บทที่ 388 ป่วยก็ต้องรักษา ไม่ป่วยก็ต้องกันไว้ก่อน

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่388 ป่วยก็ต้องรักษา ไม่ป่วยก็ต้องกันไว้ก่อน
“ไม่ต้อง ออกไปทั้งหมดเลย”

หมอหลวงคนหนึ่งอธิบายด้วยรอยยิ้มว่า “ท่านอ๋อง คนที่ตั้งครรภ์ มักจะอารมณ์ร้อนบ่อยๆ อาการของพระชายาถือว่าปกติ เดี๋ยวกระหม่อมเอายาที่มีฤทธิ์ทำให้จิตใจสงบเอาให้พระชายากินนะขอรับ”

สีหน้าไม่พอใจของเย่จิ่งหานหายลงไปบ้างเล็กน้อย

เขาส่งสายตา หมอหลวงก็รีบพูดประจบด้วยรอยยิ้มว่า “พระชายา กระหม่อมขอวัดชีพจรเดี๋ยวเดียว ไม่เสียเวลามากหรอกขอรับ ท่าน……”

ทันใดนั้นกู้ชูหน่วนก็กุมท้องอย่างเจ็บปวด ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “โอ๊ย ข้าปวดท้องจัง อาหารเมื่อกี้ไม่สดใหม่หรือเปล่า? ข้าปวดท้องจัง ปวดมากด้วย ถอยออกไป ข้าจะไปเข้าห้องน้ำ”

ว่าแล้ว กู้ชูหน่วนก็ผลักทุกคนออกไป รีบวิ่งออกไปอย่างรีบร้อน

หมอสิบกว่าคนตกตะลึง รีบเดินตามหลังกู้ชูหน่วนเหมือนเงา รอนางเข้าห้องน้ำเสร็จแล้ว กลัวว่านางจะเป็นอะไรไป เทพสงครามจะลงโทษพวกเขาแทน

“นายท่าน เกรงว่าช่วงนี้พระชายานอนกลางดินกินกลางทราย จึงทำให้ท้องไส้ไม่ดี น่าจะไม่เป็นอะไรมากนะขอรับ”

“ชิงเฟิง เจ้าว่าคนที่ท้องสามเดือน ทำไมท้องถึงไม่โตขึ้นเลยล่ะ?”

“คือ……พระชายาผอมเกินไปหรือเปล่าขอรับ?”

เย่จิ่งหานมองไปยังหมอหลวงที่ยืนอยู่ข้างๆสองคน

หมอหลวงเฉินตอบ “ตอบท่านอ๋องขอรับ ปกติสามเดือนท้องก็โตขึ้นแล้วขอรับ ที่ดูไม่ออกว่าพระชายาตั้งครรภ์ คงเป็นเพราะร่างกายอ่อนแอเกินไปขอรับ”

หมอหลวงสวีพูด “ถึงแม้อายุครรภ์สามเดือนกว่าจะเห็นได้ชัดแล้ว แต่ก็มีบางคนที่ดูไม่ออกว่าตั้งครรภ์อยู่ เหนียนกุ้ยเฟยของอดีตฮ่องเต้ตอนที่ตั้งครรภ์สามเดือนกว่า ก็ดูไม่ออกว่ากำลังตั้งครรภ์อยู่ ตอนนั้นยังไม่สบายสักพักใหญ่อยู่เลยขอรับ”

แววตาของเย่จิ่งหานสับสน นัยน์ตาเย็นชาคู่นั้นของเขามืดมนอย่างมาก ทำให้คนมองไม่ออกว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่

ภายในห้องน้ำ

กู้ชูหน่วนควานหาของในแหวนมิติอยู่นาน ก็หาสิ่งที่จะเอามาปลอมเป็นชีพจรคนท้องได้

โทษนางที่พลาดไปเอง มัวแต่ตามหาไข่มุกมังกร จนลืมเรื่องนี้ไปเลย จึงไม่ได้เตรียมยาแบบนี้ไว้ก่อน

กู้ชูหน่วนขนหัวลุกซู่

ทำไมกลับมาก็เจอเรื่องแบบนี้กันนะ?

ตอนนี้จะทำยังไงดี?

ยอมรับว่าตัวเองท้องหลอกๆเหรอ?

ไม่ได้ เดี๋ยวก็ได้ถูกเย่จิ่งหานซ้อมจนตายหรอก

หาข้ออ้างหลบพวกหมอหลวงเหรอ?

ถึงตอนนี้จะหลบได้ ก็หลบไม่ได้ตลอดไปหรอก

ยิ่งไปกว่านั้น……เมื่อกี้สายตาของเย่จิ่งหาน เห็นได้ชัดว่าเขากำลังสงสัยอยู่

บอกว่านางแท้งเหรอ?

ก็ไม่ได้เหมือนกัน หมอหลวงพวกนั้นไม่ได้โง่เสียหน่อย ชีพจรแค่นี้จะดูไม่ออกได้ยังไง

“พระชายา ท่านเสร็จหรือยังเจ้าคะ?”

“ใกล้แล้วๆ อย่าเสียงดังสิ”

“พระชายา ท่านอยู่ในนั้นนานเกินไปแล้วนะเจ้าคะ รู้สึกไม่สบายตรงไหนหรือเปล่าเจ้าคะ?”

“ข้าสบายดี”

กู้ชูหน่วนตอบด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ พวกข้ารับใช้จึงไม่กล้าพูดอะไรอีก

เย่จิ่งหานเดินเข้ามา แล้วถามว่า “พระชายายังไม่ออกมาเหรอ?”

“เจ้าค่ะ พระชายาบอกพวกเราว่าอย่าเสียงดังเจ้าค่ะ”

“ข้าจะเข้าไปเอง”

กู้ชูหน่วนที่อยู่ด้านในได้ยินแบบนี้แล้ว ก็เกือบล้มหน้าทิ่ม “ข้าเข้าห้องน้ำเจ้าก็จะเข้ามาเหรอ? เจ้าคิดบ้าอะไรอยู่เนี่ย?”

“เจ้าเป็นภรรยาของข้า จะเลี่ยงสามีของตัวเองทำไมกัน”

เย่จิ่งหานเปิดประตู ก้าวเท้าเข้าไป

กู้ชูหน่วนกัดฟัน ลุกขึ้นออกมาจากหลังฉากกั้น

นางกัดฟันกรอดพูดว่า “ข้าไม่เคยรู้มาก่อนว่าท่านมีความชอบแบบนี้ด้วย”

“ความชอบของข้าบวกกันแล้ว มากแค่ไหนก็ไม่เท่าพระชายาหรอก”

“……”

เจ้าหมอนี่ หมายความว่ายังไงกัน?

ประชดนางเหรอ?

“ในเมื่อพระชายาไม่เป็นไรแล้ว งั้นก็ให้หมอหลวงมาวัดชีพจรเถอะ”

“ข้าบอกแล้วไงว่าไม่เป็นไร ยังจะวัดชีพจรอีกทำไมกัน ข้าง่วงแล้ว หลีกทางไป”

“ป่วยก็ต้องรักษา ไม่ป่วยก็ต้องกันไว้ก่อน นี่เป็นคำพูดที่พระชายาเคยบอกกับข้านะ”