ตอนที่ 264 : สงครามการค้า! การควบคุมเงิน!
“น่าเกลียด!”
“ฉันซุยเสียวม่านตั้งแต่เด็กก็ไม่เคยต้องอับอายแบบนี้มาก่อน!
สองวันมานี้ซุยเสียวม่านนั้นเต็มไปด้วยอารมณ์เสีย! เธอนั้นโกรธจากการที่เธอนั้นเสียหน้าที่งานนิทรรศการ
“ฉันจะต้องให้พวกแกต้องเจอดี!”
ความหยิ่งยโสของเธอนั้นไม่ใช่ความหยิ่งยโสแบบไม่มีต้นทุน!
ตูบ้านของซุยเสียวม่านสิ!
มันสุดยอดแค่ไหน?
ในฐานะที่เป็นผู้หญิงที่ร่ํารวยและยังมีชื่อเสียงงานอดิเรกของเธอนั้นก็คือการโอ้อวดความมั่งคั่งของเธอ!
ในมือของเธอนั้นมีนาฬิกาที่มีราคากว่าหนึ่งล้าน!
เธอนั้นอยู่อาศัยในย่านของคนรวยในเมืองหลวงพื้นที่เพียงหนึ่งตารางเมตรนั้นก็ต้องใช้เงินมากถึง110,000หยวน!
บ้านของชุยเสียวม่านนั้นแสดงให้เห็นถึงความร่ํารวยของเธอซึ่งมันมีทั้งรถหรูกระเป๋าแบรนด์ดังนาฬิกาชื่อตั้งเครื่องสําอางราคาแพงเครื่องบินเจ็ตส่วน
ตัว…
เธอนั้นขับรถออฟโรตของเบนซ์ตัวท็อปราคา5ล้าน!
เธอนั้นยังเคยโพสต์และไลฟ์สดโรงรถใต้ดินของเธอเพื่อตอบสนองความอยากรู้อยากเห็นของแฟนๆของเธอ
บ้านของชุยเสี่ยวม่านนั้นตั้งอยู่ใกล้สวนสาธารณะในเมืองหลวงราคาที่ดินเฉลี่ยต่อตารางเมตรนั้นสูงกว่า 100,000หยวนและมูลค่าของโรงรถส่วนตัวนี้ ก็อยู่ที่6.02ล้านหยวน!
มันเป็นบ้านหรูในเมืองหลวงอย่างแท้จริง
นอกจากรถยนต์แล้วเธอยังมีนาฬิกามูลค่าประมาณ10ล้านอีกด้วย!
และที่เจ๋งกว่านั้นก็คือเธอนั้นมีเครื่องบินส่วนตัว!
ถ้าคนธรรมดามาได้ยินพวกเขาต่างก็ต้องหวาดกลัวเธอกันทั้งนั้น!
ในเว่ยป๋อของซุยเสียวม่านเธอนั้นโพสต์ภาพของเครื่องบินส่วนตัวบอมบาร์ดิเอร์!
และในส่วนของช่องแสดงความคิดเห็นมันก็มีสุนัขจํานวนมากต่างเข้ามาเสียแข้งเลียขาของชุยเสียวม่าน
“เศรษฐีนี! คุณยังพอมีที่ให้ฉันก็ขาอยู่ไหม?”
“พระเจ้า! นี่มันเกินกว่าที่ฉันจะจินตนาการได้แล้ว!”
“คุณผู้หญิงเรามาเป็นเพื่อนกันหน่อยดีไหม? ”
“ฉันเข้ามาดูเว่ยป๋อของเธอทุกวันและฉันก็พบว่าเธอนั้นทําให้ฉันต้องตกตะลึงได้ตลอดจริงๆ!
“ฉันยอมรับเลยว่าฉันอิจฉา!
ทุกครั้งที่เธอนั้นเห็นว่ามีคนเข้ามาเลียแข้งเลียขาและอิจฉาเธอซุยเสี่ยวม่านนั้นก็จะเย้ยหยันด้วยความภาคภูมิใจ
สูตอากาศเข้า!
ฉันนี่แหละชนชั้นนํา
สิ่งที่คนธรรมดาไม่มีวันได้สัมผัสมีแต่คนแบบฉันเท่านั้นที่สามารถสัมผัสกับมันได้! สิ่งที่คนอื่นต่างต้องอิจฉาแต่ฉันกับมีทุกอย่าง!!
ฉันซุยเสียวม่านเกิดมาเพื่ออยู่เหนือคนอื่นโชคดีกว่าคนอื่นและสวยกว่าคนอื่น
จนกระทั่งวันนี้!
วันที่เธอนั้นได้รับจดหมายเชิญให้ไปงานนิทรรศการแฟชั่นเธอนั้นขับรถไปอย่างตื่นเต้นเพื่อที่จะได้โอ้อวตหลงวีแซทและเว่ยป้อของเธอเพื่อที่เธอนั้น จะได้โอ้อวดความมั่งคั่งให้ตัวเองดูสูงขึ้นไปอีก
แต่เมื่อเธอนั้นได้พบกับเจียงเฉินและอันฉิงซุยเสียวม่านนั้นก็ราวกับถูกแขวนคอและทุบตีจนสุดหนทาง!
ความงามของเธอนั้นถูกบดขยี้โดยอันลึง! วันเวลาแบบนี้เธอนั้นจะผ่านไปยังไง? เธอจะยอมทนได้จริงหรอ?
ช่วยเสียวม่านขบฟันแน่น
เมื่อกลับบ้านไปเธอนั้นดื่มไวน์ราฟปี2ที่เธอนั้นชื่นชอบแต่เธอนั้นก็พบว่าไวน์นั้นไม่ได้หอมอย่างที่เธอนั้นชอบอีกต่อไป
“ฮิม! รอฉันก่อนเถอะฉันจะต้องแก้แค้นแน่!”
ชุยเสียวม่านพูดออกมาด้วยความโกรธและไฟที่ลุกขึ้นมาบนดวงตาของเธอ
ในฐานะที่เธอนั้นเป็นคุณหนูน้อยของตระกูลชัยตระกูลซุยนั้นมีความสัมพันธ์ที่หลากหลายทั้งในแวดวงข้าราชการและธุรกิจ!
นอกจากนี้ตระกูลซุยยังมีที่มาที่ไม่ธรรมตาตระกูลนี้เป็นตระกูลที่ร่ํารวยและมีอํานาจมากมายลูกหลานของตระกูลซุยนั้นกระจายไปทั่วประเทศจีนหรือ บางทีอาจจะนับว่าทั่วโลกก็ยังได้
ซูยเสี่ยม่านนั้นตัดสินใจที่จะแก้แค้นเจียงเฉินกับอันจิ้งเธอนั้นหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาทันที
“ฮัลโหลลุงสามโซ่ไหมคะ? หนูเองค่ะเสี่ยวม่าน”
โดยที่อีกฝั่งนั้นยังไม่ได้พูดอะไรกลับมาขุยเสี่ยวม่านนั้นก็ร้องไห้ออกมา
ลุงสามของเธอนั้นถามออกมาด้วยความประหลาดใจ “เกิดอะไรขึ้น? เสี่ยวม่าน? “
“หนูถูกรังแกเมื่อวันก่อนหนูอยู่ที่งานแฟชั่นวีคตอนแรกหนูนั้นก็เต็มไปด้วยความสบายใจแต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีคนกล้าเข้ามารังแกหนู-แถมเขายังอวด ความร่ํารวยต่อหน้าหนูและตบหน้าหนูด้วยหนูเศร้ามากจริงๆ”
“ลุงสามช่วยหนูสืบข้อมูลของเขาหน่อยได้ไหมคะหนูต้องการภูมิหลังของคนสองคนนี้”
“ได้สรู้เขารู้เรารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง
“ยี่สี่ขอบคุณลุงสามมาค่ะ!”
หลังจากวางสายซุยเสี่ยวม่านนั้นก็เผยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายออกมา
ลูกสาวของเธอนั้นเหมือนกับคนอื่นเขานั้นเต็มไปด้วยอํานาจที่มหาศาล!
ตราบใดที่ยังอยู่ในเมืองหลวงมันแทบไม่มีอะไรเลยที่สามของฉันจะทําไม่ได้!
แต่อย่างไรก็ตามนั้นยังไม่เพียงพอ
ซุยเสี่ยวม่านหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้ง “คุณลุงโซ่มั้ยคะ? หนูเสียวม่านเองเมื่อก่อนหน้านี้หนูเจอกับคู่ปรับ! แล้วหนูถูกเขารังแกะชื่อ
เธอนั้นแปลงร่างกลายเป็นผีที่เต็มไปด้วยความเศร้าอีกครั้ง
ลุงใหญ่ของตระกูลซุยนั้นรักหลานสาวคนนี้มากเขาพูดออกมาด้วยความโกรธ ใครกันถึงการังแก้ละสองชั้น? ! มันเป็นใคร? ! ฉันจะไปจัดการมันเสี้ยว
“มันเป็นแบบนี้ค่ะ
ซุยเสียวม่านเราเรื่องของเธออีกครั้งและขอให้เขานั้นใช้เส้นสายของเขาในการตรวจสอบเจียงเฉินกับอันนิ่ง
ซุยเสียวม่านพูดออกมาอย่างจริงจัง หลานสาวคนนี้ก็พยายามที่จะระมัดระวังตัวดังนั้นหนูเลยเลือกที่จะตรวจสอบภูมิหลังของเขาก่อนก่อนจะเริ่มการ แก้แค้น
“อื้มๆหลานสาวของฉันเป็นคนรอบคอบจริงๆ
หนุ่มใหญ่ของเธอนั้นยิ้มและหัวเราะก่อนจะพูดออกมาอย่างไม่เห็นด้วย แต่ว่าหากตระกูลชัยของเราที่มีอํานาจมหาศาลขนาดนี้ยังไม่สามารถแก้แค้น ให้หลานได้ก็อย่าเรียกตระกูลตัวเองว่าตระกูลที่มีประวัตินับร้อยปีเลย!”
“ขอบคุณค่ะคุณลุง! ”
ซุยเสียวมันแสดงละครหลากหลายรูปแบบทําตัวเป็นเด็กดีแล้วเริ่มระดมกําลังในรูปแบบต่างๆ
หลังจากนั้นไม่นานคนทั้งตระกูลชัยทั้งสมาชิกตระกูลที่ร่ํารวยและมีอํานาจหลายร้อยคนต่างก็เริ่มได้รับสายจากเธอทีละคนและพวกเขานั้นก็เริ่มทํา การระดมกําลังกันเพื่อค้นหารวบรวมข้อมูลของเจียงเฉินและอันนึง
ซุยเสียวมานั้นยุ่งมากโทรศัพท์ของเธอนั้นแทบไม่ได้พักเลยเธอนั้นคอยรับสายอยู่ตลอดเวล
ข้อมูลทุกประเภทนั้นราวกับเกล็ดหิมะที่ลอยตรงมายังซุยเสี่ยวม่าน
“โอเคค่ะรับทราบแล้ว!”
ยิ่งสืบสวนมากเท่าไหร่ซุยเสียวมันก็ยิ่งดูถูกเขามากขึ้นเท่านั้น!
ตูถูก!
ฉันเกือบถูกเจียงเฉินและอันถึงหลอกด้วยรูปลักษณ์และบรรยากาศของพวกเขาแล้ว!
พหลังจากตรวจสอบตัวตนที่แท้จริงของเจียงเฉินแล้วชุยเสี่ยวม่านนั้นก็แทบไม่เชื่อสายตาของเธอ!
ขนส่งอาหาร
เขาเป็นแค่คนส่งอาหารจริงๆเหรอ? !
ซุยเสียวม่าน
ก่อนหน้านี้เธอนั้นคิดว่าเจียงเฉินนั้นเป็นคนที่มีอํานาจมากเขาถึงสามารถรับจดหมายเชิญระดับวีไอพีมาได้เพราะงานระดับนี้แขกที่จะได้รับจดหมาย เชิญระดับวีไอพอย่างน้อยก็สมควรที่จะเป็นคนที่รวยมากไหมหรือยังไง?
แต่ทําไมจู่ๆถึงได้กลายเป็นแค่สุนัขตัวหนึ่ง? !
นั่นมันแค่คนส่งอาหาร
เมื่อได้ตวีดีโอของเจียงเฉินที่กําลังอยู่กับการวิ่งในเมืองหลวงเพื่อที่จะส่งอาหารไปตามบ้านและเขานั้นต้องขี่จักรยานไปมามุมปากของซุยเสียวม่านก็ย กยิ้มด้วยความดูถูกเหยียดหยาม
แต่อย่างไรก็ตามซุยเสียวมานั้นยังคงสงสัยในผลลัพธ์นี้
แต่ท้ายที่สุดแล้วไม่ว่าขนส่งอาหารจะเย่อหยิ่งแค่ไหนเขาก็ควรที่จะไม่ได้รับจดหมายเชิญระดับวีไอพีไม่ใช่หรือยังไง?
ถ้าเกิดเขาเป็นแค่คนส่งอาหารจริงๆนี่มันไม่ตลกเกินไปหน่อยหรอ?
แม้ว่าเธอนั้นจะทําตัวเย่อหยิ่งแต่เธอนั้นก็ระมัดระวังตัวเองเสมอ
ข้อมูลเพิ่มเติมนั้นถูกส่งมาให้เธออย่างต่อเนื่อง
ซึ่งยังมีข้อมูลเกี่ยวกับอาชีพที่เจียงเฉินนั้นได้ทําก่อนหน้านี้ด้วย
(แน่นอนว่ามันคือ “หลักฐาน” ที่บริษัทรักษาความปลอดภัยเทียนเฉินนั้นยอมปล่อยให้ไหลออกมา)
ดวงตาของซุยเสียวม่านนั้นเบิกกว้างขึ้นทันที
มันไม่ใช่สิ่งที่เธอนั้นคาดคิดเอาไว้เลย!
ตัวตนก่อนหน้านี้ของเจียงเฉินนั้นยอดเยี่ยมมาก!
เขานั้นไม่ได้เป็นแค่คนส่งอาหารตั้งแต่แรก!
แต่ก่อนที่เขาจะมาส่งอาหารนั้นงงเท่านั้นครับตี้ตี้มาก่อน!
อ้า!!
ซุยเสียวมันสะดุดและล้มลงไปกับพื้น
ขบฟันแน่น!
“บ้าจริงกล้าดียังไงถึงได้มาดูถูกฉันคนนี้ทั้งๆที่ตัวเองเป็นแค่สุนัข!”
แถมก่อนหน้านี้ยังเป็นแค่
คนส่งพัสดุ
ชุยเสี่ยวม่าน
ทันใดนั้นเธอนั้นก็รู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองนั้นว่างเปล่า!
หากว่าเธอนั้นถูกคุณชายตระกูลใหญ่ที่มั่งคั่งและมีอํานาจรังแกเธอนั้นก็ยังจะพอยอมบีบจมูกและยอมรับมัน
แต่ใครจะไปคิดว่าเธอขุยเสี่ยวม่านที่แสนจะงดงามจะถูกรังแกด้วยคนส่งอาหารคนส่งพัสดุและกคนขับตีตั๋ว
บ้าเอ้ย!
“ถ้าความแค่นี้ฉันไม่สามารถเอาคืนได้ฉันขอสาบานว่าฉันจะไม่ยอมเป็นหมาแค่กๆเป็นคน!
ระหว่างคิ้วของขุยเสี่ยวม่านนั้นปรากฏจิตสังหารพุ่งพล่านออกมาดวงตาของเธอนั้นฉายแววค่าฝันที่ไม่มีวันสิ้นสุด
เธอนั้นต้องการให้เจียงเฉินกับอันนึ่งคุกเข่าต่อหน้าเธอและยังต้องได้รับความอับอาย!
และเมื่อลองขุดคุ้ยลงไปที่ชาติกําเนิดของเจียงเฉิน……….ปรากฏว่ายังเฉินนั้นไม่มีชาติกําเนิดเลย!
เขานั้นออกมาจากสถานเลี้ยงเด็กกําพร้าไม่มีพ่อแม่ไม่มีภูมิหลังทางครอบครัว
ซุยเสียวม่าน
”
เธอแหงนหน้าขึ้นไปบนท้องฟ้าและหัวเราะออกมาก่อนจะเดินออกไป!
แต่ยังมีอีกปัญหาหนึ่ง!
ทําไมเขาถึงได้ร่วมงานแฟชั่นวีคและกลายเป็นแขกระดับวีไอพีได้กัน?
เรื่องนี้ซุยเสียวมานั้นเห็นด้วยตาของเธอเองตอนนั้นเจียงเฉินนั้นหยิบจดหมายเชิญวีไอพีออกมาซึ่งมันไม่ใช่สิ่งที่หมาแมวที่ไหนจะมีได้และยิ่งการแอ บอ้างนั้นเป็นไปไม่ได้เลยเพราะว่าการยืนยันตัวตนนั้นต้องใช้ลายนิ้วมือระบบจดจําใบหน้าเอาเท่านั้น
ซุยเสียวม่านคิตอยู่ช่วงหนึ่ง
เรื่องนี้อาจจะไม่ได้ง่ายขนาดนั้น!
ในที่สุดเธอนั้นก็คิดว่าเธอนั้นพบความจริงของเรื่องนี้
เจียงเฉินนั้นจะต้องเป็นแค่คนที่พลอยได้รับผลประโยชน์ไปด้วยแน่ๆเพราะอันฉงนั้นเป็นดีไซเนอร์สาวที่สวยและงดงามมาก! เธอนั้นจะต้องไม่ใช่คน ธรรมดาอย่างแน่นอน!
ซุยเสียวม่านทําการตรวจสอบภูมิหลังของอันถึงทันทีและเธอนั่นก็พบว่าอันถึงนั้นมีความเกี่ยวข้องกับ [อันจวกรุ๊ป! ]
พ่อของอัลถึงนั้นก็คือประธานของบริษัทอันจวกรุ๊ป-อันเจี้ยนหยวน!
เขามหาเศรษฐี
ซุยเสียวม่านสูดอากาศเย็นเข้าปอด
เพราะแม้ว่าตระกูลของเธอนั้นจะมั่งคั่งเป็นอย่างมากแต่ความแข็งแกร่งโดยรวมนั้นก็แข็งแกร่งกว่าอันจวกรุ๊ปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น!
ว่าไงนะ? ตระกูลของเธอนั้นมีเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวไม่ใช่หรอ?
ใช้แล้ว! มีอยู่จริง!
แต่นั่นไม่ใช่ของเธอ!
ซุยเสี่ยวม่านนั้นเคยไปหาลุงของเธอและลุงของเธอนั้นก็พาเธอไปเยี่ยมชมเครื่องบินส่วนตัวของเขา!
และเธอนั้นก็พบว่ามันคือเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวมูลค่า200ล้าน!
ดังนั้นเธอจึงถ่ายรูปกับมันและโพสต์ลงบนเว่ยป๋อของเธอเพื่อโอ้อวดความร่ํารวยของเธอ!
ไม่เป็นไรของบ้านลุงก็เหมือนของฉัน!
ในแง่ของทรัพยากรทางการเงินตระกูลซุยนั้นเป็นตระกูลที่มีทรัพย์สินระดับหมื่นล้าน! แต่!
นั่นคือของทั้งตระกูลรวมกัน!
ทรัพย์สินของคนทั้งตระกูลรวมกันแล้วถึงจะแตะหมื่นล้าน
ไม่ใช่แค่ของเธอเพียงคนเดียว!
แต่ถึงอย่างนั้นตระกูลของซุยเสียวม่านนั้นก็ถือว่าแข็งแกร่งกว่าตระกูลของอันฉิงอย่างแน่นอน!
เพราะพ่อของอันถึงอันเงี่ยนหยวนนั้นก็ไม่ได้ถือหุ้นของอันจวกรุ๊ป100%!
ซุยเสียวม่านยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์
“เข้าใจแล้ว!
“ที่แท้เจียงเฉินคนนี้ก็แค่พวกเกาะผู้หญิงกิน!”
“การที่เขาติดตามดีไซเนอร์ชื่อดังและร่ํารวยอย่างอันถึงมันจึงมีความเป็นไปได้ที่จะทําให้เขาได้รับจดหมายเชิญวีไอพีมา!”
“ฮ่ม! ทําให้ฉันตกใจแทบตายคิดว่าตัวเองเจ๋งนักรียังไง? !”
“ความรู้สึกก็แค่ความรู้สึกไม่มีอะไรมากกว่านั้น!
แม้ว่าอันจวกรุ๊ปนั้นจะติตหนึ่งในห้าร้อยบริษัทอันดับแรกของจีนแต่มันก็ไม่ได้อยู่ในสายตาของชุยเสี่ยวม่าน!
นอกจากทรัพยากรทางการเงินแล้วตระกูลของเธอนั้นก็ยังมีขนาดที่ใหญ่มากเหล่าผู้อาวุโสของตระกูลก็มีอํานาจมากดังนั้นเธอจึงรู้สึกมั่นใจในการแส ตงความหยิ่งยโสออกมา
“ในเมื่อพ่อตาของแกแข็งแกร่งที่สุดงั้นเราก็มาเริ่มจากเขาก่อนก็แล้วกัน!”
ซุยเสี่ยวม่านนั้นตัดสินใจที่จะมุ่งเป้าไปที่อันเจียนหยวนก่อน!
หลังจากที่ทําลายเบื้องหลังอย่างอันจวกรุ๊ปแล้วเจียงเฉินกับอันถึงมีหรอที่จะไม่ตื่นตระหนก?
เมื่อถึงเวลานั้นนั่นไม่ได้หมายความว่าเธอจะทํายังไงกับคนพวกนั้นก็ได้ไม่ใช่หรอ?
ฉันจะเป็นดั่งมีตส่วนพวกมันก็จะเป็นปลา!
ซุยเสี่ยวม่านนั้นเคยทําเรื่องอวดดีเพื่อแก้แค้นคนอื่นมาไม่น้อยและยังมีครอบครัวของคู่แข่งจํานวนไม่น้อยเลยที่ถูกเธอทําลายและเหตุผลก็มักจะเป็น เพียงแค่เรื่องเล็กๆน้อยๆเท่านั้น
“อันจวกรุ๊ปงั้นสินะที่นี้
ซูเสี่ยวม่านยิ้มออกมาอย่างดูถูก
แววตาที่ชั่วร้ายปรากฏขึ้นมาในดวงตาของเธอ
“ขั้นแรกะสร้างข้อจํากัดด้านเงินทุน! ”
เธอเปิดแฟ้มข้อมูลความสัมพันธ์ของบริษัทขึ้นมา
ในที่สุดเธอนั้นก็พบกับบริษัทการเงินสามแห่งที่ร่วมมือกับอันจวกรุ๊ป!
[บริษัทเงินทุนฉุยฟู][บริษัทเงินทุนช่างเสียน]บริษัททุนเงินต้าถง]
และประธานของทั้งสามบริษัทก็คือ:หลินหมิงเหลียนหยุนเฟยและหวงเพิ่งทํา
ซุยเสี่ยวม่านนั้นก็เหมือนกับผู้หญิงทั่วๆไปเธอนั้นคิดคํานวณอย่างใจเย็น แม้ว่าอันจวกรุ๊ปนั้นจะมีขนาดที่ใหญ่มากแต่จากการวิเคราะห์ของฉันยิ่งองค์ กรใหญ่เท่าไหร่ห่วงโซ่ของทุนนั้นก็ยิ่งเข้มงวดขึ้นมากเท่านั้นและความต้องการทางการเงินนั้นก็อยู่ในระดับที่สูงมาก! จนถึงตอนนี้อันจวกปก็ยังต้อ งอาศัยเงินทุนจากหลินหมิงเหลียนหยุนเฟยและหัวเมิ่งสําอยู่และตราบโตที่ทั้งสามคนนี้ร่วมมือกับฉันการจะล้มอันจวกรุ๊ปนั้นก็ไม่ใช่เรื่องยาก! ”
หลังจากตัดสินใจซุยเสียวม่านก็เริ่มทํางานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยอีกครั้งเพื่อทําการตรวจสอบข้อมูลของ หลินหมิงเหลียนหยุนเฟยและหวงเพิ่งทํา
ต้องบอกว่านี่เป็นงานเดียวที่ซุยเสี่ยวม่านนั้นทุ่มเทให้ขนาดนี้
สามีของซุยเสี่ยวม่านที่มองอยู่ข้างหลังก็ได้แต่ถอนหายใจและส่ายหัว
ถ้าเธอนะใส่ใจกับเรื่องธุรกิจของตระกูลมากกว่านี้ธุรกิจของตระกูลซุยคงไม่เป็นอย่างทุกวันนี้หรอก!
สามีของเธอนั้นพูดไม่ออกกับผู้หญิงใจร้ายคน
นี้
อํานาจของตระกูลของซุยเสียวม่านนั้นแตกต่างจริงๆ
ในไม่ช้าจุดอ่อนของหลินหมิงเหลียนหยุนเฟยและหวงเพิ่งตก็ปรากฏออกมาซึ่งจุดอ่อนของพวกเขานั้นเป็นการกระทําของพวกเขาที่ผิดกฎหมายและ ผีตต่อศีลธรรม
“หีหีอย่างที่คิดไม่มีใครบนโลกใบนี้ที่ฉันควบคุมไม่ได้! ”
ซุยเสี่ยวม่านหัวเราะออกมาอย่างภาคภูมิใจ
ในบ่ายวันนั้นเธอก็ทําการเชิญทั้งสามคนมาในห้องอาหารส่วนตัวสุดหรู
หลินหมิงเหลียนหยุนเฟยและหวงเมื่งต่ก็มาจริงๆ
ชุยเสี่ยวม่านยิ้มเยาะออกมาก่อนจะเริ่มเปิดเผยสถานะของตัวเอง
“พวกคุณทั้งสามฉันก็คือคุณหนูใหญ่ของตระกูลซุย! พวกคุณเคยได้ยินชื่อของตระกูลซุยใช่ไหม? และฉันเองก็ยังเป็นลูกสะใภ้ของตระกูลหวัง(ตระกูล ของฝั่งสามี)! ตระกูลหวังคุณก็คงจะรู้จักกันใช่ไหม? ”
หลินหมิงเหลียนหยุนเฟยและหวงเพิ่งมองหน้ากันอย่างสับสน
พวกเขานั้นไม่คิดมาก่อนเลยว่าหญิงสูงศักดิ์จากตระกูลชุยและตระกูลหวังจะอยากพบพวกเขา!
“ตระกูลชุยและตระกูลหวังตระกูลที่มีชื่อเสียงร่ํารวยและมีอํานาจมหาศาล!”
ซุยเสียวมันพูดออกมาอย่างภาคภูมิใจ“พวกคุณทั้งสามถ้าพวกคุณไม่อยากให้บริษัทของคุณต้องล้มละลายพวกคุณก็ต้องร่วมมือกับฉัน!
เธอพูดออกมาอย่างตรงไปตรงมาไม่มีการอ้อมค้อมและข่ออกมาโดยตรง
หลินหมิงเหลียนหยุนเฟยและหวงเพิ่งต่างก็ไม่กล้าแย้งอะไรกลับไป
เพราะซุยเสียวม่านรู้ว่าอันจวกรุ๊ปนั้นแข็งแกร่งมากแต่เธอนั้นกับยางกล้าที่จะสร้างปัญหาด้วยเพราะตระกูลซุยและตระกูลหวังที่เธอพึ่งพานั้นแข็งแกร่ งกว่าอันจวกรุ๊ปเสียอีก
อันจวกรุ๊ปนั้นเป็นเพียงธุรกิจขนาดใหญ่แต่ตระกูลซุยและตระกูลหวังนั้นมีอํานาจที่มากกว่า!
ทั้งสามคนต่างรู้สึกตกใจผม
“ฮ่าฮ่าฮ่าผมคิดไม่ถึงเลยว่าคุณจะเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลชัยและยังเป็นลูกสะใภ้ของตระกูลหวัง! ผมเสียมารยาทแล้ว!
“ผมเองก็เคยได้ยินเกี่ยวกับตระกูลซุยและกูรหวัง! ซ่างเป็นตระกูลที่ยอดเยี่ยมจริงๆ!”
หลินหมิงเหลียนหยุนเฟยและหวงเพิ่งทั้งสามต่างก็วาดฝันเกี่ยวกับเค้กก้อนใหญ่ของอันจวกรุ๊ปไว้แล้ว
ครั้งก่อนพวกเขานั้นต้องการให้อันเจี้ยนหยวนขายหุ้นของอันจวกรุ๊ปแต่อีกฝ่ายกลับไม่ยอมปล่อย
เงินกู้ก็คือเงินกู้แต่หุ้นก็คือหุ้น!
ลายได้จากการกู้ยืมเงินจะไปสูงกว่ารายได้ที่เกิดจากหุ้นได้อย่างไร!
ดังนั้นทั้งสี่จึงตัดสินใจร่วมมือกัน! พวกเขาจะทําการถอนเงินจากอันจวกรุ๊ป
ในเวลาเดียวกันพวกเขานั้นก็ปรึกษาหารือกันว่าจะแบ่งผลประโยชน์จากบริษัทอันจวกรุ๊ปอย่างไร
การเจรจาของพวกเขานั้นเหมือนกับสนามรบ!
ในการเจรจามีเพียงยักษ์ใหญ่เท่านั้นที่จะได้ผลประโยชน์มากที่สุด!
หากบริษัทหมื่นล้านอย่างอันจวกรุ๊ปล่มสลายจริงๆหลินหมิงเหลียนหยุนเฟยและหวงเมื่งต่ําก็จะได้รับผลประโยชน์อย่างมหาศาล
แน่นอนว่าซุยเสี่ยวม่านก็ได้รับผลประโยชน์มากมายเช่นกัน
ทั้งสี่ที่ปรึกษากันเสร็จก็ยิ้มให้แก่กัน
“ฮ่าฮ่าฮ่า
“อันจวกรุ๊ปจบแล้ว! ”
“คราวนี้มาดูกันเถอะว่าอันเจี้ยนหยวนจะคุกเข่าอ้อนวอนพวกเรากันยังไง?!”
“ฮ่ม! เจียงเฉินอันถึง!
ในเวลานี้กองกําลังที่ชั่วร้ายพากันนั่งหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน!
ซูยเสี่ยวม่านยิ้มออกมาอย่างชั่วร้ายแล้วพูดออกมาว่า“ครั้งนี้ฉันจะทําลายครอบครัวของพวกแก
วันรุ่งขึ้น
มณฑลเจ้อเจียงอันจวกรุ๊ป
อันเจี้ยนหยวนพ่อของอันถึงที่กําลังทํางานอยู่ก็ได้รับโทรศัพท์จากผู้อํานวยการฝ่ายการเงิน
“ท่านประธานอันไม่ดีแล้วครับ!
“มีอะไร?
อันเจี้ยนหยวนขมวดคิ้ว
“ประธานอันพวกเราเจอเรื่องใหญ่แล้วครับ!”
ผู้อํานวยการฝ่ายการเงินพูดออกมาด้วยความขมขึ้น“เมื่อกี้นี้ผมได้รับโทรศัพท์จากหลินหมิงเหลียนหยุนเฟยและหวงเพิ่งต! บริษัทเงินทุนภายใต้ชื่อ ของพวกเขาต้องการที่จะหยุดให้กู้ยืมเงินจากพวกเราครับ!
“อะไรนะ? หยุดการกู้ยืมเงินงั้นหรอ?”
อันเจี้ยนหยวนขมวดคิ้วและพบว่าเรื่องนี้ไม่ปกติเลย
ถ้าเป็นเพียงแค่หนึ่งหรือสองบริษัทนั้นก็ยังพอเข้าใจได้แต่อยู่บริษัทการเงินทั้งสามที่ให้ความร่วมมือกันมานานหลายปีจู่ๆจะมาหยุดกู้ยืมเงินพร้อมกัน? มีใครอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้หรือเปล่า?
“ใช่ครับ! 7
ผู้อํานวยการฝ่ายการเงินยิ้มออกมาอย่างขมขึ้น “ผมได้คุยกับพวกเขาหลายครั้งแล้วแต่พวกเขานั้นก็ยืนกรานที่จะหยุดให้กับจากพวกเราด้วยเหตุผล หลายประการครับ “แล้ว?”
“พวกเขานั้นร่วมกันหยุดให้เงินกู้กับพวกเราและพยายามบังคับให้พวกเราคืนเงินพวกเขาทันที! ”
ผู้อํานวยการฝ่ายการเงินพูดออกมาอย่างหดหู”ตอนนี้เงินของอันจวกรุ๊ปนั้นถูกดึงออกไปบวกกับตอนนี้การก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์ในเมืองจีนหัว ก็ยังอยู่ในระหว่างการดําเนินการก่อสร้างดังนั้นการหมุนเงินของเราในตอนนี้จึงทําได้ยากมาก!”
อันเจี้ยนหยวนโกรธจัด!
เขานั่งคิดไม่ถึงเลยว่า บริษัทเงินทุนายมู่] [บริษัทเงินทุนช่างเสียน] [บริษัทเงินทุนต้าถง] จากการหักหลังเขา!
คนทั้งสามนั้นเคยพยายามขอซื้อหุ้นของอันจวกรูปมาก่อนแต่เขานั้นก็ไม่เคยยอมปล่อยมือ
แต่ตอนนี้บริษัทเงินทุนทั้งสามต่างพากันร่วมมือจัดการกับเขา? !
ไม่มีแม้แต่การบอกกล่าวล่วงหน้า! อยากจะได้เงินคืนก็ทวงทันที?
นี่มันแทงข้างหลังกันชัดๆไม่ใช่หรอ?
ยิ่งเป็นบริษัทที่ใหญ่เท่าไหร่เงินทุนที่ใช้ก็ยิ่งมาก
บริษัทใหญ่สามารถขาดทุนได้แต่ไม่สามารถขาตห่วงโซ่เงินทุนได้! เพราะเมื่อไหร่ที่ขาดมันไปมันก็ไม่ต่างจากการที่เส้นเลือดในสมองแตกและสมองก็ จะตายในทันที!
“ไอ้พวกเวร!”
เงี่ยนหยวนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและโทรหาหลิงหลินเหลียนหยุนเฟยและหวงเมิ่งเต่อเพื่อไปต่าทันที
“นี่! นี่มันไร้สาระมาก! เพราะฉันไม่ขายหุ้นให้พวกนายพวกนายก็เลยหยุดให้ฉันกู้เนี่ยนะ?!”
หลินหมิงเหลียนหยุนเฟยและหวงเพิ่งเต่อพวกเขานั้นภาคภูมิใจในตัวเองมากพวกเขานั้นเยาะเย้ยกลับไปใส่อันเจี้ยนหยวน
“ฮ่าฮ่าฮ่าประธานอัน! ตอนนี้มันถึงเวลาที่คุณจะต้องอ้อนวอนเราแล้ว!”
“ใช่! เมื่อก่อนหยิ่งนักไม่ใช่รึไง?! ตอนนี้เวทีไม่ใช่ของนายอีกแล้ว! ”
“ก่อนหน้านี้นายไม่ยอมขายหุ้นแต่ตอนนี้ห่วงโซ่ทุนนายพังแล้วตอนนี้ก็เหลือแค่รอเวลาให้หุ้นราคาตกลง!”
“แต่พวกเราก็สามารถดึงราคากลับขึ้นไปได้! ถ้าประธานของอันจวกรุ๊ปยอมให้หุ้นให้เรา20 โอ้ไม่สิ30%.ไม่สิ! 45% ของหุ้นทั้งหมดกับพวกเรา! ฮ่าฮ่า ฮ่า!! ”
เจียนหยวนโกรธมากจนปาโทรศัพท์ทิ้ง
หลินหมิงเหลียนหยุนเฟยหวงเพิ่งเต่อมันจะมากเกินไปแล้วนะ!
คิตจะกลืนกินอันจกรุ๊ปของฉันงั้นหรอ?
หุ้น45%?!
ฝันไปเถอะ!
ต่อมาเขานั้นก็โทรหาประธานบริษัทการเงินหลายแห่งในมณฑลอย่างต่อเนื่องแต่ดูเหมือนว่าทุกบริษัทนั้นจะได้ยินข่าวลืออะไรบางอย่างมากพวกเขา นั้นพากันปฏิเสธทุกคน!
อันเจียนหยวนกังวลมากเขาเดินไปเดินมาในออฟฟิสพร้อมกับเหงื่อเต็มกายตอนนี้เขาไม่มีที่ไปแล้ว!
“ทํายังไงดี? ทํายังไงดี? “
นี้เป็นวิกฤตที่เขานั้นไม่เคยพบเจอมาก่อนแม้จะมีประสบการณ์ยาวนานมากว่าหลายสิบปี!
ในเวลานี้เอง..
เบอร์โทรศัพท์แปลกๆ ที่กําลังจะช่วยชีวิตของเขาก็โทรเข้ามา…