“นี่เจ้า…อู๋ตี่! ไอ้สารเลว ยังกล้าโผล่หน้ามาให้พวกเราเห็นอีกรึ?!”

ผู้อาวุโสของนิกายสวรรค์เบื้องบนตะโกนออกมา เขาค้นพบว่าผู้ที่ขว้างอิฐออกมาจนทำให้ผู้อาวุโสหลิวหมดสติไปก็คือเจ้าอู๋ตี่ ไม่คาดคิดว่าศัตรูที่พวกเขากำลังพูดคุยกันอยู่จะปรากฏตัวขึ้นมาที่นี่

อู๋ตี่?!

ผู้คนที่อยู่รอบๆก็สะดุ้งตกใจ การปรากฏตัวของเจ้าอู๋ตี่อยู่เหนือจินตนาการของพวกเขา ไม่คาดคิดว่าเจ้าอู๋ตี่จะกล้าปรากฏตัวขึ้นมาในเวลานี้ อีกทั้งยังเป็นการปรากฏตัวอย่างเปิดเผยและไม่เกรงกลัว ช่างยโสโอหังอย่างที่ไม่เห็นใครอยู่ในสายตา

หากเจ้านี่ไม่ได้กำลังดูถูกเหยียดหยามพวกเขา เป็นไปได้อย่างไรที่จะกล้าปรากฏตัวขึ้นมาในตอนนี้และขว้างอิฐใส่ผู้อาวุโสหลิวต่อหน้าต่อตาพวกเขา?! พวกเขาต่างก็คิดว่าตนเองกำลังถูกมองข้ามอย่างสิ้นเชิง

“ทุกๆคน สบายดีหรือไม่หลังจากครั้งล่าสุดที่ได้พบกัน ขอบคุณทุกคนที่ช่วยดูแลหินศักดิ์สิทธิ์เจ็ดสีให้กับข้า ซาบซึ้งใจจริงๆ ในอนาคตหากเป็นไปได้ ข้าจะตอบแทนทุกคนอย่างแน่นอน”

เซี่ยปิงยิ้มออกมาเล็กน้อย จากนั้นเขาก็หยิบแหวนห้วงมิติไปจากมือของหลิวเหวินทันที ครอบครองหินศักดิ์สิทธิ์เจ็ดสีมารวมถึงสิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์จำนวนมากของหลิวเหวิน

“หยุด เจ้าโจรกระจอก วางมือสกปรกๆของเจ้าลง ไม่คาดคิดว่าจะกล้าขว้างอิฐใส่ผู้อาวุโสหลิวต่อหน้าต่อตาพวกเขาเช่นนี้ อีกทั้งยังต้องการปล้นชิงสิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์ของเขา เจ้าเห็นพวกเราเป็นอากาศหรือ?”

ผู้อาวุโสของนิกายหยวนหมิงตะโกนออกมาอย่างโมโห ไม่สามารถยับยั้งความโมโหของตนเองได้

เขาคิดว่าเจ้าเด็กนี่ดูถูกเหยียดหยามพวกเขาเกินไป มองข้ามพวกเขากลุ่มของผู้อาวุโส วางมาดใหญ่โต เข้ามาปล้นชิงสมบัติอย่างซึ่งๆหน้า อันที่จริงเจ้าเด็กนี่ต้องการที่จะดูถูกพวกเขาไปจนถึงขั้นไหนกัน?!

หากวันนี้พวกเขาปล่อยให้เจ้าเด็กนี่หลบหนีออกไป จากนั้นพวกเขาจะมีหน้าไปพบใครอีก ยังจะใช้ชีวิตอยู่ในจักรวาลได้อย่างไรอีก ควรที่จะฆ่าตัวตายด้วยเต้าหู้

“ลงมือ สังหารเจ้าเด็กนี่ซะ”

“มาถูกเวลาจริงๆ การที่เขากล้าโผล่หัวออกมาเช่นนี้ พวกเราจะต้องฆ่าเขาให้ได้”

“ทุกๆคนร่วมมือกัน จัดการเจ้าบัดซบนี่ ข้าอดทนอดกลั้นกับเจ้าบัดซบนี่มานานเกินพอแล้ว”

“นี่คือโอกาสทอง อู๋ตี่ วันนี้จะเป็นวันตายของเจ้า”

ผู้อาวุโสจำนวนมากแสยะออกมา พวกเขาก็ล้อมรอบเซี่ยปิงไว้ทันที ไม่เหลือช่องว่างให้เซี่ยปิงหลบหนีออกไปแม้แต่น้อย ในขณะเดียวกันพวกเขาก็ไหลเวียนพลังอำนาจของความสามารถศักดิ์สิทธิ์ออกมา พยายามที่จะร่วมมือกันเพื่อสังหารเซี่ยปิง

“ทำไมทุกๆคนถึงต้องมีอารมณ์ฉุนเฉียวกันเช่นนี้ ความโมโหไม่ใช่หนทางแก้ไขปัญหา การอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขจะนำพาความร่ำรวย ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกย่อมพัฒนาอย่างกลมกลืนกัน”

เซี่ยปิงถอนหายใจออกมา พูดโน้มน้าวคนอื่นๆ เผยท่าทางของการที่เกิดความเศร้าอาดูรและเกิดความเจ็บแค้นกับโลกใบนี้

“ผายลม ถึงแม้ว่ามันจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ทว่ามันก็สามารถจัดการกับอาชญากรของจักรวาลอย่างเจ้าได้ อู๋ตี่ วันแห่งการก่อกรรมทำชั่วของเจ้าได้สิ้นสุดลงแล้ว ลงนรกไปด้วยน้ำมือของข้าซะเถอะ”

ผู้อาวุโสจำนวนมากก็โมโหอย่างถึงที่สุด ไม่ให้โอกาสเซี่ยปิงได้พูดอะไรอีก ร่วมมือกันโจมตีโดยตรง

ทว่าไม่ทันรอให้พวกเขาได้เคลื่อนไหว เซี่ยปิงก็โบกมืออกไป กลุ่มของเปลวไฟสีแดงสดลุกโชนออกมาจากร่างกายของเขา ปะทุออกมาอย่างกะทันหัน ลุกโชนออกไปในทุกทิศทาง

ทันใดนั้นพื้นที่ในระยะนับสิบกิโลเมตรก็ครอบคลุมไปด้วยเปลวไฟ ร่างกายของเซี่ยปิงเป็นจุดศูนย์กลาง กลายเป็นเหมือนกับทะเลเพลิง

“ท่าไม่ดีแล้ว หลบหนีเร็ว บัดซบ นี่มันคือเปลวไฟแห่งกรรมของพระพุทธศาสนา เจ้าบัดซบ เป็นไปได้อย่างไรที่ในตัวของเขาจะมีเปลวไฟแห่งกรรมอยู่ เปลวไฟนี้ไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถแตะต้องได้ หากแตะต้องมันล่ะก็ จะต้องตาย!”

ผู้อาวุโสของนิกายประตูจันทราโบราณก็ส่งเสียงร้องออกมาอย่างน่าสมเพช เขาอยู่ใกล้กับเซี่ยปิงมากที่สุด ดังนั้นจึงถูกเปลวไฟเผาไหม้อย่างกะทันหัน

ทันใดนั้นทั่วทั้งร่างกายของเขาก็เปลี่ยนกลายเป็นคบเพลิง ปกคลุมไปด้วยเปลวไฟแห่งกรรม แผดเผาอย่างกะทันหัน แม้แต่จิตศักดิ์สิทธิ์ก็ถูกแผดเผาไป หลั่ว หลั่ว หลั่ว ส่งเสียงดังขึ้นมา

ภายในไม่กี่ลมหายใจ ผู้อาวุโสของนิกายประตูจันทราโบราณผู้นี้ก็ถูกแผดเผาจนกลายเป็นเถ้าถ่าน แม้แต่กระดูกก็ไม่มีเหลือ

เมื่อมองเห็นภาพเหตุการณ์นี้ ผู้คนที่อยู่รอบๆต่างก็ขนลุกซู่ขึ้นมา อดไม่ได้ที่จะหลบหนีกระเจิดกระเจิงกันออกไป

พวกเขาสังเกตเห็นว่าเปลวไฟนี้มีเจ้าอู๋ตี่เป็นศูนย์กลาง แผดเผาอย่างต่อเนื่อง เหมือนกับว่าจะควบแน่นกลายเป็นดอกบัวสีแดงขนาดยักษ์ขึ้นมาลางๆ ครอบคลุมพื้นที่ในระยะนับสิบกิโลเมตร

เหมือนกับว่าส่วนลึกของความว่างเปล่ามีเสียงสวดมนตร์ของพระสงฆ์ที่ดังขึ้นมา มีภาษาสันสกฤตที่ปรากฏขึ้น ดอกบัวเบ่งบานในทุกหนแห่ง

“ล่าถอย ล่าถอยเร็ว”

“ไม่สามารถรับมือกับเปลวไฟแห่งกรรมโดยตรงได้ ยิ่งร่างกายมีบาปติดตัวมากแค่ไหน ก็จะยิ่งตายเร็วมากเท่านั้น”

“บัดซบ เปลวไฟแห่งกรรมมีไว้เพื่อสังหารอาชญากรที่ชั่วร้ายโดยเฉพาะ ทำไม ทำไมเจ้าอู๋ตี่ถึงได้มีพลังอำนาจของเปลวไฟแห่งกรรมนี้ได้ เขาไม่เกรงกลัวว่าจะถูกเปลวไฟคลอกตายเสียเองรึ?”

“สวรรค์ช่างไม่มีตาจริงๆ ไม่คาดคิดว่าบุคคลชั่วร้ายเช่นนี้จะถือครองเปลวไฟแห่งกรรมได้ นี่ยังมีความยุติธรรมอยู่อีกหรือไม่?”

ผู้อาวุโสแต่ละคนต่างก็หวาดกลัวจนเจียนตาย หลบหนีออกไปอย่างแตกตื่น

การที่พวกเขาสามารถพัฒนาขึ้นมาจนถึงระดับนี้ได้ ใครกันที่จะไม่เคยแย่งชิงทรัพยากรของผู้อื่น ปล้นชิงอาณาเขต สังหารผู้คนมานับไม่ถ้วน ใครกันที่จะไม่มีบาปติดตัว หากบาปในตัวสามารถเรืองแสงขึ้นมาได้ ร่างกายของพวกเขาแต่ละคนก็คงจะมีแสงไฟสีแดงที่ส่องสว่างไปทั่วทั้งบริเวณ

ดังนั้นเปลวไฟแห่งกรรมสำหรับพวกเขานั้น เป็นพลังอำนาจที่เป็นปรปักษ์ที่สุด เมื่อใดที่ลุกลามเข้ามา นั่นก็คือการที่พวกเขาจะถูกเปลวไฟแห่งสวรรค์ที่น่าสะพรึงกลัวนี้แผดเผาจนจิตศักดิ์สิทธิ์สูญสลายไป

นี่คือเปลวไฟที่น่าสะพรึงกลัวอย่างถึงที่สุด สังหารผู้คนจนไร้ร่องรอย

ซู่ ซู่ ซู่!!!

ผู้อาวุโสของนิกายเหล่านี้ต่างก็เป็นเหมือนกับสุนัขข้างถนน หลบหนีออกไปข้างนอกถ้ำ ปรารถนาให้พ่อแม่กำเนิดตนเองขึ้นมาพร้อมกับจำนวนขาที่เพิ่มขึ้น ในเวลานี้ ไม่มีใครที่ต้องการจะแก้แค้นให้กับหลิวเหวินอีกต่อไป ไม่มีใครที่จะคิดสังหารเจ้าอู๋ตี่อีกต่อไป

ตอนนี้พวกเขาต่างก็ต้องการที่จะหลบหนี หลบหนีไปให้ไกลที่สุด

ทว่าหลิวเหวินก็โชคดีอย่างยิ่ง เพราะว่าหมดสติอยู่ใต้เท้าของเซี่ยปิง ดังนั้นจึงไม่ได้เผชิญกับการลุกลามของเปลวไฟแห่งกรรม หลีกเลี่ยงหายนะครั้งนี้ได้อย่างปลอดภัย

“ไปเถอะ”

เมื่อเห็นผู้อาวุโสเหล่านี้หลบหนีออกไป เซี่ยปิงก็ไม่ได้วางแผนที่จะไล่ตามไป เพราะเขาไม่มีเวลาในตอนนี้ เขาสัมผัสได้ว่าช่องทางห้วงมิติของดินแดนลี้ลับแห่งนี้กำลังมีสัญญาณของการผันผวน

คาดการณ์ได้ว่าหลังจากผ่านไประยะเวลาหนึ่ง ช่องทางห้วงมิติจะล่มสลายไปอย่างสมบูรณ์

ทว่าดินแดนลี้ลับแห่งนี้ก็จะตกอยู่ในส่วนลึกของพื้นที่ห้วงมิติ หากไม่ได้หลบหนีออกไปในตอนนี้ จะต้องตกไปอยู่ในพื้นที่ห้วงมิติที่ไร้ที่สิ้นสุด ไม่สามารถกลับออกมาได้อีกครั้ง

ดังนั้นเขาจึงรีบออกมาจากสายแร่แห่งนั้นก่อนเวลาอันควร นำสไลม์ทองและทันเมิงลู่จากไปทันที

ทว่าต่อให้จะกลืนกินได้เพียงแค่หนึ่งวัน สไลม์ทองและเทาเที่ยก็เป็นสิ่งมีชีวิตประเภทกลืนกินที่น่าสะพรึงกลัวอย่างถึงที่สุด กลืนกินหินห้วงมิติของสายแร่แห่งนั้นเข้ามาจนเกือบหมด

ตอนนี้ข้างในพื้นที่ของลูกปัดพิภพมีหินห้วงมิติที่กองรวมกันอยู่จนดูเหมือนกับภูเขาลูกใหญ่ รอบๆเปี่ยมไปด้วยพลังงานห้วงมิติ เกือบที่จะควบแน่นกลายเป็นสสาร

วิซ!

ร่างของเซี่ยปิงกระพริบหายไป แยกตัวออกไปจากดินแดนลี้ลับแห่งนี้ทันที

…………..

“นี่มันเรื่องอะไรกัน? เจ้าปีศาจอู๋ตี่ไม่ได้ไล่ล่าพวกเรา ทว่ากลับหลบหนีออกไปอย่างนั้นรึ?”

บางคนที่เห็นภาพเงาของเซี่ยปิงที่เดินทางออกไป

“ไม่นะ! ช่องทางห้วงมิตินี้ผันผวนอย่างมาก จะล่มสลายภายในครึ่งชั่วโมง จะต้องออกไปจากที่นี่ทันที ไม่อย่างนั้นพวกเราจะติดอยู่ที่นี่ไปตลอดกาล ไม่ประหลาดใจว่าทำไมเจ้าบัดซบนั่นถึงได้หลบหนีออกไปอย่างรวดเร็วเช่นนี้”

ผู้อาวุโสคนหนึ่งที่มีสีหน้าเปลี่ยนไป สัมผัสได้ถึงปัญหาของช่องทางห้วงมิติ

“ล่าถอย ล่าถอยทันที ที่นี่ไม่มีสมบัติใดๆอีกแล้ว รีบหลบหนีออกไปเถอะ”

ผู้อาวุโสจำนวนมากก็ตัดสินใจที่จะเดินทางออกไปทันที หากอยู่ที่นี่ต่อไป บางทีพวกเขาก็อาจจะกลับออกไปไม่ได้อีก

จากนั้นพวกเขาแต่ละคนต่างก็แสดงความเร็วของตนเองออกมา หลบหนีออกไปจากสถานที่แห่งนี้

ทว่าผู้อาวุโสของนิกายหยวนหมิงเก็เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วเช่นกัน บางคนก็มีเจตนาที่ดี กลับเข้าไปในถ้ำและช่วยเหลือหลิวเหวินที่ถูกกระแทกจนสลบออกมา