แดนนิรมิตเทพ บทที่ 582
หลี่ซู่เฟินมั่นใจในความคาดเดาของตัวเองในทันที แต่เนื่องจากหาหลักฐานไม่เจอ จึงไม่สามารถลากตัวบงการมารับโทษได้

เฉินโม่มองดูสถานที่เกิดอุบัติเหตุที่ได้ถูกทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว จึงหันไปถามเวินฉิงว่า “ที่นี่งั้นหรอครับ?”

เวินฉิงพยักหน้า “ตอนนั้นพวกเรานั่งรถเดินทางตามปกติ แล้วรถบรรทุกคันนั้นจู่ๆก็พุ่งออกมาจากด้านข้าง จากการคาดเดาของฉัน ความเร็วอย่างน้อยประมาณ 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง”

เฉินโม่มองดูถนนลาดยางที่สะอาดเอี่ยม แล้วพูดเสียงเข้มว่า “สถานที่เกิดเหตุไม่มีร่องรอยของการเบรกใดๆเลย เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายจงใจพุ่งชนใส่!”

“แต่ว่าคนขับรถชนแล้วหนีได้เข้ามอบตัวว่าตัวเองขับรถขณะเหนื่อยล้าแล้ว จึงสามารถใช้ความประมาทมาปิดบังความจริงได้!” เวินฉิงขมวดคิ้วและพูด

“ไปกันเถอะครับ พวกเราไปหาคนขับรถชนแล้วหนีกัน ผมมีวิธีให้เขาพูดความจริงออกมา!” เฉินโม่พูด

“ตกลง!” พวกเวินฉิงทั้งสองคนเพิ่งขึ้นรถ เตรียมตัวจะเดินทางกลับ สายของหลี่ซู่เฟินก็โทรเข้ามา

เพิ่งกดรับสาย สีหน้าของเวินฉิงก็ดูแย่ขึ้นมาในทันที มองเฉินโม่แล้วพูดว่า “ท่านประธานบอกว่า คนขับรถชนแล้วหนีเพิ่งฆ่าตัวตายชดเชยความผิด!”

เฉินโม่กำหมัดแน่นในทันที

“รับทราบครับ พวกเรากลับกันเถอะ!” เฉินโม่น้ำเสียงเย็นชา

“อื้อ!” ใบหน้าสวยงามของเวินฉิง มีความโมโหปรากฏอยู่ จากนั้นก็ขับรถกลับเข้าตัวเมือง

เมื่อกลับถึงเหม่ยหวากรุ๊ป เห็นว่าเฉินโม่กลับมาแล้ว เอียนชิงเฉิงและซังซังจึงรีบเข้ามาหา

ภายในห้อง ซังซังพูดด้วยสีหน้าดีใจว่า “เฉินโม่ เห็นนายปลอดภัยดีแล้วดีใจมากจริงๆ!”

เฉินโม่ยังไม่ได้พบเจอกับพวกเฉินซงจื่อ จึงไม่รู้ว่าเมืองฮ่านหยางในตอนนี้กำลังวุ่นวายโกลาหล ถามออกไปอย่างสงสัยว่า “ทำไมถึงได้พูดเช่นนี้ละ?”

“ตอนนี้ทั่วทั้งเมืองฮ่านหยางกำลังเล่าลือกันว่านายตายอยู่ที่ทะเลทรายตะวันตกเฉียงเหนือแล้ว และตระกูลกงซุนก็ไปหายอดฝีมือปรมาจารย์บู๊ที่แข็งแกร่งมาจากไหนไม่รู้ แล้วมาทำร้ายคุณหนู ยึดครองคฤหาสน์ทะเลสาบกลับคืนรังด้วย แม้แต่ท่านพรตเฉินก็สู้มันไม่ได้!”

เฉินโม่ขมวดคิ้ว เห็นได้ชัดว่าเบื้องหลังมีคนกำลังเล่นงานเขาอยู่ แต่เฉินโม่ก็ยังคาดเดาไม่ออกว่าใครคือตัวบงการเบื้องหลัง

“เรื่องของตระกูลกงซุน ฉันจะไปคิดบัญชีเอง แต่ตอนนี้ฉันต้องหาตัวคนร้ายที่จงใจทำให้เกิดอุบัติเหตุเพื่อลอบฆ่าคุณแม่และพี่เวินฉิงของฉันออกมาให้ได้ก่อน!”

ไม่นาน หลี่ซู่เฟินก็กลับมา

เวินฉิงเดินเข้าไปถามว่า “ท่านประธานคะ สถานการณ์เป็นยังไงบ้างคะ?”

หลี่ซู่เฟินมองดูทุกคน แล้วถอนหายใจ พูดอย่างจนใจว่า “คนขับรถชนแล้วหนีฆ่าตัวตาย ตำรวจจราจรเองก็หาหลักฐานไม่เจอ บริษัทประกันภัยจึงต้องเป็นคนชดเชยว่าเสียหาย!”

“แต่ว่าฉันได้ข่าวหนึ่งมา มีคนเห็นว่าตระกูลว่านได้สั่งให้คนเข้าไปเยี่ยมคนขับรถคนนั้นในศูนย์กักกัน แล้วไม่นานก็มีข่าวการตายของคนขับรถชนแล้วหนี!”

เวินฉิงพูดอย่างโมโหว่า “นี่มันฆ่าปิดปากกันชัดๆ! ตระกูลว่านต้องเป็นตัวบงการของอุบัติเหตุในครั้งนี้แน่นอนเลยค่ะ!”

หลี่ซู่เฟินรู้สึกจนใจ “แต่ว่าคนขับรถชนแล้วหนีได้ตายไปแล้ว พวกเราไม่มีหลักฐาน ดังนั้นไม่สามารถทำอะไรพวกมันได้!”

เฉินโม่ได้ยินเช่นนั้น แล้วหันหลังเดินออกจากห้อง

“เสี่ยวโม่ ลูกจะทำอะไร?” หลี่ซู่เฟินตะคอก แววตาลึกซึ้ง

เฉินโม่ไม่ได้หันหลัง แต่น้ำเสียงหนักแน่นผิดปกติ “แม่ครับ ครั้งนี้ใครก็ขวางผมไม่ได้! ผมไม่ยอมให้สิ่งใดที่มีอันตรายต่อชีวิตพวกคุณอยู่รอดเด็ดขาด!”

พูดจบ เฉินโม่ก็ก้าวเดินจากไป

“เฮ้อ เจ้าเด็กคนนี้!” หลี่ซู่เฟินสีหน้าจนใจ

เวินฉิงพูดปลอบใจว่า “ท่านประธานคะ ปล่อยให้เสี่ยวโม่ไปเถอะค่ะ ผ่านเหตุการณ์มามากมายเช่นนี้ ทุกครั้งเสี่ยวโม่ก็เป็นคนคลี่คลายวิกฤตให้พวกเราตลอด เสี่ยวโม่ไม่ใช่เด็กคนที่คอยแต่สร้างปัญหาอย่างเมื่อก่อนแล้ว ฉันเชื่อว่าเขารู้ขอบเขตค่ะ!”

หลี่ซู่เฟินพยักหน้า แล้วถอนหายใจ “หวังว่าเขาจะไม่ทำให้เรื่องราวใหญ่โต!”

เวลาค่ำ ห้องทำงานท่านประธานว่านซื่อกรุ๊ป ว่านฉางหรูยังเตรียมการต่อแผนการขั้นต่อไปอยู่

เงาร่างหนึ่งผ่านการเฝ้าระวังความปลอดภัยต่างๆโดยไร้สิ่งกีดขวางมาจนถึงห้องทำงานของว่านฉางหรู

มองดูเฉินโม่ที่มาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าของตัวเองเงียบๆเหมือนดั่งภูตผี ว่านฉางหรูรู้สึกหัวใจแทบจะหยุดเต้น

“นายยังไม่ตาย!”