ตอนที่ 302

Crazy Leveling System

CLS ตอนที่ 302: จับกุมตัว

 

“เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้!”

 

เหลยหยุนคำรามอย่างเดือดดาล พร้อมกับทุบพื้นอย่างแรง จากนั้นก็ปล่อยการโจมตีตรงมาที่นี่ อาคมสายฟ้าบนร่างปะทุออกมาจนหมด ต่างพากันปลดพันธนาการในพริบตา ก่อให้เกิดเป็นสายฟ้าเส้นเขื่อง แล่นตรงมาที่แห่งนี้

 

มังกรอัสนีตัวใหญ่ยักษ์อ้าปากขนาดมหึมาของมัน กลืนอี้เทียนหยุนรวมถึงเย่ชิงเสวียนเข้าไป สายฟ้าเส้นนี้มีพลังน่าสะพรึงนัก ผู้จัดการเผ่าภูตที่อยู่ห่างออกไปต่างพากันสัมผัสได้ถึงความน่าสะพรึงของมัน พร้อมกับเสียงระเบิดที่ดังตามมา

 

“เสิ้งหนี่ต้าเหริน!”

 

พวกเขาพากันร้องออกมา แต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่อยากช่วย แต่เพราะว่าด้วยพลังระดับพวกเขา ถ้าหากเข้าไปใกล้เมื่อไหร่ก็ตายเมื่อนั้น แล้วอย่างนี้จะให้เข้าไปช่วยยังไง?

 

“ตายไปซะ!” ใบหน้าของเหลยหยุนกลายเป็นดุร้ายโดยสมบูรณ์ มองมาทางพวกอี้เทียนหยุนที่ถูกสายฟ้าปกคลุมพร้อมรอยยิ้มดูถูก แม้ว่าเย่ชิงเสวียนจะถูกจัดการไปด้วย เขาก็ไม่รู้สึกสงสารเลยสักนิด

 

เพราะสำหรับเขาแล้ว สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่ไม่สำคัญ ไม่ว่าใครที่ต่อต้านเขา มันผู้นั้นต้องตาย!

 

และอึดใจต่อมา สายฟ้าเส้นนี้ก็ได้สลายไปอย่างรวดเร็ว ถูกกักเก็บไว้ในไข่มุกเทียนเหลยทั้งหมด พร้อมกับปรากฏร่างของอี้เทียนหยุนที่มองมาด้วยสีหน้าดูถูก “ข้าเคยบอกไปแล้วว่าเปล่าประโยชน์ ถ้าเจ้ามีสายฟ้าที่แข็งแกร่งกว่านี้สัก 10 เท่า ข้าคงจะไม่มีทางป้องกันได้ แต่น่าเสียดายที่สายฟ้าของเจ้านั้นห่วยเกินไป”

 

พวกเขาไม่เป็นอะไรแม้แต่น้อย สายฟ้าจากธรรมชาติต่างถูกดูดเอาไปจนหมดไม่มีเหลือ! นี่คือผลลัพธ์ที่น่าสะพรึงของไข่มุกเทียนเหลย ทำให้พวกเขาต้องพากันมองมาด้วยตาที่เบิกโพลง ของที่ให้ผลลัพธ์น่าสะพรึงขนาดนี้ คงไม่ใช่ว่าเป็นระดับศักดิ์สิทธิ์หรอกใช่ไหม?

 

“นี่ นี่….” เหลยหยุนกลายเป็นตกตะลึง เขาคิดว่าคราวนี้จะได้เห็นศพที่ไหม้เกรียมสองศพ แต่ไม่คิดภาพที่เห็นจะเป็นคนสองคนที่ไม่เป็นอะไรเลย ทั้งสายฟ้าที่เขาปลดปล่อยด้วยพลังทั้งหมดกลับถูกดูดเอาไปจนหมด

 

สายฟ้าที่กักเก็บเอาไว้ในอาคมสายฟ้าบนร่างได้ถูกเขาปล่อยออกไปจนหมดแล้วในตอนนี้ ไม่มีการระเบิดพลังโจมตีออกมาอีก อย่างมากก็เหลือแค่การโจมตีธรรมดาที่แฝงธาตุสายฟ้าเท่านั้น แต่สายฟ้าที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาได้ปลดปล่อยออกไปแล้ว แล้วการโจมตีธรรมดาของเขาจะไปทำอะไรอี้เทียนหยุนได้กัน?

 

“เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้!”

 

เหลยหยุนคำรามออกมาอย่างคลุ้มคลั่ง พร้อมกับกระโจนเข้าใส่อี้เทียนหยุนด้วยมือเปล่า ทั่วทั้งร่างของเขาโป่งพองขึ้น ปล่อยหมัดที่ล้อมรอบไปด้วยสายฟ้าออกไป

 

“สู้มือเปล่าอย่างงั้นเหรอ ข้าชอบ!”

 

อี้เทียนหยุนผลักเย่ชิงเสวียนออกไปเบาๆ จากนั้นก็ต่อหมัดออกไปปะทะกับหมัดของเหลยหยุน คนอื่นๆ พากันหน้าเปลี่ยนสี ผู้จัดการเผ่าภูตพวกนี้พากันรีบตะโกนออกมา

 

“ระวังด้วย พลังหมัดอีกฝ่ายไม่ธรรมดา!”

 

พูดไม่ทันขาดปาก หมัดของพวกเขาก็ปะทะกัน “ปัง” ร่างของเหลยหยุนถูกซัดจนกระเด็น ก่อนที่จะกระแทกเข้ากับต้นไม้ที่อยู่ข้างหลัง แขนของเขาบิดงอผิดรูป คิดจะสู้ด้วยหมัด พลังของเหลยหยุนยังห่างชั้นกับอี้เทียนหยุนอยู่ช่วงใหญ่ ทำให้ถูกจัดการในพริบตา

 

ผู้คนพากันเงียบในทันที พวกเขาร้องเตือนด้วยความหวังดี แต่ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องเตือนแล้ว แค่พลังของอี้เทียนหยุนก็เหนือกว่าอีกฝ่ายมาก โดยที่ไม่ต้องใช้ไข่มุกเทียนเหลย เขาก็ยังสามารถจัดการเหลยหยุนได้อยู่ดี!

 

อึดใจต่อมา อี้เทียนหยุนก็พุ่งตามเขาไป โดยไม่ทันที่เหลยหยุนจะได้ลุกขึ้น ฝ่าเท้าก็ลอยเข้าใส่ตันเถียนของเขาแล้ว พร้อมกับพลังที่ป่าเถื่อน ระเบิดตันเถียนของเขาทิ้งในทันที!

„Bang!”

 

เหลยหยุนกระแทกเข้ากับต้นไม้อีกครั้ง ใบหน้าเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ขณะที่ร้องโหยหวนออกมา “เจ้าทำลายตันเถียนของข้า! แค่ก…..” พูดไม่ทันจบก็กระอักเลือดออกมาด้วยความเจ็บปวด

 

อี้เทียนหยุนทำลายตันเถียนอีกฝ่าย นี่ทำให้เขาไม่ต่างอะไรไปจากคนพิการ หากคิดจะรักษาตันเถียนนี้ให้ฝึกฝนได้ตามเดิม จำเป็นต้องใช้ยาชั้น 5 เป็นอย่างน้อย ถึงจะรักษาให้กลับมาฝึกฝนได้ แต่แน่นอนว่าราคาของมันนั้นไม่น้อยอย่างแน่นอน ยิ่งกว่านั้น การจะรักษาให้กลับมามีระดับเหมือนก่อนหน้าก็ยากไม่ใช่น้อย

 

หลังจากถูกทำลายตันเถียน เหลยหยุนก็สงบและนิ่งขึ้น เมื่อไม่มีพลังก็เท่ากับไม่มีแรง ทำให้สามารถควบคุมได้ง่ายกว่าเดิม

 

“ถ้าไม่ใช่ทำลายตันเถียนของเจ้า แล้วคิดว่าข้าทำอะไร? เจ้าโง่!” อี้เทียนหยุนหัวเราะเยาะ จากนั้นก็หันไปทางเย่ชิงเสวียนแล้วพูดว่า “ที่เหลือยกให้เจ้า จะจัดการยังไงก็แล้วแต่เจ้าเลย”

 

“อืม!” เย่ชิงเสวียนพยักหน้า สายตาของเธอค่อยๆ เบนไปที่ร่างเหลยหยุน นัยน์ตาคู่งามมากไปด้วยความเย็นชา “เหลยหยุน ในที่สุดก็ได้เวลาชำระบัญชีกันสักที!”

 

พูดจบ เธอก็สะบัดแส้สีเงินในมือรัดร่างเหลยหยุนเอาไว้ ทำการจับกุมอีกฝ่าย

 

“ชิงเสวียน ถ้าเจ้าไม่ปล่อยข้า ข้าไม่รับประกันชีวิตของพวกบรรพชน!” เหลยหยุนยังไม่ลืมที่จะขู่ออกมา

 

เสียง “เพี๊ยะ” ดังสนั่น เย่ชิงเสวียนทำการตบหน้าเหลยหยุนจนเลือดกบปาก

 

“เจ้ากล้าตบข้าอย่างงั้นเหรอ!”

 

“เพี๊ยะ!”

 

เย่ชิงเสวียนตบลงไปอีกครั้งโดยไม่ออมแรง จนทำให้ฟันของเขาหลุดออกมาหลายซี่

 

“ตบเจ้าแล้วทำไม แค่ไม่ฆ่าเจ้าตอนนี้ก็ถือว่าอภัยให้เจ้ามากแล้ว!” เย่ชิงเสวียนมองไปที่เขาด้วยสีหน้าเย็นชา จากนั้นก็หมุนตัวพร้อมกับลากเขาเดินมา แล้วพูดขึ้นว่า “พวกเรากลับกันก่อนเถอะ!”

 

“อืม!”

 

พวกเขาต่างก็พากันเดินทางกลับ ตอนนี้ก้อนหินที่ทับในอกพวกเขาเบาลงเล็กน้อย ผู้รุกรานกลุ่มนี้ถูกพวกเขากำจัดจนหมด ที่เหลือก็คือวางแผนเพื่อช่วยเหลือพวกบรรพชนที่ถูกจับ

 

“ติ๊ง ท่านทำภารกิจ “ช่วยเหลือเผ่าภูต” ภารกิจที่ 3 “ขับไล่ผู้รุกรานจากอาณาจักรใต้พิภพ” สำเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์ 30 ล้าน, ค่าความคลั่ง 100,000, ค่าความชั่ว 5,000, ค่าความชอบของเผ่าภูตเพิ่มขึ้น 50!”

 

“ติ๊ง ท่านรับภารกิจ “ช่วยเหลือเผ่าภูต” ภารกิจที่ 4 “ช่วยเหลือเผ่าภูตที่ถูกจับไว้ในคุกอาณาจักรใต้พิภพ” สำเร็จ เมื่อสำเร็จจะได้รับค่าประสบการณ์ 50 ล้าน, ค่าความคลั่ง 200,000, ค่าความชั่ว 5,000, ค่าความชอบของเผ่าภูตเพิ่มขึ้น 50!”

 

หลังจากสำเร็จภารกิจที่ 3 ภารกิจที่ 4 ก็ตามมาติดๆ นี่ไม่ผิดไปจากที่อี้เทียนหยุนคาด เพราะเรื่องราวในเผ่าภูตยังไม่จบ การจะขึ้นเป็นราชาภูตได้ จำเป็นต้องประสบความสำเร็จระดับผู้กอบกู้เสียก่อน จำเป็นต้องช่วยเหลือเผ่าภูตที่ถูกจับออกมา นี่จึงจะทำให้พวกเขาเชื่อมั่นในตัวเขาอย่างจริงใจ แล้วเลือกเขาให้ขึ้นเป็นราชา!

 

ยังไงก็ตาม นี่ก็แค่ความคิดเห็นของเขา ส่วนจะสำเร็จไหมก็ขึ้นอยู่กับว่าจะช่วยชีวิตคนที่ถูกจับออกมาได้หรือเปล่า ซึ่งความยากนี้ไม่ใช่น้อยๆ เลย

 

พวกเขากลับมาถึงเผ่าภูตอย่างรวดเร็ว เผ่าภูตหลายคนต่างก็พากันล้อมเข้ามา เมื่อเห็นว่าพวกเขาจับเหลยหยุนกลับมาด้วย สีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนเป็นโกรธเกรี้ยว ที่เผ่าภูตต้องตกอยู่ในสถานการณ์นี้ ทั้งหมดล้วนเป็นเพราะมัน!

 

เมื่อพวกเขารู้ว่านี่เป็นผลงานของอี้เทียนหยุน ก็พากันเผยสีหน้าตกใจออกมา พร้อมกับค่าความชอบที่เพิ่มพรวด ทำให้ชื่อเสียงของอี้เทียนหยุนกลายเป็นที่รู้จักของทุกคนในเผ่า

 

นี่ทำให้อี้เทียนหยุนถอนหายใจ ไม่มีอะไรได้มาโดยไม่ลงแรง