หลังจากทุกคนพูดคุยกันอยู่ซักพัก หลินฟานก็เห็นว่าเวลามันเริ่มสายแล้ว ดังนั้น หลินเสี่ยวเหยา ตู่หยูเจียและถังเจียวจึงออกจากอาคารเฟยหยาง ภายใต้สายตาของชูหยุนเยว่ และพนักงานของฮัวจือดี
หลินเสี่ยวเหยา ตู่หยูเจียและถังเจียวที่นั่งอยู่ในรถ มองดูโลชั่นของฮัวจือดีที่อยู่ในมือของพวกเธอด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
โลชั่นของฮัวจือดีเป็นสิ่งที่พวกเธอต้องการมาโดยตลอดแต่หาซื้อไม่ได้ แต่ตอนนี้พวกเธอนั้นมีโลชั่นมากจนถือได้ว่าความปรารถนาของพวกเธอถูกเติมเต็มแล้ว
หากใครๆรู้ว่าพวกเธอมีโลชั่นของฮัวจือดีมากมายขนาดนี้ พวกเขาจะต้องน้ำลายสอด้วยความอิจฉาเป็นแน่!
ยิ่งคิดแบบนี้ ทั้งสามก็ยิ่งมีความสุข
ในเวลานี้ หลินเสี่ยวเหยาก็ถามออกมา “ว่าก็ว่าเถอะนะ พี่ชาย พี่รู้จักกับพี่ชู่ได้ยังไง ยิ่งกว่านั้น เธอยังให้โลชั่นกับเรามามากขนาดนี้อีก!”
หลินฟานพูด “โอ้ พวกเราพบกันครั้งแรกที่งานนิทรรศการน้ำหอม… ส่วนเรื่องที่ว่าทำไมเธอถึงมอบโลชั่นให้กับเธอมากขนาดนี้อะหรอ? อาจเป็นเพราะว่าพี่เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของบริษัทฮัวจือดีก็ได้มั้ง”
เงียบ!
ในรถบิ๊กจีตอนนี้ ทุกอย่างเงียบลงอย่างฉับพลัน
หลินเสี่ยวเหยา ตู่หยูเจียและถังเจียวต่างก็อ้าปากค้าง พวกเธอตกตะลึงอย่างสมบูรณ์
หลังจากผ่านไปนาน หลินเสี่ยวเหยาก็พูดออกมาอย่างตะกุกตะกัก “พี่…พี่พูดว่าอะไรนะ…พูดอีกรอบสิ้?”
“เราเจอกันที่งานแสดงน้ำหอม” หลินฟานพูด
“ไม่ๆ ประโยคต่อไป” หลินเสี่ยวเหยาพูด
“ทำไมเธอถึงมอบโลชั่นให้กับเธอมากขนาดนี้อะหรอ?” หลินฟานพูด
“อีกประโยคหนึ่งสิ!” หลินเสี่ยวเหยาพูด
“ถ้างั้นก็…เพราะพี่เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของฮัวจือดี” หลินฟานพูด
“อ๊ะ! พระเจ้า! พี่ชายของฉันเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของฮัวจือดี! ฮัวจือดีเป็นของครอบครัวของเรา! ฉันจะใช้โลชั่นและน้ำหอมของของฮัวจือดีได้ในอนาคต!” หลินเสี่ยวเหยาพูดอย่างตื่นเต้น
จากนั้นเธอก็กอดคอของหลินฟานและตะโกนว่า “พี่ชาย ฉันรักพี่มาก!”
หลินฟานอดไม่ได้ที่จะไอและเตือน “เราเป็นพี่น้องกันนะ”
ตู่หยูเจียและถังเจียวก็มองไปที่หลินฟานด้วยแววตาที่สว่างไสว
ตามคำขอของหลินเสี่ยวเหยา ทุกคนจึงได้ไปกินอาหารทะเลด้วยกัน
เมื่อพวกเขาเดินออกจากร้านหม้อไฟ ทุกคนก็ดูพอใจอย่างมาก
“หม้อไฟทะเลยังอร่อยอยู่นะเนี้ย!”
ตอนนั้นเอง หลินเสี่ยวเหยาก็มองไปเห็นร้านชานมชายัน ที่มีคนต่อคิวยาวอยู่ที่ฝั่งตรงของข้ามถนน เธอถอนหายใจและพูด “ในที่สุดร้านชายันก็มาเปิดที่เจียงเป่ย แต่ทำไมถึงมีคนเยอะจัง!”
“คราวนี้ ฉันมาที่เจียงเป่ย ฉันได้กระเป๋าแล้ว ได้โลชั่นของฮัวจือดีแล้ว ถ้าได้ชานมอีกสักแก้ว มันคงจะสมบูรณ์แบบมาก!”
หลินฟานพูด “งั้นก็ไปกินสิ”
“มีคนต่อคิวเยอะเกินไป ฉันคิดว่าน่าจะใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งโมงในการเข้าแถวซื้อชานม แต่รถไฟที่จะไปที่จังหวัดของเราจะออกในอีกหนึ่งชั่วโมง” หลินเสี่ยวเหยาพูด
หลินฟานพูดว่า “ไม่เป็นไร เธอสามารถสั่งอาหารผ่านโทรศัพท์ของเธอได้หนิ มันน่าจะส่งเร็วอยู่นะ”
หลินเสี่ยวเหยาพูด “ร้านชานมชายันไม่ให้มีการซื้อกลับบ้านไม่ใช่หรอ?”
แต่หลินฟานเหมือนกับไม่ได้ยินที่เสี่ยวเหยาพูด เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาและกดไปที่เบอร์โทรศัพท์ของประธานชายัน “ฟางเหลียง” ทันที
เมื่อวานนี้ หลังจากที่หลินฟานเข้าซื้อหุ้น 51% ของชายัน ฟางเหลียงก็ได้เป็นคนโทรมาหาหลินฟานแล้ว แต่ตอนนั้นหลินฟานไม่ว่างรับสาย
เขาพึ่งจะสะดวกที่จะโทรกลับไปตอนนี้
…………
ณ สำนักงานใหญ่ของชายัน
ฟางเหลียงกำลังจัดการประชุมระดับสูงกับผู้จัดการทั่วไปและคณะกรรมการอีกหลายคน
บรรยากาศของที่นี่นั้นจริงจังและตรึงเครียดมาก
“กริ๊งงงง!”
ทันใดนั้น โทรศัพท์มือถือของฟางเหลียงก็ส่งเสียงดังขึ้นอย่างรวดเร็ว
เขาขมวดคิ้ว ก่อนจะยกมือขึ้นมาเตรียมกดวางสาย
แต่เมื่อเขาเห็นชื่อผู้ที่โทรเข้ามา เขาก็เปลี่ยนเป็นจริงจังมากและยืนตัวตรงขึ้นมาทันที ฟางเหลียงกดรับสายก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเคารพว่า “สวัสดีครับ คุณหลิน!”
ห้องประชุมเงียบลงอย่างกะทันหัน
ผู้บริหารทุกคนหยุดการสนทนาและมองไปที่ประธานฟางเหลียงด้วยสายตาที่ประหลาดใจอย่างยิ่ง
หลายคนทำงานกับฟางเหลียงมาสิบปี…
แต่มีใครบ้างที่เคยเห็นฟางเหลียงพูดตอนรับสายอย่างสุภาพขนาดนี้รึเปล่า? และน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยเคารพแบบนี้?
คุณหลิน?
แซ่หลินงั้นหรอ?
เป็นไปได้ไหม…ที่คนๆนี้จะเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่ลึกลับที่สุดในตำนานของชายัน!
เมื่อคิดได้แบบนี้ ผู้บริหารทุกคนต่างก็กลั้นหายใจ
ในเวลานี้ เสียงของหลินฟานก็ดังออกมาจากโทรศัพท์
“ฉันอยู่ที่ร้านชานมชายันในจังหวัดเจียงเป่ย แต่ที่นี่มีคนต่อคิวเยอะมาก ดังนั้น ขอให้ใครสักคนส่งชานมให้ฉันหน่อยได้ไหม?”
“ได้ครับ คุณหลิน เดี๋ยวผมให้คนไปส่งให้นะครับ” ฟางเหลียงพูด
“โอเค ผมจะรอ” หลินฟานกล่าว
“ครับ คุณหลิน” ฟางเหลียงพูด
อยากดื่มชานมสักแก้วแต่ต้องโทรมาหาด้วยตัวเองเลยงั้นหรอ?
แค่เรื่องเล็กน้อยแค่นี้อะนะ?
อย่างไรก็ตาม ฟางเหลียงไม่ได้โกรธเลย
ตรงกันข้าม…ใบหน้าของเขายังคงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
…………
เมื่อเห็นหลินฟานวางสาย หลินเสี่ยวเหยาก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้นอย่างสงสัย “พี่ชาย พี่โทรหาใคร?”
หลินฟานส่ายหัวและพูด “โอ้ นี่ประธานของชายัน”
“อะไรนะ?”
หลินเสี่ยวเหยา ตู่หยูเจียและถังเจียวต่างก็ตกตะลึง
ในเวลานี้ พนักงานร้านของชายันสามคนเดินมาพร้อมกับชานมที่มีรสที่แตกต่างกันมากกว่าสิบแก้ว
“ใช่คุณหลินหรือเปล่าคะ?” พนักงานที่ยืนอยู่ด้านหน้าถามเสียงเบา
“ผมเอง” หลินฟานพูด
“สวัสดีค่ะ นี่คือชานมที่ประธานของเราขอให้เรามาส่งให้” พนักงานพูด
“โอเค ขอบคุณครับ” หลินฟานตอบแล้วพูดว่า “เสี่ยวเหยา หยูเจีย ถังเจียว ช่วยกันถือหน่อยสิ พี่ถือไม่หมด”
“เอ่อ…เอ่อ…ก็ได้” ทั้งสามคนได้ตอบกลับ
หลินเสี่ยวเหยา ตู่หยูเจียและถังเจียวค่อยๆกลับมารู้สึกตัวหลังจากที่พนักงานร้านชายันเดินจากไป
หลินเสี่ยวเหยาพูด “พี่ชาย คุณไปพบกับประธานของบริษัทชายันได้อย่างไร?”
หลินฟานกล่าวว่า “พี่ยังไม่เคยพบกับเขาเลย”
หลินเสี่ยวเหยาถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ตอนนั้นเอง หลินฟานก็พูดต่อ “แต่ถ้าจะให้พูด ที่พี่มีเบอร์ของประธานชายัน ก็เพราะว่าพี่เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของบริษัทชายัน”
เงียบ!
ทุกคนเงียบลงอีกแล้ว!
หลินเสี่ยวเหยา ตู่หยูเจียและถังเจียวอ้าปากค้างอีกครั้งพร้อมกับมองไปที่หลินฟานอย่างว่างเปล่า
เป็นผู้ถือหุ้นของฮัวจือดียังไม่พอ ยังเป็นผู้ถือหุ้นของชายันอีก!
นอกจากนี้ ยังมีวิลล่าขนาดใหญ่กว่าสิบหลัง!
ทุกสิ่งที่พวกเธอได้สัมผัสในวันนี้ ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของสามคน ซึ่งจริงๆแล้ว เรื่องพวกนี้…มันน่าตกใจเกินไป!
หลินฟานไม่ได้สนใจกับท่าทางของทั้งสามคน เขาก้มหน้าลงมองนาฬิกาแล้วพูดว่า “ใกล้จะถึงเวลาแล้ว ไปกันเถอะ พี่จะส่งเธอไปที่สถานีตะวันออก”
หลังจากที่ทั้งสี่คนขึ้นมานั่งบนรถบิ๊กจีแล้ว หลินฟานก็เหยียบคันเร่ง รถก็พุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
ไม่นาน พวกเขาก็มาถึงสถานีเจียงเป่ยตะวันออกที่แออัดไปด้วยผู้คน
ในเวลานี้ ในหมู่สามสาว หลินเสี่ยวเหยาเป็นคนที่หายจากอาการช็อกได้ไวที่สุด
หลินฟานบีบหน้าหลินเสี่ยวเหยาพลางพูดว่า “ระวังรถบนถนนด้วย”
“ได้เลย” หลินเสี่ยวเหยาตอบ
“แล้วก็ กินให้มากกว่านี้อีกนะ ” หลินฟานพูด
“พี่ชาย!” หลินเสี่ยวเหยาประท้วง
หลินฟานมองไปที่หลินเสี่ยวเหยาและทั้งสามคนที่เดินเข้าไปในสถานีก่อนจะหันหลังและจากไป
ในสถานี
ตู่หยูเจียถามออกมา “เสี่ยวเหยา เธอบอกว่าพี่เธอโสดใช่รึเปล่า?”
เมื่อได้ยินคำถามของตู่หยูเจีย ถังเจียวเองก็หูผึ่งขึ้นมาทันที
หล่อ รวย และเต็มไปด้วยเสน่ห์!
ทำไม หลินเสี่ยวเหยาจะไม่เข้าใจความคิดของพวกเธอ?
เธอพูดว่า “โสดหรอ? ฉันแค่พูดเล่นๆ ฮิๆๆๆ พวกเธอเชื่อจริงๆหรอ?”
อยากจะจีบพี่ของเธอหรอ?
ไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก!