วินาทีนั้นแววตาของชูฮันเป็นประกายวาบ ปริมาณงานของการวางกับดักนั้นมากและใหญ่อยู่ เขาไม่คิดว่าเฉินช่าวเย่และคนอื่นๆจะจัดการได้รวดเร็วแบบนี้

 

“ทำดีมากทีมยิงปืน ที่เหลือกระจายตัวและสร้างกลุ่มย่อยขึ้นมาและเตรียมตัวหาที่ซ่อนซะ พักหายใจกันก่อนสักสิบนาที” ชูฮันออกคำสั่งต่อเนื่อง เนื่องจากทหารทั้งสองร้อยคนนั้นเหนื่อยล้ากันอย่างมาก นี่เป็นครั้งแรกที่ทุกคนต้องแบกรับความตึงเครียดที่มากถึงขนาดนี้รวมถึงซอมบี้ระยะสูงที่มีจำนวนมากแบบนี้ ทุกคนควรได้พักอย่างน้อยสักสิบนาทีก็ยังดีก่อนที่จะเริ่มทำสงครามต่อไปกับกลุ่มลูกผสม

 

“ทีมนักฆ่าขนนก จัดการวางศพซอมบี้ตามแผนเดิมและอย่าลืมหลบกับดักที่วางไว้” ชูฮันปาดเลือดที่เลอะบนหน้าตัวเองออกและออกคำสั่งต่อ

 

ทีมนักฆ่าขนนกรีบปฏิบัติตามคำสั่งทันที ซึ่งมันก็เป็นไปอย่างรวดเร็ว สนามรบนี่คือสนามรบหลักที่ชูฮันได้ทำการออกแบบและวางแผนไว้ แบบแผนสำหรับการทำสงครามนั่นสำคัญมาก การจัดวางร่างศพของซอมบี้ทั้งหลายจะช่วยส่งผลให้พวกลูกผสมเหยียบเข้ากับกับดักที่วางไว้ และมันก็เป็นเรื่องที่ตึงเครียดมากเพราะทุกอย่างห้ามผิดพลาดเด็ดขาด

 

“ติงเซว และสมาชิกคนอื่นของแผนกโลจิสติกส์” ชูฮันที่ไม่หยุดพักสักวินาทีเดียว เขาพูดขึ้นอีกครั้ง

 

“ค่ะ” นำโดยติงเวซ สมาชิกผู้หญิงคนอื่นๆเดินออกมาจากฝูงชน

 

ทุกคนต่างมีส่วนร่วมในสงคราม แต่ด้วยเหตุผลหลายประการ พวกเขาไม่ได้รวมเข้ากับกลุ่มของทหารเพื่อเผชิญหน้ากับซอมบี้ เหมือนอย่างติงเซวซึ่งเป็นสมาชิกของแผนกโลจิสติกส์ พวกเธาไม่ได้มีหน้าที่เพียงแค่รับผิดชอบงานของแผนกโลจิสติกส์เท่านั้น แต่บนสนามรบพวกเธอก็ต้องมีหน้าที่ช่วยสนับสนุนทุกคน

 

“จัดการนับจำนวนของทุกคน คนที่บาดเจ็บก็รีบจัดการทำแผลให้ทันที” ชูฮันมีความกังวลในแววตาของเขา

 

เขารู้ว่าหลายคนนั้นบาดเจ็บจากสงครามก่อนหน้านี้ แต่เป็นเพราะการจัดการที่จำเป็นต้องใช้ความสามารถและพละกำลังของทุกคน แม้แต่วิวัฒนาการและพรสวรรค์ก็ได้รับบาดเจ็บกันหมด คนธรรมดาทั่วไปจะถูกคุ้มกันไว้ที่ใจกลางของกลุ่มโดยไม่ได้รับบาดแผลใดๆ ทุกคนรู้ดีว่าคนธรรมดาไม่มีพลังฟื้นฟูในตัวเองเหมือนมนุษย์สายพันธุ์ใหม่อย่างพวกเขาและคนธรรมดาก็มีหน้าที่ที่ต้องเอาตัวรอดให้พ้นจากกรงเล็บและเขี้ยวแหลมคมของซอมบี้

 

ถ้าคนใดคนหนึ่งในกลุ่มคนธรรมดาได้รับบาดเจ็บละก็…พวกเขาต้องตายกันเป็นแน่!

 

“ค่ะ!” เจ้าหน้าที่แผนกโลจิสติกส์…ติงเซว หยิบเครื่องมือปฐมพยาบาลในกระเป๋าขึ้นมาทันที ด้วยเพราะเธอมีหน้าที่ในการรับผิดชอบด้านการแพทย์สำหรับกลุ่มนักรบและเธอจะต้องทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้กับสมาชิกที่ได้รับบาดเจ็บด้วยความเร็วที่สุด

 

“ท่านพลเอก” ชูเซี่ยที่พยายามกลั้นอารมณ์อยากจะร้องไห้เอาไว้เดินเข้าไปเพื่อทำแผลให้กับชูฮัน

 

“ฉันไม่ต้องการ” ชูฮันห้ามชูเซี่ยเอาไว้ “เอาไว้ใช้กับคนอื่นเถอะ”

 

ทันใดนั้นชูเซี่ยก็พลันเงยหน้าขึ้น สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความสับสน ในจังหวะนั้นเธอไม่สามารถกลั้นน้ำตาไวัได้อีกต่อไป ก่อนหน้านี้เธอมองเห็นไม่ชัดเพราะระยะทางที่ไกล แต่เมื่อเธอได้เดินเข้ามาใกล้ชูฮันแบบนี้ เธอก็พบว่าบาดแผลนั้นใหญ่กว่าที่คิด มันลึกซะจนมองเห็นถึงกระดูกข้างในได้ชัดเจน และใช่…มันมีบาดแผลนับร้อยเต็มตลอดตัวของชูฮัน!

 

“ยาของพวกเรามีไม่เพียงพอ เครื่องมือปฐมพยาบาลก็ยังไม่ครบครัน และมีผู้คนจำนวนมากที่ได้รับบาดเจ็บ เธอไปช่วยคนอื่นๆเถอะ” ชูฮันไม่ได้ทันสังเกตเห็นสีหน้าของชูเซี่ย เขาเอาแต่นิ่วหน้าและมองไปที่เส้นลับสายตาของสนามรบพร้อมกับสังเกตความคืบหน้าของทีมนักฆ่าขนนกไปด้วย

 

“ค่ะ” ชูเซี่ยไม่ขัดขืนคำสั่งของชูฮัน เธอหมุนตัวกลับพร้อมกับกัดฟันเดินจากออกไป หากน้ำตานั่นเริ่มร่วงลงมาตามกรอบหน้า

 

คนอื่นๆเองก็เห็นภาพเหมือนกันหมด ภาพที่ท่านหัวหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยบาดแผลและเลือดสีแดงที่เปรอะเปื้อนไปทั้งตัวอย่างเห็นได้ชัด ทุกคนรู้ว่าชูฮันอาจจะไม่ได้รู้สึกเจ็บ แต่พวกเขาก็รู้ดีว่าบาดแผลพวกนนี้ก็นำพามาซึ่งผลกระทบเหมือนกัน แม้ว่าแผลของหลี่บี๋เฟิงจะไม่รุนแรงเท่ากับของชูฮัน หลี่บี๋เฟิงก็ยังต้องพึ่งยาตั้งมากมาย

 

แต่ชูฮัน?

 

ชูฮันกลับปฏิเสธที่จะรักษาตัวเอง!

 

จังหวะหัวใจของหลายคนเต้นรัวแรง ตาของหลายคนแดงก่ำ พวกเขาไม่กล้าจะสบตาชูฮันอีกต่อไป ความรู้สึกผิดได้ปรากฏขึ้นในใจของทุกคน และพวกเขาได้สาบานกับตัวเองว่าพวกเขาจะต้องชนะในสงครามครั้งนี้ให้ได้ และต้องเป็นชัยชนะที่สวยงามเพื่อที่ท่านพลเอกชูฮันจะไม่ต้องได้รับบาดเจ็บอีกต่อไป

 

และถึงแม้พวกเขาจะต้องตาย พวกเขาก็จะไม่ยอมให้ศัตรูได้เข้าใกล้ท่านพลเอกชูฮันมากกว่าสองเมตร!

 

ทันใดนั้นชูฮันก็เริ่มปรับลมหายใจของเขาให้สงบลง เขางุนงงที่ได้เห็นว่าจู่ๆความภักดีของบางคนในระบบล่มสลายก็พุ่งทะลุไปถึง 100% เขาไม่รู้เลยว่าคำพูดสบายๆไม่ได้คิดอะไรของเขาจะทำให้หลายคนซาบซึ้งจนอารมณ์พุ่งสูงแบบนี้

 

ในุมมมองของชูฮัน บาดแผลพวกนี้ไม่แสดงถึงอะไรนอกจากความโศกเศร้า เขาไม่ได้รู้สึกกลัวเลยสักนิด เขาเคยประสบกับความเป็นความตายมาแล้ว เคยเจอกับอันตรายที่แทบจะพรากชีวิตเขาไป เคยเจอกับสงครามมานับไม่ถ้วน

 

เวลาผ่านไปเรื่อยๆ เวลาที่จำกัดไว้ที่ 2 ชั่วโมงนั่นเหลือไม่ถึง 20 นาทีแล้ว แบบแผนของสนามรบหลักตรงหน้านั้นเสร็จสมบูรณ์เรียบร้อย ทีมนักฆ่าขนนกยืนถัดไปจากชูฮัน ส่วนทีมย่อยอีก 20 ทีมก็ยืนอยู่ในสนามรบไม่ไกลจากชูฮัน

 

ทีมยิงปืนนั้นประกบอยู่ทั้งสองฝั่งของสนามรบ เป้าหมายในการยิงของพวกเขาคือข้างหน้า ทุกคนประจำตำแหน่งที่เฉพาะเจาะจงของตัวเองเรียบร้อย และชูฮันก็ได้ออกคำสั่งไว้แล้วว่านี่ไม่ใช่การฝึกซ้อมอีกไป ทุกคนจำเป็นต้องยิงให้แม่น!

 

ถึงแม้กระสุนจะมีอยู่อย่างจำกัดก็ตาม…

 

เฉินช่าวเย่ยืนซุ่มอยู่ตำแหน่งตรงกลางของสนามรบ ในมือถือปืนไรเฟิลพิเศษที่ทรงพลังกว่าปืนไรเฟิลทั่วไป ลำกล้องมีขนาดใหญ่ และตำแหน่งที่เฉินช่าวเย่ต้องประจำตำแหน่งก็สำคัญอย่างมาก เขาเป็นคนเดียวทำไม่ว่ายังไงก็ห้ามเข้าสู่สนามรบ เป็นคนเดียวที่รับผิดชอบในการยิงปืนพิเศษ

 

หลังจากการฝึกฝนตลอดสามเดือน เฉินช่าวเย่ในตอนนี้สามารถยิงกระสุนสิบนัดได้ภายในวันเดียวจากปืนไรเฟิลพิเศษได้แล้ว แต่เขาต้องใช้เวลาพักครู่หนึ่งก่อน ความหมายก็คือสำหรับสงครามครั้งนี้ปืนไรเฟิลพิเศษจะถูกยกมาใช้ก็ต่อเมื่อสถานการณ์มันสิ้นหวังอย่างมาก

 

ทุกคนยังคงยืนนิ่งในตำแหน่งเดิมของตัวเอง พยายามควบคุมการให้หายใจให้เบาที่สุด

 

มันยังมีเวลาเหลืออีก 1 นาที แต่กลุ่มลาดตระเวนของเหล่ยเซอยังไม่กลับมาเลย

 

เวลาผ่านไป ทั้งหมดก็พลันตกอยู่ในความเงียบ และตอนนั้นเองมันก็มีร่างของคนหบายคนเริ่มปรากฏตัวขึ้นให้เห็นในระยะสายตา แม้ความเร็วของอีกฝ่ายจะเร็วมากแแต่ก็เห็นได้ชัดว่าทุกคนเหนื่อยล้ามาก

 

นั่นก็คือ ทีมหลอกล่อศัตรู ที่พึ่งกลับมาและมีเพียงแค่สิบห้าคนที่กลับมา …

 

แปลว่าตายไป15!

 

ทีมหลอกล่อสูญเสียสมาชิกไปครึ่งหนึ่งภายในพริบตาเดียว เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเผชิญกับวิกฤตครั้งใหญ่ แต่พวกเขาก็ยังพยายามกลับมาให้ทันเวลา

 

ทุกคนเห็นว่าทีมหลอกล่อนั้นกลับมาเพียงแค่ครึ่งทีม และสมาชิกที่เหลือต่างมีบาดแผลเต็มตัวกันไปหมด ทุกคนเข้าใจชัดเจนว่า ใบหน้าที่คุ้นเคยสิบห้าใบหน้าได้หายไป…

 

และพวกเขาจะไม่มีวันได้เห็นอีก!