ตอนที่ 165

Legend of the mythological genes

“อะไรนะ กลายเป็นผู้บ่มเพาะดวงดาวแล้ว?” เมื่อเฟิงหลินได้รับข้อความจากเจ้าอ้วนอีกครั้งเขาก็ตกใจมาก

ยีนพุงพลุ้ย x8 + ยีนกินดื่ม x10 + ยีนหนังหมู x6 = ยีนท้องใหญ่

ยีนพื้นฐานทั้งสามนั้นไม่ใช่ยีนเกรดสูงและถือว่าเป็นยีนพื้นฐานขั้นต่ำ ถึงอย่างงั้นมันก็ยากสำหรับมนุษย์ธรรมดาที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งให้ได้ถึงสามจุดหรือมากกว่านั้น

อย่างไรก็ตามเจ้าอ้วนนี้สามารถทำได้ในหนึ่งวัน เขาใช้เวลาเพียงวันเดียวในการเป็นผู้บ่มเพาะดวงดาว!

ความเร็วนี้เร็วแค่ไหนเมื่อเทียบกับเฟิงหลิน?

เมื่อมนุษย์เปรียบเทียบตัวเองกับมนุษย์คนอื่น พวกเขาจะโกรธจนอยากตาย

เฟิงหลินได้รับความช่วยเหลือจากความสามารถในการสร้างสมการพันธุกรรม และสามารถเสริมสร้างความแข็งแกร่งของยีนของเขาได้อย่างรวดเร็ว แต่ถึงกระนั้นเขาต้องประสบกับความขัดแย้งภายในตระกูล สงครามบนดาวอังคารอันตรายในบริษัทไจแอนท์ก่อนที่เขาจะได้กลายเป็นผู้บ่มเพาะดวงดาวระหว่างดวงดาว เส้นทางของเขาเต็มไปด้วยขวากหนาม

แต่เจ้าอ้วนนี้สำเร็จในวันเดียว

เจ้าอ้วนมีความสามารถมากแค่ไหนกัน?

เฟิงหลินพูดไม่ออก การเป็นผู้บ่มเพาะดวงดาวง่ายขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่? ไม่ มันไร้ประโยชน์ถ้ามีแค่ความสามารถ! พวกเขายังต้องการทรัพยากรการบ่มเพาะจำนวนมากเพื่อสนับสนุนถึงจะทำได้ภายในวันเดียว

ถึงอย่างนั้นเจ้าอ้วนนีก็มีอนาคตที่ไม่ธรรมดา ในเส้นทางการบ่มเพาะของยีนพุงพลุ้ย ความสามารถของเขาไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และมันคงเป็นเรื่องยากสำหรับคนอื่นที่จะคิดค้นสมการทางพันธุกรรมนี่

แม้รู้ว่าอวกาศนั้นกว้างใหญ่ขนาดไหนสิ่งมหัศจรรย์ก็เกิดขึ้นได้เสมอจริงๆ

เฟิงหลินเตือนตัวเองว่าเขาไม่สามารถประมาทใครได้เลย

เขาอาจมีประสบการณ์ที่น่าอัศจรรย์ แต่คนอื่นอาจจะมีเหมือนกัน อัจฉริยะบางคนกำลังรอโอกาส เมื่อโอกาสนั้นมาถึงพวกเขาจะบินขึ้นไปบนฟ้าด้วยการกระโดดเพียงครั้งเดียว!

แม้ว่าเฟิงหลินจะตกตะลึง แต่เพื่อรักษาภาพลักษณ์ เขาพยักหน้านิ่งๆเป็นการตอบ

 

เมื่อเห็นว่าเขาสงบ ความสนุกของเจ้าอ้วนก็ค่อยๆลดลง เขารำพึงอย่างเงียบ ๆ “ สมกับเป็นท่านอาจารย์ ผมคิดว่าจะทำให้ท่านตกใจในการเป็นผู้บ่มเพาะดวงดาวภายในวันเดียว ไม่คาดมาก่อนเลยว่าท่านจะสงบขนาดนี้ อาจเป็นไปได้ว่าท่านเคยเห็นอัจฉริยะการบ่มเพาะมานับไม่ถ้วน ผมไม่มีความหมายอะไรในสายตาของท่าน “

 

ในใจของเจ้าอ้วนยกระดับเฟิงหลินขึ้นอีกครั้ง เขากลายเป็นผู้เชี่ยวชาญสันโดษที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของอวกาศ อย่างไรก็ตาม เขาไม่รู้ว่าหัวใจของท่านอาจารย์หงจุนนี้กำลังสะเทือนด้วยความตกใจ

ก่อนหน้านี้เจ้าอ้วนเป็นเพียงขยะ แต่ตอนนี้เขากลายเป็นผู้บ่มเพาะดวงดาวภายในวันเดียว

 

เจ้าอ้วนระบายความรู้สึกในหัวใจของเขาออกมา “ท่านอาจารย์ท่านไม่เข้าใจผมเกิดมาในตระกูลขุนนางชั้นสูงที่มีชื่อเสียงและเป็นเชื้อสายตรง ลูกชายของหัวหน้าตระกูล อย่างไรก็ตามผมไม่สามารถเป็นผู้บ่มเพาะได้ และคนอื่น ๆ ก็เรียกผมว่าขยะ ผมถูกเยาะเย้ยมาตลอด!

 

“ในตอนแรกผมคิดว่าตัวเองเป็นเหมือนตัวละครขยะในนิยายยุคโบราณ ด้วยการยืนหยัดสะสมความรู้และการสร้างรากฐานผมคิดว่าจะสามารถก้าวกระโดดขึ้นไปยังฝั่งฝันได้ อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาผ่านไปก็พบว่านอกเหนือจากความอ้วนและเงิน ผมมันไม่มีโชคเหมือนตัวละครโบราณเหล่านั้น”

“ผมมีภูมิหลังที่ทรงพลัง แต่ไม่มีความสามารถในการฝึกฝน หลายร้อยปีต่อมา ผมคิดว่าตัวเองจะจมลงไปในพื้นดิน และมันก็ไร้ประโยชน์ไม่ว่าจะมีเงินมากแค่ไหนก็ตาม ผมไม่ต้องการที่จะได้รับพันธุวิศวกรรมและกลายเป็นสัตว์ประหลาดที่มีรูปร่างแปลกๆ แต่ใครจะจินตนาการได้ว่าผมจู้ เทียนกังจะกลายเป็นผู้บ่มเพาะดวงดาวได้จริงๆ! ฮ่าฮ่าฮ่า .. “

 

รู้สึกว่าในหัวใจของเขามีแต่ความคิดลบๆ เนื่องจากความอัปยศและการถูกเยาะเย้ยที่เขาต้องทนทุกข์ทรมานในขณะนี้เจ้าอ้วนกำลังระบายอารมณ์ของเขาออกมา เขาหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง

เฟิงหลินฟังเงียบๆ เขาเข้าใจอารมณ์ของเจ้าอ้วนนี้ดี

อย่างไรก็ตามเขาไม่เพียงฟัง เขามีความตั้งใจอื่น

มังกรไม่ได้ปะปนกับงู

แม้ว่าเจ้าอ้วนจะมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียด แต่ก็เป็นความจริงที่ว่าพรสวรรค์ของเขานั้นไม่ธรรมดาและเขาก็มาจากตระกูลขุนนางชั้นสูงที่โด่งดัง เขามีศักยภาพที่ยอดเยี่ยม

แม้ว่าเขาเคยถูกมองว่าเป็นขยะในอดีต แต่หลังจากที่เขาได้รับเส้นทางการบ่มเพาะ เขาก็ใช้เวลาเพียงวันเดียวในการเป็นผู้บ่มเพาะดวงดาว

สี่สิ่งที่ต้องมีในการบ่มเพาะ…ความมั่งคั่ง สหาย กฎหมาย โลก…เจ้าอ้วนนี่ขาดเพียง ‘กฎหมาย’ เท่านั้น!

เมื่อเขาได้รับ ‘กฎหมาย’ เขาจะลอยขึ้นสู่สวรรค์ทันทีและมีอนาคตที่ไร้ขอบเขต

สำหรับเฟิงหลินทุกสิ่งนั้นตรงกันข้าม เขาขาดความมั่งคั่ง สหาย กฎหมาย และโลก อย่างไรก็ตามเนื่องจากความรู้ในตำนานและสมการทางพันธุกรรมของเขาสิ่งที่ขาดน้อยมากที่สุดคือ ‘กฎหมาย’

การเพิ่มลายปักที่สมบูรณ์ลงบนผ้า มันจะมาเทียบกับคนที่ส่งถ่านหินร้อนๆให้ในฤดูหนาวได้ยังไง?

เจ้าอ้วนเป็นผู้มีอิทธิพล มีเงินและมีค่าพอที่เฟิงหลินจะมัดใจเอาไว้

หัวใจของเฟิงหลินตื่นเต้นเขาต้องการดูว่าเขาสามารถสร้างมิตรภาพกับเจ้าอ้วนนี่ได้ไหม หรือแม้กระทั่งทำให้เขาเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาในอนาคตได้

เมื่อเห็นความสงบในใบหน้าของบรรพชนเต๋าหงจุน เจ้าอ้วนก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกประทับใจ

ตามที่คาดหวังจากนักพันธุศาสตร์ลึกลับ เขาไม่แสดงความรู้สึกใดๆทางสีหน้าเลย

ถึงกระนั้นเขาก็ไม่รู้ว่าอาจารย์ตรงหน้าเขามีเจตนาร้าย ฮิ ฮิ ฮิ …

 

“ท่านอาจารย์ ผมกลายเป็นผู้บ่มเพาะดวงดาวแล้ว ผมอยากรู้ว่าผมควรทำอย่างไรต่อไปในเส้นทางการบ่มเพาะในอนาคต ผมสงสัยว่าท่านจะนำทางต่อไปได้ไหม? ผมต้องการสูตรการวิวัฒนาการทางพันธุกรรมมากกว่านี้ เรื่องเหรียญดาราไม่ใช่ปัญหา ถ้า 10 ล้านเหรียญดาวไม่พอ ผมจะให้เป็น 20 ล้านเหรียญดารา ถ้ายังไม่ … ” หลังจากกลายเป็นผู้บ่มเพาะดวงดาว เจ้าอ้วนก็ไม่สามารถควบคุมความอดทนของเขาได้ เขาต้องการที่จะพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ กลิ่นอายความร่ำรวยของเขาพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆจนเกือบทะลุถึงสวรรค์ …

เขาแค่พยายามจะเอาเงินฟาดหน้าเฟิงหลิน ไม่ว่าเฟิงหลินจะสงบแค่ไหน เขาก็อดไม่ได้ที่จะตื่นเต้น เขาอ้าปากเตรียมที่จะยอมรับ

แต่ทว่า บางอย่างบอกนัยว่าให้เขาใจเย็น หลังจากคิดสักครู่ เขาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง

ภาพของเขาคือของบรรพชนเต๋าหงจุน โดยธรรมชาติเขาต้องให้ความรู้สึกถึงการไม่มีตัวตนในฐานะบุคคลที่สูงส่ง เขาจะแสดงความไม่ยับยั้งชั่งใจได้ยังไง?ถ้าเขาตกลงตอนนี้ ภาพลักษณ์ของเขาจะเสียหายและไม่น่าสงสัยหรอ?มันจะเป็นอันตรายอย่างมากต่อแผนการในอนาคตของเขา

ด้วยความกระหายของเจ้าอ้วน เขาอาจได้รับสิ่งที่น่าประหลาดใจมากกว่านี้ ถ้าเขารู้จักยับยั้งชั่งใจก่อน

ด้วยการที่มีสิ่งที่เจ้าอ้วนต้องการอยู่ในมือ เฟิงหลินจึงไม่ต้องกังวลอะไรเลย เจ้าอ้วนสามารถทำทุกอย่างได้เพื่อสิ่งที่ต้องการ แต่เขาจะไม่สามารถหลุดออกจากกำมือของเฟิงหลินได้

 

“ ไม่ต้องรีบร้อน” เฟิงหลินส่ายหัวเบาๆ รอยยิ้มลึกลับปรากฏบนใบหน้าของเขา

การฉายภาพของเขาเริ่มจางหายไป

“ท่านอาจารย์หงจุน อย่าทำอย่างนี้กับผม ผมมีเงินมากมายตราบใดที่ท่านบอกสูตรพันธุกรรมให้ ผมยินดีจ่ายให้ท่านเท่าที่ท่านต้องการ ถ้า 20 ล้านยังไม่พอแล้ว 50 ล้านล่ะหรือถ้ายังไม่พอประมาณ 100 ล้านเป็นยังไงครับ!”เจ้าอ้วนรีบพูด

 

อย่างไรก็ตาม ภาพฉายของเฟิงหลินหายไปแล้ว เขาออฟไลน์ไปแล้วมั นไร้ประโยชน์ไม่ว่าเจ้าอ้วนจะพูดดังแค่ไหน

ขณะที่เฟิงหลินออฟไลน์ เขาก็จับหน้าอก รู้สึกเจ็บปวดในใจ

เพื่อให้ดูลึกลับ เขายอมแพ้ต่อโอกาสที่จะทำเงินได้มหาศาล

เจ้าอ้วนนั้นฟุ่มเฟือยแค่ไหนกัน?

มันน่าประทับใจมากๆที่เขามีเงิน

แล้วหากเจ้าอ้วนนั้นจะให้เขาพันล้านหรือหมื่นล้าน? เจ้าอ้วนคงไม่คิดว่าเขาอยู่ในถ้ำใช่ไหม.??

ไม่ เจ้าอ้วนนี่จะรวยเกินไปแล้ว!

ในความเป็นจริงเฟิงหลินต้องการทำธุรกรรมกับเจ้าอ้วนมาก นั่นคือข้อเสนอ 100 ล้านเหรียญดารา ใครบ้างไม่ที่ต้องการ?

อย่างไรก็ตาม เขาใช้ศักยภาพทางพันธุกรรมหมดแล้ว และไม่สามารถสรุปสูตรพันธุกรรมใหม่ได้ชั่วคราว

เฟิงหลินตัดสินใจไม่เข้าดูฟอรั่มตำนานอีก และมุ่งเน้นไปที่การบ่มเพาะแทน

เขากลืนขวดยาแห่งชีวิตลงไปและใช้เวลาทั้งหมดสองวันในการบ่มเพาะ นอกเหนือจากการกินและนอน เขาใช้เวลาทั้งหมดไปกับการฝึกฝน

ศักยภาพทางพันธุกรรม + 45%, + 46%, + 48% … จนถึง 518%

เฟิงหลินไม่รีบเร่งที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งของเขา เขาใช้ศักยภาพทางพันธุกรรมของเขาเพื่อคิดสูตรพันธุกรรมสำหรับเจ้าอ้วนแทน

เขาไม่ได้เร่งรีบในการเสริมสร้างยีนของตัวเขาเอง

ตอนนี้เป้าหมายเงิน 100 ล้านเหรียญดารานั้นค้างคาในใจเขา ไม่ว่าเขาจะพยายามแค่ไหนก็ไม่สามารถสงบสติได้

อย่างรวดเร็ว ศักยภาพพันธุกรรมของเขาถูกใช้ไป 182% ในการคิดค้นสูตรทางพันธุกรรมใหม่

ยีนท้องใหญ่ x8 + ยีนออร่าปีศาจ x10 + ยีนหมูในครรภ์ X9 = ยีนปีศาจหมู

=====

ยีน: ยีนปีศาจหมู

เกรด: ยีนหลุดพ้นขั้นสูง

ความแข็งแกร่ง: 0

ความสามารถ: ปีศาจหมูในร่างมนุษย์มีความแข็งแรงไร้ขีดจำกัด ความจุในท้องใหญ่สามารถทำลายสวรรค์และโลกได้

=====

ยีนปีศาจหมู?

เฟิงหลินไม่ได้คาดหวังว่ายีนท้องใหญ่จะสามารถพัฒนาเป็นยีนดังกล่าวได้ จากยีนแรกเริ่มขั้นกลางมาเป็นยีนหลุดพ้นขั้นสูงได้

ไม่เพียงพัฒนาแค่ระดับแต่ยังพัฒนาไปเป็นขั้นสูงอีกด้วย

สิ่งที่ทำให้เฟิงหลินประหลาดใจก็คือนี้เป็นเส้นทางการวิวัฒนาที่แปลกประหลาดเช่นเดียวกับเส้นทางในตำนานของซุนหงอคง

เป็นไปได้ไหมที่ยีนปีศาจหมูจะพัฒนาต่อไปอีก …

ลางสังหรณ์ลึกลับปรากฏในหัวใจของเฟิงหลิน เขารู้สึกว่าถ้ายีนปีศาจหมูจะพัฒนาต่อไป ผลลัพธ์อาจจบลงด้วยการเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกันกับเขา

เขาไม่ลังเลและยังคงใช้สมการทางพันธุกรรมเพื่ออนุมานเส้นทางวิวัฒนาการในอนาคต

ในครั้งนี้มีใช้ศักยภาพทางพันธุกรรมรวมทั้งสิ้น 316% และในที่สุดสูตรวิวัฒนาการพันธุกรรมของ ยีนปีศาจหมูก็ปรากฏขึ้น

ยีนปีศาจหมู x10 + ยีนกระบวยสวรรค์ x8 + ยีนเทพตกสวรรค์ x6 = ยีนตือโป้ยก่าย

นี่คือ … ???

เส้นทางในตำนานของตือโป้ยก่าย!