ตอนที่ 322 ไม่สำนึกผิด

Mars เจ้าสงครามครองโลก

ตระกูลหวาง

เสียงกรีดร้องดังมาอย่างต่อเนื่อง เสียงแหลมและเศร้ารันทด ราวกับถูกทรมานในขุมนรกที่สิบแปดชั้น ทำให้ผู้คนขนพองสยองเกล้า

ตระกูลหวางในตอนนี้ ราวกับเมืองร้าง และไม่มีใครกล้าเดินผ่านทางนี้แล้ว น้ำเสียงนั้นน่ากลัวเกินไปจริงๆ

โดยพื้นฐานแล้วพวกคนรับใช้ก็หนีกันไปหมดแล้ว อดีตคฤหาสน์หลังใหญ่ที่มีสวนหย่อมหลายแห่งของตระกูลมหาเศรษฐีที่มีกำแพงสูง ตอนนี้รกร้างเป็นอย่างมาก

เงียบเหงาไร้ผู้คนไม่มีแขกเหรื่อมาเยี่ยมเยือน

ค่อยๆเหี่ยวเฉา

ก็ไม่มีใครทำความสะอาด บางส่วนในมุมสวนลานบ้าน ถึงกับมีหญ้าเขียวสั้นๆงอกขึ้นมา

หวางหงปากบูดเบี้ยว มือทั้งสองข้างงออยู่บนหน้าอกเหมือนตีนไก่ น้ำลายไหลลงมาถึงบนเสื้อผ้า นอนอยู่บนเก้าอี้อาบแดด เขากลายเป็นคนโง่อย่างสมบูรณ์

หวางเอี๋ยนที่เหมือนกับคนบ้าอยู่ข้างๆ ผมเผ้ายุ่งเหยิน ม้วนกันเป็นก้อน ด้านบนปกคลุมไปด้วยวัชพืช ไม่แตกต่างจากอาการของหวางหงมากนัก และหัวเราะแหยๆ

ปะติดประต่อกันไม่ได้เลยสักนิด สองพ่อลูกแบบนี้ เคยเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองเฉียนถัง

นี่ เป็นผลกรรมของพวกเขา

รูปร่างลักษณะในตอนนี้ ถือว่าดีที่สุดแล้ว โรคยังไม่กำเริบ

ยี่สิบสี่ชั่วโมงต่อวัน พวกเขาสองพ่อลูก จะถูกทรมานด้วยความเจ็บปวดเป็นเวลายี่สิบชั่วโมง

นายหญิงใหญ่หวางที่นั่งอยู่ข้างๆ เดิมทีผมก็ครึ่งดำครึ่งขาวอยู่แล้ว ในเวลานี้ขาวทั้งหมดแล้ว และรอยย่นบนใบหน้าทำให้คนจำไม่ได้ เธอก็เป็นนายหญิงใหญ่หวางผู้สวยสง่าอย่างหาที่เปรียบไม่ได้

“อ๊ากกก……”

หวางหงชักกระตุกทั่วร่างกาย กลิ้งบนพื้นด้วยความเจ็บปวด ทำให้เก้าอี้พลิกคว่ำ ฉีกเสื้อผ้าของตัวเองอย่างไม่หยุดยั้ง จับผมของตัวเอง และมีรอยเลือดอยู่ทั่วร่างกาย

“แม่ แม่ฆ่าผมเถอะ แม่ฆ่าผมเถอะอ๊ากกกกก”

เมื่อโรคกำเริบทุกครั้ง ก็เป็นตอนที่หวางหงมีสติมากที่สุด ความเจ็บปวดจะทวีคูณขึ้นนับไม่ถ้วน ใต้ผิวหนัง ก็เหมือนมดนับพันกำลังกัดอยู่

“มันเจ็บจะตายอยู่แล้ว”

ไม่ง่ายเลยที่อาการคันจะยุติลง จากนั้นทุกตารางนิ้วของผิวกาย ก็เหมือนกับน้ำมันเดือดหนึ่งช้อนราดลงบนตัว ทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดเหลือทน

“หงเอ๋อร์ ลูกทนเอาหน่อย ทนเอาหน่อยก็ดีแล้ว”

นายหญิงใหญ่หวางกอดหวางหงด้วยความเจ็บปวด

และหวางเอี๋ยนในอีกด้านหนึ่ง โรคก็เริ่มกำเริบ เปล่งเสียงร้องออกมาอย่างรันทด ไม่เหมือนกับเสียงที่มนุษย์สามารถเปล่งออกมาได้

ทำไม พวกเราทำอะไรผิดกันแน่ ต้องลงโทษพวกเราขนาดนี้ พระเจ้า ท่านตาบอดเหรอ เย่เซิ่งเทียนต่างหากที่เป็นปีศาจอย่างแท้จริง

นายหญิงใหญ่หวางคุกเข่าลงบนพื้นแผดเสียงคำราม ถึงจุดนี้แล้ว เธอยังไม่รู้สึกว่าตัวเองทำอะไรผิด

เมื่อสองวันก่อน เธอไปหาหลี่หลานทั้งครอบครัว

แต่ว่า บ้านที่ครอบครัวของเย่เซิ่งเทียนเคยอาศัยอยู่ก่อนหน้านี้ ถูกเธอหลอกลวงเอาคืนกลับมา ต่อมาบ้านเช่า ก็ถูกหวางหงหาคนมารื้อทิ้ง

เธอก็ตามหาคนไม่เจอ ไปถามเพื่อนบ้าน คนอื่นก็รู้ว่าเธอเป็นคนยังไง ตอนนี้ไม่มีใครสนใจเธอด้วยซ้ำ

ทำได้เพียงจ้องมองหวางหงและหวางเอี๋ยนทุกข์ทรมานทุกวัน เธออยากจะช่วยคนก็หาหนทางไม่ได้!

กรรมตามสนองคนทำผิดอย่างไม่เคยผิดพลาดจริงๆ ถ้าหากไม่ใช่ว่าพวกเขาบีบคั้นครอบครัวของหวางซีขนาดนั้น ก็ไม่ถึงกับต้องตกอยู่ในขั้นนี้

แม้ว่าจะถึงขั้นนี้แล้ว นายหญิงใหญ่หวางยังคงไม่รู้ตัวถึงความชั่วร้ายที่ตัวเองได้กระทำ ยังคงรู้สึกว่านี่มันเป็นความผิดของเย่เซิ่งเทียน

ถ้าหากเย่เซิ่งเทียนเปิดเผยตัวตนก่อน ไม่มีทางเกิดเรื่องแบบนี้ด้วยซ้ำ

นายหญิงใหญ่หวางแหงนหน้าขึ้นตะโกน: “พระเจ้า ท่านตาบอดหรือไง ปีศาจอย่างเย่เซิ่งเทียน มีชีวิตที่ดี ท่านกลับทรมานคนที่จิตใจดีมากขนาดนี้อย่างลูกชายและหลานสาวของฉัน……”

“ดูเหมือนว่า คุณจะไม่สำนึกผิดเลย”

น้ำเสียงเยือกเย็นเสียดสีกระดูกของเย่เซิ่งเทียน ดังขึ้นอย่างแผ่วเบา นายหญิงใหญ่หวางก็สั่นเทาไปทั้งตัว และมองไปที่ประตูด้วยความสยดสยอง