ปะทะจ้าวเฟิง!
ปราณแท้ก่อลักษณ์สรรพสัตว์ของต้วนหลิงเทียนยังทำให้จ้าวเฟิงตกใจนัก ยังยากที่มันเชื่อเรื่องราวนี้ได้
ที่แท้ต้วนหลิงเทียนไม่ใช่สู่เซียนขั้นเชี่ยวชาญ แต่เป็นสู่เซียนขั้นสมบูรณ์แบบ!
ยังไม่พอ
เรื่องที่ทำให้มันยิ่งตกตะลึงมากขึ้นก็คือ สัตว์ปราณที่ต้วนหลิงเทียนสร้างจากปราณแท้ก่อลักษณ์สรรพสัตว์ กลับเป็นมังกรเทพยาดา!
ยิ่งไปกว่านั้นมังกรเทพยาดาของต้วนหลิงเทียน กลับสามารถบดขยี้สัตว์ปราณรวมถึงดาบพลังของมันได้ง่ายดาย!
ต้องทราบด้วยว่าด่านพลังฝึกปรือต่างกัน พลังของสัตว์ปราณและศาสตราปราณย่อมแตกต่างกันด้วย!
ยิ่งมีด่านพลังฝึกปรือมากเท่าไหร่ พลังของทั้ง 2 ยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น!
เช่นนั้นการที่ต้วนหลิงเทียนในด่านพลังฝึกปรือสู่เซียนขั้นสมบูรณ์แบบ สามารถใช้มังกรพลังทำลายพลังมีสภาพทั้ง 2 อย่างของมันได้ ก็หลงเหลือความเป็นไปได้แค่สองประการ!
ประการแรก ต้วนหลิงเทียนไม่ใช่สู่เซียนขั้นสมบูรณ์แบบ!
ประการที่สอง มังกรพลังจากปราณแท้ก่อลักษณ์สรรพสัตว์ของต้วนหลิงเทียนแข็งแกร่งเกินไป นั่นทำให้บดขยี้พลังของมันได้อย่างง่ายดาย!
ใน 2 ประการนั้น จ้าวเฟิงคิดว่าอย่างหลังมีความเป็นไปได้มากกว่า
หากเป็นอย่างแรกไม่ใช่หมายความว่าพลังฝึกปรือของต้วนหลิงเทียน มีความแข็งแกร่งทัดเทียมพลังฝึกปรือของมันหรือไร?
หากพลังฝึกปรือของต้วนหลิงเทียนทัดเทียมกับมัน หมายความว่าอย่างน้อยๆอีกฝ่ายก็ต้องบรรลุสู่เซียนขั้นยิ่งใหญ่ และอาจจะใช้ปราณแท้ก่อเขตแดนได้เช่นกัน!
นี่เป็นอะไรที่มันไม่อยากเห็น!
มาตอนนี้เมื่อเห็นว่าร่างต้วนหลิงเทียนสามารถเคลื่อนไหวได้ด้วยความเร็วสูงล้ำ จนคล้ายไม่ได้รับผลกระทบจากสนามพลังโน้มถ่วงของมันเลย
ใจจ้าวเฟิงอดไม่ได้ที่จะสะท้านในใจ!
หรือต้วนหลิงเทียนมีพลังฝึกปรือไม่ได้ด้อยไปกว่ามันจริงๆ!?
นอกจากเรื่องนี้มันก็ไม่อาจหาคำอธิบายได้เลย ว่าไฉนต้วนหลิงเทียนถึงไม่ได้รับผลกระทบจากสนามพลังโน้มถ่วงของมัน!
“สนามพลังโน้มถ่วงของเจ้า มันก็เท่านั้น!”
ร่างต้วนหลิงเทียนที่วูบฝ่าสนามพลังโน้มถ่วงมาปราดเปรียวคล้ายไร้เรื่องราว ไม่มีเค้าความยากลำบากจนหน้าซีดเป็นกระดาษเหมือนตอนแรกหลงเหลืออยู่เลย!
อันที่จริงมันไม่ใช่ไร้เรื่องราว
สนามพลังโน้มถ่วงของจ้าวเฟิงแข็งแกร่งจริงๆ แข็งแกร่งถึงขั้นยากที่จะมีสู่เซียนขั้นสมบูรณ์แบบทั่วไปสามารถขยับเขยื้อนในเขตแดนนี้ได้ด้วยซ้ำ!
เหตุผลที่ต้วนหลิงเทียนมีทีท่าคล้ายไร้เรื่องราวล้วนเป็นเพราะ ‘ร่างกาย’ ของเขา
ร่างกายของเขาผ่านกระบวนการเปลี่ยนเส้นเอ็นชำระไขกระดูก จนเสมือนเกิดใหม่มาถึง 2 รอบ! โดยเฉพาะตอนที่เจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติชำระร่างเขา นั่นทำให้ร่างเขาแข็งแกร่งเหนือมังกรเทพยาดา 5 กรงเล็บเสียอีก!
ต่อมาร่างกายเขาก็ทรงพลังขึ้นอีกครั้งหลังดูดซับแก่นแท้โลหิตของมังกรมาร
จากที่ผู้เฒ่าหั่วกล่าวบอกเอาไว้ ตอนนี้ร่างกายเขามีความแข็งแกร่งทางกายภาพเหนือกว่า มังกรเทพยาดา 6 กรงเล็บ ไม่สิยังเหนือกว่ามังกรเทพยาดา 7 กรงเล็บด้วยซ้ำที่ด่านพลังฝึกปรือเท่าเทียมกัน!
แน่นอนว่าในดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋า ไม่มีมังกรเทพยาดา 6-7 กรงเล็บอาศัยอยู่
ในดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋า มังกรเทพยาดา 5 กรงเล็บคือระดับชั้นที่สูงที่สุดของเผ่าพันธุ์มังกรแล้ว!
ด้วยเหตุนี้พอต้วนหลิงเทียนปรับตัวเข้ากับสนามพลังโน้มถ่วงได้ มันก็คล้ายไม่ส่งผลกระทบอะไรต่อเขาอีกเลย!
‘ดูเหมือนร่างกายที่ทรงพลังนี่ ไม่เพียงแต่จะเพิ่มความสามารถในการต่อสู้หรือป้องกัน กระทั่งช่วยให้ข้ารับมือสนามพลังโน้มถ่วงได้ง่ายขึ้น!’
ต้วนหลิงเทียนกล่าว
แน่นอนว่าถึงแม้ทีท่าของต้วนหลิงเทียนจะแลดูปลอดโปร่งเหมือนไม่ได้รับผลกระทบอะไร แต่ทุกวินาทีที่ตกอยู่ในสนามพลังโน้มถ่วง ต้วนหลิงเทียนก็ต้องออกเรี่ยวออกแรงต่อต้านมันอยู่ตลอด!
หากปล่อยไปเนิ่นนาน แน่นอนว่าเขาก็ต้องถึงขีดจำกัด…ไม่ว่าร่างกายของเขาจะแข็งแกร่งมากแค่ไหนก็ตาม
‘ต้องจบเรื่องนี้ให้ได้โดยเร็ว’
ดังนั้นต้วนหลิงเทียนจึงคิดแก้ปัญหาง่ายๆ.. ฆ่าจ้าวเฟิงให้ตายก่อนที่จะถึงขีดจำกัดที่ร่างเขาทนไหว!
ด้วยมังกรเทพยาดา 5 กรงเล็บจากปราณแท้ก่อลักษณ์สรรพสัตว์ ต้วนหลิงเทียนจึงไม่ต้องกลัวศาสตราปราณกับสัตว์ปราณของจ้าวเฟิง
นอกจากนี้ด้วยความแข็งแกร่งของร่างกาย ในระยะเวลาสั้นๆเขาก็ไม่ต้องกังวลเรื่องสนามพลังโน้มถ่วง!
อย่างไรก็ตามต้วนหลิงเทียนก็ไม่คิดประมาทจ้าวเฟิงแม้แต่น้อย
จ้าวเฟิงจะอย่างไรก็คือสูงสุดสู่เซียนขั้นยิ่งใหญ่! ไม่จำเป็นต้องพึ่งกลพลังทั้ง 2 นั่น ลำพังปริมาณปราณแท้ของมันก็มีมากมายมหาศาลนัก!
นอกจากนี้ด้วยความที่มันอยู่มานาน วรยุทธ์เซียนทั้งหลายสมควรฝึกฝนจนบรรลุขั้นตอนไร้ตำหนิหมดแล้ว!
“จ้าวเฟิง ให้ข้าดูว่าวันนี้เจ้าจะฆ่าข้ายังไง!”
ต้วนหลิงเทียนที่ปราดร่างพุ่งเข้ามาพลันตะโกนออกเสียงดัง ก่อนที่จะยกมือเรียกเกาทัณฑ์ดับตะวันออกมากระชับถือ จากนั้นก็ควบรวมศรพลังมีสภาพจากปราณแท้ ขึ้นสายทันที!
สายเกาทัณฑ์ที่สร้างจากเอ็นมังกรเทพยาดา 5 กรงเล็บถูกน้าว!
ถึงแม้ต้วนหลิงเทียนจะบรรลุสู่เซียนขั้นสมบูรณ์แบบแล้ว ทว่าเขาเพียงรั้งสายมาเล็กน้อยเท่านั้น ยังห่างจากการรั้งสายสุดเหยียดจนตัวเกาทัณฑ์โค้งเป็นจันทร์เต็มดวงได้!
พิสูจน์ให้เห็นว่าเอ็นของมังกรเทพยาดา 5 กรงเล็บมันแข็งแกร่งปานใด!
“ต้วนหลิงเทียนข้าต้องยอมรับเลยว่าดูเบาเจ้าเกินไป…ไม่เพียงแต่ข้า กระทั่งหลิวฮ่วนก็ประเมินเจ้าต่ำไปมาก!”
จ้าวเฟิงจ้องต้วนหลิงเทียนตาเขม็งกล่าวออกเสียงเข้ม ในขณะเดียวกันความหวั่นหวาดก็สลายหายไปจากแววตา
“ดูเหมือนว่าจะเป็นหลิวฮ่วนสินะ ที่บอกเจ้าเรื่องการออกเดินทางของข้า”
ต้วนหลิงเทียนหัวเราะ “ข้าคิดว่า ‘เหยื่อล่อ’ ที่ข้าวางไว้ จะล่อหลิวฮ่วนให้มาที่นี่เสียอีก…ไม่คิดเลยว่าหลิวฮ่วนไม่มา แต่เจ้ากลับมาแทน แต่จะเป็นใครผลลัพธ์มันก็เหมือนกัน!”
ตอนนี้ต้วนหลิงเทียนเต็มไปด้วยความมั่นใจ!
“นอกจากนี้ข้ายังมีนิสัยเสียเรื่องหนึ่ง…ใครคิดฆ่าข้า มันต้องตาย!”
กล่าวใกล้จบแววตาต้วนหลิงเทียนพลันเย็นลง ยังเอ่อล้นไปด้วยจิตสังหาร!
“อวดดีนัก! ให้ข้าดูว่าเจ้าจักเอาปัญญาที่ไหนมาฆ่าข้า!!”
แม้มันจะหวั่นใจเรื่องที่ต้วนหลิงเทียนอาจเป็นสู่เซียนขั้นยิ่งใหญ่ แต่มันก็ไม่อาจยืนยันเรื่องนี้ได้ ดังนั้นยามเผชิญหน้ากับต้วนหลิงเทียน มันจึงสลัดความกลัวทิ้ง
แน่นอนว่าในใจมันยังมีแผนการสำรอง
หากมันยืนยันได้ว่าต้วนหลิงเทียนบรรลุสู่เซียนขั้นยิ่งใหญ่ และมีพลังฝีมือเหนือมันจริงๆล่ะก็ มันจะรีบหนีทันที!
หลังออกจากการปิดด่านฝึกตนครั้งนี้ มันมั่นใจว่านอกจากยอดฝีมือขอบเขตเซียนไม่กี่คนรวมถึงเจ้าสำนักและอาวุโสฝ่ายในอย่างป๋ายลี่หง ก็ไม่มีใครในสำนักจันทร์จรัสแสงที่อยู่ในสายตาของมัน
มันยังมั่นใจนัก ว่าตอนนี้ต่อให้เป็นอาวุโสฝ่ายในที่ได้อันดับ 2 ในสำนักจันทร์จรัสแสง มันก็เอาชนะได้! แต่กลับต้วนหลิงเทียนมันบังเกิดสังหรณ์อัปมงคลอย่างประหลาด!
ทันทีที่กล่าวจบ จ้าวเฟิงก็เรียกศาสตราเซียนออกมาถือไว้ทันที
ศาสตราเซียนของจ้าวเฟิงเป็นไม้พลองสั้นยาวไม่กี่ฉื่อ หากแต่ตัวไม้พลองกลับมีลวดลายอักขระจารึกไว้ทั่ว!
‘3 อาคมเซียนงั้นเหรอ?’
มองปราดเดียวต้วนหลิงเทียนก็ระบุได้ทันทีว่าลวดลายบนไม้พลองสั้นของจ้าวเฟิง มันมีรูปแบบแตกต่างกัน 3 รูปแบบ
หากแต่อาคมเซียนทั้ง 3 เป็นอาคมอะไรนั้นต้วนหลิงเทียนยากจะบอกได้ชัด เพราะระยะค่อนข้างห่างแถมมุมในการมองยังจำกัด!
อย่างไรก็ตามเขามั่นใจอยู่อย่าง
ในบรรดาอาคมเซียนทั้ง 3 นั้น มีอาคมเซียนระดับ 3 ดาวอยู่แค่ 1 อาคมเท่านั้น!
นี่นับเป็นมาตรฐานศาลตราเซียนที่จารึกอาคมเซียนของเหล่าอาวุโสฝ่ายในของสำนักจันทร์จรัสแสง! ในสำนักมีเพียงชนชั้นเจ้าสำนักกับยอดฝีมือขอบเขตเซียนที่มีอยู่ไม่กี่คนเท่านั้น ที่จะมีอาคมเซียนระดับ 3 ดาว 2 อาคมใช้!
สำหรับศาสตราเซียนที่จารึกอาคมเซียนระดับ 3 ดาวไว้ถึง 3 อาคมนั้น มีแต่ป๋ายลี่หงคนเดียวเท่านั้นที่มี
แน่นอนว่าตอนนี้ก็มีเพิ่มมาอีกคนแล้ว ก็คือต้วนหลิงเทียนเองผู้เป็นศิษย์น้องของป๋ายลี่หง
“ต้วนหลิงเทียน รับมือ!”
หลังจากชักศาสตราเซียนออกมาจ้าวเฟิงก็ลงมือออกอย่างไร้ลังเล ร่างมันปราดมาทางต้วนหลิงเทียนดั่งเส้นสายอัสนี!
พลองสั้นในมือควงไปมาอย่างคล่องแคล่ว ก่อนที่จะตบฟาดมาอย่างเกรี้ยวกราด คลื่นพลังมหาศาลพวยพุ่งออก! บังเกิดเป็นคลื่นพลังกระแทกมหาศาลขุมหนึ่งเข่นฆ่าทำลายพุ่งมาจนอากาสแตกระเบิดดังปง!
สิ้นเสียงดังปงไม่ทันไร อากาศที่แตกระเบิดก็ก่อให้เกิดสายลมกรรโชกแรงพัดสาดไปทั่วทิศ!
สายลมแรงตีปะทะเข้าร่างต้วนหลิงเทียนอย่างจัง นำพาให้ชุดสีม่วงกระพือสะบัดวุ่นวาย
วู้มม!!
ซัวว!!
พร้อมกันกับที่จ้าวเฟิงฟาดพลองสั้นมา ปราณแท้ทั่วร่างของจ้าวเฟิงพลันควบรวมขึ้นเหนือศีรษะ ก่อนที่จะกลับกลายเป็นดาบพลังมีสภาพเล่มเขื่อง พร้อมสิงโตพลังมีสภาพอีกรอบ พวกมันพุ่งไปหมายต้านทานมังกรพลังของต้วนหลิงเทียน!
แน่นอนว่ายามสิงโตพลังมีสภาพของจ้าวเฟิงเผชิญหน้ากับมังกรพลังของต้วนหลิงเทียน ร่างมันก็เริ่มสั่นเทิ้มอีกครั้ง!
อย่างไรก็ตาม คราวนี้ด้วยจิตควบคุมของจ้าวเฟิง แม้ร่างมันจะสั่นเทิ้ม หากแต่ก็ยังฝืนพุ่งไปจู่โจมใส่มังกรพลังสุดตัว!
ทันใดนั้นเอง บรรยากาศรอบๆมังกรพลังมีสภาพของต้วนหลิงเทียนก็เริ่มสั่นไหว!
เป็นจ้าวเฟิงที่ขวบคุมเขตแดนสนามพลังโน้มถ่วง เพ่งพลังอำนาจไปสะกดมังกรพลังมีสภาพของต้วนหลิงเทียนเอาไว้ มังกรพลังพยายามฝืนต้านพักหนึ่ง ทว่าสุดท้ายก็ถูกสนามพลังโน้มถ่วงสะกดได้สำเร็จ!
ร่างมังกรเทพยาดา 5 กรงเล็บมีสภาพเสมือนจริง บัดนี้ร่วงตกลงมาด้วยความเร็ว!
และตอนนี้เองดาบพลังมีสภาพทั้งสิงโตพลังมีสภาพก็บรรลุถึงตัวมันแล้ว!
“ฮู่มมม!!”
ทันใดนั้นมังกรพลังมีสภาพที่ถูกสนามพลังสะกด พลันเงยหน้าขึ้นมาเผยความเกรี้ยวกราด คำรามออกเสียงดังสนั่นฟ้า!
เสียงมังกรคำรามนี้แฝงเร้นไปด้วยอานุภาพพลังขุมหนึ่ง มวลอากาศเริ่มบิดเบี้ยว คลื่นพลังกระแทกซัดกวาดออกไปทั่วสารทิศ!
มังกรนั้นมิยอมรับการถูกสะกดข่ม!
มังกรพลังมีสภาพ อย่างไรก็บังเกิดจากปราณแท้ของต้วนหลิงเทียนผสานปราณโลหิตจากแก่นแท้โลหิต มันย่อมมีความหยิ่งผยองของมังกรเต็มพิกัด ไหนเลยจะทนให้สนามพลังโน้มถ่วงของจ้าวเฟิงสะกดอยู่ได้อย่างพร้อมใจ!
อนิจจาหลังมังกรพลังแข็งขืนไปอีกพักหนึ่ง สุดท้ายด้วยมีสนามพลังโน้มถ่วงสะกด ศาสตราทั้งสัตว์ปราณของจ้าวเฟิงก็สามารถทำลายมังกรพลังมีสภาพให้สลายหายไปได้!
เรื่องราวทั้งหมดบังเกิดขึ้นในชั่วพริบตา จนต้วนหลิงเทียนไม่อาจตอบสนองได้ทัน!
ถึงแม้จ้าวเฟิงจะตกตะลึงกับการปรากฏตัวของมังกรเทพยาดา แต่มันก็ยังลอบโล่งใจไม่น้อยที่เห็นว่าสนามพลังโน้มถ่วงของมันกับปราณพลังมีสภาพสองขุม สามารถทำลายมังกรเทพยาดาน่ากลัวนั่นได้!
มันบรรลุเป้าหมายแล้ว!
มันตั้งใจทำลายมังกรพลังมีสภาพของต้วนหลิงเทียนให้ได้ก่อน!
จากนั้นก่อนที่ต้วนหลิงเทียนจะทันได้ใช้ปราณแท้ก่อลักษณ์สรรพสัตว์สร้างมังกรพลังขึ้นมาอีกรอบ มันจะชิงลงมือสังหารต้วนหลิงเทียนในหนึ่งกระบวนท่า!
ถึงแม้ตัวมันเองจะไม่ได้หวาดกลัวมังกรเทพยาดาที่บังเกิดจากปราณแท้ก่อลักษณ์สรรพสัตว์ของต้วนหลิงเทียน แต่มันก็ไม่ยอมรับไม่ได้…ว่ามังกรพลังนั่นแข็งแกร่งพอจะคุกคามมัน!
ซู่ม!
เผชิญหน้ากับจ้าวเฟิงที่ปราดมาดั่งอัสนีพร้อมฟาดพลองสั้นลงมาด้วยอำมหิต พร้อมทั้งดาบพลังมีสภาพและสัตว์ร้ายเสมือนจริงที่เปลี่ยนทิศมุ่งมา ต้วนหลิงเทียนไม่แตกตื่น เร่งส่งกระบี่พลังมีสภาพทะลวงแทงไปยังจ้าวเฟิงทันที
และผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นก็ไม่ได้ทำให้ต้วนหลิงเทียนแปลกใจอะไร
กระบี่พลังมีสภาพของเขา ถูกพลองสั้นในมือจ้าวเฟิงหวดจนแตกสลายกลับกลายเป็นละอองปราณในพริบตา!
หลังจากที่ฟาดทุบกระบี่พลังมีสภาพเล่มเขื่องของต้วนหลิงเทียนแล้ว สภาวะพลองยังไม่ถดถอย แหวกฟ้ามาฉับไวปานเส้นสายอัสนี ปรี่ตงมาทางต้วนหลิงเทียน!