บทที่ 393 ข้าต้องการให้เจ้าต้มข้าวต้มปลาเองกับมือ

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่393 ข้าต้องการให้เจ้าต้มข้าวต้มปลาเองกับมือ
นี่คือประเด็นหลักหรือไง?

ประเด็นคือ เขาไม่ยอมออกจากห้องหนังสือ นางจะหาม้วนหนังแกะโบราณได้ยังไง?

มองดูเย่จิ่งหานเก็บหนังสือบนโต๊ะอย่างชำนาญ กู้ชูหน่วนก็ถอนหายใจยาว สองมือเท้าคาง ลูกตากลอกไปมา

“ท่านอ๋อง ข้านอนไม่หลับ อยากจะชมจันทร์อยู่ตรงนี้ เจ้ากลับไปพักผ่อนเถอะ”

“งั้นข้าชมจันทร์เป็นเพื่อนเจ้านะ”

“……”

เย่จิ่งหานถอนเสื้อคลุมออก แล้วคลุมให้นางอย่างเอาใจใส่

กู้ชูหน่วนกัดฟันพูดว่า “ท่านอ๋อง พรุ่งนี้ไม่ต้องเข้าประชุมเช้าเหรอ?”

“ไม่ต้อง อยู่เป็นเพื่อนเจ้าดีกว่า”

“ไม่เข้าได้ยังไง ตอนนี้แคว้นเย่กับแคว้นฮั่วสู้รบกันอยู่ เจ้าเป็นถึงเทพสงคราม น่าจะให้ความสำคัญกับประเทศมากกว่าสิ ถึงแม้ฮ่องเต้จะทำผิดต่อเจ้า เจ้าก็ต้องคำนึงถึงราษฎรด้วยสิ ข้าแนะนำให้เจ้ากลับไปพักผ่อนซะ พรุ่งนี้เช้าจะได้สดชื่น เข้าประชุมอย่างกระปรี้กระเปร่า”

“วางใจได้ แคว้นฮั่วสู้แคว้นเย่ไม่ได้หรอก” เย่จิ่งหานแววตาเย็นชา แต่ไม่นานก็หายไป

“ดังนั้นเจ้าตั้งใจปล่อยให้ฮ่องเต้ปวดหัว ถึงเวลาต้องจำใจมาขอร้องเจ้าใช่ไหม”

“อาหน่วน เรื่องประเทศการเมือง เจ้าไม่ต้องสนใจหรอก”

ใครอยากสนใจกัน

มีเย่จิ่งหานกับแม่ทัพใหญ่เซียวอยู่ แคว้นฮั่วสู้เข้ามาได้สิแปลก

“ใช่แล้ว แม่ทัพใหญ่เซียวกับเซียวอวี่เซวียนพวกเขาล่ะ?”

อุณหภูมิในร่างกายของเย่จิ่งหานเยือกเย็นขึ้น เหมือนไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้ จึงตอบแบบขอไปทีว่า “ตอนแม่ทัพใหญ่เซียวเข้าคุก เซียวอวี่เซวียนไม่อยู่ในจวน ตอนนี้คงหนีไปแล้วล่ะ”

ผู้หญิงคนนี้ เมื่อกี้ยังบอกว่าตัวเองจะไม่ยุ่งกับชาวบ้าน และจะไม่เจ้าชู้อีกแล้วไง ตอนนี้ยังพูดถึงเซียวอวี่เซวียนอีก

“ฮ่องเต้คงไม่ทำอะไรแม่ทัพใหญ่เซียวหรอกนะ?”

“ถ้าข้าเดาไม่ผิดล่ะก็ ไม่เกินสามวัน ฮ่องเต้ก็คงจะปล่อยแม่ทัพใหญ่เซียวออกมาแล้ว และเอาครอบครัวของเขาเป็นตัวประกัน ขอให้แม่ทัพใหญ่เซียวออกไปสู้รบกับแคว้นอั่ว” เพราะราชสำนักไม่มีทหารให้ใช้แล้ว

อันกั๋วกงนั่นก็แค่พวกถุงสุราห่อข้าว

“อ้อ……”

“เจ้าเดินทางมาหลายวัน เกรงว่าจะไม่เคยได้พักผ่อนดีๆ ข้ากลับห้องนอนเป็นเพื่อนเจ้าไหม”

“ไม่ต้อง”

“เจ้าเอาแต่หลีกเลี่ยง คงไม่ได้……”

“ท่านอ๋อง ท่านคิดไปถึงไหนกัน ข้าแค่หิวแล้ว ท่านก็รู้นี่ หญิงตั้งครรภ์หิวง่าย”

“อยากกินอะไร ข้าให้คนไปทำให้เจ้ากิน”

“คนใช้ทำข้าไม่อยากกิน ข้าอยากกินฝีมือของท่านอ๋อง”

ชิงเฟิงที่อยู่ด้านนอกได้ยินแล้วก็อดไม่ได้ปาดเหงื่อ

ท่านอ๋องทำเองกับมือ?

ตลกแล้ว

เจ้านายเป็นใครกัน จะทำให้นางกินง่ายๆได้ยังไง

กลับได้ยินเย่จิ่งหานถามกลับว่า “เจ้าอยากกินอะไร”

“ข้าวต้มปลา อยากกินข้าวต้มปลา เจ้าต้องฆ่าปลาเอง ต้มเอง แบบนี้ถึงจะมีรสชาติของความรัก รสชาติของความสุข”

“ได้ เจ้ารอข้าตรงนี้สักประเดี๋ยว ข้าจะรีบไปต้มให้เดี๋ยวนี้” เย่จิ่งหานครุ่นคิดประโยคนี้อย่างละเอียด ‘รสชาติของความรัก รสชาติของความสุข’

กู้ชูหน่วนถอนหายใจยาวๆอย่างโล่งอก

ในที่สุดก็โน้มน้าวเจ้าหมอนี่ออกไปได้สักที

“ท่านอ๋อง ชิงเฟิงเจี่ยงเสวียสองคนนี้ข้าเห็นแล้วรำคาญใจมาก ให้พวกเขาออกไปเถอะ ข้าอยากชมจันทร์และอ่านหนังสืออยู่ที่นี่คนเดียว ไม่อยากให้เจ้าโง่สองคนนี้มารบกวน”

สีหน้าของชิงเฟิงเจี่ยงเสวียบึ้งตึง

พวกเขาโง่ตรงไหน?

คิดว่าพวกเขาอยากรับใช้นางนักหรือไง

และ……ถึงแม้พวกเขาจะเฝ้าอยู่ด้านนอก ไม่มีคำสั่งของนาง ก็ไม่กล้าเข้าไปรบกวนนางนี่

เย่จิ่งหานมองดูกู้ชูหน่วนอย่างครุ่นคิด แล้วสั่งให้ชิงเฟิงเจี่ยงเสวียออกไป

“รอข้าอยู่ตรงนี้นะ ข้าจะกลับมาให้เร็วที่สุด”

“รีบไปเถอะๆ” กลับมาช้าหน่อยยิ่งดี

แน่ใจแล้วว่าเย่จิ่งหานออกไปแล้ว กู้ชูหน่วนก็ถอนหายใจออกมายาวๆ เริ่มค้นหาม้วนหนังแกะโบราณบนชั้นวางหนังสือ