ตอนที่ 1530

War sovereign Soaring The Heavens

หลิวฮ่วนตกตะลึง!

 

หลังออกจากเขตหวงห้ามเจียงเว่ยก็มุ่งตรงไปยังคฤหาสน์ของจ้าวเฟิงที่ตั้งอยู่ในส่วนที่พักของอาวุโสฝ่ายในทันที

 

ไม่นานมันก็ได้รับทราบจากข้ารับใช้ในคฤหาสน์ ว่าจ้าวเฟิงพึ่งออกจากการปิดด่านมาได้ไม่นาน อาวุโสหลิวฮ่วนก็มาหา สุดท้ายจ้าวเฟิงก็ออกไปข้างนอกจนป่านนี้ยังไม่กลับมา…

 

เจียงเหว่ยได้ฟังก็รู้ดีในใจว่าจ้าวเฟิงไม่มีวันได้กลับมาอีกต่อไป

 

เพราะคนได้ตายไปแล้ว!

 

“หลิวฮ่วน…”

 

หลังออกจากคฤหาสน์จ้าวเฟิง เจียงเว่ยก็ไปเยือนคฤหาสน์ของหลิวฮ่วนต่อทันที ทว่าพอเดินมาใกล้ถึงด้านหน้าคฤหาสน์มันก็เห็นร่างคุ้นตาหนึ่งเดินออกมา

 

“อาวุโสป๋ายลี่?!”

 

เจียงเว่ยค่อนข้างแปลกใจไม่น้อยที่เห็นอาวุโสป๋ายลี่เดินออกมาจากคฤหาสน์ของหลิวฮ่วน

 

ตอนนี้ป๋ายลี่หงไม่ควรมาอยู่ที่คฤหาสน์ของหลิวฮ่วนไม่ใช่รึไร?

 

เพราะมันจำได้ว่าคนที่ป๋ายลี่หงยอมรับเป็นศิษย์น้อง เป็นคนของจวนเจ้าเมืองชงซันมาก่อน

 

และความบาดหมางระหว่างจวนเจ้าเมืองชงซันกับหลิวฮ่วน เจียงเว่ยก็รู้ดีแก่ใจ

 

มันยังเผลอคิดไปว่าใช่ป๋ายลี่หงบุกมาฆ่าหลิวฮ่วนหรือไม่?

 

หากป๋ายลี่หงมาฆ่าหลิวฮ่วนจริงๆ มันก็ไม่อาจทำอะไรได้

 

ถึงแม้หลิวฮ่วนจะเป็นอาวุโสฝ่ายใน แต่ก็ไม่นับเป็นตัวอะไรหากเทียบกับป๋ายลี่หง!

 

กล่าวกันตามตรงในสำนักจันทร์จรัสแสงนี้ หากจะเปรียบเทียบแล้วล่ะก็…หลิวฮ่วนยังไม่คู่ควรจะถือรองเท้าให้ป๋ายลี่หงด้วยซ้ำ!

 

ป๋ายลี่หงเป็นใคร?

 

ปรมาจารย์จารึกเซียนระดับ 3 ดาว!

 

มองทั่วพื้นที่ปกครองของ 9 พันธมิตร หากไม่นับตลาดมืดหยินชาน ปรมาจารย์จารึกเซียนระดับ 3 ดาวก็มีอยู่แค่ 2 คนเท่านั้น!

 

ด้วยเหตุนี้ไม่ว่าจะเป็นใครในสำนักจันทร์จรัสแสงกระทั่งมันเอง ยามเจอป๋ายลี่หงก็ต้องมีมารยาททั้งให้ความเคารพต่ออีกฝ่าย ด้วยเพราะกลัวจะผิดใจ จนอีกฝ่ายออกจากสำนักไป

 

ต้องทราบด้วยว่าป๋ายลี่หงเป็นที่ต้องการของอีก 8 สำนักมาก กระทั่งตลาดมืดหยินชานเองก็ไม่เว้น

 

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา 8 สำนักรวมถึงตลาดมืดหยินชานเองก็หยิบยื่นข้อเสนออันดีให้ป๋ายลี่หง เพื่อชักชวนให้เข้าร่วมขุมกำลัง แต่ป๋ายลี่หงเลือกจะปฏิเสธพวกมันทั้งหมด เพราะได้มีมิตรภาพอันดีกับสำนักจันทร์จรัสแสงก่อน นอกจากนั้นป๋ายลี่หงยังรู้สึกพึงพอใจกับการดูแลปฏิบัติอันดีที่สำนักมีให้

 

ด้วยเหตุนี้ระดับสูงทั้งหมดในสำนักไม่เว้นเจ้าสำนักอย่างเจียงเว่ย จึงสำรวมตัวยามพบกับป๋ายลี่หง

 

ดั่งเช่นตอนนี้ เจียงเว่ยปั้นหน้ายิ้ม กล่าวทักทายป๋ายลี่หงอย่างมากไมตรี

 

“เจ้าสำนัก?”

 

ด้านป๋ายลี่หงที่เดินออกมาเจอเจ้าสำนักหน้าคฤหาสน์ก็แปลกใจเช่นกัน “เจ้าสำนักมาหาหลิวฮ่วนรึ?”

 

“เป็นเช่นนั้น”

 

เจียงเหว่ยยิ้มตอบพร้อมพยักหน้า

 

“เช่นนั้นข้าไม่อยู่รบกวนเจ้าสำนักแล้ว”

 

ป๋ายลี่หงกล่าวลาเจียงเว่ยและเดินจากไป

 

ตอนนี้มันผ่านไปเป็นวันแล้ว มันไม่กลัวว่าหลิวฮ่วนจะลงมือออกไปตามล่าต้วนหลิงเทียน ศิษย์น้องของมันที่เดินทางกลับบ้านเกิดอีกต่อไป

 

ตัดกลับมาที่คฤหาสน์ของหลิวฮ่วน หลังจากที่หลิวฮ่วนเดินออกมาป๋ายลี่หงหน้าประตู มันก็เดินย้อนกลับเข้าไปในคฤหาสน์ทันที ทว่าเดินไปไม่กี่ก้าวมันก็ได้ยินเสียงตื่นตระหนกดังขึ้นจากด้านหลัง “ทะ…ท่านเจ้าสำนัก!”

 

เสียงตื่นตระหนกทั้งติดอ่างนั้น กลับเป็นของศิษย์ที่มันมอบหน้าที่ให้เฝ้าประตูเอาไว้

 

ศิษย์ผู้นี้เป็นเพียงข้ารับใช้เท่านั้น ไม่ใช่ศิษย์ของมันแต่อย่างไร

 

“เจ้าสำนัก?”

 

ได้ยินเสียงติดอ่างจากด้านหลัง หลิวฮ่วนก็แปลกใจไม่น้อย จึงรีบหันตัวกลับมาทันที

 

มองไปไม่ไกลมันก็แลเห็นชายวัยกลางคนร่างสูง ใบหน้ากระจ่างปานหยกเสลา อีกฝ่ายมองทักมันอย่างสงบ “อาวุโสหลิวฮ่วน”

 

“ท่านเจ้าสำนัก…ไฉนท่านมาถึงที่นี่ได้”

 

เห็นหน้าเจียงเว่ยโผล่มาแบบนี้ หลิวฮ่วนอดไม่ได้ที่จะตะลึง

 

ต้องทราบด้วยว่าเจียงเว่ยไม่เคยมาเหยียบคฤหาสน์มันมาก่อนเลย

 

ถึงแม้มันจะเป็นผู้อาวุโสฝ่ายใน แต่มันก็มีศักดิ์ฐานะไม่ได้สูงส่งอะไรในบรรดาผู้อาวุโส มันไม่แม้แต่จะเคยเข้าร่วมประชุมสำนักเพื่อออกเสียงตัดสินใจเรื่องราวอะไรของสำนักด้วยซ้ำ กระทั่งหน้าเจ้าสำนักมันยังแทบไม่ได้เห็น

 

ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่เจ้าสำนักมาหามันถึงบ้านเลย!

 

แม้จะตกตะลึง แต่หลิวฮ่วนก็เร่งกล่าวต้อนรับเจ้าสำนักด้วยรอยยิ้ม

 

ตอนนี้หลิวฮ่วนก้มหน้างุดๆ มองไปคล้ายสุนัขเชื่องๆ

 

เรียกว่าหลิวฮ่วนตอนนี้แทบจะเป็นคนละคนกับหลิวฮ่วนที่เชิดหน้าถือดียามไปบุกเมืองชงซันและเดินอวดบารมีที่เมืองหานเหอ

 

แตกต่างราวกับสวรรค์และโลก

 

ในห้องโถงรับรอง หลิวฮ่วนต้อนรับเจียงเว่ยอย่างดี ควักใบชาล้ำค่าที่มีเหลือน้อยนิดออกมาชงให้เจ้าสำนักดื่ม

 

เจียงเว่ยเองก็ไม่เกรงใจอะไร นั่งลงบนโต๊ะ ลิ้มรสชาทันที

 

“ท่านเจ้าสำนัก ท่านมาหาข้าเช่นนี้มีอันใดให้ข้าหลิวฮ่วนรับใช้หรือ?”

 

หลิวฮ่วนที่รอเจ้าสำนักจิบชาเสร็จ ก็กล่าวถามออกมา

 

เจ้าสำนักมาหามันถึงที่แบบนี้แม้ในใจจะลอบปลื้มปิติ แต่มันก็รู้ดีว่าท่าทางเรื่องราวจะไม่ได้ราบรื่นดั่งตาเห็น…

 

เจ้าสำนักมาหามันแบบนี้ สมควรมีเรื่องใดผิดปกติเกิดขึ้นแล้ว!

 

กระทั่งอาจจะไม่ได้มาสนทนาด้วยดี!

 

แว่บแรกหลิวฮ่วนพลันฉุกคิดถึงต้วนหลิงเทียน และเป็นไปได้สูงที่ป๋ายลี่หงจะไปกดดันเจ้าสำนักให้มาเล่นงานมัน!

 

พอคิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา ใจหลิวฮ่วนก็สั่นสะท้านทันที

 

มันกลับไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อน แล้วหลังจากนี้มันจะทำอย่างไรดี?

 

ออกจากสำนักจันทร์จรัสแสง?

 

ทว่ามันหลิวฮ่วนอยู่ในสำนักจันทร์จรัสแสงมาชั่วชีวิต ทุกสิ่งอย่างของมันอยู่ที่นี่ แล้วจะให้มันออกไปตั้งต้นชีวิตใหม่นอกสำนักได้อย่างไร? ไหนเลยมันจะเต็มใจ!

 

ด้วยเหตุนี้มันจึงรู้สึกโชคดีมาตลอด ที่ป๋ายลี่หงไม่เคยลงมือแบบนี้กับมัน

 

หลังจากทั้งหมดแล้ว ป๋ายลี่หงก็แค่มากล่าววาจากดดันมัน และมาเฝ้าจับตาดูมันไว้ไม่ได้ลงมือรุนแรงอะไร

 

‘น่าจะมาเพราะเรื่องอื่น’

 

หลิวฮ่วนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ลอบปลอบใจตัวเอง

 

“ทันทีที่อาวุโสจ้าวเฟิงออกจากการปิดด่าน เจ้าก็ไปหาทันทีเลยใช่หรือไม่?”

 

เจียงเว่ยมองหลิวฮ่วนค่อยกล่าวถามเสียงเรียบ

 

“ใช่”

 

แม้มันจะไม่ทราบว่าไฉนเจียงเว่ยกล่าวถามเรื่องนี้ แต่มันก็พยักหน้าตอบไปตามตรง

 

นี่ไม่ใช่ความลับอะไร

 

มีคนมากมายในคฤหาสน์ของจ้าวเฟิงที่รู้ว่ามันไปเยือน

 

‘ไม่ใช่ว่าจ้าวเฟิงออกไปตามฆ่าต้วนหลิงเทียนหรือไร? ไฉนจ้าวสำนักมาถามข้าเรื่องนี้?’

 

หลิวฮ่วนรู้สึกว่าเรื่องราวไม่ชอบมาพากลขึ้นมาแล้ว

 

“แล้วเจ้ารู้เรื่องที่อาวุโสจ้าวเฟิงออกไปข้างนอกเมื่อวานหรือไม่?”

 

เจียงเว่ยกล่าวถามออกมาอีกรอบ

 

“ข้ามิรู้”

 

หลิวฮ่วนส่ายหน้าไปมา แววตาเผยความไม่เข้าใจ “ท่านเจ้าสำนัก มิทราบว่านี่มันเรื่องอะไรกันหรือ?”

 

มันย่อมรู้ดีว่าจ้าวเฟิงออกไปเมื่อวาน อีกทั้งมันยังเป็นคนมายุยงอีกฝ่ายโดยตรง

 

แต่จะให้มันยอมรับได้อย่างไรว่ามันรู้?

 

สุดท้ายแล้วเรื่องที่มันคิดยืมมีดฆ่าคนให้จ้าวเฟิงฆ่าต้วนหลิงเทียน ก็ไม่อาจเผยในที่แจ้งได้

 

“อาวุโสจ้าวเฟิงตายแล้ว”

 

เจียงเหว่ยมองสบตาหลิวฮ่วนค่อยกล่าวสืบต่อเสียงเรียบ

 

อาวุโสจ้าวเฟิงตายแล้ว!?

 

วาจานี้ของเจียงเว่ยยามดังเข้าหูหลิวฮ่วน ประหนึ่งฟ้าผ่าดังเปรี๊ยงก็ไม่ปาน ทำให้มันตะลึงลานไปด้วยความตกใจทันที

 

“อาวุโสจ้าวเฟิง…ตายแล้ว?”

 

ทันทีที่หลิวฮ่วนคืนสติ สีหน้ามันก็ซีดลง แววตาล่อกแล่กเต็มไปด้วยความสับสนไม่เข้าใจ

 

แน่นอนว่านี่เป็นท่าทีตอบสนองตามสัญชาตญาณของหลิวฮ่วน

 

ทว่าพอเจียงเว่ยได้เห็นท่าทีสับสนตื่นตระหนกของหลิวฮ่วน มันก็คิดว่าหลิวฮ่วนไม่รู้เรื่องราวมาก่อนแน่ๆ

 

ทั้งยังคิดว่าหลิวอ่วนตกใจกับการตายของจ้าวเฟิง เพราะท่าทางอีกฝ่ายนั้นแลดูตกใจไม่เบา ไม่ได้เสแสร้งแกล้งทำแม้แต่น้อย

 

จ้าวเฟิงตายแล้ว!

 

มันรู้ดีว่าจ้าวเฟิงออกไปทำอะไร

 

ในสายตาของมันป่านนี้จ้าวเฟิงน่าจะฆ่าต้วนหลิงเทียนได้แล้ว และขจัดหนามยอกออกของมันได้เสียที

 

มันยังเฝ้ารอให้จ้าวเฟิงกลับมา และคิดเลี้ยงฉลองกับอีกฝ่ายด้วยซ้ำ!

 

ทว่าไม่ทันที่จ้าวเฟิงจะกลับมา เจ้าสำนักกลับมาบอกข่าวอันน่าตื่นตระหนกกับมัน

 

‘จ้าวเฟิงออกไปฆ่าต้วนหลิงเทียน…ป๋ายลี่หงก็มาจับตาดูข้าไว้ เช่นนั้นคนที่ฆ่าจ้าวเฟิงย่อมไม่ใช่ป๋ายลี่หง แล้วจ้าวเฟิงถูใครฆ่ากัน?’

 

คิดถึงเรื่องนี้หลิวฮ่วนอดไม่ได้ที่จะหวาดกลัว

 

แน่นอนมันไม่เคยคิดเรื่องที่ต้วนหลิงเทียนจะฆ่าจ้าวเฟิงได้เลย

 

ถึงแม้พรสวรรค์ต้วนหลิงเทียนจะน่ากลัว และบรรลุถึงขอบเขตสู่เซียนได้ในเวลาอันสั้น

 

ทว่าตั้งแต่ต้นจนจบมันก็เห็นต้วนหลิงเทียนเป็นแค่ ‘เหลือบไร’

 

หากไม่ใช่เพราะมีป๋ายลี่หงคุ้มกะลาหัว ต้วนหลิงเทียนคงตกตายไปเนิ่นนานแล้ว ถึงไม่ใช่เพราะฝีมือมันแต่ก็ต้องถูกมือสังหารของตลาดมืดหยินชานฆ่า!

 

‘จ้าวเฟิงตายแล้ว…หรือมันไปทำให้ยอดฝีมือระหว่างทางขุ่นเคืองจนถูกฆ่ากัน? ไม่รู้ว่ามันฆ่าต้วนหลิงเทียนได้ก่อนตายหรือไม่’

 

ตอนนี้หลิวฮ่วนไม่ได้สนใจความตายของจ้าวเฟิงเลย

 

เพราะจ้าวเฟิงจะตายก็ตายไป ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับมัน

 

ที่มันสนมีแต่เรื่องที่ต้วนหลิงเทียนยังอยู่หรือตายแล้วกันแน่

 

หากต้วนหลิงเทียนยังอยู่ มันก็ยากจะมีคืนวันอันดี ไม่อาจกินอิ่มนอนหลับ!

 

ตั้งแต่ต้นจนจบหลิวฮ่วนไม่เคยสงสัยว่าจ้าวเฟิงตายด้วยน้ำมือต้วนหลิงเทียนหรือไม่ กระทั่งไม่คิดว่าต้วนหลิงเทียนจะมียอดฝีมือคุ้มครอง และยอดฝีมือคนนั้นก็ได้ลงมือฆ่าจ้าวเฟิงเลย

 

ในสายตาของมันต้วนหลิงเทียนก็เป็นแค่ ‘เด็กบ้านนอก’

 

หากไม่ใช่เด็กบ้านนอก ไหนเลยจะไปยอมรับนับถือชนชั้นสวะอย่างฟางฮุ่ยเจ้าเมืองชงซันเป็นครู?

 

เด็กบ้านนอกพรรค์นั้น จะไปมียอดฝีมือลอบคุ้มครองได้อย่างไร?

 

แน่นอนว่ามันก็เคยคิดว่าอาจเป็นป๋ายลี่หงส่งยอดฝีมือไปคุ้มกันต้วนหลิงเทียน ทว่านั่นก็เป็นไปไม่ได้

 

หากป๋ายลี่หงส่งยอดฝีมือไปคุ้มกันต้วนหลิงเทียนถึงขั้นมีพลังมากพอฆ่าจ้าวเฟิงได้จริง แล้วไฉนป๋ายลี่หงต้องมาเฝ้าจับตาดูมันไว้ไม่ให้ออกไปลอบฆ่าต้วนหลิงเทียนแบบนี้?

 

ดังนั้นมันจึงตัดความเป็นไปได้ข้อนี้ทิ้งไป

 

ด้วยเหตุนี้ก็เหลือเพียงความเป็นไปได้ประการเดียว จ้าวเฟิงถูกยอดฝีมือที่ไม่เกี่ยวข้องกับต้วนหลิงเทียนสังหาร

 

“เรื่องนี้เจ้ารู้แล้วก็เงียบไว้ อย่าได้แพร่งพรายออกไป”

 

เจียงเว่ยมองหลิวฮ่วนค่อยกำชับเสียงเรียบ ก่อนที่ร่างจะอันตรธานหายไปทันทีหลังได้รับคำตอบรับจากหลิวฮ่วน

 

ขณะเดียวกันหลิวฮ่วนก็ลอบเช็ดเหงื่ออย่างตื่นตระหนก

 

“หวังว่าจ้าวเฟิงจะฆ่าต้วนหลิงเทียนได้ก่อนที่จะถูกผู้ใดไม่รู้ฆ่าตาย…หาไม่แล้วข้าก็ต้องหาโอกาสฆ่าต้วนหลิงเทียนด้วยตัวเองอีกครั้ง”

 

หลิวฮ่วนบ่นพึมพำ

 

‘อย่างไรเสียจ้าวเฟิงนั่นนับว่าโชคร้ายนัก ปิดด่านบ่มเพาะมานานปี แต่กลับถูกฆ่าทันทีที่ออกมา…ยังดีนักที่ข้าไม่ได้ลงมือเอง หาไม่แล้วคนที่ตายอาจเป็นข้า!’

 

คิดถึงเรื่องนี้หลิวฮ่วนอดไม่ได้ที่จะเสียวสันหลัง..