“ระวังตัวด้วย”

ในตอนนี้ ชิงหลวนมีสีหน้าที่จริงจังขึ้นมา “ที่นี่คือที่ราบโกลาหล มีโจรปีศาจมากมายที่รวมตัวกันอยู่ที่นี่ เป็นเหมือนกับกองโจรในจักรวาล หากพบกับพวกมันเข้า อาจจะถูกสังหารและปล้นชิงทรัพย์สมบัติได้”

เธอมองออกไปรอบๆอย่างระแวดระวัง ดูเหมือนว่าจะตรวจจับได้ว่ารอบๆเต็มไปด้วยศัตรูมากมาย หากไม่ระวังตัว อาจจะเผชิญหน้ากับศัตรูเหล่านี้ได้

เพราะว่าภารกิจจำนวนหนึ่งของวัดปีศาจก่อนหน้านี้ เธอและทู่หลิงหลงก็ได้เข้ามาในโลกปีศาจหลายครั้ง ดังนั้นพวกเธอจึงคุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้เป็นอย่างดี รู้อย่างทะลุปรุโปร่ง รู้ว่าสถานที่ใดอันตราย สถานที่ใดปลอดภัย

“กองโจร? ดูเหมือนว่าโลกปีศาจจะไม่ได้สงบสุขอย่างที่คิด มีภัยอันตรายรอบทิศ”

เซี่ยปิงก็เผยสายตาที่เป็นประกาย

“นี่ก็เป็นเรื่องที่ปกติมาก”

ชิงหลวนก็พูดออกมาอย่างเคร่งขรึม “เผ่าพันธุ์มนุษย์มีเพียงแค่เผ่าพันธุ์เดียว ทว่าก็แยกออกมาเป็นอาณาจักรนับไม่ถ้วน ในอาณาจักรก็ยังมีกลุ่มอิทธิพลอีกนับไม่ถ้วนเช่นกัน แต่ละฝ่ายก็มีจุดยืนที่แตกต่างกัน บางครั้งก็ต่อสู้ซึ่งกันและกันหรือแม้กระทั่งทำสงครามต่อกัน”

“ถึงแม้ว่าโลกปีศาจจะถือว่าเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าพันธุ์ปีศาจ ทว่ามันกลับรวมตระกูลนับไม่ถ้วนไว้ เพียงแค่ภายในตระกูลนั้นๆก็มีความขัดแย้งกันแล้ว ไม่ต้องพูดถึงการที่โลกแห่งนี้มีตระกูลดำรงอยู่นับไม่ถ้วน ดังนั้นความขัดแย้งจึงมีมากมายนับไม่ถ้วนเช่นกัน”

“เจ้าช่วยอธิบายรายละเอียดอื่นๆเกี่ยวกับโลกปีศาจได้หรือไม่?”

เซี่ยปิงก็ต้องการที่จะทำความเข้าใจรายละเอียดของโลกปีศาจมากขึ้น เขามีความสนใจในสถานที่แห่งนี้มาก

“โลกปีศาจมีพื้นที่ที่กว้างใหญ่ มีพื้นที่ที่ใหญ่ยิ่งกว่าอาณาเขตดวงดาวกว่าหลายหมื่นแห่งรวมกันเสียอีก อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าจะมีพื้นที่กว้างใหญ่อย่างมาก ทว่าประชากรของเผ่าพันธุ์ปีศาจก็มีมากมายเช่นกัน เกือบที่จะครอบครองพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์ส่วนใหญ่และครอบครองทรัพยากรหลักของที่นี่”

ชิงหลวนพูดออกมา “ในโลกแห่งนี้ พวกปีศาจจะยึดตำแหน่งตามเมืองเป็นหลัก เทียบเท่าได้กับอาณาจักรของมนุษย์ อีกทั้งก็มักที่จะเกิดสงครามระหว่างเมืองขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นการแย่งชิงทรัพยากร แย่งชิงอาณาเขตหรือว่าปัจจัยอื่นๆ”

“เมืองปีศาจเหล่านี้บางส่วนก็ถูกปกครองโดยตระกูลเดียว บางส่วนก็ถูกปกครองโดยตระกูลจำนวนหนึ่งที่ต้องการอาศัยอยู่ร่วมกัน เป็นดั่งพันธมิตร สรุปสั้นๆก็คือสถานการณ์ของที่นี่เป็นเหมือนกับยุคสงครามแว่นแคว้นของเผ่าพันธุ์มนุษย์ ปฏิเสธที่จะยอมรับกันและกัน ดังนั้นจึงยังไม่มีจ้าวเหนือหัวที่ปกครองเผ่าพันธุ์ปีศาจทั้งหมดน”

“เป็นอย่างนี้นี่เอง”

เซี่ยปิงก็บ่งบอกว่าตนเองเข้าใจ

“ทว่าเรื่องเหล่านี้ในโลกปีศาจก็ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับพวกเรา พวกเราไม่ต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับความขัดแย้งที่ซับซ้อนเหล่านี้ ภารกิจหลักของพวกเราคือการครอบครองแมลงหลุมดำ เมื่อใดที่ทำสัญญากับพวกมันได้สำเร็จ ก็สามารถเดินทางออกไปจากโลกปีศาจได้ทันที”

ชิงหลวนก็พูดอย่างต่อเนื่อง “ในตอนนี้ พวกเรายังไม่รู้ตำแหน่งที่แน่นอนของแมลงหลุมดำ ดังนั้นจำเป็นที่จะต้องเข้าไปสืบหาข่าวการกำเนิดของแมลงหลุมดำในเมืองมรกตที่อยู่ใกล้ๆนี้”

“เมื่อใดที่แมลงหลุมดำปรากฏขึ้นมา กลุ่มของปีศาจจะต้องเคลื่อนไหว จะต้องเกิดความโกลาหลขึ้น โลกปีศาจจะสั่นสะท้าน คาดการณ์ได้ว่าเมืองมรกตจะเป็นเมืองของเผ่าพันธุ์ปีศาจเมืองแรกที่ได้รับข่าวมา ทว่าพวกเราก็สามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้ในการตามหาแมลงหลุมดำ”

เธอบ่งบอกถึงแผนการของตนเอง ต้องการที่จะเข้าไปในเมืองมรกตเพื่อรอให้ถึงเวลาที่แมลงหลุมดำถือกำเนิดขึ้นมา

“เข้าไปที่เมืองมรกต? พวกเราไม่ได้เป็นผู้อยู่อาศัยที่ถูกต้องตามกฎหมายของโลกแห่งนี้ การที่เข้าไปในเมืองนั้น จะไม่เกิดปัญหาขึ้นหรือ พวกเขาจะไม่ตรวจสอบสถานะของพวกเราหรือ?” เซี่ยปิงเป็นกังวลเกี่ยวกับจุดๆนี้

ชิงหลวนก็กวักมือ “อันที่จริงนี่ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องกังวล โลกปีศาจและโลกมนุษย์นั้นแตกต่างกัน ระยะเวลาและสถานที่เกิดก็แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง การที่คิดจะระบุสถานะของปีศาจแต่ละตัวนั้นเป็นเรื่องที่ยากอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ เป็นเรื่องที่ยุ่งยากซับซ้อนเกินไป”

“ดังนั้นในโลกปีศาจ จะไม่มีการลงทะเบียนประจำตัวใดๆทั้งสิ้น เรียกได้ว่าปีศาจทั้งหมดก็อาศัยอยู่อย่างคนต่างด้าว ตราบใดที่เจ้าไม่เปิดเผยสถานะมนุษย์ของตนเอง มันก็จะไม่มีปัญหาใดๆ”

“เพราะว่าถึงอย่างไรที่นี่ก็คือโลกปีศาจ ในโลกปีศาจแห่งนี้ไม่มีมนุษย์อยู่ สำหรับพวกมัน เจ้าคือสัตว์ที่ล้ำค่าและหายาก บางทีเมื่อใดที่เปิดเผยสถานะของตนเองออกไป อาจจะถูกโจมตีจากรอบด้านได้”

เธอต้องการให้เซี่ยปิงปกปิดสถานะของตนเอง อย่าเปิดเผยว่าตนเองเป็นมนุษย์เด็ดขาด

“นี่เป็นเรื่องที่ง่ายมาก”

เซี่ยปิงเอามือเท้าคาง ทันใดนั้นก็ใช้หน้ากากไร้ตัวตน เปลี่ยนรูปร่างของตนเอง อันดับแรกส่วนสูงของเขาเพิ่มขึ้นมากว่าสิบเซนติเมตร ร่างกายมีกล้ามเนื้อที่กำยำมากขึ้น จากนั้นศีรษะของเขาก็มีเขางอกออกมา บนใบหน้าก็มีลวดลายสีทองดำที่แปลกประหลาดปรากฏขึ้นมามากมาย รูปลักษณ์หน้าตาก็เปลี่ยนไป ดูหล่อเหลาขึ้นมาแบบปีศาจ ร่างกายเต็มเปี่ยมไปด้วยออร่าเปลวไฟ

“หลังจากนี้ข้าจะมีชื่อว่าอู๋ไท่โต่วแห่งตระกูลอีกาทองคำ อย่าเรียกชื่อเก่าของข้าเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นสถานะของข้าจะถูกเปิดเผยออกไป”

เซี่ยปิงยิ้มออกมาเล็กน้อย มองไปที่ชิงหลวนและทู่หลิงหลงทั้งสองคน

“นี่มัน!”

ชิงหลวนก็มองดูด้วยสีหน้าที่ตกตะลึง ถึงแม้ว่าเธอจะบอกให้เซี่ยปิงเปลี่ยนสถานะของตนเอง ทว่าเธอก็ไม่คาดคิดว่าจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงเช่นนี้ ตอนนี้เจ้านี่ได้กลายเป็นปีศาจตั้งแต่หัวจรดเท้า

และก็ไม่ใช่เพียงแค่รูปลักษณ์เท่านั้นที่เปลี่ยนไป แม้แต่ออร่าก็เปลี่ยนไปเช่นกัน

หากเธอไม่ได้รู้จักกับเซี่ยปิงและยืนอยู่ข้างกายเขา บางทีเธอก็อาจจะไม่รู้ว่าเจ้าอู๋ไท่โต่วในตอนนี้เป็นคนเดียวกับเจ้าเซี่ยปิง ช่างไม่สามารถจินตนาการได้

“แม่เจ้า เซี่ยปิง ทักษะในการเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ของเจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก ไม่สามารถมองเห็นจุดบกพร่องได้แม้แต่น้อย อันที่จริงเจ้าฝึกฝนทักษะนี้จนลึกซึ้งถึงขั้นไหนกัน?”

ทู่หลิงหลงรู้สึกประหลาดใจ

“สุภาพ สุภาพเกินไป นี่เป็นเพียงแค่พรสวรรค์เล็กๆน้อยๆเท่านั้น”

เซี่ยปิงพูดออกมาอย่างอ่อนน้อมถ่อมตน

“พรสวรรค์เล็กๆน้อยๆ? ข้ามองว่าเจ้าทำเรื่องที่เลวร้ายมามากเกินไป ดังนั้นจึงถูกบีบบังคับให้ต้องฝึกฝนทักษะนี้อยู่ตลอดเวลา เปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์และสถานะของตนเองอย่างต่อเนื่อง เกรงกลัวว่าคนอื่นๆจะค้นพบตัวตนที่แท้จริงและเข้ามาสร้างปัญหาให้กับเจ้า”

ทู่หลิงหลงก็คิดว่าด้วยทักษะการเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ที่สุดยอดของเจ้ามนุษย์บัดซบคนนี้ มันต้องเป็นเพราะเจ้ามนุษย์นี่ได้ก่อเรื่องมานับไม่ถ้วนอย่างแน่นอน ได้ฝึกฝนทักษะการปลอมตัวอยู่ตลอดเวลา ไม่อย่างนั้นเป็นไปได้อย่างไรที่จะเชี่ยวชาญจนถึงขั้นนี้ ไม่ได้มีจุดบกพร่องแม้แต่น้อย

เธอก็จดจำได้ว่าหลายครั้งที่ผ่านมา เจ้ามนุษย์อันธพาลนี่ก็ได้เปลี่ยนตนเองกลายเป็นรูปลักษณ์อื่นๆ ทำการปรักปรำใส่ร้ายผู้อื่น ไม่รู้ว่าก่อให้เกิดภัยพิบัติมามากแค่ไหน

บอกตามตรง เธอคิดว่าสถานะอู๋ตี่นี่ หากถูกเปิดเผยออกไป เจ้ามนุษย์อันธพาลนี่จะต้องกลายเป็นศัตรูสาธารณะของจักรวาลอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะหลบหนีไปที่ใดก็ต้องเผชิญกับการไล่ล่า

“อย่าจุ้นจ้าน”

เซี่ยปิงก็มีสีหน้าที่เคร่งขรึมขึ้นมา จากนั้นก็นำมือเคาะศีรษะของทู่หลิงหลง

“อ๊าก”

ทู่หลิงหลงก็โมโหจนเจียนตาย แยกเขี้ยวออกมา เอามือปิดศีรษะของตนเองไว้เพราะความเจ็บปวด ปรารถนาที่จะกัดเจ้าบัดซบนี่

“เอาล่ะ อย่ามัวแต่ทะเลากันที่นี่ พวกเรารีบเดินทางไปที่เมืองมรกตกันเถอะ ใกล้ที่จะมืดค่ำแล้ว เมื่อถึงเวลานั้น ไม่รู้ว่าจะพบกับโจรปีศาจที่ยุ่งยากน่ารำคาญหรือไม่”

ชิงหลวนก็พูดห้ามปราบทั้งสอง

“ฮ่าฮ่า ต้องการที่จะเดินทางไปที่เมืองมรกตรึ ไม่จำเป็นหรอก พวกเจ้าควรอยู่ที่นี่อย่างเชื่อฟัง อยู่ร่วมกินดื่มกับราชันที่ยิ่งใหญ่ผู้นี้เถอะ”

ในตอนนี้ เสียงที่ยโสโอหังดังขึ้นมา

จากนั้นระยะที่ห่างออกไปก็มีลมสีเหลืองที่พัดเข้ามา รวดเร็วอย่างถึงที่สุด ทะลวงผ่านห้วงอวกาศ จากนั้นก็ลงเหยียบพื้นตรงหน้าเซี่ยปิงและคนอื่นๆทันที

วินาทีต่อมา พังพอนที่มีความสูงห้าเมตรและสวมใส่ชุดเกราะสีเหลืองก็ได้ปรากฏขึ้นมาต่อหน้าเซี่ยปิงและคนอื่นๆ พลังฉีคลุ้มคลั่งของปีศาจแผ่ออกมาจากร่างกายของมัน มีพลังอำนาจอยู่ในระดับกฎเทวรูปขั้นเริ่มต้น ควบแน่นเทวรูปฟ้าดินได้

ทว่าข้างหลังของมันก็มีลูกน้องพังพอนอีกหลายร้อยตัวที่ติดตามมา อย่างน้อยพวกมันก็มีแกนพลังฉีอยู่ในระดับแกนทอง พลังฉีปีศาทะยานขึ้นท้องฟ้า มองดูเซี่ยปิงและคนอื่นๆเหมือนกับเสือที่จับจ้องเหยื่อ เต็มไปด้วยสีหน้าที่เย้ยหยัน เหมือนกับเป็นแมวที่จับหนูก็ว่าได้

“ไม่นะ!!”

เมื่อเห็นปีศาจเหล่านี้ปรากฏตัวขึ้นมา มีที่ไหนที่ชิงหลวนและทู่หลิงหลงทั้งสองคนจะไม่รู้ว่าตนเองถูกจับจ้องโดยกลุ่มของกองโจรปีศาจแล้ว ตกอยู่ในการห้อมล้อมของศัตรู

พวกเธอก็รู้สึกหดหู่ขึ้นมาทันที เจ้าพังพอนนี่คือราชันปีศาจที่โด่งดังของที่ราบโกลาหลแห่งนี้ ปกครองปีศาจจำนวนนับไม่ถ้วน มีพลังอำนาจที่แข็งแกร่ง มีนิสัยหยิ่งผยองและเผด็จการอย่างมาก

ไม่คาดคิดจริงๆว่าวันนี้พวกเธอจะโชคร้ายยิ่งนัก บังเอิญพบเข้ากับราชันพังพอนของที่ราบโกลาหลแห่งนี้