปนั่งที่ตําแหน่งของเจ้าภาพอย่างใจกว้าง!
การเคลื่อไหวเป็นไปอย่างเป็นธรรมชาติหาที่เปรียบไม่ได้ ราวกับตําแหน่งนี้มีไว้เพื่อเขาเท่านั้น!
ซูเจียชาง “…”
หลิวชงกับโจวรุ่ย “…”
หยานเค่อ “…”
ทั้งสามยิ่งตกตะลึง!
นึกไม่ถึงว่าการแสดงของเขาจะดีขนาดนี้!
กระซิบ
“จิตของคนๆนี้ยังปกติอยู่ใช่ไหม?”
โจวรุ่ยดูตกใจมาก “เขากล้านั่งตรงนั้นจริงๆหรอ?”
หลิวชงขมวดคิ้ว “เจอคนโกหกนี้มีจิตแข็งเกินไป ฉันเกรงว่าอีกฝ่ายจะได้เรียนรู้ทักษะการแสดงระดับมืออาชีพมาก่อน ดังนั้นการรับมือคงไม่ง่ายแล้ว!”
ซูเจียชางครุ่นคิด
โจวรุ่ยถามออกมาทันที “อ้อ แล้วครูหยานเค่อคนนั้นล่ะ เธอกําลังมองหาอะไรอยู่?”
หลิวชงเยาะเย้ย “อฉันรู้สึกว่าเรื่องนี้จะต้องมีเล่ห์เหลี่ยมอย่างแน่นอน!”
“ก่อนหน้านี้เธอมาพบฉันเพื่อขอรับบริจาคเงินเพื่อการกุศล และฉันก็สัญญาว่าจะบริจาคทั้งหมดห้าล้าน!”
ซูเจียช่างพูดออกมาอย่างเคร่งขรึม “แต่เมื่อเร็วๆนี้ ด้วยการเข้ามาของคุณเจียงทําให้ฉันนั้นกังวลจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ ดังนั้นเรื่องการกุศลฉันจึงต้องปฏิเสธมันออกไปก่อน จากนั้นเธอก็มาบอกฉันว่าเธอนั้นรู้จักกับคุณเจียงและสามารถช่วยคลายความกังวลของฉันได้!” “หึหึ นั่นแหละปัญหา!”
หลิวชงแสดงสีหน้าเหมือนกับคนที่มีปัญญาไร้ที่เปรียบ เขาวิเคราะห์ออกมา “ถึงจะมีส่วนที่เหมือนอยู่มาก แต่เขาก็ไม่สามารถหลบหนีจากการใช้เหตุผลอย่างรอบคอบของฉันได้! ลองคิดดูสิ ถ้าเธอรู้จักกับคุณเจียงจริงๆการขอเงินบริจาค 5 ล้านมันจะไปยากตรงไหน? ทําไมธอถึงต้องมารับบริจาคจากนายด้วย? นายน่ะไม่ได้รู้จักกับเธอและก็ไม่มีเหตุผลจําเป็นที่ต้องไปช่วยเธอด้วย!”
“ดังนั้นมันจึงมีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียว คือนายเจอพวกต้มตุ้นแล้ว! พวกเขาอาจจะทํางานร่วมกันและต้องการหลอกลวงเงิน 5 ล้าน โดนอ้างการบริจาค!”
“กลอุบายของพวกเขาฉลากมากจริงๆ! อย่างไรก็ตาม ทมันไม่มีทางลอดพ้นสายตาของหลิวชงคนนี้ไปได้!”
หลังจากที่หลิวชงพูดจบมุมปากของเขาก็ยกยิ้มอย่างพอใจ
“มีเหตุผล!”
โจวรุ่ยอดไม่ได้ที่จะปรบมือให้!
“นี่…”
ซูเจียชางอดไม่ได้ที่จะประหม่า “ได้ยินที่นายพูดแล้ว ถ้าฉันเจอพวกต้มตุ้นจริงๆฉันควรทํายังไง?”
“หึหึง”
หลิวชงทําหน้าราวกับ “นายต้องขอบคุณที่มีฉันอยู่ตรงนี้” หลิวชงพูดออกมาอย่างภาคภูมิใจ “ถ้าฉันอยู่ในยุคสามก๊ก ฉันคงไม่พ้นเป็นกุยแกหรือขงเบ้งหรอก นายรอดูเถอะว่าฉันจะทําลายแผนของพวกเขายังไง ฮ่าฮ่าฮ่า ”
“ยังไงก็ตาม ตอนนี้ปล่อยให้มันเป็นแบบนี้ไปก่อน”
“ยังไงก็เถอะ มันจะเป็นแบบนี้ไปซักพักง”
หลิวชงยังคงอธิบายให้ซูเจียงชางกับโจวรุ่ยต่อไป
“โอเคขอบคุณมากนะ”
ซูเจียชางรู้สึกขอบคุณมาก
ทั้งสามเดินกลับเข้าไปในห้อง
พวกเขาแสดงไปว่าทุกอย่างปกติดีชวนพูดและหัวเราะต่อไป
เจียงเฉินยิ้มออกมา
มีเหรอที่การแสดงของทั้งสามนั้นจะสามารถหลอกลวงเขาได้?
เจียงเฉินจึงมองแค่ผ่านๆแต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา
คิดว่าความสามารถของฉันอยู่แค่ระดับสามอย่างงั้นหรอ? ไม่ ฉันน่ะอยู่ระดับสิบแล้ว!
แล้วการทานอาหารก็เริ่มขึ้น
ซูเจียชาง โจวรุ่ยและหลิงชงก็พูดคุยและหัวเราะไปกับเจียงเฉิน
หลังจากดื่มไวน์ไปสามแก้ว
หลิวชงก็เริ่มการโจมตีของเขา “คุณเจียง” หลิวชงยิ้มและพูดออกมา “ผมอยากจะคุยเรื่องการเรียนสมัยมัธยมปลายคุณสักหน่อย!”
“เปลี่ยนเป็นช่วงมัธยมต้นดีกว่า”
หลิวชงจงใจเปลี่ยนหัวข้อไปเป็นสมัยมัธยมต้น “อ่า…. ตอนคุณเรียนอยู่โรงเรียนอะไรกันนะ?”
หลิวชง ซูเจียชางและโจวรุ่ยมองหน้ากัน
หึหึง
หลิวชงมองไปที่เจียงเฉินและคิดอย่างมั่นใจว่า “ไม่ต้องกังวลเขาตอบไม่ได้อย่างแน่นอน!”
แต่ใครจะไปคิดษ
“มัธยมต้นงั้นหรอ?”
เพียงเชิญทําเป็นหยุดชั่วขณะ ราวกับกําลังคิดถึงเรื่องในอดีต และพูดออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ
“ตอนช่วงมัธยมผมไปเรียนอยู่ที่วิทยาลัยอีตันอยู่สามปี อ้อ พวกคุณรู้จักดาราฮอลลีวูดที่ชื่อยูน่ารึเปล่า? เธอเป็นเพื่อนร่วมชั้นสมัยมัธยมต้นของผมเอง ตอนนั้นเธอมาจีบผมแต่ผมก็ปฏิเสธไป คิดถึงเรื่องนี้แล้วน่าเสียดายจริง…”
“ปีก!!!!”
หลิวชงล้มลง
“คุณเป็นอะไรหรอครับทําไมถึงหลงไปอยู่ใต้โต๊ะ?”
เจียงเฉินถามด้วยท่าทางแปลกๆ
“ไม่เป็นไรไม่มีปัญหาอะไรครับ!”
หลิวชงลุกขึ้นมาก็จะยิ้มอย่างไม่เต็มใจด้วยรอยยิ้มที่บิดเบี้ยว !
พระเจ้านี่มันเรื่องจริง!
เป็นธรรมชาติมาก ไม่มีช่องโหว่เลยแม้แต่น้อย!
หลิวยังรู้สึกหดหูเขามองไปที่ซูเจียช่างกับโจวรุ่ยอีกครั้ง
ซูเจียชางกับโจวรุ่ยขมวดคิ้ว พวกเขาพากันออกไปห้องน้ํา
หลิวชง“พระเจ้า เค้าพูดออกมายังชานหมากเลย แถมยังเป็นธรรมชาติมากด้วย การแสดงของเขาเป็นมืออาชีพจริงๆ!”
ซูเจียชาง “เป็นไปได้ไหมว่าเขาจะเป็นคุณเจียงจริงๆ?”
หลิวชงส่ายหัวอย่างบ้าคลั่ง “เป็นไปไม่ได้! เป็นไปได้อย่างแน่นอน! เขาจะต้องเป็นนักต้มตุ๋นที่มีทักษะการแสดงที่ยอดเยี่ยม เราจะโดนคําพูดของเขาหลอกไม่ได้!
ซูเจียชางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดออกมา”ถ้าอย่างนั้น…. ช่วยทดสอบเข้าด้วยข้อมูลนี้หน่อย ถ้าเค้าเป็นตัวปลอมเขาไม่มีวันรู้เรื่องนี้แน่นอน! “ซูเจียชางขยับเข้าไปใกล้หูของหลิงชางก่อนจะเริ่มกระซิบ
ก่อนหน้านี้เขาสอบถามถึงเรื่องข่าวของเลขาสาวสวยของคุณเจียงมาจากอู่จิ้ง ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่ได้มีการประกาศให้สาธารณชนทราบ
รอยยิ้มของหลิวชงค่อยกลับมา
ทั้งสามกลับไปที่ห้องอีกครั้ง
เจียงเฉินก็ยังคงพูดคุยและหัวเราะไปกับพวกเขา”แล้วเลขาทั้งสองคนของคุณไปไหนแล้วล่ะครับ? ทําไมวันนี้พวกเธอถึงไม่มา? พวกเธอมีชื่อว่าอะไรนะ?”หลิวช่างยังคงทดสอบต่อไป
รูม่านตาของหยางเหอหดตัวลงทันที!
อะ!
เรื่องของเลขาสองคนนั้นมาได้ยังไงกัน? ทําไมข้อมูลถึงไม่มีเลย!
ตอนนี้มันจบแล้ว!
มันจบแล้วจริง!
แต่แล้วหยานเค่อก็ต้องสะดุ้ง!
เพราะใครจะรู้NN
เจียงเฉินพูดออกมาอย่างช้าๆ โอ้ พวกคุณพูดถึงลูซี่กับนีอางั้นหรอ? พวกเธอกําลังทํางานจากที่บ้านอยู่ ดังนั้นพวกเธอก็เลยไม่ได้มาที่นี่ อะไรนะ?! “ซูเจียชางตกตะลึง : ลูซี่กับนี้อา?!
ใช่แล้วจะต้องเป็นตัวจริงแน่! ถ้าเขาไม่ใช่คุณเจียงก็จะรู้เรื่องนี้ได้ยังไงกัน?!”ใช่แล้วเดี๋ยวผมขอตัวไปเข้าห้องน้ําก่อน! “ซูเจียชางดีใจมาก เขานั้นสามารถยืนยันได้แล้วว่าเจียงเฉินก็คือคุณเพียงคนนั้น!”ผมเองก็ต้องไปด้วยเหมือนกัน!”โอ้ย อยู่ๆก็ปวดท้องขึ้นมา!“ทั้งสามกลับไปพบกันในห้องน้ํา
และพูดคุยกันทันที”เขาคือคุณเพียง! “ซูเจียชางดูตื่นเต้น” เมื่อวานนี้ฉันได้ข้อมูลมาจากผู้จัดการอู่จิ้ง ข้อมูลนี้แทบไม่มีคนอื่นที่รู้เลย แต่เข้ากับรู้เรื่องของลูซี่และนีอา! ดังนั้นเขาจะต้องเป็นคุณเจียงอย่างแน่นอน!“โจวรุ่ยเปลี่ยนน้ําเสียงของเขาทันที”ให้ฉันพูดหน่อย คุณเจียงคนนี้มีกลิ่นอายที่ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ ไม่ทําตัวแต่ก็ไม่หยิ่งผยอง! กลิ่นอายของเขากับคนที่เกิดขึ้นมาอยู่เหนือคนอื่นโดยธรรมชาติ! เขาจะกลายเป็นพวกตนได้ยังไงกัน? หลิวชงดูเหมือนว่าน่าจะคิดมากไปนะ!“นี่มันไม่ถูกต้อง! มันไม่ถูกต้องเลย!“หลิวชงส่ายหัวอย่างไม่อยากจะเชื่อ”เขาจะต้องไปดูข้อมูลวงไหนมาจากที่ไหนสักแห่งแน่ๆ เขาไม่มีทางเป็นคุณเจียงไปได้.. “พอเถอะอย่าดื้อรั้นไปกว่านี้เลย ตอนนี้ฉันเชื่อแล้วว่าเขาคือคุณเจียงจริงๆ!“ซูเจียชางยิ้มออกมาก่อนจะเดินออกจากห้องน้ํา เขาโทรหาทนายที่เขาเตรียมการเอาไว้จากสํานักงานกฏหมายเทียนกวนทันที
ซูเจียชางพาทนายความไปที่ห้องส่วนตัว” คุณเจียง เรามาคุยเรื่องการต่อสัญญากันหน่อยได้ไหมครับ?”ซูเจียช่างยิ้มออกมาจนหน้าแดง
แต่ทันใดนั้นดวงตาของทนายความเกาหลีลง ก่อนจะตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้น”รุ่นพี่เจียง! คุณมาที่นี่ทําไมกันครับ?! “เมื่อหลิวชงกับโจวรุ่ย กลับมาการแสดงออกของพวกเขาก็หยุดนิ่งลงทันที!
รุ่นพี่?
คุณเจียงเป็นรุ่นพี่ของทนายตัวน้อยคนนี้งั้นหรอ?
ใบหน้าของหลิวชงเต็มไปด้วยความตื่นเต้น!
เขาจับไปที่ไหล่ของทนายความและถามลงมาทันที”บอกฉันหน่อย! นายกับคุณเจียงเรียนที่ไหนมา? “น้องชายทนายความพูดออกมาทันที”มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีปักกิ่งครับ รุ่นพี่จียงถือว่าเป็นคนดังในมหาลัยของเราเลย! “มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีปักกิ่ง?!“ดวงตาของซูเจียชางเบิกกว้าง และแก้วน้ําในเมืองเขาก็ตกลงไปที่พื้น
เพล้ง!
เสียงแก้วแตกดังไปทั่วทั้งห้อง!
จากข้อมูลบนโลกออนไลน์เห็นได้ชัดว่าคุณ เจียงจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด แล้วเขากลายเป็นคนดังในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีปักกิ่งได้ยังไงกัน?”ฮ่าๆๆๆ!”หลิวชงหัวเราะออกมาแล้วชี้ไปที่เจียงเฉิน”ไม่ว่านายจะต้มตุ๋นเก่งแค่ไหน แต่นายคงคิดไม่ถึงเลยว่าทนายความ คนนี้จะเป็นรุ่นน้องของนายใช่ไหมล่ะ?”โจวรุ่ยที่ซ่อนตัวอยู่ที่มุมห้องก็แอบโทรหาตํารวจ
น้องชายทนายความตื่นตระหนกขึ้นมาทันที” พวกคุณเข้าใจอะไรผิดรึเปล่ารุ่นพี่เจียนจะไม่เป็นพวกต้มตุ้นได้ยังไง เขาเป็นคนที่มีอํานาจมากตายไป! “ซูเจียชางรู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกๆ แต่สัมผัสที่หกเขายังบอกว่าคนที่อยู่ข้างหน้าเขานั้น มีความเป็นไปได้มากที่จะเป็นคุณเจียงคนนั้นจริงๆ!
เพราะถึงยังไงเขาก็เป็นคนที่รู้ชื่อของเลขาส่วนตัวทั้งสองคน!
นี่คือหลักฐานชิ้นสําคัญที่สุด!
น้องชายทนายความถูกหลิวชงลากออกไป
ซูเจียงชางก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าว ก่อนจะพูดออกมาด้วยความสงสัย”คุณเจียง ผมคิดว่าคงจะมีเรื่องเข้าใจผิดอะไรสักอย่างใช่หรือไม่?“เจียงเฉินกําลังจะอธิบายออกมา
แต่หยานเค่อกลับทนไม่ไหวแล้ว!
ในเมื่อถูกเปิดเผยออกมาแล้ว การสารภาพอาจจะผ่อนหนักให้กลายเป็นเบาได้ แต่หากต่อต้านไปมากกว่านี้ ผลที่ตามมาคงจะร้ายแรงมาก!”ขอโทษด้วยนะคะ ขอโทษจริงๆ! เป็นพวกเราที่หลอกคุณ!“ดวงตาของหยานเค่อเปลี่ยนเป็นสีแดง เธอนั้นต้องการที่จะลงไปคุกเข่าอ้อนวอนขอความเมตตา แต่เฉินก็หยุดเธอไว้ก่อน”อะไรนะ?! พวกคุณโกหกผมจริงเหรอ?”ซูเจียชางรู้สึกอ่อนแรงขึ้นมาทันทีเขาอดไม่ได้ที่จะถอยหลังกลับไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ!
ความคิดของเขาพังทลายลง ในห้วงเขาเต็มไปด้วยความยุ่งเหยิง!
แล้วทีนี้จะทํายังไงต่อไป?
ถ้าเขาไม่ใช่คุณเจียงแล้วทําไมเขาถึงรู้ชื่อของเลขาทั้งสองคน!
หลิวชงส่งน้องชายทนายความออกไปแล้วเขา เดินกลับมาที่ห้องส่วนตัวยังหยิ่งผยองก่อนจะมองไปที่เจียงเฉินด้วยสายตาดูถูก”ฉันดูออกตั้งนานแล้วว่านายไม่ใช่คุณเจียง แม้ว่ากลลวงของนายจะดีมาก แต่นายก็ไม่สามารถหลบจากสายตาฉันไปได้!”
หลิวชงเท้าเอว.
แต่ในเวลานี้เองประตูห้องส่วนตัวก็เปิดออกมา พร้อมกับหนุ่มหล่อที่เดินเข้ามา