ตอนที่ 267 : ใครกันแน่ที่อยู่เบื้องหลัง?
ฉันก็แค่ต้องการแก้แค้นชุยเสียวม่านแต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะได้ผลที่ดี ขนาดนี้
เจียงเฉินหัวเราะ “ก้แค่เรื่องเล็กน้อยไม่ต้องตกใจไปหรอกครับ!”
ใช่แล้ว!
ทุกอย่างเป็นวิสัยทัศน์ของฉัน!
อย่างไรก็ตามเจียงเฉินก็นึกถึงข้อมูลของตระกูลชุยที่โจวหมิงนั้นส่ง มาให้เขา
เขาทําการส่งมันต่อให้จางเป็นทันที
“ข้อมูลพวกนี้ไปคัดเลือกแล้วส่งต่อให้แผนกปฏิบัติการเผยแพร่มัน ออกไปด้วย”
จางเบี้ยที่ได้รับข้อมูลมาพอเขาได้ดูแล้วก็ต้องตกตะลึง
นี่มันจุดสิ้นสุดของตระกูลชุยชัดๆ!
ในอีกด้านหนึ่ง
อันจวกรุ๊ป
หลังจากที่ได้รู้เรื่องของชุยเสียวม่านจากประธานของทั้งสามบริษัท แล้วอันเจี้ยนหยวนก็ต้องตกตะลึงก่อนที่จะทําการสืบค้นข้อมูลของ ชัยเสียวม่าน
ผลตรวจสอบออกมา
ตกตะลึง!
ตระกูลชุยแข็งแกร่งกว่าอันจวกรุ๊ปจริงๆ!
มีเครือข่ายที่แข็งแกร่งทั้งในโลกของธุรกิจและการเมืองความแข็ง แกร่งที่เขาไม่อาจเทียบได้!
เป็นเรื่องใหญ่แล้ว!
แต่ตอนนี้อีกฝ่ายกลับเริ่มโจมตีเขาแล้วมีหรือที่เขาจะไม่ตอบโต้วเขา ตัดินใจที่จะทําให้ซุยเสี่ยวม่านได้รับความอับอาย!
แต่ในขณะที่เขากําลังคิดแผนอยู่นั้น.
ตรู้ด
หลินหมิงโทรมาก่อนจะพูดว่า “คุณอันคุณสุดยอดมากเลย!”
อันเจี้ยนหยวนตกตะลึง “ไหม? เกิดอะไรขึ้นงั้นหรอ?”
หลินหมิงพูดด้วยความกระตือรือร้นและเคารพ “ผมเพิ่งได้รับข่าว มาว่าชุยเจิ้งซินเสาหลักของตระกูลชุยถูกจับกุมแล้ว! ตอนนตีตระ กูลชัยกําลังล่มสลายแล้วครับ!”
“ฮะ?” อันเจี้ยนหยวนสับสนยิ่งกว่าเดิม!
ชุยเจิ้งซิ่นถูกจับ?
จากข้อมูลที่อันเจียนหยวนตรวจสอบมาเขานั้นพบว่าชุยเจิ้งชิ้นนั้น รับมือได้ยากที่สุด เพราะอีกฝ่ายเป็นคนของทางการและมีตําแหน่ งที่สําคัญส่วนตัวเขานั้นเป็นเพียงแค่นักธุรกิจตัวคนเดียว
แต่ผลตอนนี้เขากลับถูกจับ?
แปลกมาก!
หลินหมิงยังคงประจบสอพลออย่างต่อเนื่องเขานั้นรู้สึกว่าจะต้องมี ใครบางคนที่คอยหนุนหลังอันเจี้ยนหยวนอยู่อย่างลับๆและเป็นผู้ที่ จัดการกับตระกูลชุยไม่อย่างนั้นมันเป็นไปไม่ได้เลยที่ตระกูลชุยนั้น จะล่มสลายในระยะเวลาสั้นๆแบบนี้และเมื่อรวมกับเรื่องที่ธนาคาร หัวเซียนั้นหยุดปล่อยเงินกู้ให้พวกเขาและทําลายความไว้วางใจ ทางธุรกิจต่อกันเรื่องทั้งหมดมันก็ชัดเจนแล้ว!
ดังนั้นไม่ว่ายังไงเขาก็จะต้องคอยประจบสอพลออันเจียนหยวนให้ ได้อันเจี้ยนหยวนในตอนนี้ตกตะลึงไปแล้วฉันไม่ได้ทําอะไรเลยไม่ใช่ หรอ?
แล้วมันเป็นไปได้ยังไงกัน?
ใครกันที่เป็นคนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ ?
น่ากลัวมาก!
เช้าวันรุ่งขึ้นชุยเสี่ยวม่านก็ขับรถเมอร์เซเดสเบนซ์ออฟโรดของเธอ ออกมาบนถนนด้วยความสิ้นหวัง
ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงเร็วเกินไปเมื่อวานนี้เธอนั้นยังคงไปที่ พระราชวังต้องห้าม เพื่อโอ้อวดออกมาได้
แต่เพียงแค่ชั่วข้ามคืนเธอนั้นก็ถูกตบหน้าอย่างแรง!
ลุงใหญ่ของเธอถูกจับกุมไปเพื่อสอบสวน
เมื่อหุ้นส่วนของตระกูลชุยได้ข่าวพวกเขานั้นต่างก็พากันมาถึงหน้า ประตูบ้านเพื่อประกาศถอนเงินทุนออกทันที
หุ้นของบริษัทดิ่งลงนรก!
ในเวลาไม่ถึงวันตระกูลชุยนั้นก็ล่มสลาย!
รวดเร็วทันใจ!
ครอบครัวของสามีของเธอนั้นก็ไม่ได้มีความคิดที่จะช่วยเลยแม้แต่ น้อยและสามีของเธอก็ไม่ได้สนใจเลยด้วยซ้ํา!
ชุยเสี่ยวม่านไม่อาจจะทนต่อความตื่นเต้นของเรื่องนี้ไหวเธอหนีออ กจากบ้านและขับรถของเธอออกจากประเทศทันที
เสียสติ…
และด้วยความที่สติของเธอนั้นไม่อยู่กับตัวทําจงมาให้เธอนั้นขับรถ พุ่งเข้าไปชนท้ายของรถแท็กซี่
ปัง!!
“ชนแล้ว!”
เนื่องจากบริเวณนี้เป็นย่านใจกลางเมืองจึงมีผู้คนเดินไปมาอยู่ไม่ ขาดสาย
บางคนถึงกับหยิบโทรศัพท์ออกมาและถ่ายวีดีโอ
ตอนนี้เป็นยุคของอินเทอร์เน็ตดังนั้นการขายวีดีโอและการโพ สต์นั้นย่อมมีโอกาศสร้างกําไรเสมอ!
คนขับแท็กซี่ลงมาจากรถและมองไปที่ท้ายรถที่เสียหายอย่างหนัก ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นน่าเกลียดจบแล้ว! วันนี้เขาไปรับผู้โดย สารไม่ได้แล้วค่าเช่ารถก็จะทําให้เขาต้องขาดทุน!
เขาพยายามระงับความโกรธของตัวเองแล้ววิ่งไปที่หน้าต่างของรถ ออฟโรดก่อนจะเริ่มเคาะกระจก “ลงจากรถแล้วมาคุยกันเดี๋ยวนี้!”
ชุยเสี่ยวม่านยื่นหัวออกมาแล้วตะโกนใส่ “นายพูดเรื่องอะไรของ นาย?! มันก็แค่รถแท็กซี่ฟังไม่ใช่รึไง?!”
บ
ทันทีที่คนขับแท็กซี่ได้ยินเขานั้นก็เต็มไปด้วยความไม่พอใจทันที “ทัศนคติของคุณมีปัญหารึเปล่า? คุณเป็นคนขับรถชนนะเข้าใจหรือ เปล่า? คุณเข้าใจกฎจราจรบ้างไหม?! คุณรู้หรือเปล่าว่าการที่คุณชน ผมทําให้ผมไม่สามารถทํางานได้หนึ่งวันคุณคิดจะจ่ายเงินชดเชย บ้างไหม?!”
ชุยเสียวม่านพูดออกมาว่า “ไอคนจน! ตะโกนอะไรนักหนาก็แค่รถ แท็กซี่ฟังไม่ใช่รึไง?! หรือว่าแกก็แค่อยากได้เงิน??”
“อยากได้เงินหรอ?”
คนขับแท็กซี่หัวเราะออกมาด้วยความโกรธจัดความกดดันในชีวิต ของเขานั้นก็สูงมากพออยู่แล้วและความแค้นในใจของเขากสมอยู่
มากมาย!
เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาและโทรแจ้งตํารวจทันที!
ชัยเสี่ยวม่านที่เห็นก็เริ่มกังวล “น้องสาวแกสิ! แกจะโทรแจ้งตํารว จทําไม? ก็ได้ฉันจะให้เงิน
แก!??
ในเวลานี้เองชายหนุ่มคนหนึ่งที่กําลังถือโทรศัพท์มือถืออยู่ก็ตะโก นออกมาอย่างตื่นเต้น
“บัดซบ! นี่มันผู้หญิงที่ขับรถเข้าไปในพระราชวังต้องห้ามไม่ใช่ หรอ? แถมยังเป็นรถคันนี้ด้วยที่ขับเข้าไปในพระราชวังต้องห้ามเลข ทะเบียนเหมือนกันเลย!
ทันทีที่เขาพูดออกมาผู้คนที่ดูอยู่รอบๆก็ตกตะลึง!
เมื่อวานข่าวเรื่องที่มีคนขับรถเข้าไปในพระราชวังต้องห้ามนั้นเป็น ประเด็นร้อน แม้แต่ตอนนี้เองก็ยังมีคนพูดถึงเรื่องนี้อยู่อย่างมาก มาย
“นั่นเธอจริงๆด้วย!”
“ไม่แปลกใจเลยว่าทําไมเธอถึงหยิ่งผยองแม้ว่าตัวเองจะเป็นคนขับ รถชน!”
“จะไม่หยิ่งยโสได้ยังไง? ก็เธอเป็นคนใหญ่คนโตนี่! ไม่ได้ยินที่เธอพูด หรือยังไง!เธอบอกว่าพวกเรามันเป็นคนจน!”
เราคนที่อยู่รอบๆนั้นมีความอ่อนไหวต่อคําว่าจนที่เธอพูดออกมาดัง นั้นฝูงชนจึงเริ่มไม่พอใจชุยเสี่ยวม่านขึ้นมาทันที
สีหน้าของชุยเสี่ยวม่านเปลี่ยนไปอย่างมาก
ปรากฏว่าตอนนี้มีคนจําเธอได้แล้ว!
เธอร้องออกมาก็จะปิดหน้าต่างและเริ่มขับรถออกไปทันที….
คนที่อยู่รอบๆ “…”
คนขับรถแท็กซี่ “ ”
ราวกับว่ามีมานับหมื่นตัววิ่งผ่านหัวใจของพวกเขา
เธอหลบหนีหรอ? บ้าไปแล้ว!
ไม่นานตํารวจก็มาถึงและรับทราบสถานการณ์และด้วยความที่มีวิดี โอมากมายเป็นหลักฐานพวกเขาจึงรีบทําการรายงานทันที
ภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมงเรื่องราวของชุยเสี่ยวม่านที่ขับรถชนและเห ยียดหยามคนอื่นก่อนจะหลบหนีก็แพร่กระจายไปทั่วอินเทอร์เน็ต
ฝั่งของเว่ยป้อนั้นยังคงมีการจํากัดข้อมูลของเรื่องนี้เอาไว้อยู่กระแส การสนทนาจริงไม่สูงนัก
แต่ที่โถวเดียวนั้นกลับร้อนแรงราวกับไฟไหม้
[หญิงสาวที่ขับรถเข้าไปในพระราชวังต้องห้ามขับรถชนก่อนจะด่า คนเหล่านี้ออกไป]
[ตรรกะความคิดของผู้หญิงที่ขับรถเข้าไปในพระราชวังต้องห้ามน่า เป็นห่วงมาก…]
[ตระกูลใหญ่ล่มสลายแล้วและลูกหลานก็กําลังกระจายออกไป…..]
เตรียมเชิญรู้อยู่แล้วว่าตระกูลชุยนั้นจะต้องล่มสลายอย่างแน่นอน
ดังนั้นเจียงเฉินจึงไม่คิดจะตามเรื่องนี้ต่อ
ในเวลานี้เอง งานนิทรรศการของ LVMH ก็เข้าสู่ช่วงสองวันสุดท้าย และยังเป็นช่วงของนิทรรศการเครื่องประดับ! ไอรีนโนเวล รถโรลส์รอยซ์ แฟนธอมนั้นขับเข้ามาจอด
ซูเสียวเสียวก็กําลังนั่งอยู่ที่ที่นั่งข้างคนขับขณะที่เพื่อนร่วมงานของ เธอสีคนนั้นกําลังนั่งอยู่ที่เบาะหลังของรถ
เจียงเฉินสวมหน้ากากขณะที่กําลังขับรถโรสรอยส์แฟนธ่อมของเขา ด้วยมือเพียงข้างเดียวพร์ อมคุยกับซูเสียวเสี่ยวไปด้วย
ที่เบาะหลังของรถ “ว้าว แฟนของเสียวเสี่ยวหล่อมากเลย!”
“ใช่ต่อให้ใส่หน้ากากอยู่ก็ยังมั่นใจได้เลยว่าหล่อมาก!”
“เทพบุตรชัดๆ!” “ถ้าฉันมีแฟนหล่อขนาดนี้ก็คงจะดี”
เมื่อเพื่อนร่วมงานทั้งสี่คนเห็นเจียงเฉินพวกเธอนั้นก็พากันคลั่งไคล้ และอิจฉา
ตรูด ตด ตรูด
เสียงโทรศัพท์มือถือของซูเสี่ยวเสี่ยวดังขึ้น
ผู้โทร : หลิวเซียงหยุน
หลิวเซียงหยุนแค่นเสียงออกมาอย่างเย็นชา “ซูเสียวเสี่ยววันนี้เป็น วันนิทรรศการเครื่องประดับแล้วแฟนของฉันก็อยู่ที่นี่ด้วยเธอมีจดห มายเชิญไม่ใช่หรองั้นก็มาที่นี่ ถ้าเธอไม่มาแสดงว่าจดหมายเชิญของ เธอมันเป็นของปลอม!”
หลังจากพูดจบเธอก็วางสายไปทันที
เจียงเฉินรู้สึกประหลาดใจ “มาจากแผนกเดียวกับเธองั้นเหรอ?”
ซูเสี่ยวเสี่ยว “ใช่”
ไม่ต้องรอให้ซูเสียวเสี่ยวพูดออกมาเพื่อนร่วมงานของเธอทั้งสี่คนก็ เล่าเรื่องทั้งหมดของอีกฝ่าย ออกมา
เจียงเฉินรู้สึกประหลาดใจ “พวกคุณหมายถึง?แฟนของเธอก็คือ นายน้อยลัว? นายน้อยลั่วของเมืองหลวงงั้นหรอ?”