บทที่ 510 เค้าโครงละครที่คุ้นเคย

บัญชามังกรเดือด

บัญชามังกรเดือด บทที่ 510 เค้าโครงละครที่คุ้นเคย
ตระกูลเฉิน

ในบรรดาห้าตระกูลใหญ่แห่งจิ่นหู ตระกูลนี้จัดอยู่ในอันดับสี่

ฉินเทียนคาดไม่ถึงว่า เป็นพวกเขาที่มาออกหน้าในครั้งนี้

“ให้พวกเขาไปรอที่ห้องโถงใหญ่ เดี๋ยวฉันรีบลงไป ….ช้าก่อน!”

จู่ๆ ฉินเทียนก็รู้สึกมีบางอย่างผิดปกติ เขาเห็นสามพี่น้องแห่งตระกูลเฉินจากจอมอนิเตอร์นั้น มีท่าทีเคารพนบน้อม แววตามองไปที่รถบิสซิเนทที่อยู่ด้านหลังอย่างไม่ตั้งใจ

หรือว่า ในรถยังมีคนที่สำคัญยิ่งกว่านั้น ที่ยังไม่ได้ลงจากรถ?

ผู้นำตระกูลเฉินมาด้วยตัวเองอย่างนั้นหรือ?

“ถามชื่อพวกเขามา”

“และก็พวกเขาเป็นตัวแทนของตระกูลเฉิน ใช่หรือไม่?”

“บนรถ ยังมีใครอีกไหม?” เขารีบสั่งให้เจ้าหกไปสอบถามทันที

หลังจากที่เจ้าหกพูดคุยเจรจาแล้ว ก็มีอาวุโสตาบอดลงจากรถมาอีกหนึ่งคน

เมื่อเห็นชายชราคนนี้แล้ว สามพี่น้องนั้นต่างพากันทำความคำนับทักทายและถอยหลังไปด้วยความกลัว เห็นดังนั้นแล้ว ความรู้สึกของฉินเทียนเองก็อดไม่ได้ที่จะเปลี่ยนไป

สัญชาตญาณของเขารับรู้ได้ว่าชายชราคนนี้ไม่ธรรมดา

พอได้ฟังรายงานจากเจ้าหกแล้ว เขายิ่งขมวดคิ้วแน่นขึ้นไปอีก

“พี่เทียน ชายชราคนนี้บอกว่า เขาเป็นตัวแทนของตระกูลเจี่ยง เขาไม่มีชื่อ ให้เรียกเขาว่าตาเฒ่าตาบอด”

“ส่วนสามคนนั้น แซ่เฉิน ให้เรียกว่า เฉินต้า เฉินเอ้อและเฉินซาน พวกเขามีชื่อว่าพญายมสามตา”

ที่แท้ก็เพราะว่า ตระกูลเฉินเพียงตระกูลเดียวน้ำหนักยังไม่มากพอ

ที่แท้เบื้องหลังยังมีตระกูลอันดับสองอย่างตระกูลเจี่ยง หนุนด้วยอีกนั่นเอง

ฉินเทียนดูเหมือนจะเดาออกแล้วว่า ใครเป็นคนแอบอ้างชื่อเขาและฆ่า ปีศาจขาวระหว่างทางเมื่อตอนเย็นของวานนี้

“เชิญพวกเขาไปดื่มน้ำชาที่ห้องโถงใหญ่!”

“เดี๋ยวฉันรีบตามลงไป!”

ตาเฒ่าตาบอดและสามพี่น้องตระกูลเฉินเอากล่องใบใหญ่กล่องหนึ่งมาด้วย ด้านในนั้นเต็มไปด้วยธนบัตรสีสันต่างๆ มากมายเต็มกล่อง

ฉินเทียนแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจ “ฉันกับผู้นำตระกูลเจี่ยง และผู้นำตระกูลเฉินไม่เคยเจอกันมาก่อน ทำไมจู่ๆ ถึงส่งของกำนัลชิ้นใหญ่นี้มาหล่ะ?”

“มีคำกล่าวว่าไม่รับสินบนใดๆ ทั้งสิ้น แบบนี้จะให้ฉันยอมรับของพวกนี้ยังไง”

เฉินต้าหัวเราะและพูดว่า “ถึงแกไม่รับ แต่ยังไงก็ต้องรับไป”

“ฉินเทียน แม้ว่าพวกเราจะพึ่งเจอกันเป็นครั้งแรก แต่สิ่งที่แกกับคนของแกทำหลังจากมาถึง จิ่นหูพวกเราล้วนรู้กันอย่างแจ่มแจ้ง”

“แกเอาคนของตระกูลหยางกับตระกูลหม่ามาเล่นเหมือนเป็นลูกไก่ในกำมือ ทำพวกเขาสูญเสียภรรยาและสมุนคนใกล้ชิดไป แกคิดว่าพวกเขาจะยอมปล่อยแกงั้นหรือ?”

“อย่าคิดว่า ตอนนี้พวกเขาไม่มีวิธีจัดการกับแก แกก็เลยอยู่อย่างสุขสบายไร้กังวลสินะ”

“สองตระกูลนี้ รวมกับทรัพย์สินสี่ร้อยถึงห้าร้อยพันล้าน ตราบใดที่พวกเขายังจะจัดการกับแกด้วยทุกวิถีทาง แกลองถามตัวเองนะ ว่าแกจะหนีรอดไปได้ไหม?”

“ขอแค่พวกเขายอมจ่ายเงิน เขาจะซื้อนักฆ่ามืออาชีพได้มากน้อยสักเท่าไร?”

“ครอบครัวของแก แถมยังมีบริษัทของภรรยาแกอีก จะยังอยู่รอดต่อไปได้ไหม?”

สีหน้าของฉินเทียนเคร่งขรึมขึ้น สิ่งที่เขาไม่พอใจที่สุดก็คือ มีคนพูดถึงเรื่องครอบครัวของเขา

“แกหมายความว่าตระกูลเฉินและตระกูลเจี่ยงของพวกแก จะสามารถปกป้องฉันได้อย่างนั้นหรือ”

“เพียงแค่ยินยอมทำให้ตระกูลหยางและตระกูลหม่าขัดใจกับฉัน?”

“ยังไม่ต้องพูดว่าพวกแกมีความสามารถนั้นหรือไม่ ตอนนี้ฉันแค่อยากรู้ว่า พวกแกทำเพื่ออะไรกันแน่?”

จู่ๆ ชายชราก็บ่นพึมพำขึ้นว่า “ทางใต้นี้อากาศแย่จริงๆ พึ่งจะฤดูใบไม้ผลิ ก็มีแมลงวันเยอะขนาดนี้แล้ว ช่างน่ารำคาญเสียจริง”

พูดพลาง เขาก็โบกมือไปมาอย่างตามใจชอบ

แสงจันทร์สองข้างทางค่อยๆ กะพริบและดับลง มีสองเสียงอันแผ่วเบาลอยมาตามสายลม

ถงชวนรีบตามไปดู อดไม่ได้ที่จะตกใจจนอ้าปากค้าง

ห่างออกไปเพียงสามฟุต แมลงวันสองตัว ถูกเข็มเงินสองเล่มปักเข้ากับเสาหิน

ระยะไกลขนาดนี้ ความบางเบาของเข็มเงินสองเล่มนั้น ไม่เพียงแต่ปักทะลุแมลงวันเท่านั้น แต่ยังปักเข้าไปในเสาหินอีกด้วย

ที่สำคัญกว่านั้น คนที่ปาเข็มนั้นไป เป็นเพียงตาเฒ่าตาบอดคนหนึ่งเท่านั้น

นี้มันกระบวนยุทธอะไรกันแน่นะ?

ไม่เพียงแค่ถงชวนหม่าหงเทาและคนอื่นๆ ที่อยู่ข้างๆ ล้วนแต่ตกตะลึงกันไปหมด พวกเขาถามตัวเองว่า ไม่มีใครทำได้หรอก

แววตาของฉินเทียนขยับเล็กน้อย ตอบอย่างยิ้มหยันว่า “ที่แท้ก็คือท่านอาวุโสยอดฝีมือนี่เอง ช่างเสียมารยาทจริงๆ”

ชายชราหัวเราะเบาๆ และตอบว่า “เป็นแค่การแสดงเล็กๆ น้อยๆเท่านั้น แต่หากจะเอาไว้ใช้ปกป้องคุณฉิน ฉันคิดว่ามันเพียงพอแล้ว”

“แบบนี้ คุณฉินพอจะวางใจได้แล้วหรือยัง?”

ฉินเทียนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก็ตอบว่า “พวกแกต้องการอะไรจากฉัน?”

“คนดีมักจะไม่พูดคำโกหก ได้ยินมาว่าอานกั๋วแห่งหนานเจียงและจ้าวเทียนเผิงแห่งหยุนชวน เชื่อฟังคำสั่งของคุณฉิน”

“อีกเก้าวันต่อจากนี้ จะเป็นวันประชุมเลือกตั้งผู้นำพันธมิตรเจ็ดเมืองทางใต้ พวกเขาสองคน มีในมือกันคนละหนึ่งคะแนนเสียง”

“หวังว่าเมื่อถึงเวลานั้น คุณฉินจะทำให้พวกเขา ลงคะแนนเสียงให้กับหัวหน้าตระกูลเจี่ยงนะ”

“ถ้าแกรับของขวัญเล็กๆ น้อยๆ นี้ไป จะถือว่าพวกเราเป็นพันธมิตรกันแล้ว”

ต้องบอกว่าคำพูดของตาเฒ่าตาบอดคนนี้ดูหนักแน่นไม่มีช่องโหว่ เมื่อเทียบกับ ปีศาจขาวเมื่อคืนนี้ ดูหนักแน่นกว่ามาก

เขาพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า ต้องการให้ฉินเทียนดึงสองคะแนนเสียงนั้นมา

เมื่อเห็นว่าฉินเทียนไม่พูดอะไร เฉินเอ้อ ก็พูดอย่างเย้ยหยันว่า “คนแซ่ฉิน แกยังมีทางเลือกอื่นอีกหรือ?”

“เจ้าบ้านทั้งสองของพวกเรา เริ่มแสดงความมิตรกับแกก่อน ถ้าแกไม่คว้าโอกาสนี้ไว้ วันหน้าตายอย่างไร้ที่ฝังศพ อย่ามาเสียใจทีหลังนะ”

ฉินเทียนแสดงท่าทีจริงจัง ราวกับว่าเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญ

“ตกลง ฉันรับปากพวกแก!”

“ฉันจะรับของขวัญนี้ไว้ ส่วนนายท่านอานและนายท่านจ้าว ฉันจะพยายามช่วยโน้มน้าวให้พวกแกอย่างเต็มที่ที่สุด”

“แต่สุดท้ายแล้วสิทธิ์ในการลงคะแนนเสียงก็อยู่ในมือของพวกเขา ท้ายที่สุดแล้วฉันไม่สามารถรับประกันได้ ว่าพวกเขาจะเห็นด้วยกับคำพูดของฉันหรือไม่”

“เรื่องนี้ คงต้องขอให้พวกแกกรุณากลับไปอธิบายให้เจ้าบ้านทั้งสองของพวกแกด้วย”

ตาเฒ่าตาบอดหัวเราะและพูดว่า “ดูเหมือนว่าคุณฉินเป็นคนที่รู้จักกาลเทศะดีเหมือนกันนะ”

“จำไว้ว่า สองคะแนนเสียงนั้น เป็นยันต์คุ้มครองของแก”

“ถ้าได้รับคะแนนเสียงมา เจ้าบ้านทั้งสองของพวกเราก็จะคุ้มครองแก แต่ถ้าไม่ได้ แกคงต้องยอมแบกรับการแก้แค้นอย่างบ้าคลั่งจากตระกูลหยางและตระกูลหม่าแต่เพียงลำพังนะ”

“ลาก่อน”

ฉินเทียนตอบอย่างเย้ยหยันว่า “ไม่ส่งนะ”

เมื่อเห็นว่าสามพี่น้องตระกูลเฉินอารักขาตาเฒ่าตาบอดขึ้นรถบิทซิเนทไป และหายไปท่ามกลางความมืด สายตาของฉินเทียนก็เกิดความสงสัยขึ้น

“พี่เทียน แกกังวลอะไรอยู่หรือ?” หม่าหงเทาถามขึ้นเบาๆ

ฉินเทียนฝืนยิ้มและตอบว่า “รู้สึกว่า ละครที่คุ้นเคยกำลังจะเปิดฉากแล้ว”

“พวกแกว่า พวกเขาจากไปแบบนี้ จะถูกคนที่ชื่อว่า ‘ฉินเทียน’ ฆ่าระหว่างทางอีกไหม?”

สีหน้าของหม่าหงเทาดูจริงจังและตอบว่า “ถ้าฉินเทียนตัวปลอมคนนั้น ฆ่าได้แม้แต่พวกเขา ถ้างั้นปัญหานี้ก็ยิ่งร้ายแรงแล้วหล่ะ”

“โดยเฉพาะตาเฒ่าตาบอดคนนั้น เขาเป็นยอดฝีมืออย่างแน่นอน”

“พี่เทียน ฝ่ายนั้นต้องการโยนความผิดให้พวกเรา พวกเราควรจะทำอะไรสักอย่างไหม?”

“ไม่ต้องหรอก”

“ย้ำคำพูดนั้นอีกครั้ง ห้ามไม่ให้ใครออกจากโรงแรมเด็ดขาด”

“พวกเรานั่งรอดูที่นี่ว่า กระสุนนั้นจะลอยได้อีกนานแค่ไหน”

……

พญายมสามตาและตาเฒ่าตาบอดเสร็จสิ้นภารกิจแล้วก็ออกจากโรงแรมไป เหมือนปีศาจขาวเมื่อคืนนี้ เขาอดใจรอไม่ไหวที่จะรายงานข่าวดีให้กับเฉินเถิง

เฉินเถิงกับเจี่ยงเส้า อยู่พร้อมหน้ากันเพื่อรอฟังข่าวนี้

เขาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเสียงดัง

“พี่เจี่ยง แกนี่ช่างเหนือชั้นเสียจริงๆ เดิมที ฉันยังกลุ้มใจอยู่เลยว่า จะจัดการคนที่ยากจะจัดการอย่างฉินเทียนนั้นได้ยังไง”

“ตอนนี้เรียบร้อยแล้ว แกใช้วิธีฆ่าคนและยัดความผิดอย่างเนียนๆ ทำลายพันธมิตรระหว่างตระกูลหยางกับฉินเทียนอย่างสิ้นเชิง”

“เมื่อมองไปยังเจ็ดเมืองทางใต้ ฉินเทียนเพื่อปกป้องตัวเองแล้ว จำเป็นต้องพึ่งพาพวกเราเท่านั้น!”

“คว้าตัวเขาไว้ได้ ก็เหมือนกับคว้าสองคะแนนเสียงจากอานกั๋วและจ้าวเทียนเผิงไว้ได้เช่นกัน ตอนนี้ พวกเรามั่นใจว่าจะได้รับชัยชนะอย่างแน่นอน!”

จากการคำนวณของพวกเขาในก่อนหน้านี้ รวมกับสองคะแนนเสียงจากอานกั๋วและจ้าวเทียนเผิง คะแนนเสียงของ เจี่ยงเส้าก็เพียงพอแล้วที่จะชนะ

กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ตำแหน่งของเขาในฐานะผู้นำ ก็เป็นแค่เรื่องของเวลาเท่านั้น

บทที่ 509 ผลักดัน