ตอนที่ 137 ฉันคือคนบ้า เธอระวังตัวหน่อย + 138 ทำอู่เยวี่ยเสียขวัญ

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 137 ฉันคือคนบ้า เธอระวังตัวหน่อย + 138 ทำอู่เยวี่ยเสียขวัญ โดย Ink Stone_Romance

ตอนที่ 137 ฉันคือคนบ้า เธอระวังตัวหน่อย

การปะทะกันครั้งแรกกับเหอปี้อวิ๋น อู่เหมยได้รับชัยชนะ เป็นครั้งแรกที่เหอปี้อวิ๋นเก็บไม้ขนไก่โดยไม่ได้หวดใคร ต่อให้เธออยากหวดตีอู่เหมยให้ตายแค่ไหนก็ตาม

อู่เหมยปรายตามองเธออย่างเย็นชาแวบหนึ่งพลางเดินไปหยิบแก้วตรงหน้าตู้เก็บของแล้วเดินกลับห้องตัวเองเงียบๆ เหอปี้อวิ๋นที่อยู่ด้านหลังกัดฟันจนเกิดเสียงดังเสียดสี ขว้างไม้ขนไก่ใส่ตู้ให้เกิดเสียงดังสนั่นด้วยความโกรธ

อู่เยวี่ยเห็นสงครามที่ไม่มีการปะทะกันครั้งนี้เองกับตา ความตกใจของเธอไม่ได้น้อยไปกว่าเหอปี้อวิ๋น แค่เวลาสั้นๆ ไม่ถึงหนึ่งเดือนอู่เหมยที่ไม่กล้าพูดเสียงดังกล้าพูดคำรุนแรงขนาดนี้มาได้

เหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน!

 “เหมยเหมย เธอทำอย่างนั้นกับคุณแม่ได้ยังไง? เธอไม่กตัญญูเลย!” อู่เยวี่ยติ

“งั้นพี่ก็ไปกตัญญูเองเถอะ ยังไงสองแม่ลูกอย่างพวกพี่ก็มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งดีนักนี่”

อู่เหมยเดินตรงดิ่งไปที่ห้องตัวเอง ระหว่างทางก็หันกลับมาแค่นเสียงกล่าว “คราวหลังอย่ามายุ่งเรื่องของฉันนัก พี่เดินไปตามทางสว่างของพี่ ฉันจะเดินไปทางไหนไม่เกี่ยวกับพี่แม้แต่น้อย แล้วก็อย่ามาแสร้งเป็นพี่น้องความสัมพันธ์ดีต่อหน้าฉัน ฉันสะอิดสะเอียน!”

“อู่เหมยเธอเป็นบ้าไปแล้ว!” อู่เยวี่ยเบิกตากว้างจ้องอู่เหมย ทำหน้าตกใจอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา

“ใช่ฉันเป็นบ้าไปแล้ว ฉะนั้นเธอต้องระวังตัวหน่อย คนบ้าฆ่าคนไม่ผิดกฎหมายนะ”

อู่เหมยยิ้มอย่างมีเลศนัยทำท่าเหมือนจะบีบคอ อู่เยวี่ยสะดุ้งถอยหลังหลายก้าว รู้สึกเสียววาบที่ลำคอเป็นพักๆ หรือว่าเมื่อก่อนไม่ใช่ฝันร้าย?

อู่เหมยบีบคอเธอจริงๆ?

พระเจ้า!

อู่เหมยบ้าไปแล้วจริงๆ!

อู่เยวี่ยไม่กล้าพูดแม้แต่ประโยคเดียว เหงื่อซึมเต็มแผ่นหลังได้แต่ยืนมองอู่เหมยเดินกลับห้องทั้งอย่างนั้นโดยที่รู้สึกหนาวตัวมากขึ้นเรื่อยๆ

อู่เหมยอยากฆ่าเธอ เธอต้องบอกคุณแม่ว่าเธอจะไม่นอนห้องเดียวกับอู่เหมยอีกแล้ว!

ได้ยินอู่เยวี่ยวิ่งออกไปอู่เหมยก็ยิ้มมุมปากอย่างได้ใจ ชาติก่อนพวกเขาบอกว่าเธอเป็นโรคประสาทไม่ใช่หรือ? ถ้าอย่างนั้นเธอจะลองเป็นคนบ้าสักครั้งให้พวกเขาได้เห็น!

“ฉิวฉิวมากินเมล็ดทานตะวันเร็ว!”

อู่เหมยวางเมล็ดทานตะวันใส่กล่องให้ฉิวฉิวกิน เธอเริ่มทบทวนเนื้อหาการเรียนสำหรับวันพรุ่งนี้ ในเมื่อรับปากเหยียนหมิงซุ่นจะสอบให้ได้หกสิบคะแนนมาแล้ว เธอจะผิดคำพูดไม่ได้

ผ่านไปไม่นานอู่เยวี่ยกลับมาด้วยใจที่หวาดระแวงและเสียใจอย่างมาก เหอปี้อวิ๋นไม่เชื่อในสิ่งที่เธอพูด อีกฝ่ายยังโมโหอยู่เลยไม่มีความอดทนต่ออู่เยวี่ยมากเท่าอดีต บอกแค่ว่าเธอคิดมากเกินไป

กลางดึกแสงจันทร์สาดเข้าห้องส่งให้ห้องเป็นสีขาวโพลน อู่เหมยลืมตาขึ้น ลุกจากเตียงเดินปล่อยผมไปยังเตียงของอู่เยวี่ย ในเมื่อเป็นคนบ้าแล้วก็ต้องทำในสิ่งที่บ้าบิ่นกว่านี้ถึงจะถูก!

อู่เยวี่ยถูกแสงจันทร์สีขาวนวลปกคลุมทั้งร่างราวกับเม็ดทรายสีขาว ดูแล้วสวยกว่าตอนกลางวันอีก อู่เหมยแค่นหัวเราะเสียงเย็น สองมือคลำไปที่ลำคอของเธอ ครานี้เธอไม่ได้หยุดเพียงเท่านั้นแต่ได้สัมผัสผิวกายของอู่เยวี่ยอย่างแท้จริง อู่เยวี่ยที่หลับไม่สนิทอยู่แล้วสะดุ้งตื่นเพราะสัมผัสเย็นเฉียบตรงลำคอ ลืมตาก็เห็นอู่เหมยที่ปล่อยผมยาว ใบหน้าจุดยิ้มแปลกๆ มือกำรอบลำคอเธอ

“กรี๊ด!”

อู่เยวี่ยร้องออกมาเพราะความตกใจ ผลักอู่เหมยออกพลางวิ่งออกไปข้างนอกด้วยความหวาดผวา

 อู่เหมยหัวเราะอย่างได้ใจแล้วรีบเดินกลับเตียงตัวเอง เอาผ้าห่มคลุมตัวแกล้งหลับ ไม่นานอู่เจิ้งซือกับเหอปี้อวิ๋นก็พุ่งเข้ามาโดยมีอู่เยวี่ยตามเหอปี้อวิ๋นแจ ท่าทางจะตกใจไม่น้อย

“เหมยเหมยหลับอยู่ดีนี่นา จะบีบคอลูกได้ยังไง? เยวี่ยเยวี่ยฝันร้ายแล้วล่ะ”

อู่เจิ้งซือไม่เชื่อในสิ่งที่อู่เยวี่ยกล่าวสักนิด บุตรสาวคนเล็กจะบีบคอบุตรสาวคนโตให้ตาย เป็นไปได้อย่างไร?

พอเห็นอู่เหมยหลับสนิทเขายิ่งไม่เชื่อไปกันใหญ่ เริ่มไม่พอใจต่ออู่เยวี่ย ทำไมถึงฝันร้ายได้ถึงขั้นนี้?

กลางวันจะคิดถึงแต่เรื่องที่ลืมไม่ลงส่งผลให้กลางคืนฝันถึงเรื่องนั้น ดูเหมือนว่าความคิดของบุตรสาวคนโตจะมีปัญหา ต้องหาเวลาพูดคุยกับบุตรสาวคนโตเสียแล้ว

………………………..

ตอนที่ 138 ทำอู่เยวี่ยเสียขวัญ

 อู่เยวี่ยตกใจจนขวัญเสียเลยไม่ใจเย็นเหมือนอย่างเคย ตะโกนเสียงดัง “พ่อคะ เหมยเหมยต้องแกล้งหลับแน่ๆ เมื่อกี้เธอจะมาบีบคอหนูจริงๆ เธอยังบอกว่าตัวเองเป็นคนบ้าด้วย”

 อู่เหมยที่แกล้งหลับอยู่รู้สึกขบขัน เป็นครั้งแรกที่เห็นสภาพนี้ของอู่เยวี่ย ที่แท้นางแพศยาคนนี้ก็มีช่วงที่กลัวเหมือนกันนี่นา!

เห็นดวงหน้าเล็กขาวซีดของอู่เยวี่ย อย่าต้องให้พูดเลยว่าเหอปี้อวิ๋นปวดใจขนาดไหน โอบร่างเย็นเฉียบของอู่เยวี่ยไว้กล่าวต่ออู่เจิ้งซือ

  “เหล่าอู่ เยวี่ยเยวี่ยขวัญเสียแล้วจิรงๆ ไม่แน่สิ่งที่ลูกพูดอาจจะจริงก็ได้ คุณลองปลุกเหมยเหมยมาถามสิ”

ช่วงนี้ยายนี่ไปได้ความกล้ามาจากไหนไม่รู้ แม้แต่เธอยังกล้าโต้เถียง ไม่แน่อาจจะบีบคอเยวี่ยเยวี่ยจริงๆ ก็ได้!

อู่เจิ้งซือมุ่นคิ้วอย่างไม่ลังเล ไม่ชอบการที่เหอปี้อวิ๋นสงสัยอย่างมาก ช่วงนี้บุตรสาวคนเล็กมีความประพฤติดี คะแนนเริ่มมีการพัฒนาแล้วทำไมถึงกลายเป็นคนบ้าไปได้?

เห็นอู่เจิ้งซือไม่ขยับตัวสักทีเหอปี้อวิ๋นอดไม่ได้เลยพุ่งตัวไปผลักอู่เหมยอย่างแรง ทำเอาอู่เหมยแกล้งหลับต่อไม่ได้

“พ่อคะ ฟ้าสว่างแล้วเหรอ?” อู่เหมยทำหน้าง่วงซึม อดขยี้ตาไม่ได้

อู่เจิ้งซือถลึงตาใส่เหอปี้อวิ๋นแวบหนึ่งพลางตอบกลับเสียงอ่อนโยน “เปล่า พ่อแค่มาดู ลูกนอนต่อเถอะ”

อู่เยวี่ยผิดหวังต่ออู่เจิ้งซืออย่างมาก เธอตกใจจนเสียขวัญขนาดนี้แล้วอู่เจิ้งซือกลับยังไม่เชื่อเธอแถมปกป้องอู่เหมย ทั้งที่อดีตคุณพ่อจะเชื่อฟังในสิ่งที่เธอพูดทุกอย่าง ตั้งแต่ยายโง่นี่มัดผมหางม้า คุณพ่อก็เปลี่ยนไป

เธอรู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้ เพราะใบหน้าของยายบ้านี่ทั้งนั้น ทั้งโลกมีคนเสียโฉมมากมายทำไมเรื่องนี้ถึงไม่เกิดขึ้นกับยายโง่นี่บ้างนะ?

เหอปี้อวิ๋นเองก็ไม่พอใจในท่าทีของอู่เจิ้งซือจึงถามกลับไป “เมื่อกี้แกไปบีบคอพี่สาวของแกใช่มั้ย?”

ดวงตากลมโตของอู่เหมยกะพริบปริบอย่างใสซื่อ ทำหน้างงอย่างน่ารักที่ใครเห็นก็ต้องใจอ่อน แน่นอนว่ายกเว้นเหอปี้อวิ๋นกับอู่เยวี่ย

 “หนูหลับอยู่ตลอดเลย อีกอย่างทำไมหนูต้องไปบีบคอพี่ด้วย?” อู่เหมยกล่าวอย่างน่าสงสาร

อู่เยวี่ยตวาดด้วยความโกรธ “เหมยเหมย ทำไมเธอถึงโกหก? เมื่อกี้เธอบีบคอฉันจริงๆ ก่อนหน้านี้เธอยังบอกเลยว่าเธอเป็นบ้า คนบ้าฆ่าคนไม่ผิดกฎหมาย เธออย่ามาทำไขสือ”

อู่เหมยตัวสะท้านพลางขยับตัวเข้าหาอู่เจิ้งซือน้อยๆ พร้อมกล่าวอย่างหวาดกลัว “พ่อคะ พี่พูดจาแปลกๆ พี่กดดันเรื่องเรียนมากไปจนเกิดภาพหลอนหรือเปล่าคะ?”

“อู่เหมยอย่ามาตอแหล ฉันกดดันอะไร? สิ่งที่ฉันพูดคือความจริงทั้งนั้น”

อู่เยวี่ยอ้าปากด่ากราดจนหลุดคำหยาบออกมา เธอยิ่งด่าแรงเท่าไรอู่เหมยยิ่งได้ใจ ตอนนี้อู่เยวี่ยปั่นหัวได้ง่ายเสียจริง ไม่กี่ประโยคก็จุดไฟติดแล้ว

“เยวี่ยเยวี่ย!” อู่เจิ้งซือคำรามเสียงต่ำ แววตาฉายแววผิดหวัง

อู่เยวี่ยได้สติทันควัน เพิ่งรู้ตัวว่าเมื่อครู่เธอทำอะไรลงไปบ้าง เธอหลงกลยายโง่นี่ได้อย่างไรกัน?

“พ่อคะ ขอโทษค่ะ หนูตกใจเกินไปเลยพูดไม่ทันคิด เหมยเหมย ขอโทษนะ”

อู่เยวี่ยที่ได้สติทันทีพลางกล่าวขอโทษด้วยท่าทางน่าสงสาร ใบหน้าดวงเล็กขาวซีดไร้สีเลือดฝาดเช่นเดิม อู่เจิ้งซือใจอ่อนยวบทันที บางทีบุตรสาวคนโตอาจจะตกใจเกินไปจริงๆ ก็ได้!

“พักผ่อนเถอะ วันหลังต้องเรียนรู้ที่จะผ่อนคลายบ้าง เรียนรู้จากเหมยเหมยไปเดินเล่นตอนกลางคืนบ้าง จะช่วยเรื่องนอนหลับได้ดีมาก”

อู่เจิ้งซือคิดว่าสิ่งที่อู่เหมยพูดมีเหตุผลดี อู่เยวี่ยอาจจะกดดันเรื่องเรียนมากเกินไปจนส่งผลกระทบต่อการนอน ถึงได้ฝันเหลวไหลแบบนี้

อู่เยวี่ยไม่พอใจอยู่ลึกๆ ให้เธอเรียนรู้จากอู่เหมย?

คุณพ่อยิ่งอยู่ยิ่งเลอะเลือน เธอกัดฟันตอบกลับอย่างเชื่อฟัง “ค่ะ คราวหลังหนูจะรู้จักผ่อนคลาย คุณพ่อคุณแม่เหมยเหมยรีบนอนเถอะค่ะ ผิดที่หนูเองที่ทำทุกคนไม่ได้นอน”

“เด็กคนนี้พูดอะไรน่ะ ลูกเองก็รีบนอนซะนะ!”

 เหอปี้อวิ๋นปวดใจเหลือเกิน คิดในใจว่าพรุ่งนี้ต้องไปซื้อไก่กลับมาตุ๋นไก่ให้อู่เยวี่ยดื่มเพื่อบำรุงสมอง การทุ่มเงินไปกับบุตรสาวคนโต เหอปี้อวิ๋นไม่เคยขี้เหนียวอยู่แล้ว

…………………………