บทที่ 1504 – ชัยชนะ 2 ครั้ง ความกังวลใจ

Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล

บทที่ 1504 – ชัยชนะ 2 ครั้ง ความกังวลใจ

อาวุธนี้ทรงพลังอย่างยิ่ง ชิงสุ่ยสามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่อันตรายและความบรรพกาลจากมัน ค้อนคู่นี้คงได้อาบเลือดมนุษย์มาอย่างยาวนาน

อสูรศิลาทองคำทั้ง 2 ตัวก็ถือเป็นสัตว์อสูรบรรพกาลที่สำคัญ ลำตัวของพวกมันยาวเกินกว่า 200 เมตรและทั่วร่างกายของมันเป็นประกายสีทอง

ชิงสุ่ยรู้สึกได้ว่าพลังของชายชรานั้นมากกว่าเขาถึง 1 เท่า อย่างน้อยที่สุดพลังของชายชราก็น่าจะมากกว่า 400 ล้านสุริยา แม้แต่สำหรับชิงสุ่ยเองก็ต้องผงะไปเมื่อได้รับรู้

หงส์เพลิงสะบั้นศึก!

รัศมีแห่งเทพสังหาร!

เครื่องรางแห่งสวรรค์!

พลังของเขาเพิ่มขึ้นจนไปอยู่ในระดับเดียวกันกับชายชราทันที แต่ชิงสุ่ยยังไม่ได้ลดพลังศัตรูของเขาลงไป นอกจากนี้พลังของชิงสุ่ยนั้นยังเพิ่มขึ้นมาจากง้าวทองทะลวงศัตรูด้วยเช่นกัน

เส้นทางมังกรทะยาน!

ชิงสุ่ยก้าวไปตามตำแหน่งเทวาทั้ง 9 ด้วยการใช้เส้นทางมังกรทะยานเพื่อพุ่งเข้าไปหาชายชรา ชายชรากวัดแกว่งค้อนของเขาทันทีพร้อมกับพุ่งเข้ามาปะทะกับชิงสุ่ย.

ปัง ปัง ปัง…

เสียงของอาวุธปะทะกันดังออกมาหลายครั้งชิงสุ่ยเหนือกว่าในด้านท่าเท้า ความเร็ว เพลงหมัดไทเก๊ก และการป้องกันของเขา ทำให้เขาอยู่ในระดับเดียวกันกับชายชราในตอนนี้

ตราบใดที่เขาสามารถดึงเวลาต่อไปได้เรื่อยชิงสุ่ยก็จะชนะ นอกจากนี้พลังโจมตีของชายชรายังไม่อาจทำอันตรายชิงสุ่ยได้ในตอนนี้ นี่ทำให้เขารู้สึกภาคภูมิใจอย่างยิ่ง

ทักษะ9รากฐานบรรพกาลศึก!

หลังจากที่ได้ปะทะกันมากกว่า 10 ครั้งความสามารถในการทะลุทะลวงของง้าวทองทะลวงศัตรูก็ยังไม่ปรากฏขึ้นเลย ชิงสุ่ยตัดสินใจที่จะปลดอาวุธของศัตรูก่อน เพราะค้อนคู่นี้ทำให้เขารู้สึกแปลกประหลาดอย่างยิ่ง

ตูม!

เสียงแหลมดังขึ้นออกมาอีกครั้งชิงสุ่ยเห็นว่าค้อนคู่ขนาดใหญ่นี้เริ่มมีริ้วรอยเกิดขึ้นเมื่อมันปะทะเข้ากับง้าวทองทะลวงศัตรูแต่ง้าวของเขาก็ไม่อาจทะลุทะลวงมันได้

ค้อนของชายชรานั้นถือว่าทรงพลังอย่างยิ่ง หากเป็นอาวุธธรรมดาคงพังทลายไปแล้ว แม้ว่าอาวุธของเขาจะไม่ถูกทำลายลงไปแต่ริ้วรอยที่เกิดขึ้นก็ทำให้ชายชรารู้สึกเจ็บปวดในหัวใจอย่างยิ่ง ค้อนคู่นี้คือชีวิตของเขาและในตอนนี้… เขาไม่รู้ว่าเขาสามารถซ่อมแซมมันได้หรือไม่

ในตอนนี้ชายชรารู้สึกโกรธขึ้นมาจริงๆ รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาได้หายไปแล้วเมื่อเขามองมาทางชิงสุ่ย สีหน้าของเขาในตอนนี้ดูโหดเหี้ยมอย่างยิ่ง

พันธนาการเทาสังหารฟ้า!

ค้อนคู่เริ่มเคลื่อนไหวในทิศทางที่แปลกประหลาด มันสร้างหมอกสีเทาขึ้นมาในท้องฟ้าบดบังวิสัยทัศน์ของผู้ที่มองอยู่ทั้งหมด หมอกนี้สามารถป้องกันได้แม้แต่เสียง

ชิงสุ่ยปิดตาลงและใช้การรับรู้ทางจิตวิญญาณของเขาพร้อมกับเขตแดนแห่งราชันย์

ปราณสีเงินกระจายออกจากร่างกายของเขาไปรอบๆตัว ทำให้การมองเห็นในระยะ 10 เมตรของชิงสุ่ยนั้นชัดเจนอย่างยิ่ง

ตำแหน่งเทวาทั้ง 9!

ชิงสุ่ยใช้ตำแหน่งเทวาทั้ง 9 ทันทีในตอนนี้ เมื่อมีมันเขาจะสามารถควบคุมทุกอย่างได้ ตอนนี้เขาสามารถป้องกันการลอบโจมตีของศัตรูได้แล้ว

“ไปตายซะ!”

เสียงของชายชราปรากฏขึ้นทันทีเมื่อค้อนคู่ขนาดยักษ์ฟาดลงตรงมาที่ชิงสุ่ยด้วยความเร็วที่ไม่น่าเชื่อ

การโจมตีนี้ของชายชราในการมองเห็นของชิงสุ่ยงั้นเชื่องช้าอย่างยิ่ง นี่เป็นเพราะตำแหน่งเทวาทั้ง 9 ที่ทำให้ความเร็วของชิงสุ่ยเพิ่มขึ้นจนน่ากลัว ทำให้การโจมตีของชายชราดูเชื่องช้าลงไปเลยเมื่ออยู่ตรงหน้าเขา

ติ๊ง!

ง้าวทองทะลวงศัตรูของชิงสุ่ยพุ่งงไปปะทะกับค้อนที่ตรงเข้ามาแต่ความสามารถในการเจาะทะลวงของมันก็ไม่ปรากฏขึ้นอีกครั้ง

ชิงสุ่ยรู้สึกว่าโอกาสในการเจาะทะลวงของมันนั้นจะลดน้อยลงไปเมื่อต้องปะทะกับอาวุธประเภทค้อน บางทีอาจจะเกี่ยวข้องกับสิ่งที่ใช้สร้างอาวุธ

ง้าวทองทะลวงศัตรูนั้นสามารถเจาะทะลวงอาวุธระดับต่างๆได้อย่างง่ายดาย แต่เมื่อมันต้องปะทะกับอาวุธที่สร้างขึ้นจากวัสดุกับตำนาน โอกาสในการเจาะทะลวงของมันดูเหมือนจะต่ำลงไปอย่างยิ่ง นี่คงเป็นข้อจำกัด ไม่อย่างนั้นง้าวนี่คงจะเหนือกว่าอาวุธทุกๆชิ้นที่อยู่ในโลกใบนี้อย่างแน่นอน

โฮก! โฮก!

เสียงคำรามสายฟ้าดังขึ้นมาถึง 2 ครั้งเมื่ออสูรศิลาทองคำพุ่งตรงมาที่ชิงสุ่ย อสูรศิลาทองคำนั้นเป็นสัตว์อสูรธาตุโลหะที่ทรงพลังอย่างยิ่ง น้ำลายสีทองที่หยดจากปากของมันนั้นกระเด็นออกมาอย่างต่อเนื่อง

ของเหลวสีทองที่หยดออกมานี้มีอุณหภูมิสูงอย่างไม่น่าเชื่อและน่ากลัวราวกับลาวา เมื่อสัมผัสกับสิ่งใดก็จะเกาะยึดไว้ราวกับเป็นพัฒนาการเล็ก

ก๊าซ!

ธาตุไฟนั้นเหนือกว่าธาตุเหล็ก ชิงสุ่ยเรียกวิหคเพลิงนรกานต์ออกมา ธาตุที่เหนือกว่านั้นสามารถสร้างความเสียหายได้ถึง 2 เท่า ในเวลาเดียวกันแส้เปลวเพลิงมังกรขั้นแรกเริ่มของชิงสุ่ยก็ได้ฟาดออกไปที่อสูรศิลาทองคำ

เคล็ดพลังศักดิ์สิทธิ์กลั่นหลอมเบญจธาตุ!

เคล็ดพลังศักดิ์สิทธิ์กลั่นหลอมเบญจธาตุนั้นสามารถทำให้ชิงสุ่ยควบคุมธาตุทั้ง 5 ได้ เขาสามารถใช้ธาตุที่เหนือกว่าศัตรูได้ทุกๆการประลอง

โฮก

บาดแผลปรากฏขึ้นบนร่างของอสูรศิลาทองคำทุกๆครั้งที่แส้ของชิงสุ่ยฟาดลงไป เพราะพลังของชิงสุ่ยนั้นเหนือกว่าเมื่อเทียบกับสัตว์อสูรเหล่านี้และการโจมตีของเขานั้นเป็นธาตุที่เหนือกว่า การโจมตีแต่ละครั้งจึงทำให้อสูรศิลาทองคำนั้นได้รับบาดเจ็บ

แม้ว่าพลังของวิหคเพลิงนรกานต์จะไม่ได้มากมายเหมือนชิงสุ่ยแต่มันก็ไม่อาจมองข้ามได้เลย ทุกๆครั้งที่มันพ่นไฟออกไปอสูรศิลาทองคำจะกู่ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด การโจมตีของวิหคเพลิงนั้นแม่นยำอย่างยิ่งและมันจะโจมตีไปที่รอยแผลที่เกิดขึ้นจากแส้ของชิงสุ่ย

ชิงสุ่ยไม่ได้เรียกสัตว์อสูรตัวอื่นของเขาออกมาเพราะแค่นี้ก็มากเกินพอแล้ว เขาไม่ต้องการเปิดเผยพลังของตนเองในตอนนี้ เพียงแค่นี้ก็สามารถเอาชนะศัตรูได้แล้ว ไม่อย่างนั้นเขาเองก็อาจจะต้องมาเสียใจภายหลัง

ชิงสุ่ยมีไพ่ตายที่ซ่อนเอาไว้อยู่ ด้วยพลังป้องกันที่มากมายของเขาทำให้มีเพียงไม่กี่คนในจักรววรดิหิมะนิรันดร์ที่สามารถสังหารเขาได้ นอกจากนี้เขายังมีทักษะที่ช่วยรับการโจมตีที่รุนแรงได้

เถาวัลย์อสูรกระหายเลือด!

ชิงสุ่ยปลดปล่อยเถาวัลย์อสูรกระหายเลือดออกไป เถาวัลย์สีแดงเลือดนี้แพร่กระจายไปทั่วท้องฟ้ามันตรงเข้าไปพันธนาการอสูรศิลาทองคำทั้ง 2 ตัว หนามของมันไม่อาจเจาะทะลุผิวหนังของสัตว์อสูรได้แต่พลังของเถาวัลย์ในตอนนี้นั้นก็ถือว่าทรงพลังอย่างยิ่ง

อสูรศิลาทองคำทั้ง 2 ตัวถูกพันธนาการเอาไว้ในตอนนี้แต่หลังจากนั้นเถาวัลย์ก็ไม่ได้เคลื่อนไหวใดๆ มันค่อยๆดูดพลังของสัตว์อสูรอย่างฉัน ท้ายที่สุดแล้วพลังของสัตว์อสูรคงจะหายไปจนหมดนั่นหมายความว่าพวกมันจะต้องตายภายในเถาวัลย์นี้

เขตแดนแห่งราชันย์ของชิงสุ่ยนั้นสามารถเปลี่ยนตำแหน่งไปพร้อมกับเขาได้

ในตอนนี้ชายชราก็รู้สึกได้ว่าชิงสุ่ยนั้นยากที่เขาจะสามารถรับมือได้และรู้สึกได้ว่ายากที่เขาจะสามารถเอาชนะได้ในตอนนี้ เขารู้สึกหดหู่อย่างยิ่งในหัวใจ

ค้อนพรากชีวิตช่วงชิงวิญญาณ!

ชายชราเริ่มลงมืออีกครั้งค้อนในมือของเขาดูเหมือนจะมีชีวิตขึ้นมาในตอนนี้ มันป้องกันร่างกายของเขาในตอนที่เขาพุ่งไปหาชิงสุ่ย

ชิงสุ่ยหัวเราะออกมาเขาไม่เคยหวาดกลัวการต่อสู้แบบนี้ การโจมตีของชายชรามันไม่อาจทำอะไรเขาได้ ชิงสุ่ยไม่รู้สึกว่าเขาด้อยกว่าผู้ใดในที่แห่งนี้

ทักษะ9รากฐานบรรพกาลศึก!

กรงเล็บหงษ์เพลิงพิฆาต!

ชิงสุ่ยได้ทดลองผสานกรงเล็บหงษ์เพลิงพิฆาตเข้ากับตำแหน่งเทวาทั้ง 9 และเหมือนว่าเขาจะสำเร็จ ในตอนนี้เมื่อเขาลองใช้มันดูไม่เพียงแต่มันจะสามารถป้องกันการโจมตีที่ทรงพลังของชายชราได้เท่านั้นมันยังสามารถทำให้ชายชราต้องกระเด็นถอยไปได้อีกด้วย

“เจ้าไม่ใช่คู่มือของข้า” ชิงสุ่ยกล่าวขึ้นช้าๆ

“มันอาจจะไม่เป็นเช่นนั้นก็ได้ เตรียมรับมือการโจมตีครั้งต่อไปให้ดี” ชายชรากำค้อนของเขาเอาไว้แน่นขณะที่เขากล่าวขึ้นในตอนนี้

“เจ้าจะใช้พลังชีวิตของตนเองในการโจมตีครั้งต่อไปงั้นหรือ?” ชิงสุ่ยมองไปที่ชายชรา

“มาลองดูกันเถอะ” ดวงตาของชายชราเป็นประกายขึ้นมา

ชิงสุ่ยพยักหน้าและถือง้าวของเขาเอาไว้แน่น

ชิงสุ่ยรับรู้ได้ว่าศัตรูของเขากำลังใช้ทักษะสังหารที่ทรงพลัง

วชิระลบเลือน!

ชิงสุ่ยก็มีทักษะสังหารที่ทำให้ความเร็วโจมตีและความเร็วของเขานั้นเพิ่มขึ้นหลายเท่า เขากำลังรอคอยให้ชายชราลงมือเพื่อที่จะปิดฉากการต่อสู้ในตอนนี้ เพราะชายชราต้องการเดิมพันด้วยชีวิตของตนเองเขาจึงปล่อยให้ชายชราตามสิ่งที่เขาหวังเอาไว้

“ไปตายซะ!”

ร่างของชายชราเลือนหายไปในทันที ทันใดนั้นเขาก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าชิงสุ่ยพร้อมกับกลิ่นอายอันทรงพลังของเขาที่พุ่งเข้ามาปะทะกับชิงสุ่ย ชิงสุ่ยรู้สึกว่าร่างกายของตนเองนั้นหนักขึ้นจนไม่อาจลืมตาได้จากเคล็ดวิชาของชายชราในครั้งนี้ ร่างกายของเขาดูเหมือนจะถูกแช่แข็งเอาไว้ด้วยแรงกดดันที่พุ่งเข้ามา

โชคดีที่ชิงสุ่ยได้ใช้วชิระลบเลือนก่อนหน้านี้ ร่างกายของเขาถอยไปข้างหลังอย่างรวดเร็วพร้อมกับยกง้าวที่อยู่ในมือขึ้นมาป้องกันค้อนที่พุ่งเข้ามา ค้อนอีกอันหนึ่งของชายชราใช้โอกาสนี้ฟาดตรงลงมาที่หน้าอกของเขา

แสงสีทองระเบิดขึ้นจากการโจมตีครั้งนี้ เขายังตัวเล็กน้อยพร้อมกับใช้ขาของตนเองฟาดออกไปในตอนนี้

ลูกเตะพยัคฆ์คำรณ!

นี่เป็นท่วงท่าที่ทรงพลังที่สุดของรูปแบบพยัคฆ์

หลังจากที่ชายชราได้ปลดปล่อยเตล็ดวิชาที่ทรงพลังที่สุดของเขา เขาก็สูญเสียพลังไปประมาณ 10% นี่เป็นเคล็ดวิชาที่ช่วยเพิ่มพลังให้แก่เขาได้หลายเท่าและยังสามารถโจมตีทางจิตวิญญาณได้อีกด้วย ชายชราได้ใช้เคล็ดวิชานี้สังหารผู้คนมานับไม่ถ้วนรวมถึงยอดฝีมือที่มีพลังเหนือกว่าเขาด้วยเช่นกัน

แต่มันกลับล้มเหลวในตอนนี้ ราคาที่เขาต้องจ่ายหากว่ามันล้มเหลวนั่นก็คือความตายของเขา ชายชราไม่อาจหลบเลี่ยงการโจมตีสวนกลับของชิงสุ่ยที่ตรงมาที่หน้าอกของเขาได้เลย

ปัง!

ชายชรากระเด็นออกไปไกลและอวัยวะภายในของเขาได้รับบาดเจ็บ ค้อนคู่ของเขาก็กระเด็นออกมาจากมือของเขาเช่นกัน

พันธนาการเทาสังหารฟ้าได้หายไปในตอนนี้มีเพียงชิงสุ่ยเท่านั้นที่ยังคงยืนอยู่กลางอากาศ ดูเหมือนว่ามันจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆสีหน้าของเขายังคงเหมือนเดิมไม่ได้ดีใจหรือเสียใจกับการชนะครั้งนี้

“แม้แต่นักบวชร่างอ้วนก็ยังต้องตาย!”

“ท่านหมอเทวดาชิงนั้นทรงพลังอย่างแท้ในตอนนี้ตระกูลสือได้เจอตอเข้าจริงๆแล้ว”

“น่าเสียดายที่นักบวชร่างอ้วนใช้พันธนาการเทาสังหารฟ้า ไม่อย่างนั้นพวกเราคงได้เห็นว่าเขาตายยังไง”

“ลองดูรอยเท้าบนหน้าอกของเขาสิ เขาน่าจะโดนเตะตาย”

“ยอดฝีมือที่ทรงพลังถึงระดับนี้ถูกเตะตาย….”

……

เมื่อมาถึงรอบที่ 3  พวกเขาก็ได้สูญเสียไปถึง 2 คนแล้ว แต่ชิงสุ่ยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่าเขาจะยืนอยู่ตรงนี้ต่อไปจนครบ 3 รอบ นี่จึงเป็นเหมือนโอกาสสุดท้ายหากพวกเขาพ่ายแพ้ในรอบนี้ก็คงจะต้องเสียหน้าอย่างยิ่ง

แม้ว่าตระกูลสือจะไม่ได้ตั้งโต๊ะพนันต่อรองแต่อย่างใด แต่ฝูงชนที่อยู่เบื้องล่างก็ได้ตั้งโต๊ะพนันขึ้นมาแล้ว ตระกูลสือนั้นเป็นตระกูลใหญ่ดังนั้นฝูงชนจึงให้อัตราต่อรองของฝ่ายนี้เหนือกว่า

เหลียนหลิงเฟิงและคนอื่นๆที่ยืนอยู่เบื้องล่างมองตรงไปที่ชิงสุ่ยด้วยสีหน้าที่แปลกประหลาด แม้แต่หยิน ต่งก็ไม่รู้ว่าพลังที่แท้จริงของชิงสุ่ยนั้นมีมากเพียงใด เหลียนหลิงเฟิงนั้นรับรู้ถึงพลังของนักบวชร่างอ้วนได้อย่างชัดเจน อย่างน้อยที่สุดเหลียนหลิงเฟิงที่เป็นอันดับ 1 ในเมืองหลินห่าย ก็แน่ใจว่าเขาไม่สามารถเอาชนะนักบวชร่างอ้วนผู้นี้ได้

ซีฉีชาก็ตกตะลึงไปไม่น้อยกว่าเหลียนหลิงเฟิง พลังของซีฉีชานั้นมากยิ่งกว่าเหลียนหลิงเฟิงแต่เคล็ดวิชาสังหารของนักบวชร่างอ้วนงั้นทรงพลังอย่างยิ่ง ไม่มีโอกาสที่นางจะชนะเลยหากต้องปะทะกับนักบวชร่างอ้วน

อสูรศิลาทองคำทั้ง 2 ตัวก็ถูกจัดการโดยชิงสุ่ย

“มันถึงเวลาแล้วที่ตระกูลสือต้องทําอะไรสักอย่าง นี่เป็นการต่อสู้รอบสุดท้ายแล้วทำไมพวกเขาถึงไม่ปรากฏตัวขึ้นมาสักที?”

“หรือว่าตระกูลสือต้องการต่อสู้กับท่านหมอเทวดาชิงโดยยืดเวลาออกไปเพื่อให้เขารู้สึกเหนื่อยล้ามากที่สุด? เพราะถ้าหากพวกเขาพ่ายแพ้อีกครั้งก็คงจะเป็นการเสียหน้าครั้งใหญ่”

“ข้าสงสัยจังว่าตระกูลสือจะส่งผู้ใดออกมาในรอบถัดไป ควรจะเป็นผู้ที่ทรงพลังที่สุดของพวกเขา”

“แน่นอน ถ้าหากพวกเขายังซ่อนเร้นพลังของตนเองเอาไว้ก็คงจะไม่อาจอาศัยอยู่ในเมืองหลินห่ายได้อีกต่อไปหลังจากนี้”