ดูหนัง
หันฮุ่ยซินเริ่มบทสนทนา “อาเชิน ฉันเปิดสตูดิโอสอนเต้น อีกสักพักก็จะเปิดกิจการแล้ว ถึงตอนนั้นคุณจะต้องมาร่วมยินดีด้วยนะ”
ฟังหยวนก็ช่วยพูด “ใช่เลย อาเชิน ความสัมพันธ์ระหว่างนายกับฮุ่ยซินแตกต่างจากคนอื่น งานนี้ยังไงก็ต้องไปแสดงความยินดี ฉันเองก็จะไปเหมือนกัน”
ลั่วเซ่าเชินมองไปที่ถังโจวโจวซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ เขาเห็นเธอกำลังก้มหน้ามองมือและเล่นนิ้วของเธออยู่ใต้โต๊ะ ดูเหมือนว่าเธอจะไม่สนใจอะไรเลย
แต่สิ่งที่ลั่วเซ่าเชินไม่รู้ก็คือถังโจวโจวกำลังหูผึ่ง และเธอเองก็ไม่รู้ว่าควรจะหยุดเรื่องนี้ไว้อย่างไร แต่ละคนสรรหาข้ออ้างมาเสียสมเหตุสมผล เธอจึงไม่สามารถโน้มน้าวให้เขาไม่ไปได้
“ได้สิ ฮุ่ยซิน คุณส่งรายละเอียดมาให้ผมก็แล้วกัน ผมจะไป” เดิมทีลั่วเซ่าเชินกำลังคิดว่าเขาไม่อาจพูดกับหันฮุ่ยซินออกมาตรงๆ ได้ แต่ความรู้สึกของเขากับเธอมันไม่มีทางกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้แล้ว ครั้นเมื่อได้เห็นสายตาวิงวอนของหันฮุ่ยซินที่มองมา ลั่วเซ่าเชินก็ตอบตกลง
ในเมื่อเป็นคนรักกันไม่ได้ ก็ยังเป็นเพื่อนกันได้ เขาเสียใจกับหันฮุ่ยซินมาตลอด ดังนั้น เขาจะทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้เพื่อชดเชยให้เธอ ลั่วเซ่าเชินปฏิเสธหัวใจของตัวเองไม่ได้
แต่ในมุมมองของถังโจวโจว ลักษณะของเรื่องนี้มันแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เธอไม่รู้ว่าทำไมลั่วเซ่าเชินถึงตอบตกลง แต่สิ่งหนึ่งที่เธอมั่นใจได้ก็คือจริงๆ แล้วลั่วเซ่าเชินยังรู้สึกอะไรกับหันฮุ่ยซินอยู่ ไม่เหมือนอย่างที่เขาเคยพูดเอาไว้กับเธอ
ถังโจวโจวรู้สึกสายตาพร่ามัว ราวกับว่ามีเมฆหมอกมาบดบัง เธอกะพริบตาและปลอบใจตัวเอง ถังโจวโจว มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ทุกอย่างก็แค่กลับไปเป็นเหมือนแต่ก่อน เขาจะกลับไปอยู่กับใครก็ช่างเขา ฉันไม่สนใจ ฉันไม่สนใจ…
ลั่วเซ่าเชินได้ยินถังโจวโจวพึมพำอะไรบางอย่าง แต่เสียงมันเบามาก เขาฟังไม่ถนัด “โจวโจว คุณพูดอะไรเหรอ ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า” ลั่วเซ่าเชินกังวลว่าเด็กในท้องจะก่อกวนเธอ
ถังโจวโจวส่ายหน้า เสียงพูดค่อนข้างต่ำ “เปล่าค่ะ ฉันไม่ได้เป็นอะไร แค่หิวน่ะค่ะ”
ลั่วเซ่าเชินคิดได้ในทันที ตอนนี้ถังโจวโจวอุ้มท้องอยู่ เธอจึงหิวเร็วขึ้นกว่าเดิม “รอเดี๋ยวนะโจวโจว เดี๋ยวอาหารก็มาแล้ว”
ฟังหยวนรู้ว่าความจริงไม่ใช่เพราะเหตุผลนั้น เรื่องนี้เขาเป็นคนก่อขึ้นมาเองทั้งหมด แต่เขาไม่สามารถปลอบเธอได้ เขาได้แต่ย้ำเตือนอยู่ในใจว่าสิ่งที่เขาทำในตอนนี้ก็เพราะเขาหวังดีต่อถังโจวโจว ขอแค่ถังโจวโจวตายใจ เขาถึงจะให้วันพรุ่งนี้ที่ดีกว่ากับเธอได้
แต่ฟังหยวนไม่ทันได้คิดว่า วันพรุ่งนี้ที่เขาจะให้ถังโจวโจว เธอต้องการมันไหม มันเป็นเพียงแค่จินตนาการของเขาเพียงคนเดียว
หันฮุ่ยซินเห็นว่าพอถังโจวโจวเอ่ยปากบอกว่าหิว ลั่วเซ่าเชินก็แสดงอาการเป็นห่วงอย่างมากขึ้นมาทันที เธอรู้สึกอิจฉาตาร้อนเหลือเกิน “โจวโจว ทำไมถึงหิวไวนักล่ะ? อาเชิน ฉันจะเรียกพนักงานมาเร่งให้นะคะ”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันทนไหว” ความจริงแล้วนี่เป็นเพียงข้ออ้าง ถังโจวโจวไม่อยากให้หันฮุ่ยซินหลอกใช้ชื่อของเธอเพื่อเอาหน้ากับลั่วเซ่าเชิน
“คุณจะทำแบบนั้นได้ยังไง คุณทนได้แต่ลูกทนไม่ได้นะ ผมจะไปคุยกับพนักงานก่อน” ลั่วเซ่าเชินทำท่าจะลุก ถังโจวโจวจับมือเขาไว้
พวกเขามองหน้ากันยังไม่ทันได้พูดอะไร อยู่ๆ ก็มีน้ำเสียงเจือแววสงสัยดังขึ้นมาจากอีกฝั่ง “โจวโจว คุณท้องเหรอ” ฟังหยวนเป็นคนถามคำถามนั้น ส่วนหันฮุ่ยซินก็แสดงออกทางสีหน้าได้ชัดเจนว่าเธอกังวล เธอจ้องมองไปที่ท้องของถังโจวโจวราวกับว่าเห็นของแสลงอย่างไรอย่างนั้น
สิ่งที่เธอคิดอยู่เต็มหัวสมองในตอนนี้ก็คือ ถังโจวโจวท้อง ถังโจวโจวท้องแล้ว! หันฮุ่ยซินรู้สึกราวกับว่ามีสายฟ้าฟาดลงมากลางศีรษะของเธอ เมื่อเธอมองไปที่ใบหน้าของลั่วเซ่าเชิน แววตาของเขาเต็มไปด้วยความคาดหวัง ยิ่งเห็นได้ชัดเลยว่าพวกเขาสองคนต่างก็ตั้งหน้าตั้งตารอเด็กคนนี้
“ค่ะ สองเดือนแล้ว” ถังโจวโจวลูบหน้าท้องของเธอ สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความอ่อนโยนของคุณแม่ ในขณะที่ลั่วเซ่าเชินก็นั่งดูแลเธออยู่ข้างๆ ทันใดนั้นฟังหยวนก็รู้สึกว่าฉากตรงหน้านี้มันขวางหูขวางตาอย่างมาก
“ยินดีด้วยนะโจวโจว!” ฟังหยวนยิ้มอย่างจริงใจ แม้ว่าเขาอยากจะทำทุกวิถีทางเพื่อทำให้ถังโจวโจวกลายมาเป็นผู้หญิงของเขา แต่เขาจะไม่ทำอะไรที่เป็นภัยต่อถังโจวโจวเด็ดขาด ตอนนี้เขาแค่รอผสมโรงเท่านั้น
แต่หันฮุ่ยซินไม่อาจแสดงความยินดีได้อย่างฟังหยวน เธอพยายามฝืนยิ้มออกมา เห็นได้ชัดว่าเธอยังไม่หายตกตะลึงกับข่าวที่เพิ่งได้รับ เธอนิ่งเงียบไป
ลั่วเซ่าเชินไม่ได้สังเกตเห็นความผิดปกติจากเธอ เขาสนใจที่ฟังหยวนสามารถพูดแสดงความยินดีออกมาได้อย่างง่ายดายมากกว่า ถ้าเขาตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับฟังหยวน เขาคงไม่สามารถทำอย่างนี้ได้แน่ “อาหยวน พอลูกฉันคลอด นายก็มาเป็นพ่อบุญธรรมได้นะ”
ลั่วเซ่าเชินแค่อยากเตือนฟังหยวนว่าห้ามคิดเหลวไหลกับถังโจวโจวอีก ตอนนี้พวกเขามีลูกด้วยกันแล้ว ฉะนั้นไม่จำเป็นต้องสร้างเรื่องอะไรขึ้นมาอีก
“ได้สิ! ด้วยความยินดี” ฟังหยวนไม่ลังเลเลยสักนิด ถ้าลั่วเซ่าเชินดีกับถังโจวโจว เขาก็จะยอมวางมือ แต่ถ้าวันใดที่ถังโจวโจวเสียใจ เขาจะไม่ปล่อยเธอไปอีกแน่นอน ไม่มีวัน!
พนักงานเสิร์ฟยกอาหารที่ทั้งสี่คนสั่งเอาไว้ออกมาพอดี และบนโต๊ะก็มีแต่เสียงเคี้ยวเบาๆ ชั่วขณะ
หลังจบมื้ออาหาร พวกเขาก็ออกมาจากร้าน ทั้งสี่คนมาถึงลานจอดรถ ฟังหยวนเอ่ยถาม “อาเชิน พวกนายไปต่อใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นฉันกับฮุ่ยซินขอตัวกลับก่อนนะ”
หลังจากแยกกัน ลั่วเซ่าเชินและถังโจวโจวก็ไปดูหนังตามแผนเดิม เมื่อพวกเขาไปถึง หนังก็ใกล้จะฉายในอีกยี่สิบนาที
ลั่วเซ่าเชินอยากจะพาถังโจวโจวเข้าไปเลย แต่ถังโจวโจวกลับเหลือบมองไปด้านข้าง เธอพูดกับลั่วเซ่าเชินว่า “คุณรอเดี๋ยวนะคะ ฉันขอไปซื้อป๊อปคอร์นกับโค้กก่อน”
ลั่วเซ่าเชินดึงแขนเธอไว้ “คุณยืนอยู่นี่แหละ เดี๋ยวผมไปซื้อเอง” ถังโจวโจวยืนรออยู่ที่เดิม มองดูลั่วเซ่าเชินแออัดอยู่ในฝูงชน เขาถือป๊อปคอร์นถังใหญ่มาด้วยความลำบาก จากนั้นก็ถือโค้กมาหนึ่งแก้ว ส่วนอีกแก้วดูเหมือนว่าจะเป็นชานม
“ฉันพูดว่าโค้กไม่ใช่เหรอ ทำไมคุณถึงซื้อชานมมาล่ะคะ” ถังโจวโจวเห็นลั่วเซ่าเชินยื่นแก้วชานมมาให้เธอ แต่สายตาของเธอมองโค้กที่อยู่ในมือเขา เธออยากจะเปลี่ยนกับมันเหลือเกิน
ลั่วเซ่าเชินถือของด้วยมือเดียว มืออีกข้างก็โอบเอวพาเธอเดินเข้าไปข้างใน “คุณท้องอยู่ ไม่ควรดื่มน้ำอัดลม มันไม่ดีต่อสุขภาพ”
ถังโจวโจวรู้ดีในเรื่องนั้น แต่เธอก็อดถามออกมาไม่ได้ “แต่นี่เรามาดูหนังกันไม่ใช่หรือไงคะ ดื่มชานมก็หมดสนุกน่ะสิ”
เมื่อเธอถามคำถามนี้ออกมา เธอก็ได้เห็นลั่วเซ่าเชินเหลือกตาอย่างเหนื่อยหน่าย “มาดูหนังก็ต้องดื่มโค้กเพื่อเพิ่มอรรถรสในการดูด้วยเหรอ นี่คุณล้อผมเล่นอยู่หรือเปล่า” ถังโจวโจวรู้สึกว่าเธอได้รับแววตาดูถูกอย่างร้ายแรงจากเขา เธอไม่พอใจอย่างมาก
“คุณดูคนอื่นสิคะ มีใครเขาถือแก้วชานมแบบฉันบ้าง เซ่าเชิน คุณมาดูหนังกับฉันครั้งแรก คุณก็ตามใจฉันหน่อยไม่ได้หรือไง”
อันที่จริงถังโจวโจวก็ไม่ได้ต้องการดื่มมันมากขนาดนั้น แต่เหมือนกับว่าเธอกำลังตั้งแง่กับลั่วเซ่าเชิน ยิ่งเขาห้าม เธอก็ยิ่งอยากดื่ม
“โอเค ผมจะให้คุณดื่มแก้อยากอึกหนึ่ง” ลั่วเซ่าเชินรู้สึกว่าปัญหานี้แก้ไขได้ง่ายมาก เธออยากดื่มนักใช่ไหม จะดื่มแค่อึกเดียวหรือดื่มแก้วหนึ่งก็เรียกว่าดื่มเหมือนกันนั่นแหละ
ถังโจวโจวรู้สึกว่าลั่วเซ่าเชินเจ้าเล่ห์ขึ้นเรื่อยๆ “เซ่าเชิน คุณทำแบบนี้กับฉันได้ยังไง”
“คุณไม่อยากดื่มแล้วหรือ ถ้าอย่างนั้นก็ดี เรากลับกันเลยดีกว่า จะได้ไม่ต้องดื่มโค้กเพื่อเพิ่มอรรถรส” ลั่วเซ่าเชินไม่ได้หลอก เขาหันหลังเตรียมจะกลับจริงๆ
ถังโจวโจวรีบฉุดเขาเอาไว้ “อ๊ะ! ไม่เอาค่ะ ฉันล้อเล่น เซ่าเชิน อึกเดียวก็อึกเดียวสิ จริงๆ เลย พูดเล่นนิดหน่อยก็ไม่ได้” ถังโจวโจวดันเขากลับเข้าไปข้างใน ถ้ายังไม่ไปตอนนี้ หนังจะเริ่มฉายแล้ว
กว่าลั่วเซ่าเชินจะมาดูหนังกับเธอได้ เธอต้องทะนุถนอมช่วงเวลาแบบนี้ให้มาก เพราะเธอไม่รู้ว่าโอกาสครั้งต่อไปจะมาเมื่อไร
ลั่วเซ่าเชินยังไม่ยอมให้จบง่ายๆ “โจวโจว เมื่อครู่นี้ผมไม่คิดว่าคุณล้อเล่นนะ”
“โอเคค่ะๆ ยกโทษให้ฉันนะคะ พอใจแล้วนะ ถ้าเรายังไม่เข้าไป หนังจะฉายแล้วนะคะ” ถังโจวโจวร้อนใจเมื่อเห็นว่าคนที่ยืนรอเริ่มลดน้อยลงเรื่อยๆ รู้อย่างนี้เธอไม่ยืนเถียงเพื่อโค้กอึกเดียวกับเขาอยู่ได้ตั้งนานหรอก
หลังจากตรวจตั๋วเรียบร้อย ถังโจวโจวและลั่วเซ่าเชินก็เข้าไปในโรงภาพยนต์ที่สาม ลั่วเซ่าเชินพาเธอไปหาที่นั่ง ถังโจวโจวเห็นว่าที่นั่งเป็นแบบยาวเชื่อมต่อกัน นี่คงไม่ใช่ที่นั่งคู่รักในตำนานหรอกใช่ไหม?
ถังโจวโจวคิดว่าน่าจะเป็นไปได้ แต่ลั่วเซ่าเชินไม่ได้สนใจเรื่องนั้น เขาแค่ไม่ชอบที่ที่มีคนเยอะเกินไป เขารู้สึกรำคาญ
แต่เมื่อเห็นว่าถังโจวโจวมีความสุขมากขนาดนี้ ทนสักหน่อยจะเป็นไรไป เมื่อพวกเขานั่งลง หนังก็เริ่มฉาย
ช่วงสิบนาทีแรก ลั่วเซ่าเชินรู้สึกได้ว่ามีเสียงอะไรบางอย่างดังอยู่รอบตัวเขา เมื่อมองไปที่ถังโจวโจว จิตใจเธอก็หลุดเข้าไปในหนังแล้ว
ลั่วเซ่าเชินรู้สึกว่าหนังเรื่องนี้น่าเบื่อมาก โชคดีที่ถังโจวโจวสนุกไปกับมัน แล้วลั่วเซ่าเชินก็เห็นว่ามือของเธอจุ่มอยู่ในถังป๊อปคอร์น เธอหยิบมันใส่ปากตลอดอย่างเพลิดเพลิน
เขาทนเห็นถังโจวโจวสุขสบายไม่ได้ เขาแย่งถังป๊อปคอร์นมา ในที่สุดถังโจวโจวก็ถอนสายตาจากภาพยนตร์หันมามองเขา ทั้งสองต่างสื่อสารทางสายตากันอย่างเงียบๆ
‘คุณจะทำอะไร?’
‘ไม่ได้ทำอะไรนี่’
‘คืนป๊อปคอร์นมาให้ฉันเดี๋ยวนี้’ ถังโจวโจวยื่นมือออกไปหมายจะแย่งมันกลับมาคืนมา แต่เธอเร็วเท่าลั่วเซ่าเชินที่ไหน เขาเหยียดมือไปด้านข้าง ถังโจวโจวถอนหายใจให้กับแขนที่สั้นเกินไปของตัวเอง เธอคว้ามันไม่ถึง
พวกเขาทำตัวเหมือนเด็กๆ ที่ทะเลาะกันเพราะแย่งของเล่น ถังโจวโจวและลั่วเซ่าเชินไม่ได้เสียงดัง ดังนั้นจึงไม่ได้รบกวนจนดึงดูดความสนใจจากคนรอบข้าง
ถังโจวโจวแย่งอยู่สักพักแต่ก็ไร้ประโยชน์ เธอจึงยอมแพ้ในที่สุด “อยากได้นักก็เอาไปเลย” เสียงพูดของเธอเบามาก มีแต่ลั่วเซ่าเชินเท่านั้นที่ได้ยิน
ลั่วเซ่าเชินเห็นว่าเธอไม่ยื้อแย่งอีกต่อไป เขาก็แน่นิ่งพลางก้มมองดูถังป๊อปคอร์นที่อยู่ตรงหน้า เขาไม่ชอบกินของแบบนี้อยู่แล้ว เขาแค่อยากแกล้งถังโจวโจวเท่านั้น แต่ตอนนี้เธอไม่เล่นกับเขาแล้ว เขาก็หมดสนุก เขาวางถังป๊อปคอร์นคืนไว้ในอ้อมแขนของถังโจวโจวอีกครั้ง
ถังโจวโจวหมดคำจะพูดเกี่ยวกับพฤติกรรมของเขา ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงได้ทำตัวเป็นเด็กๆ อย่างนี้นะ แต่เธอก็ไม่ได้พร่ำบ่นอะไร และนั่งดูหนังต่อไป
เพื่อป้องกันไม่ให้ลั่วเซ่าเชินทำนิสัยเสียใส่เธออีก เมื่อถังโจวโจวหยิบป๊อปคอร์นสองชิ้นใส่ปากตัวเอง เธอก็จะหยิบป๊อปคอร์นสองชิ้นใส่ปากลั่วเซ่าเชินเหมือนกัน ลั่วเซ่าเชินที่ไม่ชอบกินของจำพวกนี้ ไม่รู้ทำไมเมื่อเขาเห็นถังโจวโจวส่งมา เขาก็อ้าปากรับโดยไม่ปฏิเสธเธอ
พวกเขาแบ่งป๊อปคอร์นกันไป ในที่สุดลั่วเซ่าเชินก็เริ่มมีความรู้สึกร่วมกับตัวละครในหนังแล้ว
เมื่อดูมาถึงครึ่งเรื่อง หนังก็เข้าสู่ช่วงจุดสำคัญ คราวนี้ถังโจวโจวพบว่ามีเสียงแปลกๆ ดังขึ้นรอบตัวเธอ แต่เธอไม่รู้ว่ามันคือเสียงอะไร ดังนั้น เธอจึงหันมองไปรอบๆ แล้วเธอก็เข้าใจในทันที
คู่รักที่อยู่ข้างๆ เริ่มจูบกันแล้ว ทันใดนั้นถังโจวโจวก็เข้าใจความหมายของการมีอยู่ของเก้าอี้คู่รัก ลั่วเซ่าเชินเองก็รู้ จู่ๆ เธอก็รู้สึกดีใจที่รอบด้านมืดสนิท มิฉะนั้นเขาต้องเห็นแน่ๆ ว่าหน้าของเธอแดงขนาดไหน!
← ตอนก่อน