ตอนที่ 859 นางมารร้าย

เนตรเซียนทะลุสมบัติ

ตอนที่ 859  นางมารร้าย
ช่วงนี้หยางเต๋อเชิงรู้สึกรำคาญใจเล็กน้อย  เขาเพิ่งจะสูญเสียงานที่ต้องรับผิดชอบไป ถึงแม้จะทำเงินได้มากมายในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่เวลาออกไปข้างนอกก็มีคนคอยล้อมหน้าล้อมหลังลดน้อยลง และลูกน้องที่คอยมารายงานสถานการณ์ประจำวันก็ลดน้อยลง มันทำให้เขารู้สึกว่าชีวิตไม่ค่อยจะสะดวกสบายมากเท่าไหร่

เขาแบกท้องอันใหญ่โต และขับรถออกไปข้างนอก และขับมาถึงวิลล่าของเบลสันโดยไม่รู้ตัว

หลายปีมานี้ทั้งสองคนดูเหมือนจะสวมใส่กางเกงตัวเดียวกัน ทุกครั้งที่เบลสันไปรับสินค้าจากเขา เขามักจะลดราคาให้30% เสมอ รอจนเบลสันจัดการกับสินค้าได้ พวกเขาก็จะแบ่งผลกำไรเท่าๆ กัน !

แม้ว่าเขาจะรู้ดีว่า เบลสันจะต้องแอบเก็บเข้ากระเป๋าตัวเองอย่างแน่นอน แต่เขาก็ไม่ได้สนใจเพราะมันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะฝึกฝนคนที่จะมาคอยช่วยงานได้ !

แต่พอธุรกิจประสบกับปัญหา ผลกำไรระหว่างทั้งสองฝ่ายก็ได้รับลดน้อยลงเขาก็ไม่รู้ว่า เบลสันจะมีปฏิกิริยายังไง แต่จากที่ดูตอนนี้  เบลสันดูเหมือนจะมีความคิดที่แตกต่างออกไป !

เช่นเดียวกับครั้งที่แล้วที่เขาเชิญหยางโปมา ก็เพื่อประจบสอพลอหยางโป เพราะอยากจะอาศัยต้นไม้ใหญ่อย่างหยางโปเพื่อฟื้นคืนอำนาจและอิทธิพลบางส่วนให้กลับคืนมาใหม่ แต่คิดไม่ถึงว่าเบลสันจะไม่ให้ความร่วมมือ ถึงกับทำเขาเสียหน้าตรงนั้น  เอาของปลอมออกมาหลังจากนั้นยังสาบานเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าหยางโปดูของผิด !
หยางโปอาจจะมองผิดไปหรือเปล่า ?

หยางเต๋อเชิงไม่มีทางที่จะไม่เตรียมตัวเอาไว้อย่างแน่นอน เขาถึงกับตรวจสอบข้อมูลส่วนตัวของ

หยางโป และรู้ว่าหยางโปอยู่ในองค์กรประเมินและระบุวัตถุโบราณทางวัฒนธรรมไม่มีทางที่จะดูผิดไปได้อย่างแน่นอน มันต้องเป็นเบลสันที่มีปัญหา  เขาจึงตัดสินใจที่จะมาพูดโน้มน้าวให้เบลสัน นำรูปปั้นหัวงูทองสัมฤทธิ์ออกมา เพราะมีเพียงวิธีนี้เท่านั้นเขาถึงจะได้รับโอกาสไว้เนื้อเชื่อใจจาก

หยางโป !

หยางเต๋อเชิงและแม่บ้านของเบลสันรู้จักมักคุ้นกันเป็นอย่างดี อีกฝ่ายจึงเปิดประตูให้เขาทันที จากนั้นเขาก็หันไปถามแม่บ้านว่า ” คุณผู้ชายของคุณกำลังทำอะไรอยู่ ? “

แม่บ้านเป็นคนฟิลิปปินส์ แต่ฟังภาษาอังกฤษออก ” คุณผู้ชายกำลังเก็บข้าวของ “
พอพูดจบ แม่บ้านชาวฟิลิปปินส์ก็พูดด้วยด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา ” ฉันรู้สึกว่าช่วงนี้คุณผู้ชายไม่ค่อยปกติ ดูเหมือนเขาจะย้ายบ้าน แถมยังเก็บของมีค่าทั้งหมดที่มีไปอีกด้วย “

หยางเต๋อเชิงหันไปส่งยิ้มให้แม่บ้านชาวฟิลิปปินส์ ” ไม่เป็นไรเดี๋ยวผมไปถามเอง ! “
โดยทั่วไปแล้วสาวใช้ชาวฟิลิปปินส์จะรักษาความลับเก่งมาก จะไม่ยอมปริปากพูดถึงเรื่องราวพวกนี้ออกไปแม้แต่น้อย แต่ตอนนี้สถานการณ์ค่อนข้างพิเศษ หยางเต๋อเชิงและเบลสันมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาก เขามักจะมาเยี่ยมเยียนบ่อยๆ มันเลยเพื่อทำให้แม่บ้านชาวฟิลิปปินส์เชื่อมั่นเป็นอย่างมาก แต่ข่าวการย้ายบ้าน เบลสันกลับไม่ได้บอกแม่บ้านชาวฟิลิปปินส์ ซึ่งเรื่องนี้มันทำให้เธอค่อนข้างเป็นกังวล เพราะท้ายที่สุดแล้วถ้าเบลสันย้ายออกไปเธอก็จะตกงาน ดังนั้นเธอจึงไม่คิดไตร่ตรองเป็นไม่ได้ !

เมื่อเดินเข้ามาในวิลล่า  เป็นไปตามที่หยางเต๋อเชิงคาดการณ์ไว้มีข้าวของห่อเล็กห่อใหญ่มากมายวางอยู่ในห้องนั่งเล่น
หยางเต๋อเชิงมองไปที่เบลสัน ” เกิดอะไรขึ้น ? นายจะย้ายบ้าน ? “

เบลสันที่กำลังเก็บข้าวของของอยู่ ไม่ทันสังเกตเห็นหยางเต๋อเชิง  ก็รู้สึกตกใจมากเมื่อได้ยินเขาเอ่ยถาม เขารีบลุกขึ้นยืนโบกมือและพูดว่า ” ไม่ ไม่ จะย้ายบ้านไปไหนกัน ฉันวางแผนจะนำของพวกนี้ไปประมูลขายทอดตลาดให้หมดนะสิ ! “

” ขายทิ้ง ? ” หยางเต๋อเชิงหันหน้าไปมองเบลสัน ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อเขาสังเกตเห็นว่าเบลสันดูค่อนข้างลุกลี้ลุกลน เหมือนกับพูดโกหก !

หยางเต๋อเชิงมองไปที่เบลสัน ” เราเป็นเพื่อนเก่ากันมานาน และยังทำงานร่วมกันมานาน ฉันก็ถือว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญ นายจะขายของพวกนี้ ทำไมไม่มาหาฉัน ? ”

ที่เบลสันพูดออกมารวดเดียวเมื่อสักครู่  เมื่อฟังเขาพูดจบ ก็โล่งใจขึ้นมาเล็กน้อย ” นายพูดเล่นไปได้ ตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ ฉันเป็นคนดูแลจัดการวัตถุเหล่านี้เองทั้งหมด ! นายมีช่องทางปล่อยของออกไปได้ที่ไหนกัน ? “

หยางเต๋อเชิงค่อนข้างจะสงสัย  แต่เขาก็ไม่ได้แสดงสีหน้าอะไร และหัวเราะออกมา “ ฉันมีช่องทางปล่อยของเยอะแยะ  แค่คุณหยาง ที่มาหานายในวันนั้น เขามีสถานะที่สูงมากในหงส์ฮวาถาง

และเขาก็ร่ำรวยมากเช่นกัน แค่ฉันส่งของไปที่เขาต้องได้เงินมามากทีเดียวแน่ๆ ! ”

เบลสันมองหน้าหยางเต๋อเชิง  ” จริงเหรอ ? ทำไมฉันรู้สึกว่าเขาฉลาดมาก ระดับการประเมินวัตถุโบราณต้องสูงมากแน่ๆ ! “

หยางเต๋อเชิงยิ้ม เห็นได้ชัดว่าในที่สุดอีกฝ่ายก็ยอมรับออกมาแล้ว วันนั้นหยางโปแค่ประเมินระบุเพียงรูปปั้นหัวงูทองสัมฤทธิ์เท่านั้น  นึกไม่ถึงว่าเบลสันจะยอมรับระดับความสามารถของหยางโปว่าอยู่ในระดับสูงแล้ว กล่าวคือเขารู้อยู่แล้วว่ารูปปั้นหัวงูทองสัมฤทธิ์เป็นของปลอม !
หยางเต๋อเชิงหัวเราะออกมา “ เหอ เหอ ถ้างั้นนายต้องการขายออกไปที่ไหนกันล่ะ ? ”

” ยังไม่แน่ใจ ! ” เบลสันกล่าว
หยางเต๋อเชิงรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่า เบลสันต้องการที่จะย้ายบ้าน  แต่เขาไม่สามารถหาสาเหตุได้ว่าทำไมเบลสันถึงต้องการย้ายบ้าน ทำไมเขาถึงทำแบบนี้ ต่อให้ส่งมอบรูปปั้นหัวงูทองสัมฤทธิ์ออกมา  แต่หยางโป ก็ไม่ได้บังคับเขา หรือว่า เขายังทำเรื่องลับลมคมในอะไรอีก เลยจำเป็นที่จะต้องหนีหัวซุกหัวซุน ?

หยางเต๋อเชิงนั่งอยู่บนโซฟา คิดไม่ออก  จึงทำได้แต่เพียงเฝ้าดูเบลสันเก็บข้าวของไป
ในห้องค่อนข้างจะเงียบ  มีเพียงเสียงเก็บของที่วุ่นวายของเบลสัน หยางเต๋อเชิงไม่ได้ยื่นมือเข้าไปช่วยอะไร เบลสันก็ไม่ได้เอ่ยขอ ทั้งสองต่างก็ครุ่นคิดอยู่ในใจ ไม่มีใครยอมที่จะปริปากเอ่ยอะไรออกมา

ไม่นาน หยางเต๋อเชิงก็ลองเอ่ยปากหยั่งเชิงอีกครั้ง  ทันใดนั้นจู่ๆก็มีเสียงดังวุ่นวายเกิดขึ้นที่ด้านนอกและได้ยินเสียงแม่บ้านชาวฟิลิปปินส์ร้องตะโกนดังลั่น

แม่บ้านชาวฟิลิปปินส์พูดภาษาอังกฤษสำเนียงหนักแน่น แต่หยางเต๋อเชิงยังคงฟังที่เธอตะโกนเสียงดังออกว่า ” พวกคุณเป็นใคร ? พวกคุณเข้าไปไม่ได้ ? “
หยางเต๋อเชิงตกใจจนผงะ เป็นไปได้ว่ามีคนมาปล้น ?

เขายื่นมือไปที่เอว มองออกไปข้างนอกด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวพอหันกลับมาก็เห็นเบลสันหัวชุ่มไปด้วยเหงื่อ  ดูเหมือนว่าเขาจะตกใจมาก !

อย่างไรก็ตาม ไม่ทันให้หยางเต๋อเชิงได้เอ่ยปาก ที่อยู่ด้านนอกก็พุ่งเข้ามาแล้ว  เมื่อหยางเต๋อเชิงเห็นว่าผู้นำที่มาเป็นเพียงหญิงสาวที่สวยมากคนหนึ่ง ผู้หญิงคนนี้สวมชุดหนังสีดำรูปร่างอรชรอ้อนแอ้น ดูแล้วเปรี้ยวมาก !

เมื่อเบลสันเห็นคนมา สีหน้าก็ซีดเผือด มันไม่ง่ายเลยที่เขาจะควบคุมร่างกายตัวเองไม่ให้ล้มลง จากนั้นก็ได้ยินผู้หญิงคนนั้นถามขึ้นมาว่า ” ของแท้อยู่ที่ไหน ? “
เบลสันยังคงเล่นลิ้น “ ผมเอาของแท้ให้คุณไปแล้ว ”

ผู้หญิงคนนั้นจ้องไปที่เบลสันตาเขม็ง ดวงตากลมโตอย่างลูกแอปริคอต ก็ยิ่งดูมีสีสันมากยิ่งขึ้น !
หยางเต๋อเชิงมองอย่างตกตะลึงอ้าปากค้าง จู่ๆเขาก็รู้สึกค่อนข้างคุ้นตาจากนั้นก็มองดูอย่างละเอียดอีกครั้ง คนๆนี้คือหัวหน้าสาขาย่อยของกลุ่มอินากาวะอู่อี ? โชคร้ายจริงๆที่ได้พบกับนางมารร้ายแบบนี้ !

” นี่จะเป็นโอกาสสุดท้ายของนาย ! ” นางมารร้ายแผดเสียงดังดุร้าย
เบลสันยังคิดที่จะเล่นลิ้น กลับไม่กล้าสารภาพออกมาอีกเลย !

นางมารร้ายส่งเสียงครวญครางอย่างเย็นชา จากนั้นก็มีคนสี่ห้าคนพุ่งออกมาจากด้านหลังเข้าไปจับตัวเบลสันทันที แม้แต่หยางเต๋อเชิงก็ยังไม่ยอมปล่อยไป  หยางเต๋อเชิงรีบตะโกนเสียงดังว่า

” เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับผม ผมไม่รู้อะไรเลยจริงๆ ! “

นางมารร้ายหันไปจ้องมองเขาด้วยสายตาอันเหี้ยมกริบ ทันใดนั้นก็มีชายชุดดำคนหนึ่งหยิบฝาถ้วยด้านข้างยัดเข้าไปในปากของเขาทันที !

หยางเต๋อเชิงอมฝาถ้วยเอาไว้ รู้สึกเหมือนว่าปากตัวเองกำลังจะฉีกออก สิ่งที่สำคัญที่สุดคือฝาถ้วยไม่สามารถปิดทั้งปากของเขาได้มันเลยทำให้น้ำลายของเขาไหลออกมาเต็มปาก !

สำหรับเบลสันได้รับการปฏิบัติหนักยิ่งกว่า อีกฝ่ายเอาถ้วยยัดเข้าไปในปากของเขาเลย

อุดปากเขาจนพูดไม่ออก !

นางมารร้ายสั่งกำชับคนที่อยู่ในที่เกิดเหตุและเริ่มมองหาสิ่งของ