เทพสงครามพิทักษ์โลก บทที่ 364
เขารู้ว่า
ที่พ่อของตนเองให้ตนเองไป แสดงให้เห็นชัดเจนว่าเรื่องราวได้มาถึงจุดที่วิกฤติแล้ว
ในเวลานี้
เขาจะสามารถทอดทิ้งพ่อของตัวเอง ให้เอาชีวิตรอดเพียงลำพังได้อย่างไร?
นี่ไม่ใช่สัตว์เดียรัจฉานหรือ?
นี่ไม่ใช่เทียบไม่ได้กับแม่ยายที่ยอดเยี่ยมของหยางเฟิงหรือ?
เหอเซิ่งหงก็ซาบซึ้งใจอย่างมาก ใช้มือลูบหัวของเหอเจียหาวแล้วกล่าวว่า: “ลูกชาย! พ่ออยากไป แต่พ่อไปไม่ได้! หยางเฟิงไม่ปล่อยฉันไปแน่ ฉะนั้นฉันจำเป็นต้องอยู่ที่นี่!”
“เพียงแค่แกไป ภายในใจของฉันก็สงบแล้ว! แกฟังคำพูดฉันนะ พรุ่งนี้จะต้องไปทันที ไม่อย่างนั้นถึงฉันจะตาย ก็คงตายตาไม่หลับ!”
“หลายปีมานี้ ธุรกิจในครอบครัว ล้วนทำเรื่องที่ใสสะอาด เช่นนั้นหยางเฟิงก็น่าจะไม่ทำให้แกต้องลำบาก!”
ภายในใจของเหอเซิ่งหงคล้ายกับกระจกใส
ครั้งนี้
คนที่หยางเฟิงต้องการจัดการก็คือเขา แล้วจะให้เขาหนีไปได้อย่างไร?
เขาจะต้องอยู่ที่นี่ เพื่อช่วงชิงโอกาสที่จะมีชีวิตรอดของลูกชายตนเอง!
เมื่อเห็นเช่นนี้แล้ว
เหอเจียหาวก็กัดฟันแล้วกล่าวว่า: “ได้ ฉันจะไป! เพียงแต่พ่อ ก่อนที่ฉันจะไป ฉันหวังว่าจะสามารถย้ายทรัพย์สมบัติของตระกูลเหอได้!”
“สิ่งนี้……..”
ได้ยินเช่นนี้
เหอเซิ่งหงก็ลังเลใจเล็กน้อย
ตระกูลเหอมีสินทรัพย์นับพันล้าน
ด้วยทรัพย์สินอันมหาศาลเช่นนี้ ถ้าหากอยู่ที่นี่ทั้งหมด เขาก็ไม่ยินยอม
แต่หากต้องการเคลื่อนย้ายทรัพย์สินมหาศาลขนาดนี้ จะต้องดึงดูดความสนใจของหยางเฟิงอย่างแน่นอน
ถึงเวลานั้น
เกรงว่าจะนำอันตรายมาให้ลูกชายของตัวเอง!
เห็นเหอเซิ่งหงแสดงออกว่าลังเลใจ
เหอเจียหาวก็กล่าวโน้มน้าวไม่หยุดว่า: “พ่อ! ถึงแม้ตระกูลเหอของพวกเราจะมีทรัพย์สินจำนวนไม่น้อยในต่างประเทศ แต่ทรัพย์สินเหล่านั้นก็ไม่อาจเทียบกับที่เมืองกาสิโนได้โดยสิ้นเชิง หากพวกเราทิ้งทรัพย์สินของเมืองกาสิโนไป ตระกูลเหอของพวกเราจะพูดถึงการกลับมายืนหยัดอีกครั้งได้อย่างไร!”
คิดไตร่ตรองอยู่ชั่วขณะ
เหอเซิ่งหงก็กัดฟันแล้วกล่าวว่า: “ได้! เช่นนั้นฉันให้เวลาแกหนึ่งวัน ภายในหนึ่งวัน แกจะต้องเคลื่อนย้ายทรัพย์สินทั้งหมด ถ้าไม่อาจเคลื่อนย้ายได้ เช่นนั้นแกก็จะต้องจากไป!”
เหอเจียหาวกล่าวอย่างดีอกดีใจว่า: “ครับ พ่อ!”
นี่คือทรัพย์สินนับแสนล้าน
เหอเจียหาวจะตัดใจทิ้งไปได้อย่างไรกัน?
ถ้าสามารถเคลื่อนย้ายไปได้
เมื่อถึงต่างประเทศ ก็จะเป็นอิสระไปชั่วชีวิต
เห็นท่าทีดีอกดีใจของเหอเจียหาวแล้ว
ภายในใจของเหอเซิ่งหง ก็มีความไม่แน่ใจอยู่เสมอ
……
“ฮ่าๆๆ! เงินจำนวนมากเลยนะ!”
“ถ้าให้เพื่อนซี้เหล่านั้นรู้เข้า พวกเธอจะต้องอิจฉาจนตายอย่างแน่นอน!”
“ไม่เคยคาดคิดเลยว่า ฉันหลันซินก็จะมีเงินมากมายขนาดนี้!”
ระหว่างทาง
หลันซินชูเช็คเงินสดขึ้นมาอย่างดีอกดีใจ
มองซ้าย มองขวา ก็ยังมองไม่พอ!
เย่เมิ่งเหยียนนั่งอยู่ที่นั่งด้านหลัง เห็นแม่จนเองมีสีหน้าท่าทางโลภในเงินทอง จึงอดไม่ได้ที่จะส่ายหน้าอย่างจนใจ
หยางเฟิงยิ้มกับเย่เมิ่งเหยียนแล้วกล่าวว่า: “ที่รัก พรุ่งนี้คุณกลับตงไห่กับแม่ไปก่อนนะ!”
ได้ฟังคำพูดนี้
เย่เมิ่งเหยียนก็กล่าวถามอย่างงุนงงว่า: “คุณคะ ทำไมคุณถึงไม่กลับไปด้วยกันกับฉันละคะ?”
หยางเฟิงส่ายหน้าแล้วกล่าวว่า: “ฉันยังมีเรื่องที่จะต้องทำที่นี่นะ พวกคุณกลับไปก่อนเถอะ!”
“แต่ว่า……”
เห็นหยางเฟิงไม่ยอมไป เย่เมิ่งเหยียนก็ลังเลใจขึ้นมา
ช่วงเวลานี้ คนทั้งสองตามติดกันเป็นเงาตลอด
จู่ๆ จะต้องแยกกัน นี่จึงทำให้ภายในใจของเธออาลัยอาวรณ์อย่างมาก!
เวลานี้
หลันซินตะโกนอย่างตื่นเต้นว่า: “กลับตงไห่หรือ? ดีเลย แม่พักอยู่ที่นี่นานแล้ว รีบกลับตงไห่เถอะ ฉันยังจะต้องไปหาพวกพี่น้องเหล่านั้นของฉันเพื่ออวดความรวยด้วย!”
หลันซินในเวลานี้
แทบอยากจะบินกลับตงไห่ในทันที
หลังจากนั้น ก็จะควักเงินหนึ่งพันล้านออกมา ต่อหน้าบรรดาพี่น้องของตนเอง
และต้องการเห็นความอิจฉาริษยาและเกลียดชังบนใบหน้าของพวกเธอ!
ได้ฟังคำพูดนี้ของหลันซิน เย่เมิ่งเหยียนก็อดไม่ได้ที่จะกลอกตามองบน
เธอมองหยางเฟิงแล้วกล่าวถามว่า: “แล้วคุณจะกลับไปตงไห่เมื่อไรหรือ?”