ตอนที่ 395 ช่วยหาภรรยาให้สักคน

ตอนที่ 395 ช่วยหาภรรยาให้สักคน

“ฉันใส่ชุดหนา ๆ ให้ลูกแล้ว ไม่เป็นไรหรอกค่ะ” เย่ฉูฉู่พูดพลางหันไปพูดกับลูกชายว่า “เสี่ยวไป๋หยาง มาเร็ว มาสวัสดีคุณปู่กับคุณย่านะ ไหนพูดสิลูก สวัสดีปีใหม่!”

 

เสี่ยวไป๋หยางแย้มยิ้มพูดเสียงดัง “ดี!”

“ฮ่า ๆ!”

คำว่า ‘ดี’ ทำให้ทุกคนถึงกับหัวเราะออกมา คุณแม่จ้าวหัวเราะจนหุบยิ้มไม่ได้ “ดี ย่าก็ขอสวัสดีปีใหม่เช่นกันนะ มา คนนี้คุณปู่ของหลานนะ พูดสวัสดีปีใหม่คุณปู่สิลูก!”

 

“ดี!” เสี่ยวไป๋หยางพูดอีกครั้ง

พี่สะใภ้สี่จ้าวพูดเคล้ารอยยิ้ม “เด็กคนนี้น่าเอ็นดูมากเลย!”

 

“คนนี้ป้าสี่ สวัสดีสิลูก!” คุณแม่จ้าวพูดนำเสี่ยวไป๋หยาง

“ดี!”

เสี่ยวไป๋หยางพูดคล่องปากแล้ว จึงพูด ‘ดี’ กับทุกคน คุณพ่อจ้าวและคุณแม่จ้าวก็หัวเราะจนน้ำตาไหล ทั้งคู่ผลัดเปลี่ยนกันอุ้มพร้อมกับโอ๋หลาน

พี่สะใภ้สี่จ้าวได้เห็นก็เกิดความอิจฉาอีกครั้ง ถ้าอู่หยาของหล่อนเป็นเด็กผู้ชาย พ่อแม่สามีต้องเอ็นดูลูกหล่อนแบบนี้แน่ ๆ

อันที่จริงนี่เป็นความคิดของหล่อนเพียงคนเดียว เนื่องจากคุณพ่อจ้าวและคุณแม่จ้าวมีหลานชายแล้ว จึงไม่ได้ละเลยอู่หยา ตรงกันข้ามกลับรักอู่หยาเป็นพิเศษ เพียงแต่ไม่ได้เจอเสี่ยวไป๋หยางมานาน จึงต้อนรับอย่างกระตือรือร้น ส่วนอู่หยาช่วงนี้อยู่ด้วยกันตลอด จึงคุ้นเคยกันแล้วและไม่ต้องแสดงความกระตือรือร้นที่มากเกินไป

 

พี่สะใภ้สี่จ้าวคิดแบบนี้ก็เป็นเพราะอยากได้ลูกชาย พอได้เห็นก็รู้สึกว่าทั้งหมดนี้เป็นเพราะหล่อนไม่มีลูกชาย

วันแรกของปีเป็นวันที่ลูกหลานจะมาสวัสดีวันปีใหม่กับผู้อาวุโส ครอบครัวของพี่รองจ้าวและพี่สามจ้าวมาที่นี่กันหมด สามรุ่นมาอยู่ร่วมกัน สวัสดีวันปีใหม่และให้อั่งเปา ปีนี้มีลุงจ้าวเพิ่มเข้ามาหนึ่งคน เขาเองก็ให้อั่งเปาพวกเด็ก ๆ ด้วย ให้ไม่มาก คนละห้าเฟิน พวกเด็ก ๆ ก็ไม่ได้รังเกียจเงินน้อย พกเงินใส่กระเป๋าไว้ด้วยความรู้สึกราวกับร่ำรวยแล้ว ทว่ายังไม่ทันได้โอ้อวดก็ถูกแม่ของตัวเองเก็บไปเสียแล้ว

“แม่จะเก็บไว้ให้ ถ้าทำหายจะทำยังไง ถึงเวลาจะใช้เงินเดี๋ยวแม่ค่อยเอาออกมาให้”

คาดว่านี่คงเป็นเหตุผลของแม่ทุกคนในโลกใบนี้ที่ใช้พูดกับลูกเพื่อเก็บเงินอั่งเปา

เด็ก ๆ ยังเล็ก มัวแต่ห่วงเล่นไม่ได้สนใจอะไร ถึงอย่างไรท้ายที่สุดก็ต้องให้แม่อยู่ดี หลังจากนั้น…ก็ไม่มีอะไรแล้ว

จนกระทั่งพวกเด็ก ๆ นึกขึ้นมาได้และเรียกร้องอยากได้เงิน คำตอบของแม่ก็จะเป็นประมาณนี้อีก

“เธอยังจะอยากได้เงินอั่งเปาอีก ทั้งกินทั้งดื่ม ไหนจะซื้อสมุดดินสออีก ทั้งหมดนั้นไม่ใช่เงินเหรอ? เอาเงินอั่งเปาแค่เล็ก ๆ น้อย ๆ นั่นไปจะไปพออะไร ทีของแม่ยังไม่เคยขอเงินเธอเลย!”

เมื่อคำนวณดูแล้ว เด็ก ๆ ก็รู้สึกได้ว่าเงินอั่งเปาไม่เพียงพอ จากนั้น…ก็ไม่มีอะไรแล้ว

เสี่ยวไป๋หยางยังไม่เข้าเรื่องเหล่านี้ในตอนนี้ เงินอั่งเป่าก็ไม่สามารถจับได้ ให้เหรียญก็กลัวว่าเขาจะกลืนเข้าไปแล้วติดคอ แต่ถ้าให้ธนบัตรก็กลัวเขาจะฉีกขาด ดังนั้นเงินทั้งหมดจึงถูกเก็บไว้ในกระเป๋าของเย่ฉูฉู่

“ในที่สุดก็ได้เงินทุนกลับมาแล้ว” จ้าวเหวินเทาพูดเคล้ารอยยิ้ม

พี่สะใภ้รองจ้าวพูดด้วยรอยยิ้ม “เกิดอีกสักสองสามคน ไม่เพียงแต่จะคืนทุน แต่ยังได้กำไรด้วยนะ!”

“พี่สะใภ้รอง พี่อย่าไปฟังเขาพูดเรื่องไร้สาระเลยค่ะ” เย่ฉูฉู่พูดเคล้ารอยยิ้ม

“ไร้สาระอะไรล่ะ นี่ก็หลายปีแล้วนะ ผมมีแต่เงินออกไม่มีเงินเข้าเลย” จ้าวเหวินเทาพูดเป็นเรื่องเป็นราว “พี่สะใภ้รองพูดถูก ผมต้องมีลูกเพิ่มอีกสักคนสองคน อย่างน้อย ๆ ก็ต้องมีสามคน ถึงจะได้เงินทุนกลับมาอย่างสมบูรณ์!”

พี่สามจ้าวยิ้ม “นายคำนวณผิดแล้ว รวมเด็กพวกนี้มีตั้งกี่คน นายมีแค่สามคนจะพอเหรอ?”

พี่สะใภ้สามจ้าวหัวเราะจนทนไม่ไหวแล้ว “ก็นั่นน่ะสิ น้องหก สามคนไม่พอหรอก ถึงยังไงก็ต้องมี 8-9 คนนู้นแหละ!”

จ้าวเหวินเทาเบิกตาโต “มีลูกเยอะขนาดนั้น เงินอั่งเปาคงไม่พอเลี้ยงพวกเขาแล้วล่ะ!”

เย่ฉูฉู่ถึงกับหยิกเขาด้วยความโกรธเคือง

ทุกคนต่างก็ส่งเสียงหัวเราะออกมา

ตอนเที่ยงในวันแรกของปีทุกคนจะกินเกี๊ยวกัน ซึ่งเป็นเกี๊ยวไส้ผัก คุณแม่จ้าวลงมือทำอาหารเองโดยมีเหล่าลูกสะใภ้เป็นลูกมือ ทั้งสับผักดอง หั่นเต้าหู้ ผักผัดอีกสองสามอย่าง หลังจากทำงานยุ่งสองชั่วโมงกว่า ก็นำอาหารมาเสิร์ฟบนโต๊ะใหญ่สองชุด ผู้ชายหนึ่งโต๊ะและผู้หญิงอีกหนึ่งโต๊ะ เหล้าเป็นเหล้าข้าวฟ่างที่ลุงจ้าวเป็นคนกลั่นเอง พวกเขาพากันผลัดถ้วยคืนจอกกันอย่างครึกครื้น

วันปีใหม่ฟาร์มกระต่ายก็หยุดเช่นกัน แต่ก็มีคนที่มาทำงานเข้ากะอยู่ ถึงอย่างไรฟาร์มกระต่ายแห่งนี้จะให้คุณพ่อจ้าว คุณแม่จ้าวและลุงจ้าวดูแลกันสามคนไม่ไหวแน่นอน ช่วงข้ามปี คนที่ทำงานเข้ากะเหล่านี้ก็อยู่ข้ามปีพร้อมกับคุณพ่อจ้าวและคุณแม่จ้าว อยู่ด้วยกันมาหนึ่งปีแล้วก็เหมือนกับเป็นครอบครัวเดียวกัน

คุณพ่อจ้าวพูดกับจ้าวเหวินเทาว่า “เจ้าหก ชุยต้าคนนี้เป็นเด็กดีใช้ได้เลยนะ ต่อให้ไม่ใช่กะของตัวเอง แต่วันข้ามปีช่วงเย็นก็กลับบ้านตอนฟ้ามืด ตอนกลับก็ยังพาคนอีกสองสามคนไปเดินดูรอบ ๆ ฟาร์มกระต่ายอีกรอบด้วย เด็กคนนี้ทำงานเชื่อถือได้ แถมยังเป็นคนละเอียดรอบคอบด้วย ถ้าแกมีคนที่เหมาะสม ก็ช่วยหามาเป็นครอบครัวให้เขาสักคน เจ้าเด็กนี่บ้านก็มีแล้ว ใช้ชีวิตเองได้แล้วด้วย”

จ้าวเหวินเทายิ้มไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก “พ่อ เรื่องนี้พ่อมาหาผมทำไม เขาทำได้ดี ผมให้โบนัสเขาเพิ่มสักหน่อยก็สิ้นเรื่องแล้ว ให้หาภรรยา พ่อก็ควรไปบอกแม่สิ”

“แม่แกวุ่นจนหัวหมุนทั้งวัน จะมีเวลาได้ยังไง? แกออกไปวิ่งรถข้างนอกทั้งวัน รู้จักคนตั้งเยอะแยะ หมู่บ้านรอบ ๆ ก็ไปมาหมดแล้ว มีคนที่เหมาะสมก็พูดตะล่อมดู ยากตรงไหน!” คุณพ่อจ้าวพูด

 

คุณพ่อจ้าวชอบชุยต้าจริง ๆ ก่อนหน้านี้เขารู้แค่ว่าเด็กคนนี้เป็นคนซื่อสัตย์ แต่หลังจากผ่านไปหนึ่งปี เขาจึงได้รู้ว่าชุยต้าเป็นคนที่ทำงานจนทำให้คนรู้สึกสบายใจ

  

แม้ว่าฟาร์มกระต่ายคุณพ่อจ้าวจะเป็นคนดูแล แต่เขาก็อายุมากแล้ว พลังงานก็มีอย่างจำกัด งานของฟาร์มกระต่ายก็เล็กยิบย่อย หลายครั้งที่เขาใจสู้แต่กำลังไม่สู้ ต้องขอบคุณชุยต้าที่คอยเป็นธุระทำนู่นทำนี่ให้ จึงทำให้เขาเบาใจลงไม่น้อย

เขาคิดว่า แม่ของชุยต้าก็เสียชีวิตไปนานแล้ว พ่อก็ไม่ให้ความใส่ใจ อายุของเขาก็ไม่ใช่น้อย ๆ แล้ว แต่ก็ไม่มีใครช่วยเป็นธุระหาภรรยาให้ เขาจะเอาแต่มองแต่ไม่สนใจก็คงไม่ได้ เดิมทีเขาอยากให้คุณแม่จ้าวไปถามดู แต่หนึ่งวันของคุณแม่จ้าวก็หมดไปกับสามมื้ออาหารที่แน่นเอี๊ยด ไม่มีเวลาไปสนใจเรื่องอื่น อีกอย่างเขาเองก็ไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับการเป็นพ่อสื่อด้วย ดังนั้นจึงมาถามจ้าวเหวินเทา

จ้าวเหวินเทาไม่เคยทำเรื่องแบบนี้ สำหรับเขา การแนะนำให้คนรู้จักกันเป็นเรื่องยุ่งยากเกินไป ก่อนหน้านี้เย่ฉูฉู่เองก็เคยเป็นแม่สื่อมาก่อนไม่ใช่เหรอ แถมยังยุ่งเหยิงด้วย ตอนนี้แค่เขานึกขึ้นมาก็ยุ่งเหยิงไปหมดแล้ว ทว่าพ่อเอ่ยปากพูดขนาดนี้ เขาจะปฏิเสธกลับไปก็ไม่ได้

 

“ก็ได้พ่อ เดี๋ยวผมลองดู เรื่องนี้ห้ามรีบร้อนนะ ต้องค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไป” จ้าวเหวินเทากล่าว “คนโสดในฟาร์มกระต่ายของพวกเรามีเยอะ คงต้องแก้ปัญหาให้ทุกคน”

 

คุณพ่อจ้าวมองลูกชายปราดหนึ่ง “แกจะแก้ปัญหาให้ทุกคนเลยเหรอ?”

จ้าวเหวินเทาก็แค่พูดไปงั้น เขาจะไปมีความสามารถในการแก้ปัญหาชีวิตที่เป็นเรื่องใหญ่ของคนอื่นได้อย่างไร!

“พ่อ เป็นอะไรไปเนี่ย ก่อนหน้านี้พ่อรำคาญเรื่องพวกนี้จะตายไป” จ้าวเหวินเทาเปลี่ยนหัวข้อสนทนา

  

“ฉันได้ยินแม่ของแกเคยพูดว่า ป้าของชุยต้าจะเป็นแม่สื่อให้ เป็นหลานสาวทางฝั่งบ้านแม่ของป้าเขา แค่เอ่ยปากก็จะเอาสินสอดทองหมั้นห้าร้อยแล้ว ขาดแค่เฟินเดียวก็ไม่ได้ ชุยต้าถึงกับปฏิเสธในทันที ป้าของเขาเลยพูดว่า งั้นก็ให้ชุยต้าเป็นโสดอยู่ที่ฟาร์มกระต่ายของแกทั้งชีวิตไปเลยก็แล้วกัน ฉันได้ยินก็โกรธมาก อะไรที่เรียกว่าเป็นโสดอยู่ที่ฟาร์มกระต่ายทั้งชีวิต ยัยป้านั่นกำลังจะสื่อว่าเพราะมาทำงานอยู่กับพวกเราก็เลยหาเมียไม่ได้งั้นสิ? แบบนี้มันคือการพูดจาไร้สาระไม่ใช่เหรอ?” คุณพ่อจ้าวโกรธมาก “ฉันเองก็พอจะรู้แล้วล่ะ ป้าของชุยต้าไม่เพียงแต่ไม่พอใจชุยต้า แต่ยังไม่พอใจพวกเราด้วย!”

 

จ้าวเหวินเทารู้ดีว่าป้าของชุยต้าคงโทษเขาที่เรียกชุยต้ามาทำงานที่ฟาร์มกระต่าย จึงทำให้พวกเขาขาดแรงงานที่จะทำงานให้ตนเองฟรี ๆ ไปหนึ่งคน

 

“พ่อ อย่าเก็บคำพูดพวกนี้ไปใส่ใจเลย อีกอย่างยัยป้านั่นก็ไม่กล้าพูดต่อหน้าพ่อซะหน่อย”

“ก็ลองดูสิ ถ้ายัยป้านั่นกล้ามาพูดต่อหน้าพ่อ พ่อจะไปเรียกเลขาให้มาจัดการ!” คุณพ่อจ้าวพูด “แต่ แกก็ควรจะหาคู่ให้ชุยต้าสักคน ถ้าไม่มีเมียก็คงเอาแน่เอนอนไม่ได้ ไม่เพียงแต่จะไม่ได้ทำงานที่นี่ แกเองก็จะเสียหายอย่างหนักด้วย!”

จ้าวเหวินเทามีความสุข ที่แท้พ่อของเขาก็ทำไปเพื่อจะเก็บคนมีความสามารถไว้ให้เขานี่เอง

……………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

ปีใหม่แล้วสะใภ้สี่ก็ยังเป็นเหมือนเดิม รอพี่สี่กลับมาน่ะฝันไปเถอะถ้ายังไม่เปลี่ยนตัวเอง

ใครจะได้เป็นภรรยาของชุยต้าน้า

ไหหม่า(海馬)