บทที่ 31 โทรศัพท์

ย้อนเวลาแค้น (重生之千金有点狠)

บทที่ 31
โทรศัพท์

สีหน้าของมู่หรงเสวี่ยเศร้าลง เธอไม่ลืมว่าเมื่อกี้พวกโจรแสดงอาการน่ารังเกียจกับเธอยังไงบ้าง และไม่ลืมว่าในชีวิตที่แล้วเธอต้องทุกข์ทรมานมากแค่ไหน

“มัดพวกมันไว้ก่อนแล้วค่อยปลุกพวกมันขึ้นมา”

โม่จื่อเหวินเจอเชือกหนาที่จะเอามามัดโจรทั้งห้าไว้ด้วยกัน มู่หรงเสวี่ยยิ้มที่มุมมาก พูดได้เลยว่าฝีมือเรื่องการผูกเชือกของจื่อเหวินอยู่ในระดับสูงเลยทีเดียว

โม่จื่อเหวินไปยกถังน้ำขนาดใหญ่มาและสาดน้ำเข้าที่หน้าโจรทั้งห้าจนเกิดเสียงดัง ปัง!

อย่างไรก็ตามทั้งห้าไม่ยอมฟื้น
มู่หรงเสวี่ยคิด “อ่า! ใช้ยาเยอะเกินไปแน่ๆเลย”
โม่จื่อเหวิน “ไอ้พวกนี้กล้าดียังไงถึงไม่สนใจฉันเลย!!!”

แล้วทั้งสองก็คิดว่างั้นรอให้ยาหมดฤทธิ์ก่อนดีกว่าค่อยคิดว่าจะทำยังไงต่อ จนกระทั่งค่ำ คนทั้งห้าก็ฟื้นขึ้นมาและดูเหมือนจะยังไม่เข้าใจสถานการณ์ของตัวเอง ชายหน้าหื่นร้องออกมา “นังคุณหนู ปล่อยเราเลยนะ”

โม่จื่อเหวินเตะออกไปด้วยความโกรธและทันใดนั้นชายหน้าหื่นก็กระอักออกมาเป็นเลือด เมื่อถุยเลือดออกมาก็มีฟันหลุดออกมาด้วย
“โอ๊ย” ไอ้หน้าหื่นกรีดร้อง ดวงตาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด

พวกคนที่เหลือต่างหวาดกลัว ยกเว้นก็แต่ชายหน้าบาก
“บอกมา! ใครส่งพวกนายมา?” มู่หรงเสวี่ยถาม

ชายหน้าบากมองมาที่เธอและพูดออกมาว่า “เป็นผู้ชาย เราไม่รู้จักเขา”
ผู้ชายงั้นเหรอ?! เธอนี่โง่อะไรขนาดนี้!!! อย่างไรก็ตามมันทำให้เธอเห็นชั้นเชิงของชายหน้าบาก เธอปล่อยเขาไปไม่ได้ มันอันตรายเกินไป เธอไม่ชอบการถูกคุกคามที่อาจจะเกิดขึ้น

“คุณหนูมู่หรง ปล่อยพวกเราไปเถอะ ผมไม่รู้เรื่องอะไรเลย จริงๆนะครับ ผมแค่หลงผิดไปชั่วขณะ จริงๆนะครับผมขอร้องล่ะ…” ชายผมทองพูดอย่างลนลาน ชายอีกสามคนดูเหมือนจะกลัวชายหน้าบากมากๆ พวกเขาอ้าปากแต่ไม่พูดอะไรออกมา มู่หรงเสวี่ยแสยะ ไม่พูดความจริงใช่ไหม?! “พี่จื่อเหวิน เปิดภาพวิดีโอของครอบครัวให้พวกมันดู…”

โม่จื่อเหวินพยักหน้าและเปิดวิดีโอในโทรศัพท์ เสียงที่ดังออกมาทำให้โจรทั้งห้าถึงกับหน้าเปลี่ยนสีทันที กลายเป็นหน้าซีดเผือดรวมทั้งชายหน้าบากด้วย

“อาหวู่ ลูกหายไปไหน? ถ้ามีเวลาก็แวะกลับมาบ้านบ้างนะ แม่ไม่ได้คุยกับลูกเลย วันนี้มีเพื่อนแวะมาหาลูกด้วยนะ แม่เลยฝากความคิดถึงกับเขามาให้ลูกด้วย อาหวู่ กลับบ้านบ้างนะ แม่เหงา…”

หลังจากนั้นสมาชิกครอบครัวทั้งหมดของโจรทั้งห้าก็ฝากข้อความเสียงไว้และโม่จื่อเหวินก็เปิดให้พวกเขาฟัง ในเวลานี้พวกโจรทั้งห้าที่ดุร้ายในตอนแรกกลับกลายเป็นมีน้ำตาไหลพราก

ชายหน้าบากนึกย้อนไปถึงตอนที่เขาอยู่บ้าน ครอบครัวของเขาจนมาก แม่ของเขาเป็นชาวสวน ท่านต้องทำงานหนักทุกวันเพื่อหาเงินส่งเขาเรียน เขายังเด็กและฮึกเหิม เขาไม่ค่อยสนใจเรื่องเรียนเท่าไรและมักจะมีเรื่องชกต่อยอยู่บ่อยๆ หลังจากนั้นเขาก็เข้าไปอยู่กับพวกแก๊งเล็กๆและเริ่มที่จะออกปล้นร้านเล็กๆทุกวัน

ต่อมาพอแม่เขารู้เรื่องก็ตีเขา นั่นเป็นครั้งแรกที่แม่ตีเขา เขายังจำได้ชัดเจนว่าตอนที่แม่ตีเขาแม่ก็ร้องไห้ไปด้วย สายตาของแม่ที่เต็มไปด้วยน้ำตามีความเจ็บปวดอยู่ในนั้นด้วย ในตอนนั้นเขาไม่เข้าใจจึงพูดออกไปว่า “ผมจะไปจากที่นี่และไม่มีวันกลับมาอีก”

การออกมาจากบ้านมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย พี่น้องในแก๊งมักจะเอาเงินที่ได้มาจากการปล้นไปทุกครั้ง หลังจากนั้นก็จะออกปล้นอีก และเป็นเรื่องปกติมากที่เขาจะเข้าคุก หลังจากหนึ่งอาทิตย์ผ่านไปเขาก็ไม่กล้าที่จะโทรกลับไปหาแม่
โดยไม่พูดอะไรสักคำ แม่เขาถอนเงินฝากทั้งหมดของเขาออกไป เขาคิดว่าแม่โกรธเขาจึงไม่ได้พูดอะไร

หลังจากนั้นเขาก็หนีออกจากบ้าน จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่ได้กลับไปบ้านอีกเลย เขาไม่กล้า เขารู้สึกผิด เขากลัวว่าจะต้องเห็นแม่ที่แก่เฒ่าลงและดูอ่อนล้าเพราะอายุที่มากขึ้น ตอนนี้เขาได้ยินเสียงแม่อีกครั้งและอดไม่ได้ที่จะร้องไห้ออกมา เขาอยากที่จะกลับบ้าน

“ต้องการอะไร?! แม่ฉันไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลยนะ?! ถ้าอยากจะแก้แค้นก็มาลงที่ฉันได้เลย” ชายหน้าบากตะโกนเสียงดังมาที่มู่หรงเสวี่ย

“อย่าทำร้ายเมียผม…”
“ขอร้องล่ะคุณหนู”
“…”
น่าสงสารพ่อแม่ของคนพวกนี้จริงๆ แต่เมื่อทำผิดก็ต้องได้รับการลงโทษ ไม่ใช่ว่าเธอเป็นคนที่โหดร้ายอะไร เมื่อคิดถึงเรื่องที่ทั้งห้าคนก่ออาชญากรรมตอนนี้รวมถึงเรื่องเมื่อชีวิตที่แล้วด้วยแล้ว
แต่ตอนนี้เมื่อมองทั้งห้าคนที่กำลังร้องไห้โฮ อย่างน้อยพวกเขาก็ยังมีหัวใจและสำนึกอยู่บ้าง

สักพักต่อมาหลังจากที่พวกเขาอารมณ์เริ่มกลับมาคงที่แล้ว มู่หรงเสวี่ยก็ถามต่อ “บอกมา ใครเป็นคนจ้างพวกนายมา?”

ในเวลานี้ชายทั้งห้าไม่มีอารมณ์ที่จะมาเล่นเกมอะไรแล้ว พวกเขาจึงพูดออกมาด้วยเสียงดังฟังชัดว่า “เป็นเด็กสาวที่ชื่อเสี่ยวเข่อลี่ที่จ้างให้เรามาทำแบบนี้ เราได้รับเงินโอนมา 1 ล้านหยวนและจะได้อีก 5 ล้านหลังจากที่งานสำเร็จ”

ชัดเจนเลยว่าเป็นฝีมือเธอ เสี่ยวเข่อลี่ นี่ฉันไปทำอะไรให้เธอเนี่ย? หล่อนถึงอยากที่จะฆ่าเธอซ้ำแล้วซ้ำอีก

มู่หรงเสวี่ยแสยะ “โทรไปหาเธอแล้วบอกว่างานสำเร็จแล้ว ระวังคำพูดด้วย อย่าทำอะไรให้เธอสงสัยเด็ดขาด เข้าใจที่ฉันพูดไหม?!! แล้วบอกให้เธอมารับคลิปที่ถ่ายพรุ่งนี้แต่เช้า”

เงินห้าล้านไม่ใช่เงินน้อยๆและเท่าที่เธอรู้เสี่ยวเข่อลี่ไม่เหลือทรัพย์สินเท่าไรแล้วด้วย
โม่จื่อเหวินแก้มัดชายหน้าบากและกดปุ่มบันทึกในโทรศัพท์ไปพร้อมๆกันด้วย มู่หรงเสวี่ยรู้สึกโล่งใจที่พี่จื่อเหวินรอบคอบ เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยเธอก็พร้อมแล้ว เธอไม่ได้พูดอะไรออกไปสักคำ

ชายหน้าบากพยักหน้าและกดปุ่มโทรออก “สวัสดีครับคุณเสี่ยวเข่อลี่ งานที่ให้ไปลักพาตัวมู่หรงเสวี่ยสำเร็จแล้ว พร้อมจะจ่ายเงินห้าล้านที่เหลือเมื่อไร?”

“ฮ่าฮ่าฮ่า ใครจะภูมิใจกับเรื่องแบบนี้จริงไหม?!! แล้วรูปโป๊ที่ฉันบอกให้ถ่ายไว้ล่ะ? ได้ถ่ายไว้หรือเปล่า?”

ชายหน้าบากพูดอย่างสบายๆ “คุณหนูมู่หรงสลบอยู่ เดี๋ยวผมจะเอาเธอไปโยนไว้ข้างถนน พรุ่งนี้เช้าคุณเอาเงินมาที่โกดัง เราจะรับเงินก่อนแล้วค่อยส่งของให้”

“ดี รอพรุ่งนี้ก็ได้” เสี่ยวเข่อลี่หัวเราะอย่างมีความสุขหลังจากที่วางสายไป หัวเราะราวกับคนบ้า มู่หรงเสวี่ยพรุ่งนี้เธอจบเห่แน่ มาดูกันว่าเธอจะยังทำให้พี่ฟางสนใจได้อีกไหม

ชายหน้าบากมองมาที่มู่หรงเสวี่ย “ทีนี้ก็ปล่อยพวกเราไปได้แล้ว”

“ปล่อยพวกนายไปงั้นเหรอ?! คิดว่านี่เป็นเรื่องตลกหรือไง? ถ้าวันนี้ฉันไม่เอาเอาผงสลบมา พวกนายก็รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับฉันแล้วทำไมพวกนายไม่ปล่อยฉันไปบ้างล่ะ!” ดวงตาของ มู่หรงเสวี่ยแสดงออกถึงความตื่นเต้น แล้วเธอจะปล่อยพวกคนที่เธอเกลียดขนาดนี้ไปง่ายๆได้ยังไง

“คุณ…ถึงคุณจะไม่ปล่อยพวกเราไปแต่ครอบครัวของเราไม่รู้เรื่องด้วย…” ชายหน้าบากรีบพูดอย่างร้อนรน

มู่หรงมองเหล่ “พรุ่งนี้เช้า พวกนายจะต้องจัดการเสี่ยวเข่อลี่อย่างที่ฉันสั่ง ไม่งั้นฉันจะทำให้พวกนายได้รับผลของการกระทำเอง”

“ไปกันเถอะพี่จื่อเหวิน” มู่หรงมองไปที่โม่จื่อเหวินที่ยังคงจับเชือกที่มัดพวกโจรอยู่
ในเวลานี้โจรทั้งห้าดูน่าสงสารอย่างมาก

โจรทั้งห้าอยากที่จะร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา เชือกที่มัดหลายชั้นนี่บ่งบอกได้เลยถึงความสามารถ

เมื่อกลับมาถึงห้อง มู่หรงเสวี่ยกล่าวลาพี่จื่อเหวินและ กลับไปที่ห้องเพื่ออาบน้ำ เหงื่อที่ไหลออกมามากมายทำให้เธอรู้สึกไม่ค่อยสบายตัวเท่าไร

โม่จื่อเหวินมองมู่หรงเสวี่ยเดินกลับไปที่ห้องแล้วปิดประตู แล้วเขาจึงกลับไปที่ห้องตัวเองเช่นกัน เขาเห็นเสี่ยวหลินกำลังดูทีวีอยู่อย่างสนอกสนใจจึงถามเขาออกไปว่าวันนี้อาการเป็นยังไงบ้างเมื่อได้ฟังเขาก็รู้สึกโล่งใจอย่างมาก

วันนี้เสี่ยวเสวี่ยต้องออกไปเสี่ยงคนเดียวซึ่งทำให้เขารู้สึกไร้ประโยชน์อย่างมาก เขาไม่เคยอยากที่จะพัฒนาตัวเองเท่าตอนนี้มาก่อนเลย ไม่ว่าจะยังไงเขาหวังว่าครั้งหน้าเขาจะได้ยืนอยู่ข้างเสี่ยวเสวี่ยและเขาจะเป็นดั่งอัศวินของเธอ โม่จื่อเหวินสาบานกับตัวเอง

หลังจากที่ได้อาบน้ำเปลี่ยนเป็นชุดสบายๆแล้ว มู่หรงเสวี่ยก็เดินไปห้องข้างๆและเคาะที่ประตู
“เสี่ยวเสวี่ย ทำไมยังไม่นอนอีกล่ะ?” โม่จื่อเหวินเปิดประตูออกมาและเห็นมู่หรง สายตาเขาก็ฉายแววอ่อนโยนโดยไม่ได้ตั้งใจ “มีอะไรเหรอ”

“เข้ามาคุยกันข้างในก่อน”
“เสี่ยวหลินคิดถึงพี่สาวหรือเปล่าจ๊ะ?” มู่หรงเสวี่ยยิ้มอย่างสดใสไปทางทีวี
โม่จื่อหลินประหลาดใจมาก เขาหันกลับมาและยิ้มอย่างมีความสุขมาหามู่หรงเสวี่ย “พี่สาว ผมคิดถึงพี่มากๆเลย ทำไมพี่กลับมาดึกแบบนี้ล่ะ?” พร้อมทั้งทำเสียงจุ๊ๆ

เมื่อได้ยินคำถามของน้องชาย เขาก็มีสีหน้าแสดงถึงการบ่งบอกว่าเป็นคำถามที่ไม่ควรถามเลยจริงไหม?! โม่จื่อเหวินเห็นอาการคะยั้นคะยอของโม่จื่อหลินที่มีต่อมู่หรงเสวี่ยจึงพูดออกไปว่าพวกเขาเพิ่งจะกลับมาเองนะ?!! น้องชายไม่สนใจเขาและยังคงถามต่อไป

“เสี่ยวหลินไปดูทีวีต่อเถอะนะ พี่มีเรื่องจะคุยกับพี่ชายนายหน่อย” มู่หรงเสวี่ยที่ถูกคาดคั้นพูดออกมาอย่างช่วยไม่ได้

“โอเคพี่สาว ผมจะกลับไปดูทีวีต่อนะครับ” แล้วเขาก็หันกลับไปดูทีวีแบบไม่กะพริบตา

มู่หรงเสวี่ยอยากที่จะเห็นเข็มทองคำ ถึงแม้เธอจะเป็นคนสั่งแบบและทุกๆอย่างเอง แต่เธอก็ยังอยากที่จะเห็นด้วยตาตัวเอง เผื่อมีอะไรผิดพลาดจะได้แก้ไขได้อย่างรวดเร็ว เธออยากให้เสี่ยวหลินหายโดยเร็วที่สุด “พี่จื่อเหวิน ได้เข็มทองคำมาหรือเปล่า? ฉันอยากที่จะเห็น”

“คือผมอยากจะเอาให้คุณพรุ่งนี้เช้า ยังไงซะวันนี้คุณก็เหนื่อยมามากแล้ว…” แล้วเขาก็หยิบกล่องไม้ที่วางบนโต๊ะส่งให้ มู่หรงเสวี่ย

“ไม่เป็นไร ฉันไม่เหนื่อยเท่าไร ฉันอยากที่จะเห็นเข็มทองคำก่อน ถ้าเกิดมีปัญหาอะไรพรุ่งนี้พี่จะได้เปลี่ยนได้ทัน” มู่หรงเสวี่ยพูดพร้อมทั้งเปิดกล่องไม้อย่างระมัดระวัง ความยาวแต่ละเข็มแตกต่าง ความหนาของเข็มทองคำประณีตมาก มันมีทั้งหมด 99 เล่ม 81ชุด

มู่หรงเสวี่ยหยิบขึ้นมาทีละเล่มๆอย่างระมัดระวัง เธอไม่ปล่อยผ่านเลยสักนิด เข็มทองคำนี่สำคัญอย่างมากและเพื่อความปลอดภัยของคนไข้ด้วยดังนั้นเธอจึงต้องมองมันอย่างจริงจังทีละเล่มๆ

โม่จื่อเหวินมองที่เสี่ยวเสวี่ยเพราะเธอเพิ่งจะสระผมและผมเธอก็ยังเปียกระอยู่บนไหล่ เธอมีใบหน้าที่ขาวนวลแต่ก็ยังมีรอยแดงนิดหน่อยเพราะเธอเพิ่งจะอาบน้ำมา หลังจากที่ตรวจสอบเข็มทองคำอย่างระวัง เขาก็รู้ว่าหัวใจของเขาเต้นแรงขึ้นแต่เขาไม่อยากที่จะขัดจังหวะเธอ ถึงแม้เขาจะรู้ดีว่าตัวเองไม่ควรที่จะรู้สึกแบบนี้ก็ตาม