แดนนิรมิตเทพ บทที่ 589
คฤหาสน์ทะเลสาบกลับคืนรัง ก็ยังคงมีหมอกห้อมล้อมอยู่เหมือนเดิม ไม่ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงจากการที่สำนักโยวหลานย้ายมาที่แห่งนี้เลยแม้แต่น้อย
ความแข็งแกร่งของค่ายกลรวมทิพย์โคจรมหาจักรวาล นอกจากจะเป็นผู้บำเพ็ญอย่างเฉินโม่แล้ว สำนักโลกฝึกบู๊อย่างสำนักโยวหลาน ไม่ว่าจะย้ายมาอีกกี่คน ก็ไม่สามารถทำให้ค่ายกลรวมทิพย์โคจรมหาจักรวาลเกิดเหตุการณ์ที่พลังชี่ทิพย์ไม่เพียงพอ
นี่เองก็เป็นเหตุผลที่ทำไมเฉินโม่ถึงเลือกค่ายกลรวมทิพย์โคจรมหาจักรวาลที่ทั้งเสียแรงและเสียเวลา แต่ทำไมถึงไม่เลือกค่ายรวมทิพย์โคจรจุลจักรวาลที่เสียแรงและเสียวัสดุน้อยกว่า
ภายในลานสวนของคฤหาสน์ กงซุนจื่อยิงมองฉินกวนไห่ที่นั่งขัดสมาธิอยู่บนดาดฟ้า แล้วโค้งคำนับพูดว่า “อาจารย์คะ พาตัวท่านจินมาแล้วค่ะ!”
ฉินกวนไห่ลืมตาขึ้น จับหัวโล้นของตัวเอง มองท่านจินที่สีหน้านิ่งเฉย แล้วหัวเราะพูดว่า “ท่านจิน ได้ยินชื่อเสียงเรียงนามมานาน!”
ตระกูลจินแห่งฮ่านหยาง แม้ว่าตอนนี้สำนักโยวหลานจะกำลังรุ่งโรจน์เช่นนี้ แต่ฉินกวนไห่ก็ไม่กล้าที่จะประมาท
ท่านจินพนมมือ ไม่ต่อต้านและไม่ถ่อมตน
“เจ้าสำนักให้เกียรติกันเกินไปแล้วครับ ไม่ทราบว่าเจ้าสำนักเรียกผมมาทีนี่ มีเรื่องอะไรจะชี้แนะ?”
กระโดดลงเบาๆ ฉินกวนไห่ลงมาอยู่ตรงหน้าท่านจิน บนใบหน้ามีรอยยิ้มแปลกประหลาด
“คุณท่านจินเป็นผู้ช่วยก่อตั้งประเทศที่มีความงามความชอบที่ยิ่งใหญ่ ตอนนี้ยังเป็นผู้นำของตระกูลจิน คำว่าชี้แนะนั้น คนอย่างฉินกวนไห่ไม่กล้าหรอก”
“ครั้งนี้เชิญคุณท่านจินมา เพื่อปรึกษาหารือเรื่องความร่วมมือของเรา”
ท่านจินขมวดคิ้ว มองไปยังฉินกวนไห่ด้วยความสงสัย”ตระกูลจินมีชื่อเสียงสะท้านฮ่านหยาง มีธุรกิจมากมายทั่วทั้งฮ่านหยาง กระทั่งทั่วทั้งประเทศ ฉันมีความสนใจอยากจะได้หุ้นตระกูลจิน และร่ำรวยพัฒนาไปด้วยกันกับตระกูลจิน ท่านจินคิดว่ายังไง?”
“หากว่าสามารถร่วมงานกับเจ้าสำนัก ตระกูลจินของผมรู้สึกขอบคุณอย่างมาก เพียงแต่ไม่ทราบว่าเจ้าสำนักต้องการครอบครองหุ้นเท่าไหร่ครับ?” ท่านจินมองฉินกวนไห่ แววตาลึกซึ้ง
ฉินกวนไห่หัวเราะ “ฉันเอาแค่ห้าสิบเอ็ดเปอร์เซ็นต์ก็พอแล้ว นี่มันถือเป็นการกลืนกินตระกูลจินของผมแล้ว ผมไม่สามารถทำตามที่ต้องการได้!”
เมื่อได้ยินท่านจินปฏิเสธ ฉินกวนไห่เองก็ไม่ได้โมโห ยังคงยิ้มแย้มเหมือนเดิม “ท่านจินอย่าเพิ่งรีบปฏิเสธ”
“โบราณกล่าวไว้ว่าเสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ ตอนนี้สำนักโยวหลานมาปักรากฐานอยู่ที่ฮ่านหยางแล้ว พวกผู้มีอิทธิพลในฮ่านหยางต่างก็ยอมจำนนกันหมด แต่ตระกูลจินของคุณก็ยังมีอำนาจมากอยู่ดี”
“โบราณกล่าวไว้ว่าถิ่นของตัวเองจะปล่อยให้คนอื่นมายึดครองไปได้อย่างไร? หากว่าตระกูลจินของคุณไม่ยอมร่วมมือกับผม ผมคงจะไม่สบายใจเป็นอย่างมาก!”
คำพูดของฉินกวนไห่ เป็นการข่มขู่อย่างชัดเจน!
ท่านจินเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย จ้องมองฉินกวนไห่ “หากว่าตระกูลจินของผมไม่ตกลงร่วมมือกับคุณ ไม่ทราบว่าเจ้าสำนักต้องการทำอะไรครับ?”
รอยยิ้มบนใบหน้าของฉินกวนไห่ ในที่สุดก็หายไป ปรากฏสีหน้าที่แท้จริงออกมา “แน่นอนว่าจะต้องกลืนกินยึดครองตระกูลจินของคุณ เรื่องง่ายแค่นี้ ท่านจินคงไม่ต้องให้ผมอธิบายมั้งครับ!”
แต่เวลานี้ท่านจินกลับยิ้มออกมา “หากว่าคุณแข่งขันทางธุรกิจกับผมอย่างผ่าเผย ตระกูลจินของผมยินดีสู้ด้วยจนถึงที่สุด หากว่าคุณกล้าใช้พลังโลกฝึกบู๊มาประพฤติมิชอบ เครื่องบินรบและระเบิดของทหารก็ไม่ใช่สิ่งธรรมดา!”
สีหน้าของฉินกวนไห่มืดขรึม “พูดอย่างนี้ก็หมายความว่าไม่มีโอกาสให้เจรจาเลยสินะ?”
ท่านจินไม่ตอบ เพียงแค่มองเขาอย่างเย็นชา ถือเป็นการแสดงจุดยืน
แววตาของฉินกวนไห่เปลี่ยนเป็นน่ากลัวทันที หัวเราะอย่างชั่วร้าย “ท่านจินเองก็คงจะเป็นผู้ฝึกบู๊สินะ? หากว่าขณะที่ผมสู้กันกับคุณแล้วไม่ทันระวังไปทำลายพลังบำเพ็ญของคุณเข้า คุณคิดว่าทางทหารจะมากำจัดผมทิ้งมั้ย?”
ท่านจินหน้าเคร่งขรึม ไม่พูดจาอะไร