ตอนที่ 2042 โทสะ (6) / ตอนที่ 2043 วิธีการฟื้นคืนชีพหงหลวน (1)

ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ

ตอนที่ 2042 โทสะ (6)

“ข้าไม่ต้องการให้ใครมาปกป้อง ไสหัวไปที่จวนเจ้าเมืองบูรพาซะ!” จวินหลิงเทียนรีบยืนขึ้น พลังชี่กับเลือดของเขาไม่มั่นคงจนไอออกมาเป็นเลือด ใบหน้าที่ซีดเผือดอยู่แล้วก็ยิ่งซีดยิ่งขึ้น

“ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับตระกูลอวิ๋น แล้วข้าจะตอบเฟิงเอ๋อร์ว่าอย่างไร บอกข้าสิว่าในอนาคตข้าจะกล้าเผชิญหน้ากับนางได้อย่างไร”

พวกเขาเห็นใบหน้าโศกเศร้าของจวินหลิงเทียนขณะที่เขาเอนพิงเตียงอย่างอ่อนแรง น้ำตาไหลอาบใบหน้าชรา

“ท่านปู่ ท่านพ่อเจ้าคะ” จู่ๆ จวินหลิงเอ๋อร์ก็ยืนขึ้นแล้วพูดว่า “ข้าจะไปที่จวนเจ้าเมืองบูรพาแล้วดูสถานการณ์ในตอนนี้ ถ้าสถานการณ์แย่ลงกว่าเดิม ข้าก็จะพาท่านปู่อวิ๋นกับคนที่เหลือมาที่นี่”

พูดจบนางก็หันไปแล้วเตรียมตัวที่จะออกจากห้อง จวินเซวี่ยนรีบลุกขึ้นยืน “หลิงเอ๋อร์ หยุดอยู่ตรงนั้นเลยนะ!”

“ท่านพ่ออย่าทำให้ท่านปู่โกรธอีกเลยเจ้าค่ะ ยิ่งไปกว่านั้นท่านปู่ก็กังวลเกี่ยวกับตระกูลอวิ๋น อย่างน้อยการไปดูสถานการณ์ที่นั่นก็ทำให้ท่านสบายใจไม่ใช่หรือเจ้าคะ” จวินหลิงเอ๋อร์ตอบอย่างมีไหวพริบ

จวินเซวี่ยนถอนหายใจ “พ่อไปเองจะดีกว่า หลิงเอ๋อร์อยู่ที่นี่กับท่านปู่ของลูกเถอะ อีกไม่นานพ่อจะกลับมา”

เขาเองก็กังวลเกี่ยวกับตระกูลจวินเหมือนกัน ถ้าจวนเจ้าเมืองบูรพาไม่สามารถปกป้องพวกเขาได้ แล้วถ้าพาพวกเขากลับมาล่ะ อย่างน้อยเขาก็สามารถปกป้องตระกูลอวิ๋นได้

ทันทีที่จวินเซวี่ยนตั้งใจจะเดินออกไป หลินรั่วไป๋ก็พุ่งเข้ามาในห้องด้วยความตื่นเต้น “ท่านปู่จวิน อาจารย์ของข้ากลับมาแล้วเจ้าค่ะ! อาจารย์ของข้ากลับมาแล้ว…”

อาจารย์ของเสี่ยวไป๋งั้นหรือ อาจารย์ของเสี่ยวไป๋ไม่ใช่ว่า…

จวินเซวี่ยนสับสนอยู่ชั่วครู่ก่อนความปิติจะท่วมท้นใบหน้าเขา แม้แต่ผู้เฒ่าจวินที่อยู่ในช่วงอ่อนแอมากก็ลุกขึ้นมานั่งแล้วมองไปที่ประตู

ที่ด้านนนอก อวิ๋นลั่วเฟิงและคนของนางก็กำลังเดินเข้ามา เมื่อผู้เฒ่าจวินเห็นนางในที่สุดเขาก็คลายความกังวลที่มีมานานลงได้

นางกลับมาแล้ว! ในที่สุดนางก็กลับมาแล้ว!

ตราบใดที่นางกลับมา ปัญหาทั้งหมดก็จะถูกแก้ไขได้ง่ายๆ ถึงอย่างไรในหัวใจของจวินหลิงเทียน อวิ๋นลั่วเฟิงก็ไม่ได้เป็นแค่อัจฉริยะคนหนึ่ง แต่ยังเป็นเทพที่มีอำนาจล้นฟ้า

“ท่านพี่หญิงอวิ๋น!” จวินหลิงเอ๋อร์เต็มไปด้วยความสุขแล้วเดินไปหาอวิ่นลั่วเฟิง “ท่านกลับมาก็ดีแล้ว หลายวันมานี้มีหลายอย่างเกิดขึ้นในแคว้นเจ็ดเมืองเจ้าค่ะ”

เมื่อเห็นสีหน้าเปี่ยมสุขของทุกคน อวิ๋นลั่วเฟิงก็พยักหน้าเบาๆ “ข้ารู้เรื่องทุกอย่างแล้ว ข้ามาที่นี่เพื่อรักษาผู้เฒ่าจวินและสมาชิกเผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์คนอื่นๆ ส่วนความไม่พอใจต่อตระกูลฉิน อีกไม่นานข้าจะทวงหนี้แค้นกับพวกเขา!”

ผู้เฒ่าจวินมองคนตระกูลอวิ๋นที่ยืนอยู่ข้างอวิ๋นลั่วเฟิงแล้วก็โล่งอก “ดูเหมือนว่าวิกฤติจะผ่านพ้นไปแล้ว พวกเราต้องขอบคุณจวนเจ้าเมืองบูรพาและโดยเฉพาะอย่างยิ่งแม่นางหงหลวน! ครั้งนี้นางช่วยตระกูลอวิ๋นด้วยความเต็มใจ”

นอกจากเมืองทักษิณแล้วก็ยังมีสำนักอื่นๆ ที่คอยมองวิกฤติถาโถมตระกูลอวิ๋นอยู่เฉยๆ ทีแรกหงหลวนตั้งใจจะรวบรวมผู้คน ต่อให้พวกเขาไม่สามารถต่อกรกับตระกูลฉินได้แต่อย่างน้อยพวกเขาก็สามารถถ่วงเวลาได้ ใครจะไปคิดว่าหลังจากที่รู้เรื่องความแข็งแกร่งของตระกูลฉิน ทุกคนก็หนีไป

ถึงแม้ว่าสำนักศึกษาเมืองประจิมจะไม่สามารถช่วยได้ ผู้อาวุโสทั้งหลายก็ยังส่งยอดฝีมือบางคนมา โชคร้ายที่พวกเขาบาดเจ็บล้มตายไปจำนวนมากระหว่างการต่อสู้ร่วมกับตระกูลจวิน

อวิ๋นลั่วเฟิงเป็นผู้มีพระคุณของหวงอิงอิงจึงเป็นธรรมดาที่เผ่าผู้ใช้เวทจะยืนอยู่ข้างอวิ๋นลั่วเฟิง เจ้าเมืองของเมืองหลวงที่มีความสัมพันธ์อันดีกับจวินหลิงเทียนก็พาคนมาที่นี่ด้วยตัวเอง แต่ว่าเพราะระยะห่างระหว่างเมืองหลวงกับเมืองวิญญาณไกลเกินไปทำให้พวกเขามาไม่ทัน

…………………………………..

ตอนที่ 2043 วิธีการฟื้นคืนชีพหงหลวน (1)

การกระทำก่อนหน้านี้ของเผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์ทำให้อวิ๋นลั่วเฟิงไม่พอใจก็จริง แต่พวกเขาก็ช่วยตระกูลอวิ๋นโดยไม่ลังเลจึงทำให้นางทลายความรู้สึกไม่ดีทั้งหลายที่มีต่อพวกเขาไป ต่อให้พวกเขามาช่วยเพราะหลินรั่วไป๋ก็ตาม

เผ่าวิหคเพลิงและเผ่ามังกรเป็นทาสรับใช้ของอวิ๋นเซียวและมีแค่พวกเขาเท่านั้นที่สามารถหาตัวอวิ๋นเซียวได้ ดังนั้นทั้งสองเผ่าจึงร่วมมือกันเปิดทางเชื่อมไปแคว้นเฟิงอวิ๋น โชคร้ายที่อวิ๋นลั่วเฟิงและอวิ๋นเซียวออกมาก่อนที่พวกเขาจะหาเจอ

เมื่อได้ยินคำพูดของจวินหลิงเทียน ดวงตาของอวิ๋นลั่วเฟิงก็ดำมืดขณะที่สีหน้าของนางเต็มไปด้วยกลิ่นอายสังหารเข้มข้น เมื่อสัมผัสได้ถึงบรรยากาศแปลกๆ เขาก็ชะงักไปชั่วครู่ “ทำไมล่ะ เกิดอะไรขึ้น”

ตอนนี้เองที่บรรยากาศภายในห้องก็เต็มไปด้วยความโศกเศร้า ผู้เฒ่าอวิ๋นเหลือบมองจวินหลิงเทียนแล้วพูดช้าๆ ว่า “หงหลวน…ตายแล้ว!”

หงหลวนตายแล้วงั้นหรือ

จวินหลิงเทียนไอแล้วสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นแดงก่ำ จวินหลิงเอ๋อร์รีบมาหาเขาด้วยความหวาดกลัวแล้วบรรเทาพลังชี่และการไหลเวียนของเลือดอันรุนแรงของเขา

“เจ้าพูดความจริงหรือ แม่นางหงหลวน นาง…”

จวินหลิงเทียนไม่อยากจะเชื่อว่าหงหลวนตายแล้ว!

ความจริงแล้ว เขาไม่ได้คุ้นเคยหงหลวนมากนักและเคยเจอนางเพียงไม่กี่ครั้ง แต่ว่าหงหลวนก็ตายเพื่อปกป้องเฟิงเอ๋อร์และครอบครัวของนาง ดังนั้นเขาจะไม่โศกเศร้าให้กับมิตรภาพอันจริงใจระหว่างพวกนางได้อย่างไร

“ขอบคุณที่ระหว่างนี้ท่านช่วยข้า ข้าจะรักษาอาการบาดเจ็บของท่านก่อน และอีกไม่นานข้าจะไปคิดบัญชีกับแผ่นดินเทพวิญญาณ!” อวิ๋นลั่วเฟิงหรี่ตาที่เป็นประกายเย็นเยียบ

ถึงแม้ว่าฉินลั่วจะตายด้วยน้ำมือนาง แต่อีกฝ่ายก็เป็นแค่ศิษย์นอกสำนักคนหนึ่งของตระกูลฉิน อวิ๋นลั่วเฟิงไม่เชื่อว่าพวกเขาจะส่งกองกำลังมากมายมาที่แคว้นเจ็ดเมืองเพื่อฉินลั่ว และถึงขึ้นส่งผู้ฝึกฌานขั้นเซียนสวรรค์มาด้วย! ดังนั้น…ต้องมีเรื่องอื่นที่นางไม่รู้!

อวิ๋นลั่วเฟิงสัมผัสได้ว่ามีแผนการใหญ่บางอย่างล้อมรอบตัวนางอยู่ตลอดเวลา แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้นางหวาดกลัว กลับปลุกวิญญาณนักสู้ของนางขึ้นมาแทน…

แคว้นเจ็ดเมืองกำลังอยู่ในช่วงแตกตื่นเพราะการกลับมาของอวิ๋นลั่วเฟิง

เมื่อได้ยินรายงานจากผู้ติดตามของเขา เจ้าเมืองทักษิณก็ยืนขึ้นพรวดขึ้นด้วยสีหน้าดูไม่ได้ “อวิ๋นลั่วเฟิงกลับมาแล้วงั้นหรือ ไม่ใช่ว่านางออกจากแคว้นเจ็ดเมืองไปแล้วหรือ เหตุใดนางถึงกลับมาเร็วนัก”

เมื่อนึกวิธีการของอวิ๋นลั่วเฟิงก็ทำให้เจ้าเมืองทักษิณหวาดกลัว ถึงอย่างไรตอนที่ตระกูลอวิ๋นต้องการความช่วยเหลือ เขาก็เลือกที่จะทำเป็นมองไม่เห็นแล้วยังไล่คนจากเมืองบูรพาที่มาขอความช่วยเหลือไปด้วยซ้ำ

ถ้าอวิ๋นลั่วเฟิงรู้เรื่องการกระทำของเขาล่ะก็…

ยิ่งเขาคิดมากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งวิตก น่าเสียดายที่เขาคิดมากเกินไป ถึงแม้ว่าเขาจะเลือกเอาหูไปนาเอาตาไปไร่แล้วไม่ช่วยเหลือ อวิ๋นลั่วเฟิงก็ไม่คิดจะมาหาเรื่องเขาด้วยเหตุผลนี้ เพราะว่าทุกคนก็มีสิทธิ์ที่จะทำตามที่ตัวเองอยากทำ

แน่นอนว่าถ้าในอนาคตเมืองทักษิณเจอวิกฤตอะไร นางก็จะทำเป็นไม่เห็นเหมือนกัน!

“ท่านเจ้าเมืองขอรับ ท่านไม่จำเป็นต้องกังวลเลย” ผู้อาวุโสเงียบไปชั่วครู่แล้วพูดว่า “อวิ๋นลั่วเฟิงไปหาเรื่องคนจากแผ่นดินเทพวิญญาณ และไม่ว่าจะเป็นยอดฝีมือคนไหนจากที่นั่นก็สามารถกำจัดนางได้ทั้งนั้น ตอนนี้นางไม่มีพลังมากพอจะปกป้องตัวเองด้วยซ้ำ แล้วเหตุใดนางถึงจะมาสร้างปัญหาให้พวกเราล่ะขอรับ”

เมื่อได้ยินคำพูดของเขา เจ้าเมืองทักษิณก็ค่อยๆ ผ่อนคลายแต่ยังขมวดคิ้วอยู่ดี น้ำเสียงของเขาฟังดูหมดหนทาง “ข้าไม่รู้ว่าตอนแรกข้าคิดถูกหรือไม่! ข้าไม่เคยได้พูดคุยกับอวิ๋นลั่วเฟิงมาก่อนแต่ก็รู้จักนิสัยของนางดี ตอนนี้พวกเราเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ตอนที่ตระกูลอวิ๋นเจอวิกฤต ถ้าในอนาคตพวกเราต้องขอความช่วยเหลือจากนาง นางคงไม่เหลียวแลเมืองทักษิณแน่นอน”