ตอนที่ 313

Crazy Leveling System

CLS ตอนที่ 313: ใครว่าข้าเข้ามาไม่ได้กัน

 

ถ้าจะช่วยคนก็ต้องเปิดประตูคุกให้ได้เสียก่อน แต่ต่อจะเปิดได้เร็วแค่ไหนก็ต้องถูกพบเห็นอยู่ดี แต่ยังไงก็ตาม บริเวณรอบๆ นี้กลับไม่มีคน ดังนั้นต่อให้พวกเขาจะเผยตัวออกไปก็ไม่กลัวว่าอีกฝ่ายจะส่งสัญญาณให้ส่งคนมาที่นี่

 

เมื่อเฟิงอู๋หยุนเห็นเย่ชิงเสวียน ตอนแรกก็ตกใจ แต่หลังจากนั้นก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “โอ้โห ข้าก็คิดว่าใคร ที่แท้ก็เสิ้งหนี่ต้าเหรินนี่เอง ไม่คิดว่าเจ้าจะลอบเข้ามาในนี้จริงๆ นับว่ามีความสามารถอยู่บ้าง เผ่ามนุษย์ที่อยู่ข้างๆ เจ้า คงจะเป็นผู้ช่วยที่เจ้าพามาอย่างงั้นสินะ?”

 

“เสิ้งหนี่…..” เมื่อบรรพชนเผ่าภูตเห็นเย่ชิงเสวียนก็รีบพูดออกมา “รีบหนีไปเร็ว…. ที่นี่ไม่มีทางเปิดได้หรอก รีบหนีไปซะ ไม่งั้นมันจะรายงานให้ขุนพลมังกรมา…..”

 

“กังวลอะไรกัน ข้าไม่รายงานขุนพลมังกรหรอก” เฟิงอู๋หยุนหยิบแผ่นหยกขึ้นมา พร้อมกับพูดเยาะว่า “แค่ข้าบดขยี้แผ่นหยกนี้เบาๆ ผู้คุมทั้งหมดในคุกใต้พิภพแห่งนี้ก็พากันบุกเข้ามา ต่อให้เจ้ามีปีกงอกออกมาก็ยากที่จะบินหนีไปได้!”

 

“แต่ว่าเจ้าไม่ต้องกังวล ตอนนี้ข้าจะยังเล่นเป็นเพื่อนเจ้าก่อน ให้เจ้าดูว่าตาแก่นี้จะแสดงสีหน้าเจ็บปวดออกมายังไง นี่ช่างน่าสนุกนัก…..” เฟิงอู๋หยุนหัวเราะออกมา พร้อมกับเตรียมยัดยาพิษเข้าปากบรรพชนเผ่าภูต

 

“หยุดเดี๋ยวนี้นะเจ้าคนทรยศ!” เย่ชิงเสวียนรีบตะโกนออกไป

 

เฟิงอู๋หยุนคนนี้เป็นผู้อาวุโสของเผ่าภูตกลุ่มเดียวกันกับเหลยหยุนที่ทรยศ เขาเป็นคนรับหน้าที่ค้นความทรงจำของบรรพชนเผ่าภูตที่นี่ แต่เมื่อทำไม่สำเร็จ เขาจึงเลือกที่จะใช้พิษกับบรรพชนเผ่าภูต ทำให้พลังวิญญาณของอีกฝ่ายอ่อนแอลง

 

ยังไงก็ตาม พลังของบรรพชนเผ่าภูตก็แข็งแกร่งมาก ทำให้ยาพิษต้องใช้เวลานานกว่าจะทำให้อีกฝ่ายอ่อนแอลง ภายใต้สภาพพลังวิญญาณที่แข็งแกร่ง หากใช้วิชาครวญวิญญาณออกไป มันจะเป็นผลร้ายต่อผู้ใช้มากกว่า

 

“หยุด? ให้ข้าหยุดอย่างงั้นเหรอ หากมีความสามารถก็เข้ามาหยุดข้าในนี้สิ!” เฟิงอู๋หยุนพูดด้วยรอยยิ้มดูถูก “แต่ว่าเจ้าเข้ามาไม่ได้ใช่ไหมล่ะ? ก็แน่อยู่แล้วล่ะ หากไม่มีกุญแจ การจะเข้ามาในนี้ย่อมเป็นไปไม่ได้ แต่ต่อให้มีกุญแจแล้วยังไง ตราบเท่าที่ข้าบดขยี้แผ่นหยกนี้เบาๆ ต่อให้เจ้าจะช่วยคนอื่นได้ แต่ก็ยากที่จะหนีไปอยู่ดี! ฮ่าๆๆๆ…..”

 

เขาหัวเราะออกมา คิดว่าทุกสิ่งช่างน่าขัน คิดว่าการกระทำทุกอย่างของพวกเขาเป็นเรื่องไร้ประโยชน์ ทำได้เพียงมองดูเขาทรมานบรรพชนเผ่าภูตอย่างช่วยไม่ได้ คนอยู่ตรงหน้าแต่กลับช่วยไม่ได้ แค่คิดก็รู้แล้วว่าอีกฝ่ายต้องสิ้นหวังแค่ไหน ช่างเป็นการกระทำที่น่ารังเกียจจริงๆ

 

“ใครบอกว่าข้าเข้าไปไม่ได้กัน?” อยู่ๆ ก็มีร่างปรากฏขึ้นที่ข้างหลังเขา พร้อมกับหักแขนข้างที่ถือแผ่นหยกของเขาอย่างแรง จนเสียงกระดูกหักดังออกมา แขนข้างนั้นถูกกระชากจนหลุดจากไหล่ ก่อนที่จะหลุดร่วงจากมือของเขา พร้อมกับถูกอี้เทียนหยุนคว้าเอาไว้

 

จากนั้น อี้เทียนหยุนก็ทำการถีบอีกฝ่ายอย่างแรง “ปัง” ร่างของเฟิงอู๋หยุนถูกถีบกระเด็นจนลอยไปติดกำแพง พร้อมกับร่างที่ปรากฏรอยยุบขนาดใหญ่ ถูกลูกถีบนี้เข้าไปจนเกือบตาย

 

เฟิงอู๋หยุนคนนี้มีพลังที่ค่อนข้างสูง แต่ก็ยังถูกเขาถีบจนเกือบตาย นี่ทำให้คนอื่นมีท่าทางไม่อยากจะเชื่อ แต่ก็เป็นความจริงที่ลูกถีบนี้ของอี้เทียนหยุนสามารถทำให้อีกฝ่ายตายได้

 

“แค่ก….” ใบหน้าเฟิงอู๋หยุนขาวซีด มองมาที่อี้เทียนหยุนด้วยแววตาแตกตื่น “เจ้า เจ้าเข้ามาในนี้ไดยังไง!?”

 

เย่ชิงเสวียนกับบรรพชนเผ่าภูตก็ตกใจเช่นกัน พวกเขาไม่ทันรู้ตัวเลยว่าอี้เทียนหยุนนั้นเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่

 

เย่ชิงเสวียนรู้ว่าอี้เทียนหยุนมีความสามารถใช้การเคลื่อนย้ายในพริบตาได้ แต่ไม่คิดว่าจะเคลื่อนย้ายเข้าไปในห้องขังที่ถูกสลักค่ายกลไว้อย่างแน่นหนานี้ได้ด้วย? ห้องขังนี้มีค่ายกลจำกัดไว้ ทำให้ไม่สามารถใช้การเคลื่อนย้ายในพริบตาเข้าไปได้ แต่อี้เทียนหยุนกลับทำสำเร็จ เข้าไปข้างในได้อย่างง่ายดาย ทั้งยังจัดการถีบเฟิงอู๋หยุนจนเจ็บหนักปางตายอีกด้วย

 

พลังวิญญาณของอี้เทียนหยุนนั้นแข็งแกร่งมาก ตราบเท่าที่ตาเปล่าสามารถมองเห็น หรือรู้ถึงสภาพแวดล้อมข้างใน เขาก็สามารถเคลื่อนย้ายเข้าไปได้ โดยไม่สนใจข้อจำกัดของค่ายกล! แต่ถ้าหากว่าเขาไม่รู้โครงสร้างภายในของที่ที่จะเข้าไป เขาก็ไม่สามารถเคลื่อนย้ายเข้าไปได้ แต่ตราบเท่าที่มองเห็น ไม่ว่าในนั้นจะอยู่ในสภาพไหน เขาก็สามารถเข้าไปได้

 

เอาตรงๆ แล้ว ขอแค่เขาสามารถกำหนดจุดที่จะไปได้ เขาก็สามารถเคลื่อนย้ายเข้าไป ณ ตำแหน่งนั้นได้ในพริบตา!

„How can come, such walks……” Yi Tianyun looks at his vision ice-cold, at once puts out that badge toward outside ball, then fell into Ye Qingxuan.

“เข้ามาได้ยังไงน่ะเหรอ ก็เดินเข้ามาไงล่ะ….” อี้เทียนหยุนมองไปที่เขาอย่างเย็นชา จากนั้นก็หยิบลูกกุญแจออกมาพร้อมกับโยนออกไปให้เย่ชิงเสวียน

 

หลังจากเย่ชิงเสวียนรับเอาไว้ เธอก็ทำการไขกุญแจอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็เปิดประตูห้องขังได้สำเร็จ ลูกกุญแจนี้ไม่ใช่ธรรมดา ขอแค่เป็นห้องขังที่อยู่ในเขตกักกันวิญญาณแห่งนี้ ไม่มีห้องไหนที่ไม่สามารถเปิดได้

 

“เจ้ามีกุญแจ ถ้างั้นขุนพลมังกร…..”

 

เฟิงอู๋หยุนมองไปยังลูกกุญแจที่อยู่ในมือเย่ชิงเสวียนด้วยสายตาแตกตื่น ราวกับไม่เชื่อว่ากุญแจจะปรากฏอยู่ในมือของพวกเขา ลูกกุญแจนี้มีเพียงแค่สองดอกเท่านั้น หนึ่งนั้นอยู่ในมือของจักรพรรดิใต้พิภพ ส่วนอีกหนึ่งนั้นอยู่ในมือขุนพลมังกร

 

เรื่องที่จักรพรรดิใต้พิภพจะถูกฆ่านั้นเป็นไม่ได้ ตอนนี้ดูเหมือนว่าที่เป็นไปได้จะเป็นขุนพลมังกรนั้นถูกฆ่าไปแล้ว!

 

แต่นี่เป็นแค่ในความคิดของเขาฝ่ายเดียวเท่านั้น ลูกกุญแจดอกนี้เป็นของที่ระบบให้มา ก็เท่ากับว่านี่เป็นกุญแจดอกที่สาม ถ้าเป็นไปตามปกติ มันจะลูกกุญแจเพียงแค่สองดอกเท่านั้น ไม่มีมากกว่านี้

 

อึดใจต่อมา เฟิงอู๋หยุนก็ตบพื้นด้วยมือข้างที่เหลือ ก่อนที่ร่างของเขาจะกระโจนเข้ามา ตรงไปที่ทางออก

 

แต่ความเร็วของอี้เทียนหยุนนั้นเร็วกว่า เขาพุ่งไปขวางอีกฝ่ายเอาไว้ ก่อนที่จะถีบเฟิงอู๋หยุนกระเด็นออกไปราวกับลูกหนัง

 

เฟิงอู๋หยุนนั้นมีพลังไม่ใช่ต่ำๆ เป็นถึงผู้เชี่ยวชาญระดับผันแปรวิญญาณขั้นที่ 5 แต่เมื่อมาอยู่ต่อหน้าอี้เทียนหยุนแล้ว ตัวเขากลับอ่อนแอมาก ราวกับลูกหนังที่พร้อมจะถูกบีบได้ถูกเมื่อ

 

“เจ้าคิดจะไปไหนกัน?” อี้เทียนหยุนหยิบยาพิษที่ตกพื้นขึ้นมา จากนั้นก็ทำการเทกรอกปากอีกฝ่าย “เจ้าชอบใช้พิษนักใช่ไหม งั้นก็ลองเจอเองหน่อยเป็นไง จะได้รู้ว่าตอนถูกพิษมันรู้สึกยังไง!”

 

เมื่อพิษตกลงไปที่กระเพาะของเขา เฟิงอู๋หยุนก็พลันร้องโหยหวนออกมา เอามือข้างที่เหลือกุมหัวพร้อมกับดิ้นพล่านไม่หยุด ราวกับมีอะไรบางอย่างกำลังชอนไชที่หัวของเขา ทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดอย่างมาก

 

ที่บรรพชนเผ่าภูตสามารถพูดได้ตามปกติ ดูแล้วพลังใจของอีกฝ่ายคงจะแข็งแกร่งมากเกินจินตนาการ ในฐานะที่เป็นถึงบรรพชน ประสบการณ์ที่เขาต้องเผชิญนับว่ามากมายมหาศาล แค่ความเจ็บปวดนี้ สำหรับเขาแล้วสามารถทนได้ และที่สำคัญคือเขารู้ว่าตัวเขาไม่สามารถล้มลงได้ ไม่อย่างนั้นความลับที่มีอยู่จะต้องถูกคว้านออกไป และเมื่อนั้น ก็เท่ากับว่าเผ่าภูตได้ถูกทำลายไปครึ่งหนึ่งแล้ว

 

“ชิงเสวียน เจ้าจะจัดการมันยังไง?” อี้เทียนหยุนถาม

 

เย่ชิงเสวียนตอบกลับด้วยการกระทำ เธอหยิบแส้ออกมา พร้อมกับฟาดใส่ร่างเฟิงอู๋หยุนอย่างแรง “เพี๊ยะ!” พลังของแส้ได้ทำการแช่แข็งร่างของเฟิงอู๋หยุนไว้ในพริบตา ยิ่งกว่านั้น เธอยังฟาดแส้ต่ออีกหลายแส้ จนทำให้อีกฝ่ายเนื้อแตก แต่ก็ไม่คิดจะปล่อยอีกฝ่ายไป เธอทำการรัดร่างอีกฝ่ายไว้ด้วยแส้สีเงินของเธอ ไม่ปล่อยให้เขาเคลื่อนไหวอะไรได้อีก

 

ภายใต้การลงมือแค่สองครั้งของอี้เทียนหยุน เฟิงอู๋หยุนก็บาดเจ็บหนักปางตายแล้ว ความสามารถของอี้เทียนหยุนยิ่งมายิ่งแข็งแกร่ง เพียงสองกระบวนท่าก็ทำให้อีกฝ่ายอ่อนแอไร้ซึ่งหนทางตอบโต้ กระทั่งกระดูกในร่างยังแตกหัก เมื่อเป็นอย่างนี้แล้ว อีกฝ่ายจะเคลื่อนไหวตามใจได้ยังไง แล้วยิ่งต้องมาเจอการลงมือของเย่ชิงเสวียนซ้ำเข้าไปอีก อีกฝ่ายคงแทบกลั้นใจตายแล้ว

 

หลังจากจัดการระบายความโกรธออกไป เย่ชิงเสวียนก็ช่วยบรรพชนเผ่าภูตลงมาจากกำแพง กลิ่นอายของบรรพชนเผ่าภูตอ่อนแอมาก สามารถทนมาได้นานขนาดนี้ นับเป็นเรื่องที่แปลกมากแล้ว